เพื่อนเก่า.
พี่คะ..
วันนี้เป็นยังไงบ้างคะพี่ อากาศเริ่มจะอุ่นขึ้นนิดนึงแล้วเน๊อะ
จริงๆ แล้วสองชอบอากาศหนาวๆ เย็นๆ นะคะ
แต่มาปีนี้แย่เลย......
น่าเสียดายจัง
เมื่อวานมีเรื่องที่ทำให้แปลกใจปนระคนใจนิดๆ
ก็เห็นหลังไมค์ ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเป็นของเพื่อนๆ จากห้องจตุจักร
แต่พอเปิดอ่าน ก็พบว่าเป็นหลังไมค์จากพี่นุนิก
ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นคำอวยพรปีใหม่สั้นๆ แต่ในใจของสองคิดว่า "เอิ่ม..วันที่ 3 นี่นะ" ..ฮา..
ไม่ช่ายยยย.. สองก็ดีใจแล้วก็ขำๆ คิดว่าพี่เขาคงจะส่งไล่มาตามข้อความหลังไมค์ที่เคยติดต่อกัน
ซึ่งนั่นก็มันก็นานนนน มาแล้ว
หรืออาจจะส่งตามรายชื่อผู้ติดต่อที่ตั้งไว้
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร สองก็ดีใจ
และอยากจะบอกว่ายังคงคิดถึงและจำพี่นุนิกได้
สองชอบภาพถ่ายและรูปวาดน้องหมาของพี่ได้นะคะ น่ารักมาก และสองยังคงเก็บเอาไว้อย่างดีค่ะ
ช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะอากาศหนาวบวกกับความชื้น (จากการล้างหน้าบ้านทุกเช้า)
ทำให้หัวเข่าบวม บวมมาก ตอนนี้หัวเข่าซ้ายขนาดเท่าๆ อืม..ขวดนมสดขนาด 2 ลิตรอ่ะค่ะพี่
และที่สำคัญมันเป็นข้างเดียว (-*-) (บวมค่ะพี่ ไม่ใช่อ้วน ..ชิ..)
ปวด + ทรมาน + ใจเสีย = ร้องไห้ ..ฮา..
พี่จะว่าสองขี้แยก็ได้ แต่มันเกินขีดความสามารถจริงๆ
สองไม่รู้จะฮึดได้ยังไง กับโรคที่เราต้องวิ่งตาม ถึงจะดูแลระวังตัวเองยังไง
ถ้าพี่เขาอยากจะบวมเขาก็บวม ไม่บอกไม่เตือนล่วงหน้าด้วย
ตอนนั้นมันไม่ไหว คิดแค่ว่าถ้าตายซะคงจะดี ไม่ต้องทนทรมาน
แล้วก็มีคนบอกกับสองให้คิดถึงแม่ คิดถึงว่ายังไม่ได้เจอกันเลย
พี่รู้มั๊ยคะ สองคิดถึงความเป็นห่วงจากแม่ แต่คนที่อยากเจอ สองกลับคิดถึงพี่
ทำให้สองพยายามอดทนอีกนิด
คิดถึงพี่ก็เศร้าได้อีก แต่ก็นะ
และถึงแม้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอพี่ แต่สองก็จะรอ เท่าที่ร่างกายนี้จะทนไหว......
เมื่อคืนวันที่ 31 สองไปสนามหลวงมาค่ะ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปสวดมนต์ข้ามปี
แต่แผนก็ล่ม ..ฮา..
ก็รถเมล์ขากลับมีถึงแค่ 4 ทุ่มเอง ไอ้ครั้นจะกลับแท็กซี่ก็ไม่สามารถ
เพราะนอกจากจะไกลแล้ว คนยังเยอะล้านแปด
แล้วเรียกมาไกลๆ พี่แท็กซี่เขาก็ไม่มานะ ถ้ามาก็จะต้องเหมา ซึ่งแพงมหาโหด (T-T)
สองก็ทำได้แค่ไปเดินๆ ดูรอบๆ (ไปทั้งที่เข่าบวมๆ แบบนี้แหละค่ะ) สนุกดีค่ะพี่
ตามถนนมีประดับไฟสวยมาก มิน่าล่ะพี่ปอยถึงชอบ การที่ไปใหนก็ได้แบบอิสระนี่ดีจังเลยน๊า
เห็นเขาว่านั่นคือถนนราชดำเนิน
รู้งี้ตอนนั้นขอเบอร์พี่พรไว้ก็ดี (พี่คนไข้ด้วยกันที่วชิระ พี่เขาใจดีกับสองม๊ากมาก) จะได้มีเพื่อนมา วันนั้นไปคนเดียวมันเหงาเเปลกๆ ยังไงไม่รู้ค่ะพี่
ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี
สองได้เจอพี่ ถ้าไม่ป่วยสองก็คงไม่มีโอกาสได้พบพี่ ได้รักพี่
สองได้เจอเพื่อนคนไข้ด้วยกัน ที่ใจดีกับสองมาก
คุณหมอศิริพรก็ใจดีกับสองมากเช่นกัน ถึงแม้ว่าเวลาที่สองงอแงจะชอบขู่ว่าจะจับสองฉีดยาก็เถอะ (^^!!)
สองดีใจที่ได้รักพี่นะคะ
ทำให้สองนั้นรู้สึกว่าโชคดีมากจนไม่อาจบรรยายได้ว่ามากแค่ใหน.
ขอให้รู้ว่าใจฉันไม่เคยเปลี่ยน (รู้ไว้เลยว่าใจฉันจะไม่เปลี่ยน)
และหวังว่าใจเธอจะคิดเหมือนกับฉัน คืนและวันที่มันยังหมุนไป
เก็บใจเผื่อไว้บ้าง ไว้ให้เรากลับมาพบกัน......