YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
อียิปต์ เอาเรื่องมาเล่า เอารูปมาฝาก..(3)

จากสนามบินอัสวาน (ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เนื่องจากหมดแรง)
มุ่งตรงไปยังเรือ Princess Sarah โรงแรมลอยน้ำของเรา
check in และกินอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์สไตล์ฝรั่งเศสบนเรือ
ไกด์บอกว่านี่เป็นเรือลำที่ดีที่สุด แล้วก็บริหารงานโดยคนฝรั่งเศส
ยังไงก็เอาเหอะ เป็นอันว่าดีใจสุดๆแล้วที่เราจะได้กินข้าวซักที
จัดการเรียบร้อย เราก็มีเวลาเข้าห้องพักประมาณ 15 นาที
ล้างหน้าแปรงฟันเข้าห้องน้ำ หรือทำอะไรก็ทำเถอะ ให้พร้อมลุยต่อ

ตอนนี้เราจะไปดูเขื่อนยักษ์อัสวาน
จุดเด่นของมันอยู่ที่.....เอ่อ....ไม่รู้ เหอๆๆๆ รู้แต่ว่าใหญ่มากๆๆๆๆ
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกไกด์จะบอกว่า กระแสน้ำมันไม่ได้แรง
เพียงแต่ว่ามันใหญ่มาก มันจึงผลิตไฟฟ้าได้มาก
และยังทำให้อียิปต์ไม่ขาดแคลนน้ำอีกต่อไป
อ้อ...ไกด์ยังมีข้อมูลให้อีกว่า
การสร้างเขื่อนทำให้วิหารจำนวนหนึ่งต้องจมอยู่ใต้น้ำ
แต่ว่าอียิปต์และนานาประเทศไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายขึ้นมาได้ทุกอัน
เหมือนกับวิหารอาบูซิมเบลในตอนที่ 2 ที่เล่าไปแล้ว
ก็เลยต้องจำใจปล่อยให้วิหารส่วนที่เหลือเกือบทั้งหมดจมหายไป
ทำได้แค่บันทึกเป็นหลักฐาน และถ่ายรูปเก็บไว้ เท่านั้นเอง

รูปลำน้ำไนล์ที่ถูกกั้นด้วยเขื่อนอัสวาน




มันร้อนจนไม่มีใครมาเยี่ยมชม
ที่เห็นลิบๆข้างหน้านั่นคือประเทศซูดาน




หลังจากนั้นเรานั่งรถต่อไปยังเสาหินโอบิลิสก์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และก็ไม่มีวันเสร็จด้วย
เสาหินโอบิลิสก์ก็คือเสาแท่งๆที่สลักลวดลายทุกด้าน
ตรงยอดเสาคือส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะแสดงถึงกำเนิดของฟาโรห์
มีความหมายของรูปทรงคล้ายๆกับศิวลึงก์เลยค่ะ แต่ว่าจะใหญ่ๆทั้งนั้น
ที่สำคัญคือเสานี้จะต้องสลักออกมาจากหินก้อนเดียว
ทีนี้ฟาโรห์องค์หนึ่งก็ต้องการจะแสดงอำนาจด้วยการสร้างโอบิลิสก์ใหญ่ๆ
เป็นโชคที่เขาได้ค้นพบกองหินขนาดใหญ่ในเมืองอัสวานนี้
ที่นี่มีก้อนหินขนาดใหญ่โตที่สุดที่เขาจะสร้างโอบิลิสก์ที่ใหญ่ นั่นคือสูงถืง 42 เมตร

กองหินแกรนิตสีชมพูเมืองอัสวาน



แต่เหมือนกับบารมีของฟาโรห์ยังไม่ถึง
ในขณะที่ขั้นตอนการสกัดหินกำลังดำเนินไป พร้อมๆกับการขัดหินให้เรียบ
หินแกรนิตสีชมพูที่กำลังจะกลายเป็นโอบิลิสก์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมานั้น
ก็เกิดแตกร้าวเป็นแผลฉกรรจ์ เป็นทางยาวอย่างนี้

รอยแตกยาว




ไม่สามารถนำไปใช้การได้อีกต่อไป เหมือนเป็นลางร้าย
เพราะโอบิลิสก์จะต้องทำจากหินก้อนเดียว
หินก้อนใหญ่มหึมานี้ จึงถูกทิ้งร้างไว้

และโอบิลิสก์ที่แตกร้าวก็ต้องนอนอยู่อย่างเดียวดายเช่นนี้




ภูมิปัญญาอียิปต์โบราณในการสกัดหินก็คือ
เขาจะค่อยๆใช้ลิ่มไม้หลายๆอันตอกเข้าไปในหิน เป็นแนวยาว
ทีละนิดๆ ใช้น้ำพรมไปเรื่อย ไม้มันจะบวม แล้วจะดันหินให้แยกออก
แล้วก็เปลี่ยนลิ่มไม้ให้ใหญ่ขึ้นๆ จนหินมันแยกออกจากกัน
ระหว่างนั้นเขาก็จะใช้หินอีกแบบนึง ฟังชื่อไม่ออก แต่ลองถือแล้วหนักมาก
ทำหน้าที่คล้ายๆกระดาษทรายในการขัดหินให้เรียบ
หินแบบนี้ยังเหลืออยู่กระจัดกระจายให้เห็นเป็นจำนวนมากในบริเวณนั้น

แล้วมันก็จะออกมาเป็นอย่างนี้




เหนื่อยมากๆเลยล่ะถึงตอนนี้
มีเพื่อนร่วมทริปป่วยไปคนนึงเสียแล้ว เป็นไข้เพราะแดดจัดจริงๆ
เราเองก็ทำท่าจะแย่ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาตะหงิดๆ
แต่ละคนดูสีหน้าแล้วอิดโรยอยู่เอการ
แต่รายการทัวร์หฤโหดก็ยังไม่หมด ต้องไปลงเรือเฟลุกกะ
หรือจริงๆแล้วก็คือเรือใบนั่นแหละ ให้ลอยไปในแม่น้ำไนล์
เพื่อให้ได้สัมผัสแม่น้ำไนล์อย่างใกล้ชิด
นี่ก็ห้าโมงจะหกโมงแล้ว แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย
ลมไม่พัดสักแอะ แต่อากาศก็แห้งมาก
มากเสียจนเริ่มมีนกมาฝากรอยเท้าตามมุมปาก และหางตา
แต่ละคนก็พยายามจะส่งสายตาวิงวอนไปที่ไกด์ชาวอียิปต์ผู้ทรหดของเรา
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจ ไม่ก็มองไม่เห็น
เป็นอันว่า เราต้องไปตามรายการที่เขาจัดให้อย่างไม่มีบิดพลิ้ว
เอาวะ ลงเรือก็ลงเรือ มันต้องสวยแน่ๆ ^^”

ที่ท่าจอดเรือ มีบ้านเรือนชาวอัสวานเป็นฉากหลัง




นี่แหละเรือเฟลุกกะ




เป็นกิจการบริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน




ตามทางที่เรือลอยผ่านไป มีร่องรอยเหลือให้เห็น
เขาว่าฟาโรห์ให้สลักไว้ เพื่อเป็นการให้ทั่วทุกหย่อมหญ้ายอมรับในอำนาจ




แม่น้ำไนล์สงบนิ่ง




และเป็นสุข




ลวดลายสายน้ำ




ลวดลายชันผา




ลวดลายผืนทราย




ลวดลายแห่งเวลา
ไกด์บอกเหมือนกันว่านั่นมันคืออะไร
แต่ตอนนั้นหลับๆตื่นๆ ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่อง




เงยหน้ามองเพดานเรือ




กลับขึ้นฝั่งไกด์คนเดิมก็ชวนเราไปเดินตลาดนัด
ไม่มีใครอยากไปเท่าไหร่ เพราะว่าเหนื่อยๆกันมากแล้ววันนี้
แต่คุณไกด์เธอบอกว่าในตลาดมีที่แลกตังค์ ทำเอาเราหูผึ่ง
เพราะต่างก็อึดอัดกับการไม่มีเงินอยู่ในมือ จะทิปใครก็ไม่ได้
จะใช้ดอลล่าร์ซื้อน้ำ ก็เสียเปรียบมากไปหน่อย
แต่พอเอาเข้าจริงกลับหาที่แลกตังค์ไม่เจอเลย
สุดท้ายก็ไม่ได้แลก แถมยังต้องไปผจญกับพวกพ่อค้าอียิปต์ที่น่ากลัวเหลือร้าย
เราเดินเข้าไปมันก็ตะโกน one dollar one dollar
เห็นดูดีเลยเดินเข้าไปดู มันเปลี่ยนเป็น one hundred dollar เฉย
พอเราเดินออก มันก็ seventy แล้วก็เดินประกบ
เร่งฝีเท้าตาม fifty ok ok ok forty เราก็ตอบ no no no
มันก็ตาม twenty fifteen สุดท้าย five dollar ok ok
ฟังแล้วมันน่าโมโห สารพัดวิธีจะเอาตังค์เนี่ย โจ่งแจ้งมากๆที่อียิปต์
ก็เลย หันหลังกลับ ไปนั่งกินน้ำเย็นๆที่ cafe ชาวบ้านๆดีกว่า
เค้ามีบ้องให้ดูดๆอะไรด้วยแหละ ไกด์บอกว่า มันก็พวกนิโคตินแหละ




หมดแรงมาทั้งวัน มาเจอพ่อค้าอียิปต์อีก
ไกด์เลยเรียกรถแท็กซี่ให้เรานั่งกลับไปที่เรือกันสบายๆ
แท็กซี่เค้าเป็นสามตอนค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีมิเตอร์รึเปล่าลืมสังเกต




หมดไปอีกวันนึง
เย็นนั้นเรารับประทานอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์สไตล์ฝรั่งเศสอีกแล้ว
อิ่มหนำสำราญ เสร็จแล้วไปนอนตีพุง
ระหว่างนั้นเรือก็ออกเดินทางเพื่อไปต่อยังที่หมายต่อไปที่จะถึงในเวลาเช้า
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ





Create Date : 01 มิถุนายน 2550
Last Update : 14 มกราคม 2551 9:26:54 น. 7 comments
Counter : 1567 Pageviews.

 
ถ่ายรูปสวยทุกรูปเลยครับ องค์ประกอบสวยทุกรูปเลย


โดย: prop IP: 125.27.119.77 วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:2:58:14 น.  

 
พ่อค้าจีนกับอียิปต์นี่เหมือกันเลยแฮะ ตั้งราคาหลายสิบเท่า
ต้องต่อลงมาหรือเดินหนีถึงจะยอมลด ตกลงที่ไปมาเนี่ย
มีอะไรที่ทำให้ติดใจอียิปต์บ้างรึยัง?


โดย: ST.Exsodus วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:12:10:30 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยครับ ตอนไปดำน้ไไม่ได้เห็นอะไรเลยนอกจากทะเล


โดย: แป๊กก วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:20:54:27 น.  

 
เข้ามาสวัสดี คุณพ่อกับ คุณแม่


ท่านทั้งสอง ยังดูมีความสุขดีนะแฮ่

แบบว่า คุณชายคิดถึงท่านเหมือนกัน

เออ หนูมี่

ฝาก Happy Birth Day หนู เนตร ด้วยนะ


โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:23:53:39 น.  

 
nice pic!..
aren't there any Egyptian people photo?


โดย: KS IP: 212.219.118.170 วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:1:37:01 น.  

 
ขอบคุณมากๆ ที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะ
ถ้าอยากไปที่วัดปัญญานันทารามลองโทรไปที่02-904-6101-2 ได้เลย หรือ 02-904-6065 ต่อสำนักงานกด 100 อนุโมทนาบุญล่วงหน้าฮับ


โดย: sanomaru วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:9:33:57 น.  

 
หลังจากนั้นเรานั่งรถต่อไปยังเสาหินโอบิลิสก์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และก็ไม่มีวันเสร็จด้วย<-- เป็นคำพูดที่น่ารักดี

เฮ้อ อ่านมาหลาย blog ราคาสยองมากตั้งกันที่นี่

หนุกๆๆๆ ต้องอ่านบทต่อไป


โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:20:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.