อียิปต์ เอาเรื่องมาเล่า เอารูปมาฝาก..(4)
มาเล่าต่อค่ะ มันเป็นค่ำคืนที่ยาวนานมาก หลายเดือนเลย สาเหตุเนื่องจากเปิดเทอมค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ปิด แต่ว่าอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ก็...ช่างมัน เหอะๆๆๆๆๆ เช้าวันนี้เราอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ค่ะ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ขึ้นไปดูที่ดาดฟ้าเรือ โอ้ว สวยมากๆ มากๆจริงๆ ที่เห็นนั่นคือหุบผากษัตริย์ค่ะ ที่ที่เราจะไปวันนี้แหละ สูดอากาศตอนเช้าอีกแป๊บก็ได้เวลากินเข้า กินข้าวเช้ากันบนเรือเรียบร้อยแล้ว คุณไกด์ก็เรียกขึ้นไปเล็กเชอร์บนดาดฟ้าเรือ เล่าว่าหุบผากษัตริย์ที่เราจะไปนั้น อยู่บริเวณหน้าผาธีบัน เป็นภูเขาหินทรายสีแดง ใช้เป็นสุสานฝังพระศพ ของฟาโรห์ทั้งหมด โดยไม่ไกลกันเท่าไหร่ ก็มีอีกที่นึงเป็นของพระราชินี ที่หุบผานี้เป็นฝังสมบัติมากมายเลย ที่ดังมากๆก็ของฟาโรห์ตุตันคาเมน ฟังไป ถ่ายรูปไป ความรู้เลยหล่นๆหายๆ พอดีหันไปอีกด้านเป็นบ้านเรือนค่ะ สวยจังเลย มีบอลลูนด้วย คุณไกด์บอกว่า นั่นเอาไว้นักบริการนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน คือว่า...เหมือนรูปวาดเลย แล้วก็ออกเดินทางไปยังหุบผากษัตริย์ นักท่องเที่ยวเยอะเอามากๆ คือว่าเป็นโปรแกรมบังคับการท่องเที่ยวเลย ซึ่งมันก็ร้อนเอามากๆเลย มองไปก็มีแต่แดดกับหินกับทราย แต่คนเค้าคงชินเอามากๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปนั่งตรงนั้นทำไม หรือว่ารอใครสักคนอยู่ ...เป็นได้ นั่นก็อีก ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นกลุ่มคนนั่งอยู่บนหน้าผาตรงนั้น มีเพิงพักสำหรับนักท่องเที่ยว เอาไว้สำหรับให้คุณไกด์ทั้งหลาย พานักท่องเที่ยวไปหลบแดด แล้วก็อธิบาย แผนผังหุบผากษัตริย์ เนื่องจากเราไม่ได้มีเวลามากเท่าไหร่ เราก็เลยเลือกสุสานที่น่าสนใจมาแค่ 3 แห่ง และนี่คือทางเข้าสุสาน...ทางเดินไปสู่ความตาย ถ่ายรูปด้านในไม่ได้ค่ะ เลยเอามาให้ดูได้แต่แผนผัง อันนี้เป็นของฟาโรห์ Marenptah ส่วนอันนี้เป็นของฟาโรห์ตุตันคาเมนค่ะ เข้าชมต้องเสียตังค์เพิ่มอีกนะคะ แต่เสี้ยวเข้าไปได้แป๊บเดียว เกิดอาการขนลุกซู่บอกไม่ถูก กลัวๆ วาบๆ สงสัยเป็นเพราะเคยอ่านหนังสือมาก่อน อาถรรพ์มากมาย รวมทั้งที่คุณไกด์เล่าไว้ด้วย บรึ๋ย....ออกมาก่อนเลยคนเดียว จนคนที่เฝ้าประตูเค้าถามว่าเป็นอะไร ตอนหลังโดนแม่ว่าใหญ่ว่าเปลืองตังค์จริงๆ ดูอะไร ดูแค่แป๊บเดียว...ก็ มันกลัวนี่ จากหุบผากษัตริย์มุ่งหน้าสู่วิหารฮัทเชพสุท หรือออกเสียงตาม "ลักษณวดี" ว่าฮัตเชปซัต ดังที่ปรากฎในนิยายเรื่อง "ธุวตารา" ก็เรื่องนี้แหละที่เชิญชวนเราไปอียิปต์ ได้มาสัมผัสสถานที่จริงแบบนี้ ขนลุกซู่.....อีกแล้วครับท่าน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพของฟาโรห์ฮัทเชพสุท หรือที่รู้จักกันว่า "ราชินีมีเครา" เป็นฟาโรห์หญิงเพียงพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพมากๆ แล้วก็ปกครองอียิปต์นานถึง 20 ปี ไกด์เล่าว่าพระองค์ต้องการให้อียิปต์เขียวขจี มีการสั่งให้ขนต้นไม้มาจาก...ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นซูดาน เพื่อเอามาปลูกที่อียิปต์ ดังที่ปรากฎตามกำแพงพระวิหาร รูปที่ปรากฎเสียหายมากๆ ที่เสียหายไม่ใช่เพราะกาลเวลา แต่เป็นฝีมือของฟาโรห์องค์ต่อมา...ทุตโมซิสที่สาม ซึ่งตั้งใจจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮัทเชปสุทได้สร้างไว้ อาจจะเป็นเพราะความแค้นส่วนตัว ที่เคยต้องอยู่ภายใต้เงื้อมมือของผู้หญิงมาก่อน ประวัติศาสตร์จริงๆเสี้ยวยังไม่ได้ศึกษา แต่ถ้าเชื่อตาม "ธุวตารา" ล่ะก็ ทุตโมซิสที่สามเป็นลูกของศัตรูของฮัทเชปสุท ที่ฮัทเชปสุทไว้ชีวิต และให้การเลี้ยงดู อย่างไรก็ตาม ศัตรูก็คือ ศัตรู และไม่เฉพาะแต่รูปตามกำแพงที่เสียหาย วิหารก็เหลือแค่คำว่า ซากปรักหักพัง ความแค้นหนอ...ความแค้น เสี้ยวค่อนข้างอินกับเรื่องราวของพระนางฮัทเชปสุท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ถ้าใครสนใจล่ะก็ ลองไปหา "ธุวตารา" ของ "ลักษณวดี" สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม มาลองอ่านดู อาจจะมีแรงบันดาลใจให้ไปเหยียบอียิปต์สักครั้ง ไปให้เห็นกับตา ไปดูของจริง อีกอย่างที่น่าสนใจ คือ ด้วยความเป็นผู้หญิง พระนางฮัทเชปสุทตั้งพระทัยที่จะปกครองอียิปต์ เพื่อความมั่นคง ความสุขสงบ และสันติภาพ พระองค์อยากเห็นประชาชนมีความสุข มากกว่าจะทำสงครามขยายดินแดน แต่กลับถูกตีความว่า พระองค์นั้นอ่อนแอ ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย เลยมาคิดถึงคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่ง แห่งคณะรัฐศาสตร์ ประจำภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่เคยตั้งประเด็นให้นิสิตคิดเล่นๆอย่างเอาจริงเอาจังว่า ถ้าในโลกเรา แต่ละรัฐปกครองด้วยผู้หญิง ...สงคราม...จะยังเกิดขึ้นอยู่ไหมบันไดหน้าพระวิหาร ตอนที่ไปยืนตรงจุดนั้น ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น คือ ความทรงอำนาจ แม้จะอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับฮัทเชปสุทแค่ไหน แต่การท่องเที่ยวกับทัวร์ทำให้เราทำได้แค่ดูๆๆ แล้วก็วิ่งตามตูดไกด์ แต่ก็ยังดีกว่าหลงทางไม่มีข้าวกิน เลยไปชม ประติมากรรมแห่งเมมนอน กันต่อ จริงๆแล้วมันคือซากปรักหักพังของวิหาร ที่พังเพราะแผ่นดินไหวตั้งแต่ 27 ปีก่อนคริสตกาลโน่น วิหารพังทั้งหลัง แต่กลับเหลือแท่งหินสองแท่งนี้ เป็นรูปแกะสลักจากหินก้อนเดียวขนาดมหึมา 2 ก้อน ที่ยังคงทนยืนหยัด ....Along the river of time... กลับถึงเรือวันนี้แทบจะสลบไสล (หรือสไล...เขียนไงหว่า) แต่ว่าจะนอนก็นอนไม่ได้ เพราะว่าวันนี้มีการแสดง เป็นการเต้นระบำ และเล่นดนตรี แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอียิปต์ แต่เสี้ยวรู้สึกว่า...มันต่างจากของจริงเยอะเลยนักดนตรี ชวนคนดูไปขี่อูฐ รูปไม่ชัด แต่ไม่บอกหรอกว่านั่นใคร เหอะๆๆๆๆ แล้วก็มีการแสดงหมุนๆๆๆๆๆๆๆ เก่งมากกกกก น่าจะคล้ายๆกับของทิเบตละมั้ง ดูแล้วเวียนหัวดี ...Nubian Dance... ค่ะ ก่อนเข้านอนคืนนี้มี อะไรให้ตกใจเล็กน้อย คือระหว่างที่พวกเราดูการแสดงอยู่ พนักงานบนเรือก็จะเข้ามาทำความสะอาดห้อง แต่วันนี้แปลกๆ คือ เค้าดูมีพิรุธ เดินลับๆล่อๆ อยู่แถวๆห้อง ใจหายแว้บ เฮ่ย...มันจะขโมยของเรารึเปล่าเนี่ย รีบวิ่งเข้าไปในห้องด้วยความห่วงและหวง Laptop สุดที่รัก แต่ตกใจหงายหลังตึงด้วยสิ่งนี้Room Service!!! โห...คิดดูละกัน ตอนนั้นดึกมากแล้ว ในห้องก็มืดๆ ไอ้ตอนถ่ายนี่เปิดไฟแล้ว เปิดประตูเข้าไปอย่างแรง แล้วเจอไอ้นี่ ตัวขาวๆห้อยอยู่หน้าประตู ไม่ตกใจก็บ้าแล้ว แต่ละห้องร้องจ๊ากบ้าง Shit บ้าง Oh,God.. ก็มี หันหาเจ้าคนตัวดำๆ ฟันขาวๆ ยิ้มแปลกๆเมื่อกี้ เจอแต่หลังเดินหายไปแวบๆ กับเสียงหัวเราะลอยมา แหม....อารมณ์ขันเหลือร้ายส่วนผ้าเช็ดตัวอีกผืนก็แอ้งแม้งอยู่อย่างนี้ หมดไปอีกวัน เดี๋ยววันต่อไปก็เที่ยวต่ออีก ตอนเที่ยวก็เหนื่อย ตอน up blog ก็เหนื่อย แล้วตอนนี้ก็ควรจะไปอ่านหนังสือต่อได้แล้วล่ะค่ะ ขอเวลานอกมานานเกินควร ^0^
Create Date : 22 กันยายน 2550
Last Update : 14 มกราคม 2551 9:25:49 น.
15 comments
Counter : 2782 Pageviews.
โดย: ที่1 IP: 124.121.1.35 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:23:21:00 น.
โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:23:32:25 น.
โดย: KS IP: 158.108.209.59 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:0:05:41 น.
โดย: pass&Forward IP: 125.27.128.50 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:1:44:03 น.
โดย: pakojang (parichat_05 ) วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:1:53:34 น.
โดย: ยาธาตุ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:12:47:05 น.
โดย: เกศ IP: 84.233.227.59 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:14:06:58 น.
โดย: ดอยปุย IP: 58.9.30.85 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:15:42:06 น.
โดย: Dulcetiar วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:4:33:43 น.
โดย: อ๊อฟ (กองพันทหารราบ ) วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:18:29:39 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [? ]
Here... I'm on the rooftop Between... pavement and stars. Here's... hardly no day nor hardly no night There're things... half in shadow and half way in light It's where... I gather my thoughts and grow my dreams which... are scattered all around In my words, my songs, my dance.
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30