ตีตั๋วดูหนังในเทศกาล "ไซน์ฟิล์ม"
คงไม่มีโอกาสไหนที่เราจะได้รับชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ได้มากเท่ากับเทศกาล ไซน์ฟิล์ม อีกแล้ว ซึ่งไทยจัดเทศกาลนี้ต่อเนื่องถึง 6 ปี และปีนี้ยังมีประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และกัมพูชาร่วมจัดเทศกาลควบคู่กับเราเป็นครั้งแรกด้วย ภายในเทศกาลภาพนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 6 (Science Film Festival 2010) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-30 พ.ย.53 นี้ จัดฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ทั้งหมด 47 เรื่องจาก 17 ประเทศ ซึ่งเป็นผลจากการคัดเลือกภาพยนตร์ 170 เรื่องที่ 24 ประเทศส่งเข้าร่วม โดยเทศกาลจัดขึ้นภายใต้หัวข้อความหลากหลายทางชีวภาพสอดรับกับ ปีแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ตรงกับปี 2553 นี้ อีกทั้ง เป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์จากบราซิลเข้าร่วมเทศกาลนี้ โดยส่งภาพยนตร์เรื่อง พาหะร้ายจากป่าร้อนชื้น (A Threat in the Tropics) ฉายในเทศกาล ภาพยนตร์ในเทศกาลแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยประเภทแรกคือภาพยนตร์สาระบันเทิง (Family Edutainment) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์สั้นๆ สำหรับรายการโทรทัศน์ เช่น อ๋อ นี่คือความรู้ (Ah! I Got It!) รายการโทรทัศน์จากเยอรมนีที่นำเสนอความรู้เป็นตอนๆ ละ 25 นาที ซึ่งปีนี้นำเสนอตอน เพื่อนแสนรัก เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวแสนรักที่ชวนให้เราสงสัยว่าแมวที่ชอบครางเหมียวๆ นั้นมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร และ ฝาแฝดผู้มาเยือน ที่เล่าเรื่องการสร้างบันไดเสียงจากเครื่องดนตรี หรือภาพยนตร์สั้น 4 นาทีจากฝรั่งเศสเรื่อง หลุมดำคืออะไร (What is a Black Hole?) เป็นต้น ประเภทถัดมาคือภาพยนตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Ecology and Environment) ซึ่งปีนี้ออสเตรียส่งภาพยนตร์เรื่อง ภูเขาไฟเมานท์ เซนต์ เฮเลนส์-ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ (Mount St.Helens-Life from Zero) ซึ่งเล่าถึงการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อปี 2523 และการฟื้นตัวของธรรมชาติที่เสียหายจากหายนะครั้งนั้น ส่วนฝรั่งเศสนำเสนอการวางผังเมืองของกรุงโตเกียวเพื่อรักษาระบบนิเวศน์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาพยนตร์เรื่อง กรุงโตเกียว ห้องปฏิบัติการแห่งอนาคต (Mission Exploration-Tokyo, a Coming Laboratory) ภาพยนตร์เกี่ยวกับธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม ตอน สายสัมพันธ์ธิเบต (Eco Crimes- Crimes Against Nature: Tibet Connection) ภาพยนตร์จากเยอรมนี ที่เล่าเรื่องราวเสือฝูงสุดท้ายในอินเดียที่ถูกคุกคาม จากการล่าเพื่อเอาหนังไปขาย หรือเรื่องราวเกี่ยวกับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยักษ์ใหญ่ของโลก (The Biggest Solar Power Plant in the World) จากรายการกาลิเลโอ (Galileo) ของเยอรมนี ซึ่งกล่าวถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทางตอนใต้ของสเปนที่กำลังก่อสร้างแล้วเสร็จไป 1 ใน 3 จากระยะเวลาตลอดโครงการ 56 เดือน ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระบบความร้อนนี้จะให้พลังงานราคาถูกกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วไป สำหรับผู้ที่สนใจตัวเลขคงรู้สึกยินไม่น้อยกับภาพยนตร์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ที่มีความยาวพอๆ กับภาพยนตร์ในโรงเรื่อง ถอดรหัสสลับผู้สร้างจักรวาล (Cosmic Code Breakers- The Secrets of Prime Numbers) ภาพยนตร์จากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากสมาคมผู้สื่อข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีญี่ปุ่น และรางวัลอื่นอีกมาก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงความลี้ลับของโลกคณิตศาสตร์เกี่ยวกับจำนวนเฉพาะที่ 2 3 5 7 11 เหมือนตัวเลขสุ่มเลือก แต่นักคณิตศาสตร์ตั้งข้อสังเกตมานานว่าตัวเลขนี้เป็นการเรียงลำดับที่มีความหมายลึกซึ้ง และมีความพยายามถอดรหัสตัวเลขเหล่านี้ซึ่งเชื่อว่าเป็นรหัสของผู้สร้างจักรวาล ในเทศกาลยังฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ (Culture and History) ด้วย ตัวอย่างภาพยนตร์ที่สนใจ เช่น ตำนานจากป่าโปแลนด์ (The Saga of the Primeval Forest: The Tale of Lynx - Against Nature) ภาพยนตร์สารคดีของโปแลนด์ที่เล่าถึงป่าโบราณในชายแดนระหว่างโปแลนด์และเบลารุสซึ่งมีตัวละครเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช้การตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์และใช้เสียงธรรมชาติเป็นเสียงประกอบ หรือเรื่อง ดาร์วิน (ปฏิ) วิวัฒน์ (Darwin (R)evolution) ของฝรั่งเศส ที่พาเราย้อนไปทำความเข้าใจในทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นต้น ส่วนไทยเองได้ส่งภาพยนตร์เรื่อง น้ำท่วมกรุงเทพฯ (The Inundation of Bangkok) เข้าร่วมในเทศกาลนี้ ซึ่งเล่าถึงคำทำนายของนักวิทยาศาสตร์ที่ระบุถึงสาเหตุน้ำท่วมกรุงเทพฯ อาทิ การแตกของเขื่อนวชิราลงกรณ์และเขื่อนศรีนครินทร์จากเหตุแผ่นดินไหว ภาวะโลกร้อนและการทรุดตัวของแผ่นดินในกรุงเทพฯ เป็นต้น และเรื่อง หนอนไหม (Silk Worm) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการ ไอกอทอิท (I Got It!) ซึ่งเป็นรายการที่เกิดจากความร่วมมือของ 7 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ฯ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย สถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ซึ่งจัดเทศกาลเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด การจัดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ฯ ปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านๆ มา โดย ดร.นอร์แบร์ท ชปิทซ์ (Dr.Norbert Spitz) ผู้อำนวยการสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่กัมพูชา อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้จัดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์คู่ขนานไปกับไทยด้วย และในปี 2556 จะมี 10 ประเทศอาเซียนร่วมจัดเทศกาลนี้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเทศกาลนี้เป็นโครงการหนึ่งที่จะนำเราเข้าถึงความรู้โดยอาศัยภาพยนตรืและรายการโทรทัศน์เพื่อเรียนสิ่งน่าสนใจที่ผสานความบันเทิงและความรู้เข้าด้วยกัน ภาพยนตร์เหล่านี้จะสร้างให้เด็กๆ รู้จักสงสัยและกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถาม เช่น ทำไมเครื่องบินถึงบินได้ เป็นต้น และพวกเขาจะมีความสนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น ที่สำคัญเด็กทุกวันนี้คือผู้ที่จะแก้ปัญหาของอนาคต ผู้อำนวยการเกอเธ่กล่าว **** ชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ได้ที่ - โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัตนาธิเบศร์ โทร.0-2589-7321 - ศูนย์ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) โทร.0-2392-1773 - อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โทร.0-2564-7000 ต่อ 1489 - หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ศาลายา นครปฐม โทร.0-2482-2013-14 ต่อ 111 - องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โทร.0-2577-9999 ต่อ 2108,2109 - จตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. อาคารจามจุรี สแควร์ โทร.0-2160-5356 -อุทยานการเรียนรู้ TK Park ณ สถาบันเกอเธ่ และสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ โทร. 0-2264-5963 ทั้งนี้ สามารถรับชมภาพยนตร์ได้ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.goethe.de/sciencefilmfestival
รายการ "ดอกฟันสิงโต" ที่ฉายในเทศกาล "ไซน์ฟิล์ม" เล่าเรื่องก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแง่มุมไม่ทำร้ายโลก
เสือในเรื่อง "สายสัมพันธ์ธิเบต"
เข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการใน ดาร์วิน (ปฏิ) วิวัฒน์
ภาพจำลองการระเบิดของภูเขาไฟ เมานท์ เซนต์ เฮเลนส์
ภาพประกอบจากภาพยนตร์ "ก่อนจะมาเป้นเชื้อเพลิงเขียว" ของ เดนมาร์ก
"ฉลามยักษ์ผู้อ่อนโยน" จากเยอรมนีพาไปรู้จัก "ฉลามบาสกิง" ที่กินแค่แพลงก์ตอนเป็นอาหาร
"สิงโตทะเล ผู้ช่วยพิเศษ" ภาพยนตร์จากฝรั่งเศสเกี่ยวกับการใช้สิงโตทะเลเป็นผู้ช่วยสำรวจธรรมชาติด้วยการติดอุปกรณ์ส่งสัญญาณให้สิงโตทะเล
ที่มา //www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000157285
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2553 17:14:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1179 Pageviews. |
|
|
|
|
|