แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จำนวน 39 คน ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

สรุปผลการศึกษา

1. แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.39/84.26 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.63 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.23 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 24.90 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 21.42 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50

Create Date : 30 สิงหาคม 2563		0 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2563 21:34:41 น.
Counter : 1697 Pageviews.
Share Tweet