Group Blog
 
All blogs
 

ฤดูโควิด2022

ฤดูโควิด2022 (30june22-07july22)

ขึ้นชื่อว่าโควิดใครไม่ควรการ์ดตกกันนะจ๊ะ
นี่เพราะเชื่อร๊าบานว่าถอดแมสก์จ้า ทุกอย่างที่ตึงก็เริ่มหย่อนจนเป็นเรื่องจนได้ 
แล้วมันไม่ได้จบที่เราคนเดียว ไปลูก ไปแฟน ไปแม่แฟน ทุกคนแยกย้ายไปกักตัว
จนวันนี้ที่เรากับลูกได้กลับมาอยู่บ้านก่อนชุดแรก ถึงมีเวลาอัพบล็อกบ้างละ
อาการตอนแรกที่เป็นก็คิดว่าตัวเองโดนฝนเป็นไข้เจ็บคอนิดหน่อย แต่มันหลายวันเข้าไม่หน่อยแล้วละ มาแจ๊กพอตวันที่ลูกป่วย เลยได้ตรวจ ปรากฎว่าสองขีดแม่ลูกเลย เรื่องเลยวุ่นๆ ประสาคนไม่เคยวุ่นมาก่อนนะสิ


27june mon หยุด อยู่บ้าน ฝนตกปรอย ตัดหญ้ากลางสายฝนนี่สิ
28june tue ไปทำงาน เจ็บคออย่างมาก นอนกลางคืนใส่แมสก์ พอเผลอหลับก็หลุด
29june wed หยุด เจ็บคอมาก ไอเจ็บหน้าอก
     ดูลูกตลอดวัน ใส่แมส ตอนกลางคืนสามทุ่ม ลูกเริ่มตัวรุมๆ
พอสี่ทุ่มตัวร้อนวุ้น เช็ดตัววนไปเรื่อยๆ เริ่มไม่ไหว ลูกไม่หลับเลย ช่วงตีสองตีสาม ลูกง่วงมาก นอนจุ๊บนมแล้วมองรักแร้เรา มันแปลกมาก คือตาค้างขึ้นบน ตัวกระตุกนิดๆ ตีสี่ไม่ไหวรีบไปสินแพทย์เช็ดตัวรุนแรงจนผิวห้อเลือดนิดๆ พอไข้ลดก็กลับบ้าน

30june thu 
     กลับมาถึงบ้าน ลูกหลับได้ชม.กว่า ๆ  อิแม่ก็ได้msgแรกของวัน หัวหน้าmkt ตรวจะพบเชื้อโควิดจร้า เราก็รีบตรวจเลย ปรากฎว่าตัวTวิ่งไวมว๊าก พร้อมกับหัวหูดับวิ๊งๆเลยหลายนาที ใช้โทรศัพท์จนแบตจะหมด หาข้อมูล180ทิศทางสำหรับแม่ลูกติดโควิด (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าลูกติดรึเปล่านะ) ถ้าลูกไม่ติดก็ดีไป ให้แอดมิทสินแพทย์ก็จะมีเตียง (เตียงโควิดไม่มี) แต่ถ้าเป็นโควิด เราก็มืดแปดด้านเลย ส่วนปกส.อยู่ศิครินทร์ ถ้าแม่ไปศิครินทร์ก็จะมีhospitel แต่ไม่รับลูกอีก สุดท้ายแม่แฟนเสนอเปาโลเพราะอาอี๊มาอยู่แล้วดูแลดี ยอมเสียส่วนต่างค่าประกันของลูกเอา 
สุดท้ายwalkinมาเปาโล ผลคือโปรดของมาม๊าติดโควิดเรียบร้อย ตัวTวิ่งปรู๊ดเลย พยาบาลแยงจมูกจนมีเลือดออกเลย สงสารจัง พอได้คุยกับหมอ หมอให้โปรดแอดมิท แม่เลยต้องแอดมิทด้วย สรุปว่า ของโปรดใช้ประกันสุขภาพ ส่วนมาม๊าใช้ปกส.นอนห้องเดียวกันแม่ลูกดูแลกันไป
    ตกบ่ายได้เข้าห้อง หอบของมาแบบคิดว่ายังไม่พอแน่ๆ 
    คนโปรดได้ยาฟาวิบดผสมน้ำเขียว ป้อนๆบ้วนๆสลับๆไป ยาลดไข้ธรรมดาสีชมพูบังคับๆจนตอนหลังดูดบ้าง จนอัพเกรดเป็นยาลดไข้สูงสีส้มเข้มข้น ได้กินครั้งล่าสุดเที่ยงคืน เพราะไข้สูงสลับหยุดนิ่งตลอดวันเลย  พ้นเที่ยงคืนค่อยได้หลับบ้าง และได้กินนมกล่อง1กล่อง
    จบวันนี้อาหารเดี๋ยวเค็มเดี๋ยวจืด อาจเป็นไปตามสภาพของอาการไวรัสละมั้ง ต่อมรับรสเสียหาย
อาหาร2 :: ข้าวไก่ทอด ไข่เจียว / ข้าว ต้มข่า 
อาหาร3 :: ข้าวลาบไก่ ส้ม / ข้าวหมูทอด
*โปรดแอดมิทเบิกประกันสุขภาพ ต้องตรวจRTPCRด้วย เลยได้แหย่จมูกกับปากอีกรอบ จ๊ากตามระเบียบ จ่ายค่าATKครั้งแรกด้วย290บาท 
*** ม๊าขอลางาน ตั้งแต่พฤหัส ศุกร์ และอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์เลย เพราะไม่สามารถที่จะทำงานได้จริงๆ ถ้าต้องอยู่กับเด็กเล็ก (คนเป็นแม่รู้ดีเนอะ)

===================================================

Day 02
1july fri
    แม่ลูกตื่นตีห้าครึ่ง โปรดท้องเสีย อึเยอะ มีไข้นิด 38.8 จับเช็ดตัวน้ำอุ่นเลย กินข้าวเซเว่นกับไข่ตุ๋น เล่นไมโครเวฟ กินยาฟาวิฯไป1หลอด ป้อนๆบ้วนๆ ยาลดไข้สูงอีก2CC เล่นไอแพด ส่วนมาม๊าไข้บ้าง จมูกพังลิ้นจืดๆ 
    ปาป๊าเอาของมาให้ ที่รองชักโครก เก้าอี้เล็ก แก้วพลาสติก ไก่ย่าง กาแฟ จุกจิก
    มาม๊าซักผ้าแต่เช้า ถูห้อง ลางาน ถ่ายโอนงานบางส่วน ปล่อยลูกจมกับมือถือไอแพดบ้าง เพราะทีวีมันเปิดม่ายด้ายย ได้อาบน้ำครั้งแรกแบบไวๆ บ่ายๆเอาไอแพดมาล่อลวงไว้แล้วแว่บไปสระผมได้รอบนึง ค่อยสบายเฮดหน่อย
    มื้อกลางวันคนโปรดนั่งเล่นไมโครเวฟ ม๊าค่อยได้ป้อนไก่ย่างกับข้าวเหนียวให้กินได้ลงท้องบ้าง น้ำเกลือหมดถุงแรก ต่อถุงสอง เพราะมาม๊าบอกหมอว่าโปรดกินน้อยมาก
    มื้อเย็นคนโปรดไม่พ้นกุ๊กไก่กับข้าวเซเว่น กินข้าวไปได้ครึ่งถ้วย
    วันนี้โปรดงีบตอนเที่ยงๆนิดหน่อยก็โดนปลุกกินยา แทบไม่ได้นอน เย็นสี่โมงครึ่งก็สภาพย่ำแย่ตาปรือ ไข้ก็สูง งีบนิดก็โดนปลุกกินยาอีก พอค่ำสภาพโรยรา ขอแน๊น พาม๊าขึ้นเตียงละ ม๊าก็ยังแอบหยอดยาเข้าเต้า พอรู้รสก็ตื่นอีก (มาม๊าขอโทดนะคับ ม๊าไม่รู้จะทำไงจริงๆ) 
    จุดที่ทำให้ม๊าตัดสินใจปลุกตอนหลับให้โปรดตื่นขึ้นมากินยาก็คือ ปลายขากระตุกนิดๆ มือขยับนิดๆ ไหล่ขยับนิดๆ ม๊าไม่รู้ว่าเป็นจิตใต้สำนึกอยากวิ่งเล่นหรือว่าเป็นเพราะเชื้อไข้ที่หลงเหลือรึเปล่า มันไม่คุ้มถ้าให้มันหนักหนากว่านั้นนะ ม๊าคงทนไม่ไหว ก็เลยต้องขอให้พี่พยาบาลมาช่วย    
สุดท้ายก็ไม่พ้นพยาบาลในท่า ให้ม๊าอุ้มแล้วพยาบาลก็ป้อนยา ทีนี้ยาหกเลอะเสื้อหมดเลย คนโปรดของม๊าคืนนี้เลยนอนถอดเสื้อเอา เผื่อไข้ขึ้นม๊าจะได้เอาผ้าเย็นนาบทันการณ์
21.00น.ไข้โปรดลดเหลือ37องศาละ คืนนี้น่าจะได้หลับยาวๆ ม๊าจะได้ไม่ต้องมองตาค้างของลูก ให้หวั่นๆใจอีกนะ
    อาการของมาม๊าตอนสามทุ่ม เปิดขวดนมลูกดมแล้วไม่ได้กลิ่นจ้า ลิ้นก็ไม่รับรสไก่กระเทียมเลย แต่รู้สึกท้องหิว ไข้ไม่มี จมูกตัน ไอแห้งบ้าง น้ำมูกนิด
    อาการคนโปรด :: ท้องเสีย 1 ครั้งตอนเช้า ไอนิด ร้องไห้ทีก็มีน้ำมูกบ้าง กินฟาวิผสมเขียวไม่ชอบ กินฟาวิผสมแดงก็ไม่ชอบ 
อาหาร1 ::  ข้าวต้มปลากะพง (มั้ง) นมแลคตาซอย
อาหาร2 :: ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นเส้นหมี่ มะละกอ ของลูกไม่มีมะระ
อาหาร3 :: ข้าว อกไก่กระเทียม แกงเลียง แคนตาลูป
===================================================
Day 03
2july sat
    เริ่มต้นของวันด้วย เติ้งติดโควิด หาหมอเปาโล แนะนำให้พักรร. แต่ไม่น่าจะเหมาะกับสถานการณ์เท่าไร สุดท้ายเลือกรับยาไปกินเองที่บ้าน จะได้เป็นกำลังหลักส่งข้าวน้ำให้ลูกน้อยได้ด้วย หมอเป็นห่วงก็เพราะว่าอ้วน จะทำให้อาการหนักแล้วไม่มีคนดูแลทันท่วงทีน่ะสิ
    คนโปรดของมาม๊าตื่นตีห้าครึ่ง ขอเล่นไอแพด ฉี่ล้น ม๊าเลยต้องเปลี่ยนแพมเพิส ละให้เล่นไอแพด เช้านี้อึสองรอบ ไม่เหลวแล้ว วันนี้พยาบาลอนุญาติให้ถอดสายน้ำเกลือออกได้แล้ว ดีใจใหญ่เลย แต่ก็ไม่ทันไรโดนบังคับป้อนยาฟาวิฯก่อน จ๊ากอีกหนึ่งรอบตามระเบียบ  จากนั้น กินข้าวเช้าเป็นข้าวเซเว่นกับไข่ตุ๋น พร้อมกับเล่นไมโครเวฟด้วย สนุกจริง 
มาม๊าชวนเช็กร่างกายกระโดดโลดเต้น เจ้าโปรดก็เล่นๆด้วย เป็นอันว่าผ่าน พอได้สิบโมงครึ่งตาโรยๆ ก็มานัวเนียขอแน๊นๆ แล้วก็สลบไปโดยสงบ รอตื่นอีกทีมื้อกลางวันเลย
    นอนกลางวันครบสามชั่วโมงปุ๊บตื่นปั๊บ ไม่ค่อยจะอยากกินอะไรเลย อาจเพราะได้นมไปเกือบกล่องตอนงีบกลางวัน แต่ม๊าก็ยังต้องให้กินรองท้อง เพราะก่อนมื้อเย็นต้องโดนกินยาก่อนอยู่ดี หมอเข้ามาเท่านั้นละ น้ำตารินเลย ม๊าต้องจับนั่งตักเอาขาทับขาโปรดไว้ กอดแขนลูกไว้ ให้พยาบาลป้อนเข้าคอหอยลึกๆ ลูกจะได้ไม่ขมมากนะคับ สุดท้ายหนูก็กินหมดหลอด บ้วนออกนิดหน่อย ไม่อาเจียน ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ถูกแต่ก็ได้ผลนะม๊าว่า..
    กินยาฟาวิฯเสร็จ เจ้าโปรดแปลงร่างกลายเป็นเบบี้บอส อาศัยความน้ำตาอาบหน้า สั่งมาม๊าเก็บของบนเตียงเยอะๆไปไว้ที่โซฟา เอาหมอนวางตรงนี้ เอานิทานไปไว้ตรงนั้น .. สุดท้าย มาม๊านอนตรงนี้นะ สรุป.แน๊นเฉย หกโมงเองลูก แน๊นเป็นชม. หลับคราวนี้ ไม่ได้กินข้าวเย็น มีละเมอ"ไม่เอาๆ"นิดหน่อย 
    
อาหาร1 :: ข้าวต้มหมูสับ นมข้าวโพด
อาหาร2 :: ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูสับ ไข่ต้มครึ่งใบ ถั่วฝักยาวต้ม แตงโม / ของโปรดเตี๋ยวเหมือนกัน ของหวานลำใย
อาหาร3 :: ต้มจืดไก่สับ ข้าวสวย กะเพราหมูสับ / ของโปรด ข้าวต้ม หมูหยอง ผัดฟักทอง ส้ม
อาการมาม๊า ตอนสามทุ่ม :: จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสเพี้ยน แต่หิวรู้สึกได้:) ถ่ายครั้งแรก ได้อาบน้ำตอนสามทุ่ม
อาการคนโปรดรวมๆ :: ไม่มีไข้ ร่าเริงตลอดวันยกเว้นเวลากินยา ชิงชังหมอ :D เล่นรถ ดูblippi Leo กินข้าวกลางวันนิดหน่อย เย็นไม่ได้กินหลับซะก่อน
ทั่วไป :: เสร็จจากพาโปรดนอนกลางคืน หลังกินขวด1จบ ม๊าก็เอาขวดล้าง เก็บขยะ ซักผ้า เช็กของ ถึงจะอาบน้ำได้ แพลนสั่งของออนไลน์คร่าวๆ เช็กสถานะสิทธิคนป่วยโควิด ว่าถ้าเป็นก่อน3กค.จะได้สิทธิ์ucep plus สีเหลืองด้วย รักษาฟรี แต่ต้องใช้ประกันสุขภาพก่อนนะ
===================================================
Day 04
3july sun
    สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่สดใส ณ รพ.เปาโลสมุทรปราการ ชั้น 7 ไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นดินแดนแห่งความสนุก(ไหม) ของเด็กชายคนโปรด 
หลังจากเมื่อคืนเข้านอนตั้งแต่ 6โมงเย็น ด้วยอาการเบบี้บอส นอนจนถึง 6 โมงเช้า กินนมประมาณ4กล่อง (ทดแทนข้าวเย็นพอได้อะนะ) คนโปรดอึ1ครั้ง (ถ่ายเหลว)
เช้านี้ม๊าเลยทดลองสั่งGrab แต่ติดที่ระบบจ่ายเงินไม่ผ่าน เลยใช้บริการ Lineman จัดไป ข้าวมันไก่ทอดและโจ๊ก(คาดว่าอร่อย) ไว้สต๊อกให้ลูกน้อย ส่วนม๊าเอง ก็จัดกาแฟflash coffee ไปสองขวดเลย 
หลังจากโดนจับกรอกยาช่วงเช้าแล้ว ม๊าก็ให้หม่ำข้าวมันไก่ทอด(ของโปรด) ต่ออีกสักหน่อย ไม่ช้า 10.30น. เจ้าโปรดก็นัวเนียๆอีกละ พาม๊าขึ้นเตียงพร้อมอ่านนิทาน"แม่จ๋า หนูอยู่นี่" ที่หน้าปกเป็นแม่ช้างยิ้มปากกว้างนั่นละ (ช่วงนี้นางชอบมาก เพราะม๊าหยิบมาไม่กี่เล่มเอง 55) พออ่านนิทานจบรอบนึงก็เคลิ้มๆหลับไป  ม๊าเลยได้มีเวลามาพิมพ์กุกกักๆนี่ละ รอบ่ายค่อยบันเทิงกันต่อนะลูก ^^
เช้านี้คุณหมอของโปรดโทรมา ม๊าเลยถามเรื่องวันไป น่าจะอยู่ถึง 7 กค. ถ้าไม่มีอะไรแทรกซ้อนก็น่าจะกลับบ้านได้ เพราะครบโดสละ ส่วนเรื่องการเงิน ม๊าไปอ่านมา ช่วง16มีนา -3กค.นี้ ถ้าป่วยสายเหลืองก็ไม่ต้องเสียคชจ. ใช้สิทธิ์ ucep ได้ เจ้าโปรดก็เข้าเกณฑ์เพราะเป็นเด็กเล็ก และสายเหลืองด้วย 
ม๊าไปresearch เรื่องเด็กป่วยโควิด เพียบเลย แถมอาการหนักกว่าเจ้าคนโปรดอีก บางรายแค่ไข้1วันเอง บางรายไอร้อยวัน บางคนก็ไม่กินยาฟาวิฯ แต่เจ้าโปรดกินไปแล้วนี่สิ ไม่งั้นม๊าคงเลือกไม่ให้กินละ เพราะไม่รู้จะไปทำลายตับมากขนาดไหน 
    วันนี้คนโปรดนอนสองชม.เองลู๊กก  ชม.ที่เหลือม๊าก็บรรเทิงฝุดๆเลย เริ่มจากตื่นมาไม่ยอมกินข้าวกลางวัน (กินนมตอนหลับไปเกือบกล่องเอง) กลางวันกินขนมปังเว้ยเฮ้ยบิก้อนเล็กๆพอรองท้อง เวลาก็เหลือเยอะ ม๊าชวนปล่อยพลัง พอสามโมงครึ่งก็พาอาบน้ำอีกครึ่งชม. ให้อาบน้ำเล่นฟองจนต้องขอเลิกเอง ออกมาก็มีข้าวเซเว่นกับไข่เจียวปาป๊ารอท่าอยู่ ทีนี้ละได้อิ่มเป็นมื้อละ ที่เหลือก็นั่งรอฤกษ์ชม.นึง คุณพยาบาลเอายาฟาวิฯมาให้ห้าโมงครึ่ง อาหารก็ถูกย่อยไปละ น้องไม่อ้วกละจ้าา 
พอได้ยาเสร็จ แม้ว่าเขาจะร้องจ๊ากๆ แต่สิ่งที่ควรทำก็คือ บอกว่าเราภูมิใจและดีใจมากๆที่เขาได้กินยานี้เข้าไปโดยไม่อ้วกละ ก็เลยพากันกระโดดโลดเต้นทั้งแม่ลูก เอาวะ อย่างน้อยช่วยเป็นพลังใจได้ในวันนี้ละกันเนอะ
แอบห่วงคนทางบ้านที่ว่าวันนี้ไข้ขึ้นแฮะ ได้แต่แนะให้ดูแลตัวเองก่อนไข้จะสูงมาก อยากให้นอนชั้นล่าง เผื่อเราจะส่องกล้องดูยามดึก ก็ห่วงนินา
กลางคืนตอนให้นม ตะแคงซ้าย เป็นอีกแล้ว คันคอปรี๊ดต้องไอออกมาชุดใหญ่ จนลูกหัวเราะกิ๊ก มาม๊าไม่ไหวจริงๆ จบชุดหนึ่งก็ยังพูดบอกลูกไม่ได้ ต้องไออีกชุด ถึงจะรวบรวมแรงบอกลูกว่า ม๊าไปกินยาก่อน ลูกเลยลืมตาแป๋วรอม๊า แทนที่จะได้นอนไวก็ต้องมานอนดูม๊ากินยาอีกพักนึง กว่าจะหลับก็เกือบทุ่มละเจ้าคนโปรด 
อาหาร1 :: โจ๊กไก่สับ ไข่ต้ม ทั้งแม่ลูก (โปรดไม่แตะเลยเพราะไม่อร่อย) อ่านมา เด็กเล็กก็มีภาวะต่อมรับรสเพี้ยนได้น่ะ น่าจะใช่
อาหาร2 :: เตี๋ยวเส้นใหญ่หมูสับ/ คั่วไก่ ชมพู่
อาหาร3 :: ข้าวไข่พะโล้ ผัดหมู / ข้าวต้ม ผัดผักรวมใส่กุ้ง ชมพู่
อาการคนโปรด :: ไม่มีไข้ ร่าเริงเกินร้อย กินข้าวก็พอได้ 
อาการมาม๊า :: ไม่มีไข้ จมูกพัง60% ลิ้นพัง50% แทบไม่ไอละ
..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,
"อ่อนโยนเหลือเกิน" คำที่ผุดขึ้นมาในหัวเวลามองลูกเพลินๆ หน้านวลๆไม่มีไฝ หอมแก้มได้ทุกนาที ไม่รุ้ทำไมถึงเป็นคำนี้นะ 
"จักรวาลหมุนรอบตัวเธอ" อีกคำที่ผุดขึ้นมา แม้ใครหลายคนจะบอกว่าอย่าให้ลูกเป็นจักรวาลของแม่ มันจะไม่รอด แต่แม่ยอมนะ เพราะจักรวาลนี้ถ้าไม่มีคนโปรดแม่ก็ไม่รู้จะไปอยู่จักรวาลไหนได้อีก อิๆ เพราะแม่อยากเฝ้ามองใบหน้านิ่มนวลนี้โตขึ้นๆ เป็นหนุ่ม เป็นหัวหน้าครอบครัวคนต่อไป คงดีไม่น้อย ถ้าแม่อยู่ถึงวันนั้น
..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,..,
===================================================

Day 05
4july mon
    ตื่นกันแต่เจ็ดโมงเช้า ไม่ต้องรีบร้อน เพราะไม่ได้ไปไหน 555 จนพยาบาลเอายาฟาวิฯมาให้ น้องโปรดก็ยังไม่ตื่น แต่ถ้าตื่นแล้วก็คงต้องเรียกพี่เขามาป้อนแหละ ม๊าไม่สามารถ ขอเป็นหน่วยปลอบใจดีก่า 
ในที่สุดพี่พยาบาลก็ทำให้คนโปรดเสียน้ำตานิดหน่อย จากนั้นก็กินนิสชินใส่ไข่ กินเกือบหมดชามแน่ะ ท่าจะอร่อยแฮะ ส่วนไก่ไม่แตะเลย น่าจะเบื่อละ ส่วนข้าวต้มทะเล เจ้าโปรดก็ขอแต่ซุป เผลอเอาข้าวใส่เม็ดเดียวก็แหวะออกหมด เปลี่ยนชุดใหม่อีกรอบ ท่าจะต้องให้ป๊าทำไข่ให้เพิ่มอีก4วันแน่ะ เกือบสองอาทิตย์เลยแฮะ แล้วก็ต้องมาลุ้นอีกว่า ปู่ปู่ อากอล์ฟ อาตูนของโปรดจะติดเชื้อกันอีกระลอกรึเปล่านะ
ช็อกอีก ...  แม่ติดโควิดแย้วว  ...  แม่โทรมา แต่ว่าเจ้าโปรดไม่ให้คุยนิสิ เลยคุยกันแปบนึง แล้วได้แต่บอกผ่านเติ้งไปว่า ควรรีบมารพ.พร้อมของใช้กับผลตรวจน่ะ เติ้งว่าอาจให้นอนรร.ดีสุด
สรุป .. แม่มาเข้ารพ.เอกชน ไม่ได้ใช้สิทธิ์บัตรทอง ต้องจ่ายค่ายาสี่พัน แล้วกลับไปกักตัวที่บ้านเดิมเอา
คิดๆไป กว่าแม่จะกักตัวเสร็จก็ราว 14กค. ถึงจะพร้อมมาช่วยดูเจ้าคนโปรดแล้วให้ม๊ากลับไปทำงานได้ แสดงว่า ม๊าต้องลางานเพิ่มอีก
วันนี้ปาป๊านำส่งข้าวเกรียบมาให้คนโปรด พอตื่นจากกลางวัน ม๊าบอกว่ามีข้าวเกรียบของอาม่าอยู่ ตางี้แป๋วขึ้นมาทันใด คว้าหมับสองชิ้น จากนั้นก็กินบะหมี่โรงพยาบาลไปเกือบหมด ที่เหลือม๊าซัดเรียบเลย วันนี้ไม่ค่อยได้โดดโลดเต้นเท่าไรนัก อาจเพราะม๊ากินเยอะไปหน่อย มันตื้อๆ ตกเย็นเจ้าโปรดกินข้าวเซเว่นกับไข่เจียวปาป๊า แล้วก็กินยาเข้านอนตอนทุ่ม กว่าจะหลับก็ทุ่มครึ่งแฮะ วันนี้เลยหลับช้าสุดตั้งแต่เข้ารพ.มา

อาหาร1 :: ข้าวต้มทะเล /น้ำผลไม้
อาหาร2 :: บะหมี่เกี๊ยว /ผลไม้
อาหาร3 :: ข้าว หมูผัดหอมใหญ่ แกงป่าปลากะพง / ข้าวต้ม หมูนึ่ง ผัดผัก / แตงโม
อาการคนโปรด :: ช่วงเย็นๆนี้เสียงเหมือนเหินๆ อาจเพราะกรี๊ดมากไปหน่อยก็ได้ แต่ถ้าคิดมากก็คือไวรัสอาจมาเล่นงานกล่องเสียงเหมือนที่ม๊าเป็นอะ

===================================================

Day 06
5july tue
    เช้านี้ เจ้าคนโปรดตื่นตอนตีสามเป๊ะ มานั่งตาแป๋วให้ม๊าอ่านนิทานช้างให้ฟังอีก ม๊าไม่ไหวจิงลู๊กกก ทำเนียนหลับไป มาดูนาฬิกาอีกทีเจ็ดโมง โอ้โฮคอม๊า เคล็ดจ้า ทำไงละนิ?? ต้องหายากินแล้วละ 
    ตื่นมาด้วยความคอเคล็ดก็จัดกาแฟอเมริกาโน่ไปสักแก้ว ได้กลิ่นแฮะ เย้ ดีใจฝุดๆ ไม่รู้ว่าจะหายแบบนี้ไปตลอดวันรึเปล่านะ หรือแค่ให้ดีใจเล่นหลังล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้น
    หมอโทรมาเช้านี้ บอกว่ากลับบ้านได้วันที่7นี้ ตอนเช้าจ้า ส่วนยาฟาวิฯก็ได้ครบโดสแล้ว จริงๆกลับวันพรุ่งนี้เลยก็ได้น้าา ตอนคุยกับหมอ เจ้าโปรดดราม่าไม่ยอมให้มาม๊าคุยกับหมอ ร้องไห้เป็นวักเป็นเวรเบย
    วันนี้ลองสั่งกาแฟพันธ์ไทยมาลองสักขวด เข้มกว่าflashcoffee อีก จริงๆจะไม่เปลี่ยนใจแบรนด์หรอกถ้าไม่ติดที่ค่าส่งมหาโหดอะนะ แล้วก็สั่งไก่ย่างวิเชียรบุรีมา ด้วยข้อหาป๊ามาส่งอาหารช้าน่ะ แต่ปรากฎว่าไก่ดูแห้งไม่จุ๊ยซี่เหมือนแถวบ้านเลย ไม่รู้หนีเสือปะจรเข้เสียเนี่ยเรา
    พอรู้กำหนดกลับบ้านใจมันชื้นขึ้นเป็นกอง อยากจะวาร์ปถึงวันที่7แล้วละ แต่ไหงกลับไปก็ต้องอยู่บ้านต่ออีกอาทิตย์กว่า เพราะกว่าแม่จะมาดูโปรดได้ก็หลัง14นี้ละ
อาหาร1 :: ข้าวต้มหมูสับ นมกล่อง
อาหาร2 :: เตี๋ยวเส้นหมี่ไก่ตุ๋น
อาหาร3 :: ข้าวหมูทอด ต้มยำทะเลน้ำใส ส้ม / ข้าวต้ม หมูหยอง ผัดผัก ส้ม

===================================================

Day 07
6july wed
    พอรู้ฤกษ์จะเดินทางกลับบ้านวันพรุ่งนี้แล้ว วันนี้ก็มีเรื่องมาให้คิดจนได้ เมื่อแม่เติ้งเขากลัวว่าน้องโปรดจะกลับไปติดเชื้อซ้ำจากเติ้งรึเปล่า เลยเสนอให้เติ้งไปนอนที่บ้าน แล้วเราอยู่กับน้องโปรดที่อินดี้ รอจนเติ้งหายค่อยกลับมาอยู่รวมกัน เราก็ว่าเป็นทางที่ดี แต่เท่าที่หาข้อมูลคือไม่ต้องแยกก็ได้ ก็ระวังตัวเอา เพราะพ้นระยะแพร่เชื้อแล้วด้วย แล้วอยู่ด้วยกันจะไปไหนมาไหนสะดวก เราก็ขับรถไม่เป็นอีก แต่ก็นั่นละ บ้านนั้นกับบ้านนี้ ใกล้ขนาดนี้ จะกลัวอาไรนัก 555

อาหาร1 :: โจ๊กไก่สับไข่ต้ม นมกล่อง
อาหาร2 :: เตี๋ยวเส้นเล็กทะเล ผลไม้ เฉาก๊วย
อาหาร3 :: ข้าว ไก่ผัดพริกเผา /ข้าวต้ม ปลากะพงทอด ไก่ผัดน้ำมันหอย /แคนตาลูป

===================================================

Day 08
7july thu
    เก็บของตั้งกะยังไม่เก้าโมงจร้า จนตอนนี้ เที่ยงครึ่งจะบ่ายโมงแล้ว ก็ยังไม่เสร็จเรื่อง ประกันทำเรื่องตอนเกือบสิบเอ็ดโมง
เสร็จจริงเที่ยงครึ่งจร้า มาพร้อมกันกับสั่งของเซเว่น 555 จะบร้าตาย รอเซเว่นต่อก่อนค่อยกลับ
    สรุปว่าบ่นปุ๊บจบปั๊บ ป๊ามารับตรงแผนกฉุกเฉิน แม่ลูกกลับไม่เหลียวหลังรพ.อีกเลย ดีหน่อยที่คชจ.ครอบคลุมทั้งหมด ต้องขอบคุณรพ.เปาโลสมุทรปราการ หรือขอบคุณโชคชะตาก็ตามแต่.. ไม่จ่ายเพิ่มเป็นดีจ้า

คนโปรด ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ+สปสช.
มาม๊า ใช้สิทธิ์ประกันสังคม (สิทธิ์ประกันกลุ่มต้องจ่ายก่อนเบิกทีหลัง)
ทั้งหมดนี้ได้พยาบาลประจำจุดคัดกรองโควิดเป็นผู้ดำเนินการให้ค่ะ

อ่อ.. กลับมาถึงบ้านเราราวบ่ายครึ่ง เจ้าโปรดเล่นน้ำให้ฉ่ำจิต เสร็จแล้วมากินข้าวมันไก่เจ้าอร่อยกะไข่เจียวมาม๊าจนพุงกาง งีบหลับไปตอนหกโมงเย็น ลุ้นกันอีกทีว่าพรุ่งนี้จะตีห้าไม๊ ฮ่าๆๆ(เสียงหัวเราะมีน้ำตา)


จบบริบูรณ์

132




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2565    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2565 21:27:04 น.
Counter : 307 Pageviews.  

วันหยุดของมาม๊า (เฉพาะกิจ) ^^

วันนี้วันจันทร์ เป็นวันหยุดมาม๊า 
ที่จำเป็นต้องหยุด เพราะอาม่าไปทำบุญพระน้องชายปาป๊าไงละ
วันนี้โปรดก็อยู่กับมาม๊าท้างวัน หนุกหนาน
เริ่มจากยามเช้า เราก็เสาะหาอาหารกัน ก่อนจะจบลงที่ข้าวมันไก่ไหหลำให้ลูกน้อย
ขาหมูเจ้าใหม่ของปาป๊า 
เจ้าโปรดกินแต่ไก่ทอดหมดจาน กินข้าวไปนิดหน่อยเอง
พอได้ฤกษ์11โมงต้องเดินทางไปธุระที่ในเมืองนิดหน่อย ให้เจ้าโปรดได้นอนหลับบนรถ
เสร็จธุระปะปังได้ฤกษ์กลับบ้าน กะให้มานอนต่อที่บ้านอีกสักสองชม.
เจ้าตัวดีของมาม๊าดันลืมตาตื่นแป๋วแว๋ว (นอนบนรถได้หนึ่งชม.กว่าๆ)
บันเทิงเรียกแม่เลยจร้า..
มื้อกลางวันต้องมา ด้วยเมนูไข่เจียวทรงพลัง และข้าวมันไก่(ที่เหลือเมื่อเช้า)
แล้วก็เล่นๆ วันนี้เจ้าคนโปรดรับบทบาริสต้า เอาหม้อmokapotปาป๊ามาใส่น้ำแข็งยกใหญ่ 
(อย่าให้ป๊ารู้นะ เป็นเรื่อง)
เล่นได้เป็นชั่วโมงแฮะ ต่อด้วยเครื่องซักผ้าอันน้อย จบด้วยเข้าครัวช่วย(ป่วน)มาม๊าทำกับข้าวช่วงเย็น
(บอกเลย.. ม๊าเหนื่อยกว่าทำกับข้าวคือจับเจ้าหนูเนี่ย)
ทำมื้อเย็นรอท่าเสร็จแล้วก็พาเจ้าตัวป่วนไปวิ่งรีดพลังซักหน่อย
ผ่านไปอีกชม.
กลับบ้าน..
อาบน้ำ..
กินข้าวเย็น วันนี้ม๊าทำโจ๊กบร็อคโคลี่ กับไข่เจียว2ใบ
สบายพุง  :)

ผึ่งพุงไม่ถึงชม. ม๊าลองชวนขึ้นห้องนอนล่ะ วิ่งปรู๊ดดดดเลย

ยังมีหน้าไปบอกปาป๊า(ที่ห้องทำงาน)อีกว่า "โปรดจะไปนอนที่ห้องนอนแล้ว) ;D

จบไปอีกหนึ่งวันกับเจ้าคนโปรด




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2565    
Last Update : 20 มิถุนายน 2565 21:36:19 น.
Counter : 170 Pageviews.  

คนโปรด จะไปโรงเรียน

พอเข้า2ขวบ มนุษย์แม่ก็ต้องเริ่มมองๆหาโรงเรียนให้ลูกๆบ้าง 
มาม๊าสิ มัวแต่ดูซีรี่ อ่านนิยาย ทำงานนอก งานใน หรือเป็นเพราะความขี้เกียจนะ ไม่ได้มองหาโรงเรียนให้ลูกเลย
ก็ตัวเลือกรอบบ้านมีไม่เยอะนินา จะเอาแบบขั้นปกติ เรียนวิชาการต่อมหาลัย แข่งๆกันทำงาน  กะอีกตัวเลือกคือ ปูพื้นฐานบูรณาการ เล่นๆเยอะพอกะเรียน จบแบบชิวๆนิสัยดี
มาม๊าขอเลือกอย่างหลังก่อนนะ :)
แล้วโรงเรียนที่มาม๊าเลือกนั้น ตามเงื่อนไขหลักของครอบครัว ก็ต้องดูกระเป๋าสตางค์ปาป๊าสิ งบเยอะ งบน้อย
ก็ได้มา1 โรงเรียนถ้วนจ้าา นั่นคือ โรงเรียนทอรักนั่นเอง
แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มาม๊ากับปาป๊า ก็ได้ไปงาน Open House ของโรงเรียนมาเรียบร้อยแล้ว 
จึงเป็นที่มาของบล็อกวันนี้นั่นเอง
โรงเรียนทอรัก น่าจะเปิดตัวราวปี 2540 อะนะ เล่นๆ ราว60-70% ค่อยเสริมเรียนเอา สุดท้ายเด็กก็จบมาแบบนิสัยดี(อิอิ)
ทุกวิชาการที่เราเรียนในโรงเรียนปกติ จะถูกย่อยมาเป็นวิชารอบตัวของเด็กในชีวิตประจำวัน เด็กก็จะไม่ต้องมาแข่งขันกันด้วย
ที่สำคัญ จำนวนเด็กต่อห้องราว15คน (เนอสเซอรี่) ส่วนอนุบาลมี2ห้องราว 30คน(รวม2ห้องนะ) จุดนี้มาม๊าชอบ
เด็กน้อย คุณครูดูแลทั่วถึงนั่นเอง 
งาน Open House ที่มาม๊าปาป๊าไปมา บรรดาแม่ครูทั้งหลายจะจำลองบรรยากาศการเรียนของเด็กเนอสเซอรี่ให้พวกแม่พ่อได้ชมกัน ที่ชอบสุดคือจับมือวงกลมเล่านิทานเพลงลูกหมูสามตัว ม๊าประทับใจมากอีกละ 
นั่งล้อมวงฟังนิทานหนูนิดไปซื้อผลไม้ ซึ่งบรรยากาศเหมือนลูกเราอยู่บ้านเลย
การเลือกเข้างาน Open House ของโรงเรียนครั้งนี้ ไม่การันตีว่าลูกเราจะได้เรียนนะ บรรดาแม่พ่อต้องขอสัมภาษณ์เพื่อให้ลูกเข้าเรียนด้วย ว่าแนวทางโรงเรียนเป็นแบบนี้เหมาะกับลูกๆของพวกท่านหรือเปล่าละ ไม่ใช่สักว่าจะรับท่าเดียว
การเรียนการสอนแบบนี้ ก็ไม่เน้นดูจออีก เน้นธรรมชาติสุดๆ ซึ่งมาม๊าเริ่มกังวลนิดๆละว่า คนโปรดของมาม๊าจะผ่านเข้าเรียนได้หรือเปล่าน๊าา ก็บ้านเราเล่นติวจอTV กันแทบทั้งวันเลย ไหนจะBlippi , Handyman Hal , Leo The truck อีก 
ช่วงนี้คนโปรดชอบเครื่องซักผ้ามาก ดูได้ทั้งวัน ทั้งแบบหมุนปกติ หมุนแบบถอดเครื่องมาเลย ก็ดูไม่เบื่อ  ท่าจะมาแนวช่างแล้วละ
สุดท้ายก่อนจบบล็อก ถ้ามาม๊าไม่ผ่านสัมภาษณ์แล้วนั้น ทางเลือกต่อไปคงเป็นโรงเรียนใกล้บ้าน เป็นเอกชนธรรมดาๆ 
เพราะยังไงข้อเสียของทอรักเพียงข้อเดียวคือไกลบ้าน ราว10โล (แต่แพรกษาตอนเช้าก็สาหัสเนาะ) 

ยังไงก็ขอให้ผ่านก่อนแล้วกัน ค่อยคิดใหม่ สู้ๆ




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2565    
Last Update : 19 มิถุนายน 2565 17:06:57 น.
Counter : 59 Pageviews.  

update คนโปรดมีเสียงหัวใจดัง ฟู่ฟู่

อัพเดทอาการหัวใจมีเสียง ฟู่ฟู่
หลังจากพ้นโควิดระลอก2 ทางบ้านเราก็ไม่อยากให้พลาดโอกาสเช็กสุขภาพหัวใจของคนโปรดอีก
เลยไปตามนัดหมอที่รพ.จุฬา เมื่อ 1 เมษายน 65 ที่ผ่านมา กับคุณหมอ ผศ.นพ.วิทวัส ลออคุณ 
คนไม่เยอะมากนัก แต่ก็ต้องรอนานเหมือนกัน มีอาม่า ปาป๊า มาม๊า ไปให้กำลังใจกันล้น :)
หมอตรวจแป๊บเดียวจริงๆ รอคิวยังนานกว่าซะอีก หมอก็บอกว่า ฟังทั่วๆไปก็ไม่มีเสียงแล้ว
เว้นแต่เราจะเจาะจงฟังด้วยเครื่อง echo ซึ่งหมอดูจากอาการ ร่างกาย องค์รวม คนโปรดของแม่ไม่มีสิ่งใดที่จะสื่อว่ามีปัญหาด้านหัวใจอะนะ หมอเลยให้นัดอีกที1ปีข้างหน้า มาดูกันว่าควรจะecho ไม๊ 
แล้วก็จ่ายเงิน 100 ค่าหาหมอวันนี้ แล้วก็กลับบ้านกัน
เท่าที่หมอบอกมาคร่าวๆ เด็กที่มีปัญหาด้านหัวใจ มักจะวิ่งไม่ค่อยทน เหนื่อยง่าย ปากซีด ตัวเล็ก กินน้อย ราวๆนี้
แต่คนโปรดตรงกันข้ามนะ ปากสีชมพูมีเลือดฝาด ชอบวิ่งมาก ต้นขาแข็งแรงเชียว ตัวสูงสมวัย แต่ไม่อ้วน ส่วนเรื่องกินนี่ ยอมรับว่ากินน้อย กินไม่หลากหลาย แต่น้ำหนักยังอยู่ในเกณฑ์นะ 

 




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2565    
Last Update : 19 มิถุนายน 2565 16:48:05 น.
Counter : 66 Pageviews.  

เมื่อลูกชายมีหัวใจเสียง"ฟู่ฟู่"

เมื่อลูกชายมีหัวใจเสียง"ฟู่ฟู่"

ทุกอย่างเริ่มหลังจากลูกชายเราได้ลืมตาบนโลกยุ่งๆใบนี้ 
กุมารแพทย์ประจำการคลอด ได้ทำการฟังเสียงหัวใจเจ้าลูกชายแล้วได้ยินเสียงฟู่ฟู่ หมอเลยพาเจ้าลูกชายไปทำecho เพื่อความชัวร์ ซึ่งมันก็ชัวร์ว่าฟู่ฟู่ 
ซึ่งจากวันคลอด จนถึงวันที่ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน เป็นเวลา 7 วัน 
7 วันที่ ลูกต้องเข้าตู้อบส่องไฟ , นมแม่ไม่ออก ลูกกินไม่ได้ สารเหลืองก็ไม่หายไป แล้วเรายังต้องมารับรู้เรื่องหัวใจฟู่ฟู่อีก
ไม่อยากจะเศร้า แต่ก็ต้องเศร้าอะเนอะ

หมอนัดอีก 6 เดือนเพื่อกลับมา echo ดูว่าจะฟู่ฟู่อยู่ไหม

แต่ติดโควิด 19 เลื่อนไปอีก 6 เดือน จนลูก1.2ปี

เราจึงได้กลับมา echo อีก ที่รพ.จุฬา

มันคือเหตุการณ์วันที่ 12 ตุลาคม 2563

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
เว่นเว้อๆ

แม่ตื่นตั้งแต่ตีห้า ลงมาอุ่นข้าวต้มที่ทำไว้แต่เมื่อคืน แพ็คลงกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิ ชงนมสองขวดเผื่อไว้ เตรียมน้ำ เสื้อผ้าสำรอง ผ้าอ้อม แพมเพิส ขนมกินเล่น
จากนั้นถึงไปผลัดเปลี่ยนกับปาป๊า ให้ป๊าลงมาทำแซนวิช(อาหารสำหรับผู้ใหญ่) กับเตรียมข้าวของขนขึ้นรถเอาไว้ให้พร้อม 
กว่าคนโปรดของแม่จะตื่น แค่พลิกตัวแล้วลืมตา แม่ก็ถือวิสาสะว่าหนูตื่นแล้ว อุ้มพาลงมาข้างล่าง เช็ดเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าพาขึ้นรถเรียบร้อย ^^
เป็นอันสตาร์ทรถออกจากบ้านได้ตอน6โมงกว่าๆ
มาถึงรพ.7โมงกว่าได้ แม่กับโปรดมาที่ชั้น2ของรพ. รออีกตั้งนานกว่าแผนกการเงินจะเปิดตอนแปดโมง แม่กับโปรดเลยพากันเดินสำรวจชั้น 2 3 4 5 6 แล้วก็เดินลงมาชั้น2 เล่นเอาแม่เหงื่อซึมนิดหน่อย เพราะต้องอุ้มหนูเดินขึ้นลงนี่นา
ป๊าไปจอดรถฝั่งสวนลุม ใช้เวลาสักพักกว่าจะเดินมาหาเราสองคนแม่ลูก
จากนั้นคนโปรดของแม่ก็ได้ทานมื้อเช้าที่ชั้น2หน้าห้องการเงินของรพ.จุฬานั่นละ
จ่ายเงินเสร็จไม่รอช้า เร่งรีบไปชั้น6
รีบไปเท่าใด ก็ไม่เท่าคนที่รีบกว่า มีคนมารอก่อนหน้าเราอีกหลายครอบครัวเลย
มีเด็กวัยไม่กี่เดือนตัวผอมซีด มีเด็กวัยโตกว่าคนโปรดของแม่ด้วย 
มีวัยรุ่นชายด้วยนะ ทุกคนล้วนมาด้วยเรื่องโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทั้งนั้น
หมอมาแจ้งให้ลูกเปลี่ยนเป็นเสื้อรพ.กับทานยานอนหลับแบบไซริงก์ กำชับว่าค่อยๆทานนะ เพราะยาไม่อร่อย
เช่นเคยที่คนโปรดไม่ถูกกับยา 555+
ไม่ว่าเพลงอะไรที่เปิดให้หนูดู ก็ไม่สามารถเอาอยู่ แม่เลยต้องให้ป๊าล็อกแขนไว้ ส่วนแม่เอายาใส่ช้อนแล้วบังคับหนูทานจนหมด
แล้วสุดท้าย
..อ้วก..
พร้อมกับร้องไห้ (น้ำตาของลูกนี่ทำแม่ใจยวบยาบทุกทีเลย)
เป็นการอวสานอาหารเช้าของลูกไปโดยปริยาย
(ในใบนัด หมอแจ้งว่าไม่ต้องงดอาหาร แต่หมอไม่บอกนะว่าอาจมีอ้วก เพราะต้องทานยานอนหลับที่ไม่อร่อยนี่นา)

หลังจากมีน้ำตา คนโปรดเลยได้จุ๊บเต้าเป็นการปลอบประโลมใจ
อกแม่คงอุ่นจนหนูหลับปุ๋ยไปในเวลาอันรวดเร็ว
(แม่ว่ายาช้อนแรกคงลงไปถึงกระเพาะของหนูบ้างละนะ)
หมอออกมาถามหาเด็กที่หลับเพื่อเข้าไปทำเอคโค่พอดีเลย คนโปรดเลยได้เข้าไปทำโดยไม่ต้องทานยาหลอดใหม่ โชคดีไปจ้ะ

หมอใช้เจลทาบนอกหนู กลิ้งลูกกลิ้งที่เหมือนตอนแม่มาตรวจครรภ์เลย บนจอมีสีแดงสีน้ำเงิน สลับเคลื่อนไหวตามจังหวะการเต้นของหัวใจลูก
หมอแคปภาพจอทีละภาพ เวลาผ่านไปนาน 
นานจนที่แม่อ้อนวอนขอเทวดา อากง(พ่อของแม่) อาม่า(แม่ของแม่)ให้ช่วยคุ้มครองหนู
นานจนที่แม่คิดว่าตอนท้องแม่ทำอะไรพลาดไปนะ ลูกถึงต้องมีภาวะแบบนี้
นานจนที่แม่คิดว่า อะไรจะเป็น ก็คงต้องเป็นไป
นานจนที่แม่คิดว่า เอาแต้มบุญแม่ไปก็ได้นะ ถ้ามันจะทำให้ลูกสุขภาพแข็งแรงขึ้น
สะระตะแห่งความคิดที่จะวนอยู่ในอ่าง 
เพื่อสุดท้ายจะได้พบกับความจริงตรงหน้าว่าลูกนอนเอคโค่อยู่

จากนั้นถึงจะได้คำถามออกมาถามหมอว่า หัวใจลูกเป็นอย่างไรบ้างคะ

หมอบอกกับแม่ ที่พอจับใจความได้ว่า 
เส้นเลือดนั้นชื่อ PDA มันควรจะปิด เมื่อเด็กคลอดออกมาจากครรภ์แล้ว แต่ของหนู มันยังเปิดอยู่ หมอเรียกว่าหัวใจมีเสียงฟู่ฟู่ 
แต่ไม่เป็นอันตรายอย่างใดกับลูก ไม่ส่งผลต่ออะไรเลย 
หากหนูโตขึ้นแล้ว ยังมีเสียงฟู่อยู่ ก็สามารถมาทำการปิดได้ในอนาคต
ข้อควรระวังคือ มันจะเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในร่างกายได้นิดหน่อย ให้หนูดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี เพราะมันจะเป็นแหล่งติดเชื้อได้ง่าย

ลูกหลับไปอีกชม.กว่าๆ แล้วก็ถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี

คนโปรดของแม่เลยได้ไปนั่งโรงอาหารของรพ.จุฬาครั้งแรกกับป๊ากับแม่ หนูตื่นตาตื่นใจไปตลอดเส้นทาง เจอผู้คนมากมาย หนูไม่ได้รู้สึกกลัวเลย ส่งยิ้มแจกไปทั่วทาง แม่ละแอบกลัวความเฟรนด์ลี่ของหนูจริงๆ *-*


///////////////////////////////////////////////////////////////////////


โรคหลอดเลือดหัวใจเกิน (Patent ductus arteriosus: PDA)

ความหมายของโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน

โรคหลอดเลือดหัวใจเกิน (Patent ductus arteriosus: PDA) เป็นโรคหัวใจที่มักพบในเด็กทารกเป็นส่วนมาก โดยเกิดจากหลอดเลือดแดงชื่อ "ดักตัส อาร์เทอริโอซัส (Ductus Arteriosus)" ปิดไม่สนิทหลังจากเด็กคลอด 

ในขณะที่เด็กยังอยู่ในครรภ์มารดา หลอดเลือดดังกล่าวจะคอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เลือดของทารกในครรภ์ไหลเวียนไปยังปอดได้ เนื่องจากเลือดของทารกยังไม่จำเป็นต้องเข้าไปในปอดเพื่อรับออกซิเจน



สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
โดยปกติ "หลอดเลือดดักตัส อาร์เทอริโอซัส" ควรจะปิดสนิทไม่กี่วันหลังจากเด็กคลอด แต่กลับปิดไม่สนิท ทำให้ยังคงสภาพเป็นหลอดเลือดที่เกินมา เชื่อมระหว่าง "หลอดเลือดพัลโมนารี อาร์เทอรี (Pulmonary Artery)" และ "หลอดเลือดเอออร์ตา (Aorta)" เกิดเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน

โรคหลอดเลือดหัวใจเกินนี้มักพบในทารกที่คลอดก่อนกำหนด พบได้น้อยในทารกที่คลอดตามกำหนด และส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด นอกจากนี้บางคนอาจมีภาวะหรือโรคหัวใจที่ผิดปกติอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจเกิน
การคลอดก่อนกำหนด
ประวัติโรคทางพันธุกรรมในครอบครัว หรือโรคเส้นเลือดหัวใจเกินในครอบครัว
ประวัติการติดเชื้อหัดเยอรมันในขณะตั้งครรภ์
ทารกคลอดในพื้นที่ๆที่มีความสูง (เกิน 1048 เมตร หรือ 10000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล)
ทารกเพศหญิง
ผลกระทบกับจากโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
โดยปกติแล้ว หัวใจห้องซ้ายจะสูบฉีดเลือดไปยังร่างกายเท่านั้น ในขณะที่หัวใจห้องขวาจะสูบฉีดเลือดไปยังปอดเพียงบริเวณเดียว 

ทั้งนี้ เด็กที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน จะมีเลือดส่วนเกินที่ถูกสูบฉีดจากเส้นเลือดเอออร์ตาเข้าไปยังเส้นเลือดพัลโมนารี อาร์เทอรี  ซึ่งหากหลอดเลือดหัวใจที่เกินมีขนาดใหญ่มาก เลือดส่วนเกินที่ถูกสูบฉีดเข้าไปจะทำให้หัวใจและปอดทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้ปอดมีเลือดคั่งอยู่ภายใน

เด็กที่มีขนาดหลอดเลือดหัวใจเกินที่ใหญ่มากมักจะมีอาการหายใจเร็ว และหนักกว่าปกติ รวมถึงมีปัญหาเรื่องการกินนมและพัฒนาการในการเจริญเติบโต 

ส่วนเด็กที่หลอดเลือดหัวใจเกินมีขนาดเล็ก ก็จะไม่เกิดอาการผิดปกติใดๆ เพราะหัวใจกับปอดไม่ได้ทำงานหนักขึ้น แต่หัวใจอาจส่งเสียงฟู่อย่างชัดเจน 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจหัวใจวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 664 บาท ลดสูงสุด 4995 บาท
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!


อย่างไรก็ตาม อาการของโรคดังกล่าวจะไม่ปรากฏจนกระทั่งผ่านไปหลายสัปดาห์หลังคลอด นอกจากนี้ ความดันโลหิตในหลอดเลือดภายในปอดของเด็กยังอาจสูงกว่าปกติ เพราะปอดต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้น จึงอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรที่หลอดเลือดปอดเมื่อเวลาผ่านไป

วิธีรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
สำหรับผู้ป่วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่มีหลอดเลือดหัวใจเกินขนาดเล็ก ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดก็ได้ แต่เพียงแค่ตรวจเช็กอาการเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้นก็พอ อีกทั้งหลอดหัวใจเกินที่มีขนาดเล็กส่วนมาก มักจะปิดไปเองภายในไม่กี่เดือนหลังเด็กเกิด 

แต่ในกรณีที่แพทย์ต้องปิดช่องของหลอดเลือดหัวใจจริงๆ ก็จะทำการรักษาโดยสอด "สายสวน (Catheters)" เข้าไปในหลอดเลือดบริเวณขา เพื่อไปถึงหัวใจและหลอดเลือดหัวใจที่เกิน จากนั้นจะมีการใส่ขดลวดที่เรียกว่า "คอยล์ (Coil)" หรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทางสายสวนเพื่อปิดช่อง

ส่วนในกรณีที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด แพทย์จะกระทำการผ่าบริเวณด้านซ้ายของหน้าอกระหว่างซี่โครง และจะเย็บปิดหลอดเลือดดักตัส อาร์เทอริโอซัสให้เรียบร้อย หรืออาจเป็นการรักษาโดยใส่คลิปโลหะขนาดเล็กรอบๆ หลอดเลือดแบบถาวรเพื่อให้ช่องหลอดเลือดปิด 

หากผู้ป่วยไม่มีความบกพร่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับหัวใจอีก การรักษาทั้ง 2 แบบนี้ก็จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดกลับมาเป็นปกติได้

นอกจากนี้ การรับประทานยาก็สามารถช่วยให้หลอดเลือดดักตัส อาร์เทอริโอซัสของทารกที่คลอดก่อนกำหนดปิดได้ แต่หากวิธีนี้รักษาไม่ได้ผลในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังจากที่ทารกเกิด แพทย์อาจจำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดเข้ามาช่วยรักษา


กิจกรรมที่เด็กโรคหลอดเลือดหัวใจเกินสามารถทำได้
หากหลอดเลือดหัวใจที่เกินมีขนาดเล็ก หรือถูกปิดโดยสายสวนหรือการผ่าตัดไปแล้ว ลูกของคุณอาจไม่จำเป็นต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย และอาจมีส่วนร่วมกับกิจกรรมตามปกติโดยไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในอนาคต แพทย์โรคหัวใจอาจตรวจร่างกายของเด็กเป็นระยะเพื่อหาสิ่งผิดปกติ โดยขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วเด็กไม่จำเป็นต้องรับประทานยา ผ่าตัด หรือรักษาด้วยสายสวนเพิ่มเติม

ผลกระทบของโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
หากหลอดเลือดหัวใจเกินมีขนาดเล็ก: ส่วนมากผู้ป่วยมักไม่มีมีอาการหรือเกิดปัญหาใดๆ เพราะการไหลเวียนของเลือดและความดันในหัวใจและปอดไม่ได้เปลี่ยนไปจากปกติ ทั้งนี้สิ่งผิดปกติเพียงอย่างเดียวที่อาจพบได้ก็คือ หัวใจส่งเสียงฟู่ ซึ่งจะได้ยินเสียงนี้ผ่านหูฟังของแพทย์เท่านั้น
หากหลอดเลือดหัวใจเกินมีขนาดใหญ่: ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจติดขัดซึ่งเป็นผลกระทบมาจากหัวใจที่ทำงานได้น้อยลง รวมถึงมีความดันโลหิตในปอดสูง และหลอดเลือดปอดอาจมีความดันโลหิตสูงด้วย เพราะเลือดภายใจได้ถูกสูบฉีดมากกว่าปกติ และเมื่อเวลาผ่านไป ความผิดปกติดังกล่าวก็อาจทำให้หลอดเลือดปอดเสียหายถาวร
การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเกินต่อเนื่อง
แพทย์โรคหัวใจอาจตรวจสอบหัวใจเป็นระยะๆ เพื่อหาความผิดปกติโดยขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค 

ในกรณีที่อาการของโรคทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีในระยะยาว ผู้ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา เข้ารับการผ่าตัด หรือรักษาโดยใช้สายสวนเพิ่มเติมอีก เพียงแต่อาจต้องมีการสังเกตและติดตามอาการ รวมถึงจำกัดกิจกรรมบางอย่างเพื่อความปลอดภัย

1. การติดตามผลของอาการ
ผู้ป่วยที่ยังมีหลอดเลือดหัวใจส่วนเกินอยู่แม้จะเป็นขนาดเล็ก ก็ยังจำเป็นต้องติดตามอาการกับแพทย์โรคหัวใจอยู่เป็นระยะๆ ไปก่อน ส่วนผู้ป่วยที่หลอดเลือดหัวใจเกินปิดสนิทไปแล้วนั้นก็แทบไม่จำเป็นต้องมาติดตามอาการกับแพทย์โรคหัวใจอีก เว้นเสียแต่ว่ามีโรคหัวใจประเภทอื่นๆ เกิดขึ้นเพิ่มเติมภายหลัง 

ส่วนการให้ยาผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือหลังจากใช้อุปกรณ์ปิดช่องหลอดเลือดหัวใจนั้นจะพบได้ไม่บ่อยนัก และแพทย์สามารถติดตามอาการได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใส่เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปในร่างกาย

2. การจำกัดกิจกรรม
ผู้ป่วยส่วนมากที่มีหลอดเลือดหัวใจส่วนเกินขนาดเล็ก ทั้งที่ได้รับการรักษาไปแล้วและยังไม่ได้รับการรักษายังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติโดยไม่เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 

แต่แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยจำกัดการทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายบางอย่างเป็นเวลาสั้นๆ แม้ว่าความดันหลอดเลือดปอดของผู้ป่วยจะไม่สูงก็ตาม 

การป้องกันโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
หลังจากที่มีการปิดช่องหลอดเลือดด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว ผู้ป่วยบางรายอาจกังวลว่าตนเองจะเกิดโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบขึ้นในภายหลังอีก 

การป้องกันโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบจึงเป็นเรื่องที่ควรแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเกินที่มีประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับหัวใจดังต่อไปนี้

เคยเป็นโรคเยื่อบุหัวใจมาก่อน
มีการใช้ลิ้นหัวใจเทียม 
ยังไม่ได้รับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน
มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง 
มีอาการเขียวคล้ำ
การตั้งครรภ์
ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเกินมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ต่ำ เว้นเสียแต่ว่าผู้ป่วยเกิดมีความดันหลอดเลือดปอดสูงขึ้น หรือมีสัญญาณของภาวะหัวใจวายเกิดขึ้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยจะเกิดการตั้งครรภ์ 

ทางที่ดีหากผู้ป่วยรู้สึกถึงสัญญาณของการตั้งครรภ์ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์และแจ้งอาการเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจเกินให้แพทย์ทราบ

การผ่าตัดเพิ่มเติม
เมื่อช่องหลอดเลือดหัวใจถูกเย็บปิดแล้ว ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะไม่ต้องได้รับการผ่าตัดเพิ่มเติมอีก แต่อย่างไรก็ตาม หัวใจของผู้ป่วยบางรายอาจมีช่องว่างหลงเหลืออยู่ซึ่งจะพบได้ไม่บ่อยนัก 

หากต้องมีการเย็บปิดช่องว่างดังกล่าวเพิ่มเติม จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เกี่ยวกับขนาดของช่องหลอดเลือดที่เกินออกมาว่าควรรักษาอย่างไร




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2563    
Last Update : 15 ตุลาคม 2563 14:58:29 น.
Counter : 49 Pageviews.  

1  2  

เต้าหู้จัง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เต้าหู้จัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.