บทบัญญัติ ภาคต่อบทที่ 3 ของการเดินทาง Virginia ดินแดนแห่งความบริสุทธิ์

หายไปอาทิตย์ 1 เนื่องจากภาระกิจมากพอสมควร วันนี้จะมาต่อกันเลยครับ

Virginia = Land of Virgin

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ รัฐที่คนไทยคงจะคุ้นชื่อกันแต่ไม่รู้จักกัน เหมือนกับผมและเพื่อนๆ ที่บินมาที่นี่ แต่ละคนแทบไม่รู้เลยว่ารัฐนี้เป็นยังไง มีอะไรบ้าง ขออธิบาย ข้อมูลรัฐ โดยสังเขป และเท่าที่ผมมีความรู้นะครับ

State Of Virginia : เป็นรัฐอันดับต้นๆ ของอเมริกา ตั้งอยู่ตอนกลางติด มหาสมุทร แอตแลนติค

พรมแดน
ทิศเหนือ ติดเขตปกครองพิเศษ District of Columbia, Washington D.C เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกา และรัฐ Maryland
ทิศตะวันออก ติดมหาสมุทรแอตแลนติค
ทิศใต้ ติดรัฐ North Calorina
ทิศตะวันตก ติดรัฐ West Virginia

Virginia ได้ชื่อว่าเป็นรัฐ ที่มีเมืองที่เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอเมริกา คือเมือง Williamsburg ซึ่งเป็นเขตที่มีการรบและได้ชัยชนะ เหนือ ศัตรู บนบริเวณนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เมืองหลักๆ คือ Williamsburg, Yorktown และ James Town

เมืองหลวงของรัฐ Virginia ชื่อ Richmond เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ Virginia Beach เมืองที่เป็นที่ตั้งของส่วนราชการและใกล้ DC ที่สุดคือ Arlington (สถานทูตใหญ่ไทย ตั้งอยู่ที่นี่ครับ)

มหาวิทยาลัยชื่อ ดัง

ด้านวิทยาศาสตร์ Virginia Tech
ด้านกฎหมายและสังคม College of Williams and Mary

เอาเท่าที่ผมพอรู้ แึ่ค่นั้นก่อนครับ นึกไม่ค่อยออกละ

หลังจากที่เดินทางมาถึงสนามบิน Richmond รัฐ Virginia ผมก็ต้องต่อรถ ซึ่งเขามีรถรับส่งให้ มายังเมือง Williamsburg รัฐ Virginia ระหว่างทางนั้น ผมไม่ได้หลับเลย ทั้งๆ ที่เหนื่อยจากการขึ้นเครื่องมาจากเมืองไทย กว่า 27 ชั่วโมง เนื่องจากความตื่นเต้น ที่ได้มาถึง อเมริกาแล้ว การขับรถด้านขวา ซึ่งตรงข้ามกับบ้านเรา ทำให้รู้สึกแปลกมิใช่น้อย อีกทั้งสภาพภายนอก ที่ 2 ข้างทางมีแต่ต้นไม้ เต็มไปหมด แต่ว่าแต่ละต้น ไม่มีใบสีเขียวให้ได้ชมเลย มีแต่กิ่งก้านสีน้ำตาล เท่านั้น ซึ่งคงหาดูไม่ได้ในบ้านเรา

เดินทางมากว่า 45 นาที รถก็ขับลงจาก highway exit 6xx เพื่อเข้าตัวเมือง Williamsburg โอ้ววว นี้หรือเมืองที่เราจะมาอยู่ ไมมันบ้านนอกกว่าบ้านที่ต่างจังหวัดอีกนี้ เนื่องจากระหว่างทางเข้าตัวเมือง ก็ยังมีแต่ต้นไม้ที่มีแต่กิ่ง สีน้ำตาลอยู่เท่านั้น แดดแทบไม่มีเลยครับ ซักไม่เกิน 5 นาที รถก็มาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ของใครก็ไม่รู้ ก่อนแล้วค่อยขับไปลานจอดด้านหลัง แล้วพี่ที่พาไปก็บอกให้ทุกคนลงจากรถ และ เตรียมรับสัมภาระที่คนขับ จะขนลงไปกองให้ที่พื้นถนนหลังบ้านหลังที่มาจอด รอบๆ บ้านก็เป็นเหมือนตึกแถวชั้นเดียว เรียงรายล้อมรอบไอ้บ้านหลังที่ รถมาจอดด้านหลังมันนี่ละ หลังจากนั้น โอ้วววว หญิงสาวร่างใหญ่ ห้าว ใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าบูธของ ดอกเตอร์มาติน ผมยาว เสื้อหนาวสไตย์ คันทรี่ ผิวคล้ำ เดินลงมาจากรถ หน้าตาคุ้นๆ พี่โรงเรียนผม ไม่น่าเชื่อมาไกล ถึงอีกซีกโลก ดันมาเจอพี่โรงเรียน ที่เรียนมหาลัยเดียวกัน มาด้วยกันตลอดทาง แต่ผมกลับไม่รู้เลยยยยย ช่างน่าประหลาดใจ เธอดูเป็นสาวห้าว ที่ถ้าผมไม่ยาวคงไม่คิดว่าเป็นผู้หญิง หลังจกานั้นผมก็ดีใจมาก รอดตายแล้วงานนี้ มีคนช่วยแล้ววววว (คิดได้แค่นี้)

หลังจากนั้นก็รับกระเป๋า แล้วก็เดินเข้าไปในบ้านดังกล่าว ก็จะมีฝรั่งที่เป็นผู้จัดการที่พัก ชื่อ Peter มาพูดอธิบายอะไรซักอย่างที่ผมฟังไม่ออกเลยซักคำ แล้วพี่ที่พามาก็เข้ามาบอกว่าเขาให้จับกลุ่ม รูมเมท ผมก็อ้อ นั่งมองหน้าซ้าย ขวา ไม่ถูกชะตา กับใครเลย จนมองผ่านเลยมาเจอ ผู้ชายหัวโตหน้าตาแบ๊ว แม้วๆ หน่อย กับผู้ชายตี๋ๆ ใส่แว่น ดูคุณหนู นิดๆ นั่งอยู่ด้วยกัน แบบไม่มีใครเข้าไปหา ผมเลยเดินเข้าไปถามว่ามีรูมเมทยัง แล้วทั้งคู่ก็บอกว่ากำลังหาอยู่ เข้าทางก็เลยบอกว่าอยู่ด้วยกันป่าว ก็สรุป ห้องผมก็อยู่กัน 3 คน ทั้งๆ ที่เขาให้อยู่ด้วยกัน 4 คน ซึ่งอีก 2 คนนั้น คนแรกที่หน้าแม้วๆ หน่อย นั้น เป็นรุ่นน้องคณะผม สาขาเดียวกันด้วย โอ้ววว อะไรนี้ไม่ได้รู้มาก่อนเล้ยยยยยย ส่วนอีกคนตี๋แว่นคุณหนูนั้น มาจาก ABAC สรุปเราก็ได้เพื่อนร่วมห้อง และก็ไป check in เข้าที่พัก ได้ห้อง 121 มา ซึ่งใกล้กับไอ้บ้านหลังนี้มาก ตอนหลังมาทราบว่าไอ้บ้านหลังแรกที่เราไปถึงนั้นเรียกว่า Club House เป็นที่ไว้สำหรับลงทะเบียนเข้าที่พัก ทำอาหาร นั่งเล่น ขึ้นรถ ยืมของ และอะไรอีกมากมาย พูดง่ายๆ เป็นจุดศูนย์กลางของที่พักอะครับ

เมื่อได้ของมาแล้ว เราก็ลากกระเป๋า ที่ใหญ่เท่าบ้าน 2 หลังมาที่ห้องพัก (ก็ต้องอยู่ตั้ง 3 เดือน ก็เลยขนของกินมาเยอะมาก) อากาศก็ค่อนข้างหนาวมากกกก แล้ว เพราะว่าใกล้ 6 โมงเย็น จะ่ำค่ำแล้ว ขณะที่ลากมา อืมมม เจอคนที่มาด้วยแล้วเข้าห้องไปแล้ว Show off สุดๆ ออกมาเล่นบาสที่หน้าห้องผม แบบใส่เสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ แล้วแบบว่า พูดเสียงดังๆ ว่า โอ้ยย ไม่เห็นหนาวเลย ผมคิดในใจ บ้านเกิดแกอยู่ ขั้วโลกไงวะ พูดมาได้ไม่หนาว ทั้งที่อุณหภูมิน่าจะประมาณ 4-5 องศา เอง แต่ก็ไม่ได้สนใจมาก ผมก็เลยลากของเข้าก้องไป เปิดห้องเข้าไป ก็เจอเตียงเดี่ยว 2 อัน และเตียง 2 ชั้น 1 อัน ผมก็เลยลากกระเป๋าไปยังเตียงเดี่ยวในสุดห้อง จัดการวางของ แล้วเริ่ม เปิดกระเป๋า เอาของออกมาจัดเจงเล็กน้อย อากาศในห้องก็ยังเย็นมากอยู่ ทั้งๆ ที่มี Heater แต่ด้วยความที่อากาศที่โน่นหนาวกว่าบ้านเราเยอะมาก จึงทำให้รู้สึกหนาวววว มากมายอยู่ครับ ซักชั่วโมงผ่านไป แต่ละคนก็เริ่มทำกิจกรรมส่วนตัว คนหนึ่งไปโทรศัพท์กลับบ้าน คนหนึ่งไปอาบน้ำ ส่วนผมรื้อของ ทั้งหมดออกมาเลยครับ แล้วดูว่าจะต้องทำไรต่อไปพรุ่งนี้ แล้วที่สำคัญเอามาม่า และของกินทั้งหลายออกมาจากกระเป๋าให้หมด จะได้หยิบกินง่าย แล้วก็เริ่มชวนคนที่อาบน้ำเสร็จไปทำอะไรกินกันที่ club house เมื่อเข้าไปที่ club house โอ้ววววว คนเยอะมาก เนื่องจากเราต้องใช้ครัวร่วมกับเพื่อนทั้งหมด แล้วก็ดันมาหิวในเวลาอันใกล้เคียงกัน ก็เลยทำให้ห้องครัวนั้นแน่นไปถนัดตาเลย หลังจากนั้นผมก็เดินออกมาเล่นระกว่างรอต่อคิวใช้ครัว ตลอดเวลาความรู้สึกตื่นเต้น มันยังอยู่เต็มไปหมดเลยครับ เพราะว่าทุกอย่างมันช่างดูแตกต่างจากบ้านเราจริงๆ กลิ่นไอ ของสถานที่ อากาศ สภาพบ้านที่ไม่มีรั้วกั้น ต้นไม้แห้งที่เหมือนตายแล้ว ตู้ใหญ่ที่ใหย่กว่าบ้านเรา ห้องนอนที่ปูด้วยพรมเก่าๆ เตียงโต๊ะ ที่ทำจากไม้ ช่องทีวี ที่มีแต่รายการที่พูดภาษาอังกฤษ และมีช่องให้ดูมากกกกก เหลือ เกิน รายการ ทีวี ที่ดูไม่มีสีสันเท่าเมืองไทย ละคร ที่น่าดู ไม่น้ำเน่าเหมือนเมืองไทยย ดึกแล้ว อากาศที่นี่เริ่มหนาววววเย็นจับใจ และแล้วก็ต้องอาบน้ำ กับห้องน้ำ ที่เหมือนในหนังฝรั่งที่เราเคยดู น้ำที่หนาวเย็นจับใจ เหมือนใส่น้ำแข็งตลอดเวลา แต่ก็ดีที่มีน้ำอุ่นให้ด้วยยย เฮ้ยย เหนื่อยมาทั้งวัน แล้วว อาบน้ำสบายๆๆ แล้วมากลิ้งตัวบนที่นอนกับผ้าห่มบางๆ พร้อมกับหลับไป





โอ้วววว นี่หรืออเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ ดินแดนแห่งอิสระภาพ และโอกาส !!!

Create Date : 20 ตุลาคม 2553		4 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 14:45:09 น.
Counter : 4951 Pageviews.
Share Tweet