ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
อย่าลืม...ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทำประโยชน์ มีคลิปให้ดูว่าพลังงานมันมากจริงๆ

ดวงอาทิตย์เป็นวัตถุที่ใหญ่สุดในระบบสุริยะ ซึ่งมีมวลมากกว่า 99.8 เปอร์เซนต์ของมวลทั้งหมดในระบบสุริยะ ปัจจุบันดวงอาทิตย์ประกอบไปด้วยไฮโดรเจน 75 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลืออีก 25 เปอร์เซนต์เป็นฮีเลี่ยม

การโคจรของดวงอาทิตย์ ที่เส้นศูนย์สูตรของดวงอาทิตย์ใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 25.4 วัน แต่บริเวณที่ใกล้ศุนย์สูตรของดวงอาทิตย์จะเคลื่อนหนึ่งรอบใช้เวลา 36 วัน การเคลื่อนที่หมุนด้วยความเร็วไม่สม่ำเสมอนี้เอง เราเรียกว่า “differential rotation” ปรากฏการณ์นี้จะเกิดเฉพาะดวงดาวที่เป็นก๊าซ ซึ่งต่างจากโลก ดวงอาทิตย์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1390000 กิโลเมตร มีมวล 1.989x10^30 กิโลกรัม และที่ผิวมีอุณหภูมิ 5800 องศาเคลวิน ที่แกนกลางมีอุณหภูมิสูงถึง 15600000 องศาเคลวิน ด้วยเหตุนี้เองจึงมีพลังงานมากมายภายใน เรามาดูที่พลังงานกันว่ามีขนาดเท่าไร

พลังงานมีค่าเท่ากับ 3.86x10^33 วัตต์ ซึ่งได้มาจากปฏิกิริยาฟิวชั่น ทุกๆวินาทีไฮโดรเจนขนาด เจ็ดร้อยล้านตันจะถูกเปลี่ยนเป็นฮีเลี่ยมขนาดหกร้อยเก้าสิบห้าล้านตัน และอีกห้าล้านตันก็คือพลังงาน ในรูปของรังสีแกมม่า
ที่ผิวของดวงอาทิตย์จะเรียกว่า photoshere ซึ่งมีอุณหภูมิ 5800 องศาเคลวิน ซึ่งจะมีส่วนที่เย็นเรียกว่า sunspot มีอุณหภูมิ 3800 องศาเคลวิน

จุดนี้เราจะมองเห็นว่าเป็นสีดำ โดยจุดนี้เป็นที่เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจในปัจจุบันเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ บน photosphere จะมีพื้นที่เล็กๆที่เรียกว่า chromoshere เรียงตัวกันอยู่ และเหนือพื้นที่นี้จะมี corona อยู่ โดย corona จะขยายตัวเป็นล้านกิโลเมตรในอวกาศ แต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ อุณหภูมิของโคโลน่ามีมากกว่าหนึ่งล้านองศาเคลวิน ในด้านความร้อน และแสงของดวงอาทิตย์ มันจะแผ่ลมสุริยะออกมา ซึ่งส่วนใหญ่ภายในจะประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน และอิเล็กตรอน ซึ่งแผ่ด้วยความเร็ว 450 กิโลเมตรต่อวินาที

พลังงานส่งออกของดวงอาทิตย์มีค่าไม่คงที่ มันก็เหมือนๆกับจำนวนของ sunspot ที่มีไม่คงที่ ดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะ มีอายุที่ 4.5 พันล้านปี ถึงตอนนี้มันใช้ไฮโดรเจนไปครึ่งหนึ่งแล้ว เมื่อใดที่ไฮโดรเจนหมด มันจะถูกเปลี่ยนอนุมูลพื้นฐาน ซึ่งถึงเวลานั้นโลกก็จะถูกทำลาย แต่ไม่ต้องกลัวครับเพราะว่านานมากกว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น ด้วยพลังงานที่มากมายมหาศาลขนาดนั้น ถ้าเรารู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ย่อมเป็นผลดีกับเรา และเศรษฐกิจของชาติ โดยเฉพาะยุคนี้เป็นยุคแห่งน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูงลิบ ความคิดดังกล่าวอาจจุดประกายให้คนไทยหันมาให้ความความสำคัญกับพลังงานแหล่งใหญ่แหล่งนี้

พลังงานแสงอาทิตย์ดูจะได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดว่า จะเป็นความหวังอันสูงส่งของมนุษย์ที่จะช่วยแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนได้อย่างแท้จริง ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของธรรมชาติ โดยความเป็นจริงแล้วแหล่งพลังงานทุกชนิดที่กล่าวไปแล้วยกเว้นชนิดเดียวก็คือ พลังงานจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลงล้วนแต่เกี่ยวกันไม่โดยตรงก็โดยทางอ้อมกับพลังงานดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น พลังงานดวงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดจากกระบวนการนิวเคลียร์แบบที่เรียกกันว่า นิวเคลียร์ฟิวชั่น

กระบวนการเกิดพลังงานบนดวงอาทิตย์เป็นผลจากการรวมตัวของอะตอมไฮโดรเจนเป็นอะตอมฮีเลี่ยม แล้วมีมวลส่วนหนึ่งของอะตอมไฮโดรเจนหายไป มวลส่วนที่หายไปนี้เองที่เปลี่ยนไปเป็นพลังงานในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกส่งออกไปรอบดวงอาทิตย์ แล้วก็มีส่วนหนึ่งส่วนน้อยเท่านั้นที่เดินทางมาถึงโลก

พลังงานแสงอาทิตย์ที่ผิวดวงอาทิตย์ พื้นที่ 1 ตารางหลา มีค่าถึงประมาณ 65,000 แรงม้า แต่ที่ผิวโลกบนพื้นที่ 1 ตารางหลา เท่ากันนั้นมีพลังงานแสงอาทิตย์เดินทางมาถึงเพียงประมาณ 1 1/3 แรงม้า หรือ 1 กิโลวัตต์เท่านั้น แต่ปริมาณพลังงานแสงอาทิตย์บนผิวโลกที่ดูมีค่าเพียงน้อยนิดนี้ เมื่อคิดเป็นปริมาณของพลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงที่เรามีอยู่แล้ว และความจำเป็นของมนุษย์เราในการใช้พลังงานเพื่อกิจกรรมต่างๆ แล้วไม่น้อยเลย เพราะพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาถึงโลกในช่วงเวลา 1 เดือน นั้นคิดเป็นปริมาณพลังงานก็เท่ากับถ่านหินถึง 18 คูณ 1012 ตันหรือแปดล้านล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณของถ่านหินที่คาดกันว่ามีเหลืออยู่ในโลกทั้งหมดขณะนี้

ดังนั้น โลกเราถึงแม้จะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นระยะทางถึงประมาณ 93 ล้านไมล์ และดูเสมือนกับจะได้รับพลังงานแสงอาทิตย์เป็นปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยความเป็นจริงในแง่ของความต้องการใช้พลังงานของมนุษย์โลกแล้ว โลกเราก็ได้รับพลังงานแสงอาทิตย์เป็นปริมาณมหาศาลอยู่ทุกขณะ แต่ในขณะนี้เป็นที่น่าเสียดายว่า โลกเราใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์ได้จริงๆ เพียงน้อยนิด คือประมาณ 1% เท่านั้น อีกประมาณ 99% นั้นสูญหายไปเปล่าอย่างน่าเสียดาย

พลังงานแสงอาทิตย์มีข้อดีอย่างไรบ้าง พลังงานแสงอาทิตย์มีเป็นปริมาณมหาศาลไม่รู้จักหมดสิ้น ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์ยังฉายแสงอยู่ซึ่งคาดกันว่า ก็อย่างน้อยอีกประมาณหนึ่งพันล้านปีทีเดียว พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่สะอาดไม่มีอันตรายในตัวมัน ไม่เป็นอันตรายต่อสภาวะแวดล้อม ไม่ทำให้สภาวะแวดล้อมเป็นพิษ และที่สำคัญที่สุดก็คือ พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่มีอยู่โดยทั่วๆ ไปที่เราไม่ต้องไปซื้อไปหาดังเช่นพลังงานชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่อยู่ในเขตร้อนดังเช่น ประเทศไทยที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ก็เสมือนกับมีแหล่งพลังงานมหาศาลที่ได้มาเปล่าๆ โดยไม่ต้องซื้อ โดยทั่วๆไปการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์อาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะสำคัญคือ

(1) การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของความร้อน

(2) การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

สำหรับประเทศที่เจริญแล้วทางด้านเทคโนโลยีและมีเศรษฐกิจดี ดังเช่น สหรัฐอเมริกา โอกาสที่จะใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสองลักษณะมีมาก และขณะนี้ประเทศที่เอ่ยถึงนี้ก็กำลังทุ่มเทความรู้ความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรและทุนทรัพย์ในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์

ในประเทศไทยเรานั้นเป็นที่น่ายินดีว่าคนไทยกำลังตื่นตัวในเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์

ในปัจจุบันนี้มีโครงการวิจัยการใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ การประดิษฐ์คิดค้นสร้างอุปกรณ์เครื่องมือใช้ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสำหรับชีวิตประจำวัน และทางด้านเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังได้รับความสนใจสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างดี แต่การใช้ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยก็มีข้อจำกัดสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งผู้สนใจในแหล่งพลังงานทดแทนนี้ควรตระหนักนั่นคือ การใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่อาจจะกล่าวได้ว่า ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของความร้อนเท่านั้น มิใช่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไปผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นรูปของพลังงานที่สำคัญที่สุด สะดวกสบายต่อการใช้ที่สุด และมีบทบาทมากที่สุดสำหรับสังคมมนุษย์ ทั้งในวงการอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน

ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการนำเอาความร้อนของแสงอาทิตย์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ในการสร้างเครื่องทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์สำหรับโรงพยาบาล โรงแรม การทำเครื่องต้มน้ำแสงอาทิตย์ การทำเตาแสงอาทิตย์หรือเตาสุริยะ การทำเครื่องกลั่นน้ำแสงอาทิตย์ การทำเครื่องอบแห้งผลิตผลเกษตรกรรม และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งเป็นการนำเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้โดยตรงที่มิต้องอาศัยเทคโนโลยีสูงนักหรือสลับซับซ้อนนัก

โดยทั่วๆ ไปในปัจจุบันนี้การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทำได้ 2 วิธีคือ การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของเซลล์สุริยะหรือโซล่าร์เซลล์ (Solar Cell) ซึ่งอาศัยวัสดุสำคัญประเภทสารกึ่งตัวนำ เช่น ซิลิกอน หรือสารประกอบกึ่งตัวนำ เช่น กอลเลียมอาร์เซไนด์ ส่วนอีกวิธีหนึ่งของ การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ก็คือ ใช้ความร้อนของแสงอาทิตย์ไปต้มน้ำหรือทำให้ก๊าซร้อน แล้วใช้ไอน้ำร้อนหรือก๊าซร้อนไปทำให้เทอร์ไบน์หรือกังหันใบพัดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุนอีกต่อหนึ่ง โดยสรุปแล้วถ้าจะผลิตไฟฟ้าในระดับใหญ่ถึงขั้นเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์แล้วก็ทำได้ 2 วิธี คือ ใช้เซลล์สุริยะจำนวนมากหรือ ใช้แสงอาทิตย์เป็นปริมาณมากไปต้มน้ำหรือทำให้ก๊าซร้อน แล้วไปทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานอีกต่อหนึ่ง ซึ่งในการนี้จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูง สลับซับซ้อนและราคาการลงทุนชั้นแรกสูงมาก



ที่มา
siambeam.com
mod.go.th/opsd/dedweb/energy/about/meaning%20and%20type/solar.htm


มาดูกันว่าพลังงานของดวงอาทิตย์ที่รวมแสงแล้วจะละลายเหล็กและทำลายหินได้อย่างไร




Create Date : 13 ธันวาคม 2553
Last Update : 13 ธันวาคม 2553 13:36:06 น. 0 comments
Counter : 1708 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.