Group Blog
ธันวาคม 2554

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
รถหาย" หายไปไหน
รถหาย" หายไปไหน .... หลายๆคนเชื่อว่ารถหาย ส่วนใหญ่น่าจะออกนอกชายแดนไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน ขอบอกว่า มีครับ แต่ส่วนน้อยเพียงไม่เกิน 20% และรถหายส่วนใหญ่
ก็มาใช้งานอยู่ในบ้านเรานี่แหละ ไปเส้นทางใดบ้าง ..เรามาดูกัน

ส่วนหนึ่ง เป็นรถคันเดิมสีเดิมที่วิ่งอยู่ตามปกติใช้งานบนท้องถนน ข้างๆใกล้ๆคุณนั่นแหละ เพียงแต่ป้ายทะเบียนรถเปลี่ยนไป มีเพียงสำเนาทะเบียนรถไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตามด่าน แต่หากตรวจสอบเลขเครื่องเลขตัวถังตรงตามสำเนานั้น ซึ่งปลอมแปลงมา รถพวกนี้มักเป็นรถราคาแพงเกือบหรือเกินล้าน ตลาดนิยมมาก แต่คนซื้อใช้ไม่อยากเสียเงินมาก จะซื้ออยู่1ใน3 ของราคาตลาด ที่มาก็จะเป็นรถหนีไฟแนนซ์ รถขโมย หรือรถตามบ่อน
โดยมากมักเป็นรถเก๋งหรือรถอเนกประสงค์เจ้าตลาด

วิธีป้องกัน ให้ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ ติดบาร์โค๊ดไว้ในตำแหน่งที่แสดงไว้ชัดเจนอาจจะเป็นใต้ก้านปัดน้ำฝนก็ได้ ซึ่งซ่อน เลขตัวถังเลขเครื่องยนต์ สี และ ข้อมูลจากกรมการขนส่งป้อนข้อมูลเพิ่มเติมของเจ้าของและผู้ครอบครองไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจเพียงยิงบาร์โค๊ดแบบตามห้างก็สามารถแสดงข้อมูลจริงๆให้ จนท.ทราบหากเอกสารที่แสดงไม่ตรงก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป...ซึ่งหนทางนี้ควรเป็นภาคบังคับแก่โรงงานผู้ผลิตต่างๆใช้ และเมื่อรถจดทะเบียนแล้วหรือรถเก่าก็ให้กรมการขนส่งทางบกทำสติ๊กเกอร์บาร์โค๊ดนี้แสดงข้อมูลรถต่างๆข้างต้นเพื่อให้ จนท.ตรวจสอบได้เช่นกัน

อีกหนึ่งส่วนใหญ่คือ รถที่ไปสวมรถอุบัติเหตุ และหรือ ใช้เป็นอะไหล่ให้แก่รถอุบัติเหตุ หรือใช้เป็นแหล่งขายอะไหล่มือสอง เหตุนี้แหละที่ทำให้รถหายแล้วไม่ได้คืน เรามามองถึงเหตุกันซึ่งผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นเช่นนี้

1 รถอุบัติเหตุหนัก จนเหลือแต่ซาก แต่ทะเบียนรถและเลขคัทซี เลขเครื่องยังอยู่ ก็จำหน่ายซากรถพร้อมเล่มทะเบียนและชุดโอน ผู้ซื้อก็ซื้อไปซ่อม หากซ่อมตามหลักทั่วไปใช้อะไหล่แท้ ค่าซ่อมซื้อรถใหม่ได้คันนึงทีเดียว จึงใช้วิธีซื้ออะไหล่เก่ามาแทน ก็ซ่อมจนสามารถไปจำหน่ายเป็นรถปกติได้ แต่ราคาต้นทุนก็ยังสูงอยู่

2 รถชนหนักเช่นเดิม แต่ทุ่นค่าซ่อมด้วยการสวมรถที่ขโมยมาโดยการตัดต่อเลขตัวถัง และเลขเครื่อง จากซากรถไปยังรถที่ลักขโมยมา อันนี้ส่วนมากมักจะเป็นรถเก๋งหรือรถที่ไม่มีคัทซี

3 ซากรถกระบะ หัวเก๋งหรือส่วนอื่นๆเละแต่คัทซีคดงอพอดัดได้ ก็ซ่อมดัดจนเข้าที่แล้วยกหัวเก๋งมาใส่แทนซากรถ พร้อมกระบะใหม่ ก็ได้รถสวยๆสภาพดีๆที่ไม่มีใครสามารถรู้ได้

4 รถเสียหายทั่วไปแต่อยากได้อะไหล่มือสองราคาไม่แพง ก็สั่งตามตลาดมืดทั่วไปก็จัดหาได้ไม่ยาก โดยไม่ทราบที่มาที่ไปอาจคิดว่ามาจากอะไหล่ญี่ปุ่น

นี่คือส่วนใหญ่ของรถที่หายและมักหาไม่เจอ ซึ่งวิธีป้องกันไม่ยาก ดังนี้

บริษัทประกันภัยและเจ้าของซากรถ ห้ามไม่ให้จำหน่ายทะเบียนซากรถ เด็ดขาด ซึ่งหากจำหน่ายไปก็อยู่ในวงจรเช่นนี้อีกตลอดไป จ่ายค่าสินไหมแก่ผู้เอาประกันแล้วต้องมาจ่ายค่าสินไหมค่ารถหายให้แก่ผู้เอาประกันอีกราย ให้จำหน่ายได้เพียงซากรถเพื่อนำไปเป็นเหล็กหมุนเวียนหรือเป็นอะไหล่ตามสุสานรถได้
ซากรถที่ชนหนักจนเห็นว่าไม่น่าใช้งานได้ตามสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ควรอายัดต่อนายทะเบียนว่าเป็นรถอุบัติเหตุหนัก เพื่อไม่ให้นำทะเบียนรถนั้นกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก
กรมการขนส่ง ต้องทำบาร์โค๊ด แสดงข้อมูลรถแต่ละคัน เพิ่มเติมจาก สมุดคู่มือจดทะเบียน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้โดยเร็ว โดยไม่ต้องเปิดกระโปรงรถดูเลขตัวถัง และเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกัน
และ มีการอายัดจากตำรวจท้องที่ แจ้งอายัดเป็นรถอุบัติเหตุหนัก ก็ให้ยกเลิกทะเบียนรถยนต์คันนั้น เพื่อตัดวงจรนำรถกลับมาจำหน่ายได้อีก
ผู้ผลิตรถยนต์กระบะ ทุกคัน ต้องมีเลขตัวถังเลขเดียวกับเลขคัทซีไว้ด้วยเพื่อป้องกันการสวมหัวเก๋ง
ผู้ผลิตรถยนต์ควรลดราคาค่าอะไหล่ตัวถังและเครื่องยนต์ให้ถูกพอที่ อู่ซ่อม, บริษัทประกัน,เจ้าของรถ สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงตลาดมืดหรืออะไหล่เก่า
รัฐบาล ควรจัดหาสถานที่ ที่จัดเก็บสุสานรถกลาง โดยมีหน่วยงานซึ่งคอยถอดและจัดแยกชิ้นส่วน ไว้จำหน่ายตามยี่ห้อและรุ่นต่างๆ ซึ่งผู้ซื้ออะไหล่ก็ง่ายต่อการจัดหาและ การควบคุมจัดการก็อยู่ในแหล่งเดียว ทำให้ควบคุมการจำหน่ายอะไหล่รถในประเทศไม่ให้ตลาดมืดเติบโตได้ ขณะที่อะไหล่ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนั้นไม่กระเทือน

ผมคาดว่า หากมีผู้เกี่ยวข้องอ่านพบและเห็นว่ามีประโยชน์ นำเอาไปใช้และปรับปรุงบ้างก็น่าจะช่วยป้องกันปัญหารถหายไปได้บ้าง


ผมเขียนข้างบนนี้ส่งไป สารพันปัญหา ให้อ๊อด เทอร์โบ เพื่อว่าจะได้เผยแพร่ในไทยรัฐ ก็อาจจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเค้าคิดได้และช่วยกันหาไอเดียบรรเจิดมาช่วยกันแก้ไขและป้องกันรถให้มันหายน้อยลงหน่อย

สำหรับแฟนๆห้องรัชดา ผมก็คงต้องเพิ่มไว้ให้ทราบเรื่องแล้วเราจะรู้ได้ไงว่ารถสวมเก๋ง สวมทะเบียนมา เหอๆๆๆ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าดูยังไง ก็รถมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว รถที่สวมมามันก็ไม่ได้บอกพิรุธอะไรนี่นา


แต่มันต้องมีทางออกสิน่าาา

รถกระบะ อย่างIsuzu นั้น เลขคัทซี จะมีโค๊ด เช่น TFR 54 HPY

ตัว TFR 54 คือรุ่น รถ อาจจะเป็นมังกร หรือ ดาร์ก้อนอาย H คือตัวช่วงยาว P คือ รุ่นมีแค๊บ Y คือ รุ่นพิเศษ มีพวงมาลัยพาวเวอร์ เป็นต้น

คุณอยากรู้ว่า เลขคัทซีของแต่ละคัน แต่ละรุ่น แต่ละตัวอักษร มีความหมายว่ายังไง ไปสอบถามเอาเอง จาก เซลส์หรือเจ้าหน้าที่ ปชส ของยี่ห้อนั้นๆเองครับ ผมไม่บอกเพราะผมเองก็เก็บไว้ทำมาหากิน อิๆๆๆ

ทีนี้ ถ้ารถที่คุณสนใจมีเลขคัทซีไม่ตรงกับรุ่นที่คุณดู นั่นแหละรถแปร่งๆ อารัยหว่า คัทซีเป็น รุ่นแค๊บ ธรรมดา ไหงดูรถกลายเป็น รุ่นท๊อบซะงั้น อันนั้น ถ้าอยากยาวก็แจ้งความตำรวจ แต่ถ้าไม่อยากยาว ก็เดินหนีอย่าไปยุ่งด้วยก็จบ

ส่วนรถเก๋ง ถ้าสวมทะเบียน ทำไง โห ถ้าผมตอบได้ ผมคงติดคุกไปแล้ว ก็ผมไม่ได้เป็นคนทำแล้วผมจะบอกได้ไงเล่า เท่าที่ฟังๆมาจากเพื่อนๆที่โดนมา เค้าทำงี้ครับ

เอาคันที่ขโมยมา เลาะแผ่นใต้กระจก ออกทั้งเฟรม ที่มีเลขตัวถังอยู่ ออก แล้ว เอาทั้งเฟรม หรือบางส่วนที่มีเลขตัวถังคันซากมาเชื่อมแปะแล้วเจียร์แต่งรอยอาร์ค รอยเชื่อมออก แล้วโป๊วสีขัดเรียบแล้วพ่นสีใหม่ ดูแทบไม่ออก แต่ขนส่งสามารถทราบได้เพราะ มีตัววัดรอยเชื่อมหรือรอยโป๊วบริเวณที่มีการตัดต่อ จึงจับได้



Create Date : 19 ธันวาคม 2554
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 19:38:48 น.
Counter : 378 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใบไม้เบาหวิว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



Friends Blog
[Add ใบไม้เบาหวิว's blog to your weblog]