ผนังบ้านกับสีทาบ้านและการเลือกใช้สี
สีทาผนังบ้าน สำหรับผนังปูนก็จะนิยมใช้สีน้ำพลาสติกที่มีส่วนผสมของอะคลีลิค 100% หรือที่เราเรียกกันว่าสีน้ำอะคลีลิคนั่นเอง มีทั้งชนิดด้านและแบบกึ่งเงา
สีด้านจะดูสะอาด กระจ่างแต่ไม่กระจายแสง สีนวลใสแต่จะสกปรกง่าย
สีกึ่งเงาจะดูนวลเมื่อโดนแสงไฟหรือแสงแดด เช็ดทำความสะอาดได้ เงาเล็กน้อย ลูบดูจะลื่นมือ ฝุ่นจะไม่ค่อยจับผนัง
การทาสีผนังต้องมีการเตรียมพื้นผิว ดังนี้ - ลอก ขูด หรือขัดทำความสะอาดสีเก่าออกให้หมดก่อน - ใช้กระดาษทรายบางขัดเบาๆ แล้วปัดฝุ่นออกให้หมด บางทีก็สามารถใช้น้ำฉีดได้ - ทาสีรองพื้นปูนเก่า สำหรับบ้านที่สร้างมานานกว่าห้าปี - สีรองพื้นปูนเก่าจะออกใส ๆ ทารองพื้นรอบหรือสองรอบแล้วแต่พื้นผิว - ทาสีรองพื้นปูนใหม่ สำหรับบ้านที่สร้างมาไม่ถึงห้าปี สีรองพื้นปูนใหม่จะออกสีขาว - ทาสีจริงอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
สำหรับผนังไม้หรือส่วนที่สร้างจากไม้ ถ้าจะให้ทนทานรักษาง่ายก็มักทาด้วยสีน้ำมัน หรือเป็นสีทาไม้โดยตรง ซึ่งจะทาด้วยสีย้อมไม้ตามชอบก่อนแล้วจึงทาสีเคลือบเนื้อไม้อีกที สีทาไม้จะมีส่วนผสมที่จะรักษาเนื้อไม้ให้ปราศจากปลวก กันความชื้นและกันเชื้อรา
วิธีการทาสีไม้ ก็เริ่มจากการขัดเอาสีเก่าออกให้หมดแล้วทาสีย้อมไม้สองรอบ จากนั้นทาสีเคลือบทับให้เงาและเป็นการป้องกันเนื้อไม้ด้วย
สำหรับส่วนที่ทำด้วยเหล็ก จะใช้สีน้ำมันทา อันนี้ต้องทารองพื้นด้วยสีกันสนิมก่อนแล้วทาสีจริงตามชอบ
วิธีทาสีเหล็กประตูหรือเหล็กดัด ก็เริ่มจากการลอกสีเก่าออก ให้ใช้น้ำยาลอกสีเหล็ก หลังจากลอกสีแล้วให้ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมดก่อน ล้างทำความสะอาดตากให้แห้ง จากนั้นก็ทาสีรองพื้นกันสนิม หรือถ้าสีที่ใช้มีส่วนผสมกันสนิมอยู่แล้วก็ไม่ต้องทาสีกันสนิม แต่ทาสีจริงได้เลย ทาอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้มากกว่า 24 ชั่วโมงเพราะสีน้ำมันจะแห้งยาก และมีกลิ่นเหม็นมาก
รอยร้าวต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากโครงสร้าง จะต้องทำการเซาะให้รอยแตกนั้นกว้างและลึกประมาณ 1 ซม. แล้วใช้อะคลีลิคอุดรอยร้าว ซึ่งเป็นหลอดเวลาบีบจะออกเป็นครีมสีขาว บีบอุดรอยที่เซาะแล้วลูบให้เรียบไปตามแนวผนัง จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วจึงทาสีรองพื้นทับแล้วทาสีจริง เท่านี้รอยร้าวก็ถูกปกปิดแล้ว
สีบางชนิดอาจช่วยปกปิดได้แต่ก็จะไม่มิดถ้าไม่มีการอุดฉาบเสียก่อน ถ้าฉาบทับอย่างเดียว หลังทาสีทับก็จะเห็นร่องรอย ฉะนั้นทำการอุดรอยร้าวก่อนทาสีจะได้ผลที่สุด
สีทาบ้านกับการเลือกใช้
เชื่อว่าสีของบ้านนั้นก็มีความสำคัญมากทีเดียว แต่ละคนก็มีความชื่นชอบสีที่ต่างกันไป เราลองมาดูวิธีการเลือกสีให้บ้านเรากันดีกว่าค่ะ
ลักษณะทั่วไปของสีนั้นจะมีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ
1. สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ประเภทนี้ต้องใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวผสมทำให้เจือจาง สำหรับทางานไม้หรือโลหะ เพื่อความเงางามและทำความสะอาดได้ง่าย สีประเภทนี้ถ้านำไปทาผิวปูนหรือพวกผิวไม้เทียม จะไม่ติดหรือติดบ้างแต่จะหลุดออกได้ง่าย
2. สีพลาสติกหรือสีอะครีลิค สีนี้จะใช้น้ำเป็นตัวผสมทำให้เจือจาง เมื่อสีแห้งสีจะไม่เจือจางหรือหลุดลอกไปตามน้ำ สีชนิดนี้เหมาะกับพื้นปูนและพื้นคอนกรีตทั่วไป รวมทั้งกระเบื้องแผ่นเรียบด้วย
ลักษณะการใช้งานของสีทั้ง 2 ประเภท คือการใช้ทาภายในและภายนอก คุณภาพความคงทนของสีก็ขึ้นอยู่กับราคาที่ต่างกันออกไปด้วย แต่ละยี่ห้อก็จะมีหลายสีหลายเกรดต่างกันไปด้วย เช่น เกรด A B C ก็จะมีส่วนผสมของเม็ดสีอะครีลิค ลดหลั่นกันลงมาตามเกรด รวมทั้งอายุการใช้งานก็ลดหลั่นกันลงมาตามกันด้วย
การเปรียบเทียบสีว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากันนั้นต้องเอาเกรดต่าง ๆ มาเทียบกัน การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา
คิดว่าเรื่องของสีทาบ้าน คงพอเข้าใจกันบ้างแล้วในการเลือกใช้ ทีนี้ก็ไม่ต้องคิดมากแล้วเรื่องการหาสีให้บ้านเรา
ที่มาของข้อมูล : //www.thaihomeonline.com ภาพจาก : //www.rusticgirls.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เทคนิคการทาสีบ้านหลังเก่า แก้ปัญหา...สีทาบ้านหลุดล่อน เทคนิคทาสีบ้าน สไตล์ท้องถิ่นประยุกต์ หลักการทาสีบ้านเสริมฮวงจุ้ย
สารบัญ ตกแต่งบ้าน และ จัดสวน
Create Date : 19 มกราคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 16:26:00 น. |
Counter : 2443 Pageviews. |
|
|
|