Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
เฟ้นหาโรงเรียนถูกใจ VS พาช้างต้นไปสมัครเรียนแล้วจ้ะ







วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2551

ช้างต้นลูกรัก..... ระหว่างที่เรากำลังรอฟังผลการสมัครที่โรงเรียนจิตรลดา พ่อและแม่ตั้งใจให้น้องช้างไปเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนในระดับอนุบาล 1 ในปีการศึกษา 2552 ก่อนเข้าเรื่องพาลูกไปสมัครเรียน ขอย้อนไปเล่าถึงที่มาที่ไปของการเลือกโรงเรียนให้ลูกซักนิดนุงนะจ๊ะ



ขั้นตอนการเฟ้นหาโรงเรียนโดนใจ

อันนี้ขึ้นอยู่กับ style ของพ่อแม่แต่ละคู่ ซึ่งก็คงไม่เหมือนกัน โดยส่วนตัวเลือกทำ check list พร้อมคำถามยาวเป็นหางว่าว เพื่อนบางคนบอกแม่ทัชวิตกจริตป่าวฟระ แค่ไปดูโรงเรียนให้ลูก ถึงขั้นทำ check list กันเลย เอาน่ะ...ก็เราเป็นพ่อแม่มือใหม่หนิ ยังไม่เคยเฟ้นหาโรงเรียน เคยแต่เป็นนักเรียน เราก็ไม่อยากพลาดคำถามสำคัญ ๆ (กันลืม) เพราะเวลาไปเยี่ยมชมสถานที่ พอคุยกับคุณครูไปเพลิน ๆ ก็อาจจะลืมถามก็ได้ เราพยายามเก็บทุกรายละเอียดเพื่อให้การเยี่ยมโรงเรียนครั้งแรกคุ้มค่าที่สุด เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะมีโอกาสได้เข้ามาเดินชมทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน และสิ่งที่เราทำก็ช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจริง ๆ เพราะหลังจาก survey ครบแล้ว เราใช้เวลาประเมินแค่วันเดียวก็เลือกได้เลยว่าโรงเรียนไหนโดนใจเราที่สุด



ความประทับใจที่ได้รับจากการเยี่ยมชมโรงเรียนแห่งแรกของช้างต้น

แนวคิดที่ได้จากการเยี่ยมโรงเรียน

“อะไรที่เป็นความสงสัยและอยากรู้ จงหาคำตอบเพื่อขจัดความสงสัยนั้น
เพราะสิ่งที่เราได้ นอกจากคำตอบแล้ว เรายังได้รับรู้ถึงอารมณ์และความจริงใจจากผู้ตอบด้วย”




โรงเรียนศุภวรรณ (จรัญฯ 22) แม่รู้จักโรงเรียนนี้จากคำแนะนำของป้าแพร แม่น้องหมีพูห์ ก๊วน we-are-mom จ้ะ สิ่งที่เราประเมินได้จากการไปเยี่ยมชมในครั้งนั้น คือ คุณครูฝ่ายธุรการอัธยาศัยดี ยินดีที่จะตอบทุกคำถามที่เราอยากรู้ และพาเยี่ยมชมทั่วโรงเรียน ไม่สามารถลง detail ได้หมดว่าเราเจาะลึกคำถามมากแค่ไหน แต่บอกได้ว่าทุกคำถามของเรา อยู่บนพื้นฐานของแนวคิดข้างต้น เพราะอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของลูก พ่อและแม่ทุกคนก็คงอยากให้ในสิ่งที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่แพงหรือหรูหราที่สุด ...แต่มันหมายถึงดีที่สุดบนความพอดีที่เราสามารถยื่นให้กับลูกได้



สิ่งที่ประทับใจเรา คือการให้ความสำคัญกับความสามารถของนักเรียน จากที่เห็น จะมีภาพวาดที่เป็นผลงานของนักเรียน ใส่กรอบแขวนประดับไว้ทั่วบริเวณโรงเรียน ที่นี่คงไม่ได้เน้นอัดวิชาการอย่างเดียว แต่เน้นให้เรียนแล้วมีความสุข สังเกตจากกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกีฬาและศิลปะ รวมถึงเรื่องพุทธศาสนาด้วย อาคารอนุบาล เป็นอาคารเรียนไม้สัก สำหรับพ่อปอนด์ที่ชอบของ Antique เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยได้ใจไปเต็ม ๆ โต๊ะและเก้าอี้นักเรียนยังเป็นโต๊ะไม้ตัวเล็ก ๆ แบบโบราณได้อารมณ์ห้องเรียนจริง ๆ ที่ไม่ใช่อารมณ์เนิร์สเซอรี่ นอกจากนี้ยังมีห้องกิจกรรมและของเล่นสนามในร่ม ห้องน้ำและสุขภัณฑ์เฉพาะสำหรับเด็กเล็ก มีรั้วแบ่งแยกบริเวณระหว่างเด็กเล็กเด็กโตค่อนข้างชัดเจน



เก็บตก 10 คำถามหลังจากที่ไปเยี่ยมชมโรงเรียนศุภวรรณมา post ไว้เผื่อเป้น guide line ในการพิจารณาต่อไปจ้ะ

1. ค่าเทอม 15000 บาทนี้ (พ.ศ. 2551) รวมพวกของใช้จำเป็นอย่าง แป้ง สบู่ ยาสันฟัน รองเท้าแตะ ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน การซักรีดเครื่องนอนหรือไม่คะ (ไม่รวมอะไรบ้าง กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยค่ะ)
ไม่รวม ต้องเตรียมมาเองทุกอย่าง

2. ชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดนอน ชุดว่ายน้ำ เครื่องนอน ทั้งหมดนี้สามารถซื้อได้ที่โรงเรียนใช่หรือไม่คะ (วันไปสมัครจะได้ซื้อกลับมาเลยค่ะ)
ซื้อที่โรงเรียน หรือร้านชัยรัตน์ บางลำพู

3. อยากทราบตารางกิจกรรมหรือตารางเรียนของเด็กชั้นเตรียมอนุบาลค่ะว่าจันทร์ - ศุกร์น้องจะได้รับการเรียนการสอนอย่างไรบ้าง (แจ้งเป็นหัวข้อกิจกรรมไม่ต้องลง detail เวลาก็ได้ค่ะ อันนี้อยากรู้จริง ๆ ค่ะว่าน้องจะได้รับการพัฒนาทักษะในด้านในบ้าง และมีการสอดแทรกภาษาอังกฤษในกิจกรรมให้ด้วยหรือไม่คะ)


9. ค่าเทอมสามารถแบ่งชำระได้ใช่หรือไม่ค่ะ แล้วสัดส่วนในการแบ่งชำระเป็นอย่างไรคะ
แบ่งชำระได้เป็น 2 งวด จ่ายครั้งแรกวันสมัคร 7500 บาท และในเดือนถัดไปอีก 7500 บาท

10. จากที่อ่านในเอกสาร เห็นข้อความว่ารับทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนใหม่ น้องหรือญาตินักเรียนเก่ารับสิทธิพิเศษเพิ่ม ในที่นี้หมายถึงสิทธิพิเศษอะไรบ้างคะ เพราะมีเพื่อนที่เคยเป็นคุณครูที่นี่แนะนำมาน่ะค่ะ (เผื่อจะได้รับสิทธิพิเศษบ้าง )
ถ้ามีพี่ ๆ เรียนอยู่ หรือเป็นศิษย์เก่า ลด 1500 บาท หรือมีผู้ปกครองแนะนำมา ลด 500 บาท



4. น้องเตรียมอนุบาล รับประทานอาหารว่าง อาหารกลางวัน กี่โมงคะ แล้วทานที่ห้องเรียน หรือมีห้องรับประทานอาหารแยกต่างหากคะ (ไม่ได้เดินไปทานที่โรงอาหารใช่หรือไม่คะ เพราะจากที่ดูโรงอาหารจะมีแต่โต๊ะสำหรับเด็กที่โตแล้วน่ะค่ะ) หลังจากตื่นนอนมีอาหารว่างอีก 1 มื้อหรือไม่คะ
ห้องทานอาหาร และห้องนอนไม่รวมกันค่ะ จัดปรับห้องเรียนใช้เป็นห้องเอนกประสงค์ ไม่เดินไปทานที่โรงอาหาร

7. ห้องนอนของน้องเตรียมอนุบาล นอนในห้องเรียน หรือมีห้องนอนแยกต่างหากคะ (อันนี้ไม่แน่ใจน่ะค่ะเพราะดูแต่ห้องเรียน ไม่ได้ดูห้องนอน)
อนุบาล 1 (เตรียมอนุบาลเรียนร่วมกับอนุบาล 1) จะมี 2 ห้อง คือ 1/1 และ 1/2 เวลาทานข้าวใช้ห้อง 1/1 เวลานอนใช้ห้อง 1/2

พื้นห้องดูแลทำความสะอาดอย่างดี ขัดทำความสะอาดใหญ่ลงน้ำยาโดยบริษัทมืออาชีพ ปีละหนึ่งครั้ง ครูและภารโรงดูแลความสะอาดทุกวันค่ะ


5. มีอาบน้ำช่วงกลางวันด้วยหรือไม่คะ (วันนี้ดูแต่ห้องน้ำ แต่ไม่เห็นส่วนที่เป็นห้องสำหรับอาบน้ำน่ะค่ะ เลยไม่แน่ใจว่ามีอาบน้ำให้ด้วยรึปล่าวค่ะ)
ช่วงกลางวันไม่อาบน้ำ แต่หลังอาหารจะแปรงฟัน ล้างหน้า ก่อนนอน

6. อุปกรณ์จานชาม ถ้วย และแก้วน้ำของทางโรงเรียน ใช้แบบเมลามีนหรือแบบสแตนเลสคะ
ถาดหลุมเป็นแบบอลูมิเนียม ช้อม-ส้อม สแตนเลศ ส่วนแก้วน้ำต้องนำมาเองครับ

8. อาคารไม้สักที่ได้ชม จะเป็นอาคารของเด็กเตรียมอนุบาล และอนุบาล 1-3 เท่านั้นใช่หรือไม่คะ (พอดีได้ดูแต่ชั้นล่างค่ะ เห็นมีชั้น 2 ด้วยแต่ไม่ได้ขึ้นไปค่ะ) เด็กโตจะไม่ได้เข้ามาที่บริเวณนี้ใช่หรือไม่คะ
อาคารไม้สักเป็นส่วนของอนุบาลทั้งหมด ชั้นล่าง จะเป็นห้องอนุบาล 1 ห้องเครื่องเล่น ชั้น 2 เป็นห้องอนุบาล 2 และ อนุบาล 3

ทั้งหมดเป็นเพียงคำถามบางส่วน่ที่ตกค้างหลังจากกลับมารวบรวมข้อมูลที่ได้จากการถามขณะดูสถานที่ พ่อและแม่ประเมินและตัดสินใจในวันนั้นเลยว่า สรุปเราจะให้ช้างต้นเรียนที่โรงเรียนนี้ และหวังใจว่าลูกจะต้องชอบแน่ ๆ หากได้มาเที่ยวในวันที่จะมาสมัครเป็นนักเรียนตัวน้อย ๆ

พาช้างต้นไปเที่ยวโรงเรียนด้วยกัน



วันนี้เราพาช้างต้นไปสมัครเรียน ซื้อเสื้อผ้าของใช้ และให้ไปทำความคุ้นเคยกับสถานที่ไว้ก่อน คุณครูบอกว่ายังพูดถึงอยู่เลยว่ายังไม่เห็นน้องช้างต้นมาสมัคร (จำชื่อลูกได้เยย เพราะแม่มานทั้งมาเดินดูโรงเรียน ทั้งส่ง e-mail เก็บตกคำถาม และคุณครูก็มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม blog น้องช้างตามคำเชิญของแม่ด้วย) ประโยคต่อมาที่คุณครูทัก “ท่าทางดูเรียบร้อยจังค่ะ (พ่อและแม่สบตากัน นึกในใจ สงสัยลูกกำลังปรับตัว เพราะแปลกที่ อีกซักพักจะกลายเป็นลิงชนิดที่จับไม่อยู่ 555) แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ พอเห็นของเล่นสนาม ก็วิ่งเข้าใส่ทุกชิ้น เล่นทุกอย่างเหมือนไปสนามเด็กเล่น วิ่งจับจนเหนื่อยเยยอ่ะ



เมื่อกรอกใบสมัครและซื้อของใช้เรียบร้อยแล้ว คุณครูตรึงตาพาน้องช้างไปเดินชมห้องเรียน ดูเพื่อน ๆ กำลังทำกิจกรรม น้องช้างก็เดินสำรวจทั่วห้อง มีเพื่อนบางคนเดินเข้ามาหา มอง ๆ ว่าอัยนี่ใครหว่า แปลกหน้าวุ้ย 555 มีเด็กผู้หญิงคนนึงเดินมาไม่พูดไม่คุย จับแก้มน้องช้าง ส่วนเจ้าตัวยืนงง (คงคิดว่าจับแก้มตรูมัยเนี่ย) ถัดไปก็ห้องกิจกรรม ปิดท้ายด้วยห้องสมุด ส่วนสระว่ายน้ำไม่ได้ขึ้นไปดูเพราะกลัวน้องช้างจะไม่ยอมกลับบ้าน เด๋วร้องจะเล่นน้ำขึ้นมาอีก 555







วันที่ 27 ตุลาคม นี้จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของช้างต้น ต้องคอยลุ้นกันต่อไปว่าวันแรกของการเป็นนักเรียนเตรียมอนุบาล จะผ่านไปด้วยดีแบบไร้เสียงร้องไห้รึป่าว แล้วแม่จะมาเล่าให้ฟังจ้ะ

รักช้างต้นมากมาย / แม่ทัชจ้ะ ^_^





Create Date : 17 ตุลาคม 2551
Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 20:48:53 น. 5 comments
Counter : 5808 Pageviews.

 
ดูท่าแม่ทัชจะตื่นเต้นกว่าลูกซะอีก อิอิ

แต่ถ้าเป็นเอ๋ก็คงตื่นเต้นเหมือนกันอ่ะ

เร็วเนอะ แป๊บๆ น้องช้างเข้า รร.แล้ว รอฟังการไป รร.วันแรกของน้องช้างนะ


โดย: จ๊ะเอ๋(แม่น้องทอ) IP: 202.183.186.188 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:12:44:01 น.  

 
ตื่นเต้นเนาะ น้องช้างจะไปโรงเรียนแ
ล้ว เครื่องแบบพร้อม ปักชื่อแล้วด้วย ใส่ชุดนร.ต้องหล่อแน่ๆเลยนะ


โดย: ปุ้ม IP: 124.121.108.180 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:13:15:57 น.  

 
ตื่นเต้นแทนอ่ะ

27 นี้แล้วเนอะ ไว จริง ๆ เลย

ชุดน่ารักเชียว กางเกงแดง

เจ้าช้างใส่ต้องน่ารักมากแน่ ๆ เลย

ปล. อัพได สวนเสือแล้วนะยะ ^^

เมื่อกี๊ เม้นตั้งเยอะ ดาวไปกดเลือก emotion มานบอกว่า
เลือกไม่ได้ เลยต้องพิมพ์ใหม่เลยว่ะ



โดย: dow แม่น้องบัว IP: 58.8.138.108 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:13:20:38 น.  

 
แหมตื่นเต้นทั้งคุณแม่คุณลูกเลยนะ
ลุ้นนะ..วันแรกเปิดเทอมจะเป็นไง
งานนี้จามีน้ำตารึเป่า... คุณแม่ต้องใจแข็งหน่อยนะ
เป็นกำลังจ๊ะ....


โดย: คุณแม่พี่ปาล์มพี่ป่าน IP: 118.172.49.149 วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:13:28:52 น.  

 
ขอลบ commentของ IP นี้นะคะ
โดย: ... IP: 61.90.69.223 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:20:35:31 น.
-----------------------------------------------------------
blog นี้เป็น blog ส่วนตัวค่ะ เนื้อหาที่ up ก็มาจากประสบการณ์ส่วนตัวและสิ่งที่ได้สัมผัสจากครูและโรงเรียน สิ่งที่ลูกได้จากที่แห่งนี้ ดิฉันเข้าใจค่ะว่ามันเป็นความรู้สึกส่วนตัว และ blog เป็นไดอารี่ส่วนตัวค่ะ ไม่ได้มา up เพื่อให้ใครมาอ่านแล้วต้องเชื่อ ดังนั้นดิฉันเชื่อว่าทุกคนที่แวะมาอ่านหรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน ทุกท่านคงมีวิจารณญาณอย่างดีในการพิจารณานะคะ ไม่มีใครที่จะตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกเพียงแค่แวะอ่านตาม blog หรอกค่ะ มันยังมีขั้นตอนอีกมากมายกว่าจะตัดสินใจเลือกได้ หากคุณมีความคิดเห็นหรือได้รับประสบการณ์ไม่ตรงกัน ก็ไม่จำเป็นต้องมา comment ให้เสียบรรยากาศนะคะ อ่านแล้วไม่ใช่ ไม่ชอบ ผ่านไปเลยค่ะไม่มีใครว่า เพราะ blog นี้ไม่ใช่ blog promote ใด ๆ ค่ะ บอกให้ทราบชัด ๆ อีกครั้งว่า blog ส่วนตัวค่ะ คงจะเข้าใจนะคะ


โดย: angel-touch วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:46:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

angel-touch
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add angel-touch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.