ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2564
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 มิถุนายน 2564
 
All Blogs
 

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง 
...ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า 
ในสมัยพุทธกาล... สัปดาห์ที่ ๗ หลังการตรัสรู้ของ "พระพุทธเจ้า" พระพุทธองค์ทรงประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ใต้ต้นราชายตนะ (ต้นเกดหรือต้นไม้ที่อยู่แห่งพระราชา) เป็นเวลาอีก ๗ วัน
"ท้าวสักกะเทวราช" ทรงทราบว่านับแต่พระพุทธองค์ตรัสรู้มา ๗ สัปดาห์ รวม ๔๙ วัน ยังมิได้เสวยภัตตาหารเลย จึงนำไม้สีพระทนต์ชื่อ "นาคลดา" พร้อมน้ำจาก "สระอโนดาต" และ "ผลสมอ" อันเป็นทิพยโอสถจากเทวโลก มาน้อมถวายในตอนเช้าของวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๘ หรือ "เดือนอาสาฬหะ"
>>> ณ ที่แห่งนี้เอง... ได้มีพ่อค้า ๒ คน ชื่อ "ตปุสสะ" กับ "ภัลลิกะ" นำเกวียน ๕๐๐ เล่ม เดินทางผ่านมาทางตำบลพุทธคยา (อุรุเวลาเสนานิคม) อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของ "พระพุทธเจ้า"
พ่อค้าทั้ง ๒ คน ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้า ขณะทรงประทับอยู่ใต้ต้นราชายตนะ มีพระรัศมีอันผ่องใสงดงามยิ่งนักก็บังเกิดความเลื่อมใส จึงนำ "ข้าวสัตตุผง - สัตตุก้อน" ซึ่งเป็นเสบียงเดินทางของตนไปน้อมถวาย 
ขณะนั้น... พระพุทธองค์ยังไม่มีบาตร "ท้าวจตุมหาราช' ทั้ง ๔ องค์ จึงได้น้อมนำ "บาตรแก้วอินทนิล" มาถวายองค์ละ ๑ ใบ พระพุทธองค์ทรงดำริว่า "ใบเดียวก็เพียงพอแก่เรา" จึงทรงอธิษฐานให้บาตรทั้ง ๔ ใบนั้นประสานเข้าเป็นใบเดียวกัน แล้วทรงรับ "ข้าวสัตตุผง - สัตตุก้อน" จากพ่อค้าทั้ง ๒
หลังจากพระพุทธองค์เสวยเสร็จก็ทรงแสดงธรรม และประทานอนุโมทนา เมื่อจบพระธรรมเทศนา พ่อค้าทั้ง ๒ คนก็เปล่งวาจาถึง "พระพุทธ - พระธรรม" เป็นสรณะตลอดชีวิต ไม่เปล่งวาจาถึง "พระสงฆ์" เพราะขณะนั้นยังไม่มีพระสงฆ์ พร้อมทั้งประกาศตนเป็น "อุบาสกผู้ถึงรัตนะเป็นคู่แรกในพระพุทธศาสนา" 
ก่อนที่จะเดินทางต่อไป... พ่อค้าทั้ง ๒ ได้กราบทูลขอสิ่งของที่ระลึก เพื่อนำกลับไปบูชาสักการะยังบ้านเมืองของตน พระพุทธองค์ทรงเอาพระหัตถ์ลูบพระเศียร "เส้นพระเกศา ๘ เส้น" หลุดติดพระหัตถ์มา จึงทรงประทานให้แก่ ๒ พ่อค้านั้น
พ่อค้า ๒ พี่น้องได้นำ "พระเกศาธาตุ ๘ เส้น" กลับไปยังบ้านเมืองของตน มีพิธีสมโภช "พระเกศาธาตุ" ซึ่งบรรจุไว้ภายในผอบทองคำหลายวันหลายคืน และได้จัดสร้าง "พระมหาเจดีย์ชเวดากอง" เพื่อประดิษฐาน "พระเกศาธาตุ"
ต่อมา... ทั้ง ๒ พี่น้องได้ตามมาเฝ้าพระพุทธเจ้าอีกครั้งที่กรุงราชคฤห์ พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมแก่ทั้ง ๒ จนได้ "บรรลุโสดาปัตติผล" พ่อค้าที่ชื่อ "ตปุสสะ" เป็นอุบาสกไม่บรรพชา ส่วนพ่อค้าที่ชื่อ "ภัลลิกะ" บรรพชาแล้วได้ "บรรลุอรหัตตผล" พร้อมด้วยอภิญญา ๖ ในเวลาต่อมา
"พระมหาเจดีย์ชเวดากอง" กล่าวกันว่า "บนยอดของพระเจดีย์มีเพชรอยู่จำนวน ๕,๔๔๘ เม็ด ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ ๗๖ กะรัต และทับทิม ๒,๓๑๗ เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์" 
 




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2564
2 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2564 11:50:49 น.
Counter : 592 Pageviews.

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 28 มิถุนายน 2564 8:11:01 น.  

 

ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs links 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
//abhinop.blogspot.com
//abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.

 

โดย: ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก 28 มิถุนายน 2564 14:45:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.