ของขวัญที่ชื่อว่า เวลา

































สำหรับคนที่มีคนข้างกายแล้วนั้น
เวลาถือเป็นของมีค่ามากมายนัก เพราะหลาย ๆ
คู่ต้องเลิกกันเพราะไม่มีเวลาให้กัน (สังเกตง่าย ๆ จากเหล่าคนดังนะคะ
เหตุผลยอดฮิต) เพราะฉะนั้นวันหยุดนี้เรามาหาของขวัญให้คนข้างกายกันดีกว่า



ฝนตกรถติด อยู่บ้านดีกว่า
คุณอาจจะไปเช่าหนังดี ๆ สักเรื่องสองเรื่อง แล้วมานอนกอดกัน บนที่นอนนุ่ม ๆ
ดูกันสองคน เชื่อไหมล่ะหนังสองเรื่องอาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ



เสน่ห์ปลายจวัก รักกันจนตาย
สุดสัปดาห์ลองหาเมนูโปรดของเขาแล้วชวนกันเข้าครัวดูสิค่ะ
ช่วยกันทำชวนกันชิม หากว่าคุณทำกับข้าวไม่เป็นก็ลองหาเมนูง่าย ๆ
มาหัดทำก็ได้ค่ะ ในเมื่อทั้งคุณและเขาต่างก็ทำไม่เป็น
ต่างคนต่างช่วยกันมั่วไม่อร่อยแต่ก็สนุกนะ



ไปเดินเล่น
ชิลชิล
บางครั้งการจับมือเดินเล่นด้วยกัน
โลกก็สดใสขึ้นมากแล้ว หรือคุณอาจจะทำอาหารแล้วไปนั่งกินกันในสวนสาธารณะ
ดูสิ่งรอบตัวดำเนินชีวิตไปทางของมัน แค่นี้ก็เวิคแล้วค่ะ



เวลาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับทุก ๆ คน อย่าให้งาน
หรืออย่างอื่นมาบดบังเวลาแห่งความสุขเลยนะคะ เคลียร์ตัวเองแล้วหาเวลา
เป็นของขวัญแก่คนที่คุณรักเถอะค่ะ






























Free TextEditor






































































































 

Create Date : 27 เมษายน 2553    
Last Update : 27 เมษายน 2553 12:43:11 น.
Counter : 473 Pageviews.  

คุณเผลอทำร้ายสมอง โดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า
































นอก
จากจิตใจแล้ว สมองดูเหมือนจะสำคัญรองลงมา ที่คอยควบคุมร่างกายต่าง ๆ
ให้ทำตามที่ใจนึก ปกติคนเราจะทำงานโดยเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง
แต่สมองของคนเรานั้นทำงานมากกว่า สมองจะเริ่มทำงานตั้งแต่เราตื่นนอน
กว่าจะได้พักก็ต่อเมื่อเรานอนหลับเท่านั้น



แต่ก็มีบางพฤติกรรมที่เราอาจจะเผลอทำ
ลงไปโดยไม่รู้ว่าเป็นการทำร้ายสมองของเรา
มาเช็คดูสิว่าคุณเผลอทำอาการดังต่อไปนี้หรือเปล่า

กินของหวานหรืออาหารมากเกินไป

การกินอาหารมากเกินความจำเป็นอาจจะทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารได้หมด
เมื่ออาหารที่ย่อยไม่หมดเกิดตกค้างก็จะทำให้ระบบในร่างกายรวนไปหมด
แถมยังทำให้เกิดอาการความจำสั้นด้วย
ส่วนการกินของหวานนั้นอาจจะทำให้มีน้ำตาลในกระแสเลือกมาก
ขัดขวางการดูดซับโปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ ที่จะไปเลี้ยงสมอง

นอนคลุมโปง

ตามปกติเมื่อเราหายใจออกเราจะเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกมาด้วย
และเมื่อคลุมโปงคุณก็จะหายใจเอาก็าซที่ว่าเข้าไปด้วย แต่ !!!
ร่างกายของเราต้องการอ็อกซิเจนค่ะ ไม่คาร์บอนฯ
หากคุณคลุมโปงนานอาจจะทำให้สมองตายหรือเป็นอัมพาตได้เลยนะคะ



ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

ขนาดพนักงาน 7-11 เขายังมีเปลี่ยนกะกันเลย แต่นี่สมองนะคะ
คุณจะไม่พักสักหน่อยหรือ จำไว้ว่าถ้าร่างกายคุณไม่สบายก็อย่าฝืน
แม้ว่าคุณอาจจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่สมองคุณล่ะคะ
ถามเค้าหรือยังว่าไหวหรือเปล่า ? คิดสักนิด ชีวิตจะได้มีรอยหยัก (ในสมอง)
เคยได้ยินชื่อโรคสมองฝ่อใช่มั้ยค่ะ นั่นแหล่ะ
มันเกิดจากการที่คนเราไม่ยอมคิดอะไรเลย



ดังนั้นหมั่นใช้สมองทุก ๆ วัน
คุณอาจจะหาเกมปริศนาอักษรไขว้ หรือ สุโดกุ มาเล่นเพื่อฝึกสมองก็ได้นะคะ
ถือเป็นการออกกำลังสมองค่ะ ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า
เมื่อได้มาต้องรักษาให้ดีนะคะ แล้วคนที่จะรักษาชีวิตเราได้ดีที่สุด
ก็คือตัวเราเอง ไม่ใช่ใครอื่นไกลเลย


















Free TextEditor







































































































 

Create Date : 26 เมษายน 2553    
Last Update : 26 เมษายน 2553 10:48:09 น.
Counter : 302 Pageviews.  

ทำไมเรียกอเมริกาว่า เมืองลุงแซม






















บ่อยครั้งที่ได้ยินคนใช้คําว่า
"ลุงแซม" แทนคําว่าสหรัฐอเมริกา เช่น เมืองลุงแซม มีใครเคยสงสัยไหมว่า
"ลุงแซม" น่ะมีตัวตนจริงหรือเปล่า





ความจริงแล้วเรื่องมันมีที่มาว่า ระหว่างการสงครามเมื่อปี 1812
นายแซมวล วิลสัน แห่งเมืองทรอย นิวยอร์ค
เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้บรรจุเนื้อเค็มลงถังส่งไปให้ทหารแนว
หน้า ซึ่งก่อนที่จะส่งไปนั้น วิลสัน จําเป็นจะต้องตรวจสอบให้เรียบร้อย
ดังนั้น เพื่อแสดงว่าเขาได้ตรวจสอบเนื้อเค็มแล้ว วิลสันได้ประทับอักษร
"U.S." ลงบนแผ่นเนื้อ เพื่อระบุว่ามันเป็นของรัฐบาล
แต่เพื่อนบ้านของวิลสันผู้ชอบเรียกเขาว่า "ลุงแซม"
กลับไปตีความหมายว่าเป็นชื่อย่อของ "Uncle Sam Wilson" 




 หลายปีผ่านไป หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งสร้างรูปการ์ตูนชื่อ "ลุงแซม"
เป็นสัญลักษณ์ของรัฐบาลอเมริกัน
และภาพนั้นก็แพร่หลายยิ่งขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยโชว์รูป
"ลุงแซม" ไว้ในดาวและแถบของธงสหรัฐ การ์ตูน ลุงแซมที่ดังมากคือ
รูปนิ้วชี้แล้วพูดว่า "ผมต้องการคุณเพื่อนกองทัพบกสหรัฐ"
เรื่องก็เป็นเช่นนี้นั่นเอง











Free TextEditor







































































































 

Create Date : 26 เมษายน 2553    
Last Update : 26 เมษายน 2553 10:45:28 น.
Counter : 415 Pageviews.  

เมื่อเราท้อ ให้คิดไว้เสมอว่า “ไม่เป็นไร”


ขอให้นึกถึงสิ่งหนึ่งไว้ว่า “เราจะไม่เป็นไร”
สิ่งที่เราเป็นไปนั้นเป็น “เรื่องธรรมดา”
เรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคนได้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา


และ
เมื่อถึงในวันที่ใจอ่อนล้า หมดเรี่ยวแรง สักแค่ไหน ขอเพียงอย่าเพิ่งหมด
“กำลังใจ” ทำใจให้ดีแล้วพยายามสร้างพลังใจขึ้นมาใหม่ ต่อสู้และแก้ปัญหา
ต่อไปอย่าได้ท้อถอย แล้วค่อยๆเดินก้าวไปข้างหน้า


ก้าวช้า
ช้าอย่างสุขุมและรอบคอบกว่าเดิม ถือเสียว่าสิ่งที่ผ่านมา
เป็นประสบการณ์ชีวิต สอนให้เรารู้จักคิด รู้จักใช้ปัญญา



อย่า ให้ปัญหามาบั่นทอนจิตใจ
ต้องคิดให้ได้ว่าชีวิตต้องดำเนินไป ถึงจะยากเย็นเพียงไรก็ต้อง “อดทน”
ไว้อย่าได้ยอมแพ้และขอให้อย่าลืมคำ คำนี้ไว้ว่า “เราจะไม่เป็นไร”


สักวัน
ทุกอย่างที่เป็นมา มันก็จะผ่านไป แล้วชีวิตก็จะพบกับสิ่งใหม่ๆอีกครั้ง
ความสุขก็ยังรอเราอยู่เช่นเดิม




อย่าลืมว่า การจะอยู่อย่างมีความสุขนั้น
มันเริ่มจากที่จิตใจ ของเราเอง





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 26 เมษายน 2553    
Last Update : 26 เมษายน 2553 10:39:12 น.
Counter : 253 Pageviews.  

ถ้าเราแคร์คำพูดแย่ๆ...ก็เท่ากับแพ้ ใจตัวเอง


ถ้าเราแคร์คำพูดแย่ๆ...ก็เท่ากับแพ้ใจตัวเอง


“ถ้าคนหนึ่งตีกลอง แล้วอีกคนยิ่งเต้น คนตีเขาก็ยิ่งตี
แต่ถ้าตีแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น เขาก็จะหยุดไปเอง เพราะตีไปก็เหนื่อยเปล่า”


คำพูดบางคำทำร้ายคนฟังได้น่าดู
ถ้าจะให้ไม่
แคร์เนี่ย ทำได้ยากแน่นอน
ถ้าเคยรู้สึกแย่ กับคำพูดแย่ ๆ ของคนหลายคน
คำ
พูดของเขาทำให้เราหมดความนับถือตัวเอง
บางครั้งมันอาจจะถึงขนาดทำให้
ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป
บั่นทอนสุขภาพกายและใจ
คนพูดทิ้งยาพิษไว้ในใจ
เรา แล้วก็หนีลอยนวล

คนที่แย่คือคนฟังสิ...
ฉัน
เลยเปลี่ยนความคิดใหม่
พยายามหาเหตุผลเพื่อเข้าใจพวกเขา
คนที่ชอบติ
ข้อบกพร่อง
ตอกย้ำปมด้อยของคนอื่น เพราะต้องการให้ตัวเองดูดี
คนพวก
นี้มีปมด้อยในใจ ชอบสร้างคุณค่าให้ตัวเอง
โดยการติคนอื่น
เพื่อลดคุณค่าของคนอื่น
จิตใจเขาขุ่นมัว มองไม่เห็นความดี ความสวยงาม
และ
สิ่งดี ๆ ในตัวคนอื่น เพื่อนำมาพูดถึง


บ่อยครั้งที่เรามักเจอคำพูดแย่ ๆ จากคนรอบข้าง
ถ้าไม่รู้จักดูแลจิตใจ
ความรู้สึกของตัวเอง

เราจะถูกบั่นทอนลงทีละนิด....

ที่สำคัญเราจะต้องหนักแน่น อย่าหวั่นไหว
ที่เขาว่ามา
เป็นปมด้อยของเราก็จริง
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้
ที่เขาติมาเพราะ
เขามองหาส่วนแย่ ๆ ของเราต่างหาก
ที่ดี ๆ ก็มี แต่เขาไม่พูด
ตัวเรา
ย่อมรู้ตัวเองดีที่สุด
เชื่อในคุณค่าของตัวเอง ไว้ใจตัวเอง


ดูแลหัวใจของเราให้ดี
เรียนรู้ที่จะคิดปฏิเสธคำพูดแย่ ๆ จากคนอื่น
รู้แหล่งที่มาอย่างมี
เหตุผล

แล้วจะ
ไม่มีอะไรมาบั่นทอนหัวใจเราได้เลย...



++++++++++++++++++++++++++++++

จากหนังสือ "กล้าที่จะก้าว"
By Cartoon






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 24 เมษายน 2553    
Last Update : 24 เมษายน 2553 15:40:25 น.
Counter : 274 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.