เคล็ดลับวิธีทำงานให้สนุก 4 วิธี




















































































คนเราส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันมักจะไม่ได้ทำงานใน
สิ่งที่ตนอยากจะทำจริง ๆ


แต่กลับต้องทำงานที่ใจไม่รัก ไม่ชอบ ที่ต้องจำใจทำก็เพราะไม่มีทางเลือก
ด้วยเหตุจำเป็นที่จะต้องหารายได้มาเลี้ยงชีวิตและครอบครัว
เพราะขืนมัวแต่เลือกงานเดี๋ยวได้อดตายกันพอดี ก็เลยต้องทนทำงานกันต่อไป

การงานบางอย่างต้องทำซ้ำๆซากๆ จำเจน่าเบื่อหน่าย


การงานบางอย่างก็ช่างดูน่าต่ำต้อย เฮ้อ..จะไม่ทำก็ไม่ได้เดี๋ยวไม่มีเงินใช้
จะทำอย่างไรดีหนอ..

หากท่านพบกับปัญหาทำนองนี้ขอเชิญอ่านเคล็ดลับวิธีทำงานให้สนุก 4 วิธี


ที่ท่านอาจจะสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของท่านได้ ดังต่อไปนี้





























1. มองให้เห็นคุณค่าของงาน


การงานทุกอย่างถ้าไม่ใช่อาชีพทุจริต
ล้วนแต่มีคุณค่าแฝงอยู่ในการงานทั้งนั้น
ดังนั้นขอเพียงแต่คุณรู้จักมองให้เห็นคุณค่าของมัน

แล้วสร้างความประทับใจในงานที่คุณทำอย่างสุดซึ้ง


ความรักความประทับใจในการงานของคุณนี้เอง
ที่จะเป็นพลังใจทำให้คุณสามารถต่อสู้งานที่ยากลำบาก หรือ
น่าเบื่อหน่ายต่อไปได้

ย้ำอีกคร้งว่า


ขอให้คุณสร้างความภูมิใจในสิ่งที่คุณทำ คือ
มีความมั่นใจในงานที่คุณทำว่าเป็นงานที่มีคุณค่า ความรักความมั่นใจใน
สิ่งที่คุณทำนั่นแหละครับ
ที่จะเป็นพลังใจสำคัญทำให้คุณทำงานของคุณ
อย่างมีความสุข








.








สรุปอีกทีคือ
มองให้เห็นคุณค่าในงานที่คุณทำอยู่ว่า


ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อใคร ทำประโยชน์ให้แก่ใครได้บ้าง
คิดให้ได้อย่างนี้แล้วสร้างความภูมิใจ ความมั่นใจในการงานของตนเอง


ชีวิตการทำงานของคุณก็จะมีความสุขมากขึ้นเป็นกองเลยทีเดียวครับ





























2. กระตือรือร้นอยู่เสมอ


สร้างอริยาบถของคุณให้มีกระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวา ทำให้ติดจนเป็นนิสัย
คุณก็จะพลอยมีความกระตือรือร้นในการทำงานไปด้วย


ความรู้สึกกระตือรือร้นนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาได้ครับ
เวลาที่คุณอยู่คนเดียวในห้อง ให้คุณลองทำดูเล่น ๆ ก็ได้








.








คือ คุณลองทำโน่นทำนี่อย่างเนือย ๆ เฉื่อยแฉะสัก 5
นาที


จากนั้นให้เปลี่ยนบุคลิกใหม่คราวนี้ลองทำอะไรต่ออะไรด้วยท่าทีกระฉับเฉงว่อง
ไวดูสัก 5 นาที ลองเปรียบเทียบดูสิครับ
คุณจะพบว่าความรู้สึกมันต่างกันลิบลับเลยเดียว

คนที่มีความรู้สึกกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา


ทำอะไรมันก็ดูน่าสนุกไปหมด ดังนั้นในแต่ละวัน
หากคุณลองทำตัวให้เป็นคนที่กระตือรือร้นขึ้นมาสักวันละครึ่งชั่วโมงกับการ
งานอะไรก็ได้





























ให้คุณลองตั้งกติกากับตัวเอง ว่า
คุณจะเป็นคนActive วันละครึ่งชั่วโมง


ดูสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดคุณจะพบด้วยตัวของคุณเองว่า ทุก ๆ
วันที่คุณฝึกทำงานอย่างว่องไวตื่นตัวอยู่เสมอ
ความกระตือรือร้นของคุณมันจะค่อย ๆ ขยายตัวออกไป
สู่กิจกรรมอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนในที่สุด


มันก็จะกลายเป็นบุคลิกใหม่ของคุณอย่างถาวร คือเป็นคนทำงานอย่าง
สนุกสนานมีชีวิตชีวาด้วยความกระตือรือร้นนั่นเอง








.








3.ฝึกสมาธิกับการงาน


การงานบางอย่างมันก็ดูน่าเบื่อน่าเซ็ง จริงๆเสียด้วย
มันจะไม่น่าเบื่อได้อย่างไร ก็ต้องทำซ้ำ ทำซาก หาความหมายอะไรไม่ได้เลย

ทำไปเบื่อไปเมื่อใดจะเลิกงานเสียที


ถ้าใครคิดอย่างนี้นาน ๆ จะพาลเป็น โรคประสาท
เพราะจิตใจไม่มีความสุขกับการทำงาน ต้องฝืนใจทำไปวัน ๆ








.








ใครพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็ให้ใช้วิธีนี้สิครับ


คือฉวยโอกาสฝึกสมาธิกับงานเสียเลยเป็นอย่างไร คือได้ทั้งความสงบใจ
และได้ทั้งผลของงาน การทำสมาธิกับการทำงานอาจจะใช้วิธีง่าย ๆ


ด้วยการกำหนดรู้อริยาบถ คือแต่ละขั้นตอนของการเคลื่อนไหวร่างกาย
ให้มีสติติดตามทันไปในทุกอริยาบถ

โดยก่อนที่เราจะเริ่มทำงาน


ให้มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเราจะไม่คิดอะไรนอกเรื่องนอกราวในขณะทำงาน
แต่จะใช้ความคิดมากำหนดการเคลื่อนไหวทุกอริยาบถ


เพื่อให้จิตเกิดเป็นสมาธิ มันจะได้เกิดความปีติสุขในขณะทำงาน
วิธีทำก็ไม่ยาก ลองดูสิครับ

สรุปง่าย ๆว่า


ถ้าคุณรู้จักทำสมาธิในขณะทำงาน
ก็เหมือนกับว่าคุณได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นในขณะทำงานเลยทีเดียวครับ





























สนุกกับการทดลองปรับปรุงคุณภาพของงาน


การงานทุกอย่างมีเรื่องท้าทายอยู่ในตัวของมันเองเสมอว่า
คุณจะสามารถปรับปรุงให้มันมีคุณภาพดีขึ้นได้หรือไม่
ดังนั้นในแต่ละวันที่คุณมาทำงาน

คุณอาจสนุกกับการเฟ้นหาปัญหาในที่ทำงานนำมาลองฝึกคิดแก้ไขดู








.








คิดเสียว่าเป็นการท้าทายสติปัญญาของคุณว่า


คุณสามารถจะทำได้หรือไม่ อาทิเช่น ทำอย่างไรถึงจะประหยัดทรัพยากร
ประหยัดเวลา หรือ ทำอย่างไรผลผลิตจึงจะเพิ่มมากขึ้น


หรือ ทำอย่างไรจึงจะวางแผนงานให้เป็นลำดับไม่ลัดขั้นตอน ฯลฯ








.








ลองทำเรื่องเหล่านี้ให้มันดูน่าสนุก


เหมือนกับเล่นเกมประเภทฝึกสมองลองปัญญาอะไรทำนองนั้น

สรุปอีกครั้ง


คือให้หาเรื่องมาท้าทายสมอง มองหาปัญหาให้เจอแล้วคิดแก้ไขปรับปรุง
ถ้าทำได้อย่างนี้ทุกวัน การงานมันก็จะไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอนครับ
แถมยังฉลาดขึ้นทุกวันอีกต่างหาก








.






Free TextEditor





















































 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 20:24:08 น.
Counter : 385 Pageviews.  

9 สิ่งมหามงคล









































































































เชิญสักการะ 9 มหามงคล


พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า การบูชามี 2 อย่างสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง


1. บูชาด้วยวัตถุสิ่งของ มีดอกไม้ธูปเทียนเคารพกราบไหว้ถวายเป็นพุทธบูชา


2. บูชาด้วยการปฏิบัติ มีการสวดมนต์ นั่งสมาธิเดินเวียนขวา 3-9
รอบพร้อมสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถวายเป็นพุทธบูชา เป็นต้น
การบูชาสิ่งที่ควรบูชาเป็นอุดมมงคลสูงสุด
ผู้บูชาอยู่เป็นนิตย์ชีวิตย่อมมีความสุขความเจริญ































1.พระบรมสารีริกธาตุ (พระธาตุ)


พระบรมสารีริกธาตุ พระอุรังคธาตุ และพระเกศาธาตุ
แห่งองค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า
พระเดชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์ได้เดินทางไปอันเชิญมาจากประเทศบังคลาเทศถึง 2
ครั้ง คือปี พ.ศ.2517และปี พ.ศ. 2516
ต่อมาได้สร้างพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน
พระบรมสารีริกธาตุ































2.พระพุทธรูป ภปร. (หลวงพ่อองค์ดำ)


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จมาเททองหล่อ ณ
วัดธรรมมงคลเมื่อ พ.ศ. 2517 ประดิษฐาน ณ วิหารชั้น 2
ของพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์































3. พระอโศกพยา (หลวงพ่อพันปี)


เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทราย
อายุกว่าพันปีซึงรัฐบาลประเทศบังคลาเทศอันเชิญมาจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
เพื่อถวายแด่พระเดชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์ เมื่อพ.ศ. 2519ประดิษฐาน ณ ชั้น
2 ทางทิศตะวันตก ของมหาเจดีย์































4. พระอัฏฐาฬส (หลวงพ่ออัฏฐษฬส)


สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 ความสูง 18 ศอกถวายพระนามว่าพระอัฏฐษฬส
โยพระเดชพนะคุณพระเทพเจติยาจารย์จุดประสงค์ เพื่อให้เป็นพระประธาน
ทางทิศตะวันออก ประดิษฐาน ณ ชั้น 2 ของพระมหาเจดีย์































5. พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (หลวงปู่มั่น)


พระเกจิอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
เป็นแบบอย่างแห่งการปฏิบัติกรรมฐานในยุคปัจจุบัน
แม้ว่าพระอาจารย์มั่นจะมรณภาพไปนานแล้ว
แต่คุณงามความดีที่ท่านได้ทำให้พระพุทธศาสนายังคงอยู่ตลอดไป อยู่ ณ ศาลาราย
ชั้น 2 ด้านทิศตะวันออก ของพระมหาเจดีย์
































6. พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย (หลวงพ่อหยก)


พระพุทธรูปหยกสีเขียวบริสุทธิ์ใหญ่ที่สุดในโลก
แกะสลักจากหยกเขียวน้ำหนักกว่า 32 ตัน
โดยช่างฝีมือดีจากอิตาลีใช้เวลาแกะสลัก 12 เดือน สวยสดงดงาม
ตรงตามพุทธลักษณะ สร้างขึ้นตามดำริ
ของพระเทพเจติยาจารย์เจ้าอาวาธวัดธรรมมงคลที่นิมิตเห็นก่อน
นำมาแกะสลักประดิษฐาน ณ ศาลา ภปร.































7. พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(เจ้าแม่กวนอิมหยก)


แกะสลักจากหินหยกเขียวบริสุทธิ์น้ำหนักกว่า 32 ตัน
ก้อนเดียวกับที่ใช้แกะสลลักพระหยก โดยช่างคนเดียวกันถือว่าเป็นประติมากรรม
ที่งดงามน่าอัศจรรย์ยิ่ง สิ่งหนึ่งของโลกตั้งอยู่ ณ ภปร.ชั้น 3































8. พระพุทธมงคลบพิตร(หลวงพ่อพุทธมงคล)


เป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดธรรมมงคล สร้างด้วยศิลปะร่มสมัย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเททองเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม
2509สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ในขณะนั้น)ทรงถวายพระนามว่า



พระพุทธมงคลบพิตร วิชิตสรรพโรคาพาธ

ประสาธ์นสันติสุขสวัสดี ประสิทธิศรีสรรพมงคล

สกลวิสุทธธรรมโลกอนาถ































9. พระเมตตาพุทธเจ้า(หลวงพ่อเมตา)



สร้างขึ้นด้วยการนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าลอยมาจากท้องฟ้ามีพุทธรัศมีเปล่งออกมา
จากพระวรกายอย่างงดงาม พระพักต์เปี่ยมไปด้ยความเมตตา ทรงยกพระหัตถ์ประทานพร
เมื่อ พ.ศ. 2543 ณ ศูนย์สมาธิเวรุพัชร จ.
เชียงรายในกาลต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.
2544พระเชพระคุณพระเทพเจติยาจารย์และพระภิกษุสามเณรวัดธรรมมงคล
พร้อมด้วยสาธุชนมาร่วมพิธีเททองหล่อมากมายเป็นประวัติการณ์










ติดต่อได้ที่


สอบถามโทร 0-2311-3994,0-2332-8226, 0-2311-3903


วิธีที่1 เดินทางด้วยรถส่วยตัว มาตามถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 101
(ซอยวัดธรรมมงคล)


วิธีที่2 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่หน้าห้างโลตัสสาขาซอยสุขุมวิท 50
แล้วต่อรถเมล์ขาออกทุกสายมาลงปากซอยสุขุมวิท 101 เข้าสู่วัดธรรมมงคล


วิธีที่3 เดินทางด้วยรถเมล์มาลงซอยสุขุมวิท 101









ขอขอบคุณ


ข้อมูลที่มีคุณภาพ

จาก วัดธรรมมงคล

(สถาบันจิตตานุภาพ)






Free TextEditor





















































 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 20:21:34 น.
Counter : 458 Pageviews.  

6 ข้อคิดดีๆจากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว




























































1 ไม้นวมดีกว่าไม้แข็ง


จากเรื่อง ลมกับพระอาทิตย์ ที่แข่งว่าใครจะทำให้นายพรานถอดเสื้อคลุมออกได้
ลมพยายามพัดลมให้แรงที่สุด แต่ยิ่งพัดแรงเท่าไหร่
นายพรายก็ยิ่งเอาเสื้อคลุมกระชับตัวเท่านั้น
แต่พระอาทิต์เพียงส่องแดดเรื่อยๆ นายพรานก็เริ่มร้อนจนต้องถอดเสื้อคลุมออก


แทนที่เราจะวีนแตก โยนระเบิดใส่เพื่อน ทำไมเราไม่ใจเย็นๆค่อยๆพูดตรงๆ
อย่างใจเย็น หรือคุยกันบอกให้เพื่อนช่วยคุยกันหน่อย
ไม่มีใครชอบถูกสั่งหรือบังคับให้ทำหรอก เพราะถ้าเป็นเรา
เราคงไม่อยากได้ยินสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกัน









2 อย่าหาเหตุผลจากคนพาล


จากเรื่อง ลูกแกะกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกหาเรื่องจะกินลูกแกะ
บอกว่าลูกแกะทำน้ำลำธารขุ่น ไม่ว่าลูกแกะจะแก้ตัวยังไงก็ไม่รอด


ช่วงเวลาที่คนโกรธ มักจะเป็นเวลาที่สมองส่วนเหตุผลหยุดทำงาน
เพราะบางครั้งอาการพลุ่งพล่านที่เห็นนั้นอาจไม่ได้ต้องการคำแก้ตัวใดๆ
เป็นแค่การอยากระบาย และถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่ไม่เปิดใจกว้าง
เก็บพลังการอธิบายเอาไปไว้ให้การให้อภัยจะดีกว่า









3 พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี


จากเรื่อง สุนัขคาบเนื้อกับเงา สุนัขคาบชิ้นเนื้อใหญ่ข้ามแม่น้ำ
เมื่อก้มมองเงาตัวเองคิดว่าสุนักอีกตัวมีเนื้อชิ้นใหญ่กว่า
จึงคายก้อนเนื้อที่มีแล้วกระโจนลงน้ำ สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย


ทำไมเราจะต้องแสวงหาคนที่ดีกว่า เมื่อเรามีความสุขดีอยู่กับแฟนแล้ว
ถ้าสายตาคุณไม่เคยหยุดนิ่ง สอดส่องหาคนที่ดีกว่าตลอกเวลา
คุณคงจะต้องเสียเวลามองหาแฟนคยใหม่ตลอดไป
เราไม่มีทางรู้เลยว่ากิ๊กคนใหม่นั้นดีกว่าแฟนเราจริงหรือสร้างภาพ
ถ้าปล่อยให้คนดีหลุดมือไปเราอาจต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า









4 ทุกอย่างต้องเกื้อกูลกัน


จากนิทานเรื่อง ร่างกายของเรา เมื่ออวัยวะอื่นๆ อิจฉาท้อง
ที่ได้อาหารแต่ตัวเองต้องทำงานหนัก จึงประท้วงมือไม่ยอมหยิบอาหาร
ฟันไม้ยอมเคี้ยว ผ่านไปสองสามวันอวัยวะทุกส่วนไม่มีแรงเหลือ
เพราะทุกคนต้องทำงานร่วมกันถึงจะอยู่ได้


ไม่มีใครเคยบอกว่า one man show คือการทำงานที่ดีที่ได้ผลดีที่สุด
การอยู่ร่วมกับคนอื่นด้วนความเอื้ออาทรเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่มนุษย์ธรรมดา
คนหนึ่งพึงต้องมี คุณไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการความช่วยเหลือจากใคร เมื่อใด
จำไว้ว่าคุณไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน งานบางอย่างต้องการพลังสร้างสรรค์
ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกับคุณบ้างจริงๆ คุณอากทำลานได้อยากกว่านี้









5 อย่าประมาท


จากเรื่อง ตั๊กแตนกับมด ระหว่างฤดูร้อน มดทำงานทั้งวัน
สร้างรังและกักตุนอาหาร แต่ตั๊กแตนเอาแต่ร้องเพลงเที่ยวเล่น
เมื่อฤดูหนาวมาถึง ตั๊กแตนจึงหิวโซส่วนมดมีรังดีๆอยู่ และมีอาหารพร้อมตลอด


ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเราต้องเจอกับอะไรบ้าง จู่ๆ อาจไม่สบายจนทำงานไม่ได้
อาจจะต้องออกจากงาน ถ้าคุณไม่ระวังค่าใช้จ่าย ไม่เก็บออมไว้เลย
จะมีชีวิตที่มั่นคงได้อย่างไร









6 ช้าๆได้พร้าเล่มงาน


จากเรื่อง กระต่ายกับเต่า กระต่ายวิ่งด้วยความรวดเร็วแต่ชะล่าใจ
ในขณะที่เต้าคลานช้าแต่มีความพยายามสม่ำเสมอ
ทำให้เข้าเส้นชัยก่อนและชนะในการแข่งขัน


ใช้เวลาศึกษากันและกันไปเรื่อยๆ อย่าให้ ความใคร่ ความหลง
ที่ร้อนแรงตอนคบกันใหม่ๆ มีอิทธิพลกับการตัดสินใจทุกอย่าง ข่มใจตัวเองบ้าง











แหล่งข้อมูล : วาไรตี้ทูเดย์






Free TextEditor





















































 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 20:19:06 น.
Counter : 397 Pageviews.  

สวย เริด เชิด กับรองเท้าส้นเตี้ย ก็สวยได้

































รองเท้าที่ใส่สบายมากๆแล้วตอนนี้ขอบอกว่า

กำลังอินเทรนด์ อยู่เลยทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้
ดีไซน์ของรองเท้าส้นเตี้ยนั้นมีออกมาให้ได้เลือกสวมใส่กันอย่างหลากหลายเลย
ทีเดียวตามแต่ความต้องการของสาวๆแต่ละสไตล์





























ใส่อะไรดีกับรองเท้าคู่เก๋


รองเท้าส้นเตี้ยหัวมน ขอแนะนำให้ใส่กับกระโปรงสั้น
ไม่ว่าจะเป็นแบบลายหรือแบบเรียบก็ดูเข้าทีนะค่ะ
จะทำให้คุณดูเป็นสาวที่สดใสน่ารักขึ้นมาทันทีเลยคะ





























กางเกงขายาว
ควรใส่กับรองเท้าสันเตี้ยหัวแหลมหน่อยนะค่ะ


จะทำให้คุณดูเป็นสาวเปรี้ยวซ่าอย่าบอกใครเลย

กางเกง 8-9 ส่วน


ขอบอกว่าเป็นอะไรที่เข้ากันสุดสุดกับรองเท้าส้นเตี้ยสามารถเลือกสวมใส่ได้
ทั้งแบบหัวมนและหัวแหลม






















Free TextEditor





















































 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 20:17:01 น.
Counter : 756 Pageviews.  

มิตรภาพควรที่จะรักษาไว้






















































มิตรภาพ คือ สิ่งที่ควรรักษา


ในสังคมที่มีการแข่งขันตลอดเวลา ทำให้คนที่เห็นแก่ตัวมีเพิ่มมากขึ้น
ขาดแคลนน้ำใจ หลายคนต้องสูญเสียมิตรภาพดีๆ ไปอย่างไม่รู้ตัว
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่เราได้เจอมิตรแท้
เราก็ควรรักษามิตรคนนั้นให้อยู่กับเรานานที่สุดเท่าที่จะนานได้
เหมือนนิทานเรื่องที่จะนำมาให้อ่านในสัปดาห์นี้










ทวดของโจโฉ


มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ทวดของโจโฉ
ว่าท่านเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นคนที่มีน้ำใจ
วันหนึ่งเพื่อนบ้านของทวดโจโฉนับสุกรที่เลี้ยงไว้ เห็นว่าขาดไปหนึ่งตัว
จึงเที่ยวออกตามหา เรื่อยมาจนถึงบ้านทวดของโจโฉ
และพบสุกรตัวหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกันกับสุกรตัวที่หายไป
เพื่อนบ้านผู้นั้นจึงได้กล่าวหาทวดของโจโฉที่เอาสุกรของเขาไป
พร้อมกับยึดสุกรตัวนั้นกลับบ้าน
ถึงขณะนั้นทวดของโจโฉก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เพื่อนบ้านนำสุกรของท่านไป









สุกรหาย



ฝ่ายเพื่อนบ้านพอกลับถึงบ้านก็พบว่าสุกรตัวที่หายไปได้กลับมาอยู่ที่เล้าตาม
เดิมแล้ว ก็รู้สึกละอายใจที่ได้ไปกล่าวทวดของโจโฉเช่นนั้น
เพื่อนบ้านจึงได้อุ้มสุกรตัวนั้นกลับมาคืน พร้อมหล่าวขอขมาทวดของโจโฉ










เจอสุกร


ภายหลังมีเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ได้เข้าไปถามทวดขอวโจโฉว่า
ทำไมท่านถึงไม่โต้แย้งไปในตอนแรก
ที่เพื่อนบ้านของท่านมายึดสุกรตัวนั้นไปล่ะ ทวดของโจโฉตอบว่า ฉันยอมเสีย
หมูไปหนึ่งตัว ดีกว่าเสียเพื่อนไปหนึ่งคน
แต่แล้วความจริงก็คือความจริง
ตอนนี้ฉันเลยได้ทั้งหมูได้ทั้งเพื่อนอีกหลายคน









รักษามิตร


เรื่องของ ทวดโจโฉ สอนให้รู้ว่ากานสูญเสียเงินทองบางส่วน
เพื่อรักษามิตรที่ดีเอาไว้หนึ่งคน
ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายตรงกันข้ามกับทำให้ดราได้สิ่งดีๆ กลับคืนมาโดยไม่รู้ตัว
หลายคนคงรู่กว่าเราได้มิตรที่ดีสักคน
เราต้องใช้เวลาศึกษาและเรียนรู้นานแค่ไหน
เราจึงจะยอมเปิดเราจึงจะยอมเปิดใจรับคนๆ นั้น
ฉะนั้นถ้ามีเรื่องอะไรที่จะทำให้สูญเสียมตรที่ไปล่ะก็
พยายามคิดดูให้ถี่ถ้วนเสียก่อนอย่างน้อยคนที่คบกันมานาน
เราย่อมรู้จักนิสัยใจคอเขามากกว่า คนที่เรารู่จักกันได้ไม่นานจริงไหมค่ะ ?







Free TextEditor





















































 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 11 เมษายน 2553 20:15:12 น.
Counter : 358 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.