เปลี่ยนแปลงตัวเอง






























































ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนเจ้าอารมณ์
และมักจะปวดศีรษะอยู่เป็นประจำ


วันหนึ่งเขาได้
ประกาศว่าจะให้รางวัลอย่างงามแก่คนที่สามารถรักษาอาการปวดศีรษะของเขาได้


หลายคนรวมทั้งหมอที่เชี่ยวชาญต่างก็มาเสนอแนะวิธีรักษาโรคปวดศีรษะของเศรษฐี
ผู้นี้


แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เขาดีขึ้นได้


อยู่มาวันหนึ่ง มีฤาษีคนหนึ่งมาเยี่ยมท่านเศรษฐี


เศรษฐีได้บอกเกี่ยวกับโรคประจำตัวของเขาให้ฤาษีทราบ


ฤาษีจึงบอกกับท่านเศรษฐีว่า " โธ่เอ้ยวิธีรักษาอาการปวดหัวของเจ้า

มันง่ายนิดเดียว


นั่นก็คือเจ้าจะต้องมองทุกอย่างให้เป็นสีเขียวตลอดเวลา

แล้วอาการโรคของเจ้าจะหายไป"


เศรษฐีดีใจมากและคิดว่าสิ่งที่ฤาษีแนะนำเขานั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก


วันรุ่งขึ้นท่านเศรษฐีจึงจ้างช่างทาสี หลายร้อยคน

มาช่วยกันทาสีของหมู่บ้านให้เป็นสีเขียวทั้งหมด


นอกจากนี้ด้วยความที่รวยมาก ยังซื้อเสื้อผ้าให้กับคนในหมู่บ้านทุกคนใส่


ในตอนนี้ไม่ว่าท่านเศรษฐีมองไปทางใดก็จะเป็นสีเขียวตลอดเวลาตามคำแนะนำของ
ฤาษี


อาการปวดศีรษะของเขาก็เริ่มดีขึ้นๆ
เขาเริ่มเป็นคนยิ้มง่ายและมีความสุขมากขึ้น

สองสามเดือนถัดมา ท่านฤาษีได้กลับมาเยี่ยมเศรษฐีอีกครั้งหนึ่ง


แต่ก็ต้องเผชิญกับช่างทาสีคนหนึ่งซึ่งร้องตะโกนว่า


"หยุด หยุด ท่านเข้ามาในหมู่บ้านนี้ในชุดนี้ไม่ได้
เดี๋ยวผมจะทาสีท่านให้เป็นสีเขียวก่อน"


ฤาษีก็รีบวิ่งและหนีเข้าไปในบ้านของเศรษฐีได้ในที่สุด

ฤาษีได้พบกับเศรษฐีในบ้านและตำหนิว่า


"ทำไมเจ้าถึงเสียเงินทองและ เวลามากมาย
เพื่อเปลี่ยนสิ่งต่างๆรอบตัวเจ้าเล่า

เราไม่ได้บอกให้เจ้าไปเที่ยวทาสีทุกอย่างให้เป็นสีเขียวเลย


เจ้าเพียงแค่สวมแว่นตาสีเขียวเท่านั้น
เจ้าก็จะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวเป็นสีเขียวแล้ว"










หากเราต้องการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัว











เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกคนหรือทุกอย่าง











เราเพียงแต่เปลี่ยนตัวของเราเองก่อน










แล้วเราจะพบว่าทุกสิ่งรอบตัวของเราก็จะเปลี่ยนไป
ด้วยเช่นกัน










จากการพัฒนาศักยภาพอย่างสมบูรณ์











โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 22:43:49 น.
Counter : 232 Pageviews.  

แก้วนี้หนักมั้ย...?



















































...

เขาได้ยกน้ำขึ้นมาหนึ่งแก้ว แล้วถามผู้ฟังว่า

"คุณคิดว่าแก้วนี้น่ะหนักมั๊ย???"


มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณถือมันนานแค่ไหน


ก็ถ้าคุณถือแค่ซักนาทีนึง .. มันก็ยัง OK นะ


ถ้าคุณถือจนชั่วโมงนึง .. นั่นก็จะทำให้ปวดแขนได้


แต่ถ้าถือไว้ซักวันนึงล่ะ .. ที่นี้คุณจะต้องเรียกรถพยาบาลแน่ๆ


มันก็น้ำหนักเท่าเดิมแหละนะ ..


แต่ว่ายิ่งคุณถือไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งหนักเท่านั้น


ถ้าคุณแบกภาระนั้นไว้ตลอดเวลา


ไม่ช้าก็เร็ว เราก็จะไม่สามารถที่จะแบกรับมันได้อีก


แล้วภาระนั้นก็จะเพิ่มขึ้น..


สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ วางแก้วลง ผ่อนคลายซักครู่


แล้วค่อยถือมันอีกครั้ง..










เราต้องปล่อยวางภาระต่างๆ บ้าง
แล้วเราจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น เพื่อที่จะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้..











เมื่อกลับบ้านแล้ว จงวางภาระต่างๆ ที่ๆ ทำงานไว้


















Free TextEditor







































































































 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 22:42:39 น.
Counter : 231 Pageviews.  

รักแท้หาได้ที่ไหน
















































ทำไมเราจึงหารักแท้ ได้ยากเย็นนัก


สายลมอ่อนๆพัดปอยผมสีขาวของคุณยายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกหวายโบราณ
แว่นสายตาของเธอร่นมาอยู่ตรงปลายจมูก
ขณะที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับงานเย็บปักถักร้อย
ข้างตัวเธอมีหลานสาววัยรุ่นผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้วย
เธอประดุจดอกไม้ที่เพิ่งจะแรกแย้ม
ทันใดนั้นเธอก็โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่า คุยยายคะ
ทำไมเราจึงหารักแท้ ได้ยากเย็นนักคะ
หญิงชราผู้มีดวงหน้าอารีผู้นี้เงยหน้าขึ้นมาจากงานเย็บปัก
ลูบศีรษะหลานสาวอย่างรักใคร่
สักครู่หนึ่งเด็กสาวกระเถิบเข้าไปใกล้พร้อมกับนอนหนุนตักคุณยาย ฟังนะ
ยายจะเล่าอะไรให้หนูฟัง...










รักแท้ปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง


เมื่อหลายศตวรรษก่อน ขณะที่โลกเรายังอ่อนวัยกว่านี้
รักแท้ปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง มนุษย์สามารถเป็นเจ้าของมันได้ด้วยการเรียกหา
จึงมองไม่เห็นคุณค่าของรักแท้
เมื่อเป็นดังนี้พระผู้เป็นเจ้าจึงตัดสินใจที่จะเก็บรักแท้เอาไว้
คุณยายหันมาส่งยิ้มและลูบผมนุ่มๆของหลานสาวอย่างอ่อนโยน
แล้วกล่าวต่อไปว่า...


พระผู้เป็นเจ้าขอให้นางฟ้าสองตนช่วยเก็บรักษารักแท้
แรกทีเดียวนางฟ้าได้ฝังรักแท้ไว้ในดิน
แต่มนุษย์ก็ขุดมันออกมาได้อย่างง่ายดาย
ต่อมาพวกเธอจึงนำรักแท้ไปเก็บไว้บนภูเขาที่สูงที่สุด
แต่ผู้คนก็พากันปีนป่ายไปจนถึงยอดเขานั้น...
นางฟ้าจึงนำไปไว้ได้ท้องทะเลลึก
แต่มนุษย์ก็ยังดำดิ่งสู่ก้นทะเลแล้วนำรักแท้กลับคืนมาอีกจนได้










นับจากนั้นผู้คนต่างก็มีปัญหาในการติดตามหารัก
แท้... เพราะว่าพวกเขาจะพากันมองหามันในทุกหนทุกแห่ง ยกเว้นที่เดียว...



คุณยายคะ... รักแท้ก็ยังหากันได้ง่ายๆอยู่ดีนี่คะ หลานสาววิพากษ์
...เพราะมนุษย์ก็จะขุด ปีน และว่ายน้ำ...
ในที่สุดนางฟ้าจึงตกลงใจที่จะเก็บรักแท้ไว้ในหัวใจมนุษย์...
นับจากนั้นผู้คนต่างก็มีปัญหาในการติดตามหารักแท้...
เพราะว่าพวกเขาจะพากันมองหามันในทุกหนทุกแห่ง ยกเว้นที่เดียว...
ที่ซึ่งควรจะเก็บมันไว้ นั่นคือ ...ตรงหัวใจ คุณยายกล่าวในที่สุด






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 22:41:04 น.
Counter : 262 Pageviews.  

คุณค่าของลูกผู้หญิง













































อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ


เมื่อคืนนี้หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว


คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบ


แล้วบอกลูกว่าพ่อมีอะไรให้ดู สำคัญมากนะ


แล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรสักอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ เอามือกำไว้


ถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้า












ลูกอยากทราบนี่คะ ว่าเป็นอะไร


ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที


ลูกทำตาม คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที


และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที


ก็ลูกอยากทราบนี่คะ ว่าเป็นอะไร


เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือเหรียญ 5 บาท ธรรมดานี่เอง












ลูกรู้แล้ว ไม่อยากดูอีกเบื่อ


คุณพ่อหัวเราะ แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม


ถามว่า อยากดูมั้ย เขกพื้น 10 ที


ลูกรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ


คุณพ่อว่า เอ้า เขกพื้น 1 ทีก็ได้


ลูกก็บอกว่า ลูกรู้แล้ว ไม่อยากดูอีกเบื่อค่ะ


คุณพ่อว่าให้ดูฟรี ๆ ก็ได้ ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง











สิ่งที่พึงหวงสำหรับสตรี เป็นสิ่งมีค่า
ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควรก็จะไม่มีค่าอะไร


คุณพ่อเลยบอกว่า


" นี่ละลูก อะไรที่เป็นความลับคนมักยอมทำทุกอย่าง


ที่จะได้สมปราถนา อยากดู อยากรู้อยากเห็น


แต่เมื่อสมปราถนาแล้ว ดูบ่อยๆแล้วก็มักจะเบื่อ


ให้ดูฟรีๆ ยังไม่อยากดูเลย


แล้วสิ่งที่พึงหวงสำหรับสตรี เป็นสิ่งมีค่า


ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควรก็จะไม่มีค่าอะไร


ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก "



.



























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 22:40:02 น.
Counter : 461 Pageviews.  

ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ?

















































...ผมไม่ได้สนใจและใส่ใจกับคำถามนั้นสักเท่าไหร่
เพียงแค่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่มีสาระอะไรเสียเลย...



บางครั้งเราก็มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไป


เพียงเพราะใช้เวลาสั้นๆ ในการตัดสินสิ่งนั้นว่า " ไร้สาระ"


หลายวันก่อน เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า "ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ? "


ผมไม่ได้สนใจและใส่ใจกับคำถามนั้นสักเท่าไหร่


เพียงแค่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่มีสาระอะไรเสียเลย


แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบเล่นๆ ไปว่า "ก็คงมีเพื่อความสะดวกมั้ง


หรือไม่ก็ช่วยให้คนขี้ลืมที่ชอบวางยางลบไม่เป็นที่เป็นทาง


ได้มียางลบ ใช้มั้ง"


เพื่อนของผมก็อมยิ้ม ก่อนที่จะตอบผม สั้นๆ ว่า "ไม่ใช่"


"อ้าว. . .งั้นเพราะอะไรล่ะ" ผมอดที่จะถามไม่ได้


ก็เพราะว่า " คนเราสามารถทำผิดกันได้ "


". . . . . . . . . . . . . . . . . . " ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง


หลังจากที่ได้ยินคำตอบ


และปล่อยให้เจ้าของคำถามเดินจากไป


โดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่าคำตอบสั้นๆ ของเขาเท่านั้น


คำถามของเพื่อนที่ผมเคยมองว่ามันไร้สาระ


กลับทำให้ผม ได้เก็บมาคิดแทบทุกขณะที่สมองว่าง


เย็นวันนั้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์เขียนข้อความส่งถึงเพื่อนๆ
ด้วยประโยคที่ซ้ำกัน. . .


" ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ


........................................................


เพราะคนเรามีสิทธิ์ทำผิดกันได้


........................................................


แต่จงจำไว้ว่า. . .เราไม่ควรใช้ยางลบให้หมดก่อนดินสอ


เพราะนั่นอาจหมายความว่า เรากำลังทำผิดซ้ำๆ จนความผิดนั้นอาจสายเกินแก้"


ผมเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดต่อจากเพื่อนนั้นมันจะถูกต้องหรือไม่


และเพื่อนๆ ที่ได้รับข้อความจากผมจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกหรือเปล่า



จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ. . .นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการมากสักเท่าไหร่


แต่สิ่งที่ผมอยากได้รับ คือ เพื่อนของผมจะคิดต่อจากความคิดของผมอย่างไร


และลึกๆ ผมก็แค่หวังว่า เพื่อนของผมคงจะกล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด


และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและยอมรับการกระทำของตัวเอง. . .


เพียงแค่นั้น ผมก็หมดห่วง


และเพื่อน ๆ ที่ได้อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับว่า

ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ












Forward Mail


ที่ได้รับจาก คุณวาสินันท์ น้อยเสวก






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 22:38:57 น.
Counter : 262 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.