Group Blog
 
All Blogs
 
The Drive of Life 25







โครงการสร้างเครื่องยนต์ต้องหยุดชะงัก อุตส่าห์เตรียมเลี้ยงฉลอง
หว่าเจิ้นปังกับอึ้งจีี้เหม็งจึงต้องช่วยกันกินสลัดที่ฟ่งปิงหยี่ทำ
ปิงหยี่เซ็ง เสียแรงทำตั้งเยอะแยะ จะกินหมดมั้ยเนี่ย

หว่าเจิ้นปัง: ตั้งใจทำแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลสมที่ตั้งใจเสมอไป
ดูอย่างอารองสิ ตั้งใจทุ่มเทแทบตาย สุดท้ายโครงการก็ถูกระงับ





ทำไงได้ล่ะ สารานุกรมอึ้งจี้เหม็งบอกว่า 99% ของรถที่ผลิตในเมืองจีน
เกิดจากการร่วมลงทุน แต่หว่าเจิ้นปังกลับมีความคิดตรงข้าม
ดูอย่างญี่ปุ่นสิ เมื่อก่อนก็มีสภาพเหมือนจีนตอนนี้ ต้องอาศัยการร่วมลงทุนจากต่างชาติ
แต่ก็มีบริษัทที่กล้าผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นขึ้นมาด้วยตัวเอง
จนประสบความสำเร็จ ซึ่งก็คือโตโยต้าในปัจจุบัน
หว่าเจิ้นปังคิดจะตั้งบริษัทรถยนต์ของตนเอง เว่อร์ซะไม่มี คุณชายเรา





คิดได้แล้วต้องลงทำทันที คติของหว่าเจิ้นปังเองจ้า
เจ้ินปังกลับมาของเงินพ่อ
ชิงหยูฟังแล้วอึ้ง รู้ไหมว่าตั้งบริษัทรถยนต์เนี่ย ใช้เงินตั้งหลายร้อยดอลลาร์เชียวนะ
ต่อให้อาสามยอมขายบริษัท ยังรวบรวมเงินได้ไม่พอเลย
หนนี้ แม่ก็ไม่เข้าข้างนะ ทำอะไรอย่าให้เกินตัว กินคำใหญ่เกินไป จะเคี้ยวติดคอ

หว่าหมั่นฮอน: ตั้งใจทำงานที่โรงงานให้ดีเถอะ เลิกคิดเพ้อฝันไร้สาระซะที
หว่าเจิ้นปัง: พ่อครับ ผมแค่อยากช่วยอารองเท่านั้น





เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดจากเจิ้นปัง
หว่าหมั่นฮอนก็ตัดสินใจเตินทางไปปักกิ่งเพื่อคุยกับผู้จัดการ Po
อย่างน้อยในฐานะผู้ถือหุ้น ผู้จัดการก็น่าจะฟังเสียงบ้าง





หวิงปิ้วกับแม่มาเยี่ยมอา Tai
Kai-keung กำลังแวะมาหาอา Tai พอดี
เขาเอาคู่มือการดูแลร่างกายหลังผ่าตัดมาให้

อา Tai: ลูกไม่โกรธพ่อหรือ พ่อไม่คยดูแลลูกเลย
Kai-keung: ผมรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณเป็นพ่อผม
แต่ที่ผมไม่พูด เพราะคุณมีครอบครัว
ถ้าผมไปแสดงตัว คุณคงลำบากใจ
ตอนคุณรับผมเข้าทำงานที่อู่ ผมดีใจมากที่จะได้พบคุณบ่อยๆ
อา Tai: พ่อล้มเหลวในฐานะพ่อจริงๆ
พ่อไม่เคยดูแลลูก ยังทำให้ลูกต้องสละไตให้พ่ออีก
พ่อไม่คู่ควรเป็นพ่อของลูกเลย พ่อขอโทษ
Kai-keung: ผมขอเรียกคุณว่าพ่อได้ไหม
อา Tai: ได้สิลูก
Kai-keung: พ่อครับ






เห็นอย่างนี้ ใครจะไม่ใจอ่อน
ความจริงคุณแม่ก็เตรียมน้ำแกงบำรุงไตมาเผื่ออยู่แล้วล่ะ





หว่าชิงหยูเห็นชิงหลินสนใจเรื่องครอบครัว Kai-keung เหลือเกิน
อย่าเอาไปเขียนข่าวละกัน เป็นนักข่าวก็ต้องมีรรยาบรรณนะ

หว่าชิงหลิน: ที่พูดเนี่ย ห่วง Kai-keung หรือพี่หวิงปิ้วกันล่ะ




อา Tai ออกจากโรงพยาบาล พบว่าภรรยารับ Kai-keung เข้ามาอยู่ที่บ้าน
ครอบครัวพร้อมหน้า อย่างนี้ต้องฉลอง
หวิงปิ้วนัดชิงหยูมาด้วย แต่รถเธอเสียระหว่างทาง






สองพี่น้องมาช่วยกันเปลี่ยนยางให้ชิงหยู
หวิงปิ้วถูกขอบล้อบาด ชิงหยูก็เป็นห่วงเป็นใย ช่วยปิดแผลให้
สองคนมัวแต่เจ๊าะแจ๊ะ kai-keung เปลี่ยนล้อยางเสร็จยังไม่รู้เรื่องเล้ย
อายน้องมันมั้ยล่ะนั่น






ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ปะ ไปกินข้าวบ้านหวิงปิ้วมามีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า

หว่าชิงหลิน: ผู้ชายอ่ะนะ บางทีก็จีบหญิงไม่เป็นหรอก
ก็เหมือนการสัมภาษณ์แหละเจ๊ เราต้องขุดคุ้ยหาความจริง
หว่าชิงหยู: แต่พี่เคยปฏิเสธเขาไปแล้ว ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น





ฝ่ายหวิงปิ้วก็สองจิตสองใจ ไม่รู้จะโทรหาชิงหยูดีหรือเปล่า
แม้ชิงหยูจะเลิกกับแฟนแล้ว แต่เธอยังปฏิบัติกับเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง
Kai-keung ไม่เห็นด้วย ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าไม่ใช่แฟนกัน





หว่าชิงหยูยอมรับว่าเธอเริ่มมีใจให้กับหวิงปิ้ว

หว่าชิงหลิน: เจ๊เคยปฏิเสธเขา ก็เหมือนคนจะข้ามถนนแล้วติดไฟแดง เขาจะกล้าข้ามได้ไง
เจ๊ต้องเปิดไฟเขียวให้เขาก่อนสิจ๊ะ




หวิงปิ้วยังคิดไม่ตกว่าจะโทรหาชิงหยูดีมั้ย
แค่นี้ต้องคิดมากด้วย อยากโทร ก็โทรสิ
มันก็เหมือนขับรถแหละ เจอไฟเขียวก็เร่งเครื่อง เจอไฟแดงก็เบรค ไม่ต้องคิดมาก




ด้วยแรงยุของ Kai-keung และหว่าชิงหลิน
หวิงปิ้วกับชิงหยูก็ได้ออกเดทกันจนได้






หวิงปิ้วพาชิงหยูไปสวนสนุก ก็มันมีความหลังฝังใจ
สมัยที่หวิงปิ้วสารภาพรักกับชิงหยูบนชิงช้าสวรรค์ แต่เธอปฏิเสธ





หนนี้ หวิงปิ้วแยกขึ้นชิงช้าคนละตัวกับชิงหยู ไม่รู้จะมาไม้ไหน

หวิงปิ้ว: ผมรู้ว่าคุณคงจำตำนานชิงช้าสวรรค์ได้
ถ้าคุณอธิษฐานตอนชิงช้าสวรรค์ขึ้นถึงจุดสูงสุด คำอธิษฐานของคุณจะเป็นจริง
คุณไม่ต้องห่วง ผมจะไม่เร่งรัดคุณหรอก ผมจะรอคอยคุณเสมอ
ต่อให้ชิงช้าสวรรค์จะหมุนไปอีกกี่รอบก็ตาม ผมจะคอยติดตามคุณไปจนกว่าคุณจะยอมรับผม






บทสัมภาษณ์ Kai-keung ที่หว่าชิงหลินเขียนได้รับการตีพิมพ์
เธอเขียนได้ดีมาก จนสำนักพิมพ์ให้เธอผ่านงานก่อนกำหนด




หว่าชิงหลินนำนิตยสารมาให้ Kai-Keung
เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ไม่ลงเรื่องครอบครัวของเขา
ที่จริงเขาแค่เอารถลูกค้าไปลองขับเพื่อทดสอบสมรรถนะ
ไม่นึกว่าจะกลายเป็นนักแข่งที่ทุกคนกล่าวขวัญถึง
ชิงหลินขอให้ Kai-keung ช่วยเป็นที่ปรึกษาในการเขียนคอล้มน์รถยนต์
Kai-keung ตกลง





ตอนแรกหว่าหมั่นหงก็ไม่พอใจที่หว่าหมั่นฮอนมา
เสียเวลาเกลี้ยกล่อมอยู่ตั้งนาน
หว่าหมั่นหงจึงยอมให้หว่าหมั่นฮอนไปเจรจากับผู้จัดการ Po




หว่าหมั่นฮอนไม่คัดค้านการรร่วมลงทุนซะทีเดียว
เขาขอให้ผู้จัดการ Po พิจารณาเรื่องอย่าตัดงบการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์
ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์กับวงการรถยนต์เมืองจีนในระยะยาว
ผู้จัดการ Po ยังยืนยันจุดยืนของตัวเอง หว่าหมั่นฮอนจึงขู่ว่าจะถอนหุ้น




ผู้จัดการ Po กลัวซะที่ไหน มี Ngai Tin hung เป็นแบ็คอัพทั้งคน
รอเสียบเป็นผู้ถิอหุ้นอยู่แล้ว




หว่าเจิ้นปังไม่พอใจที่เจิ้นหมั่นดูจะถอดใจยอมแพ้ง่ายๆ
หว่าหมั่นฮอนห้ามทัพ เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์ ผู้จัดการ Po เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
เตรียมใจยอมรับการร่วมทุนเถอะ
หว่าหมั่นหงยังคงดื้อดึงที่จะทำตามความฝันของตน
หากบริษัทร่วมทุนสำเร็จเมื่อไหร่ เขาจะลาออกทันที





หว่าหมั่นฮอนกะจะคุยกับหว่าหมั่นหงให้ทำใจ
แต่ได้ยินหว่าหมั่นหงเล่นเพลงของฉางผิง จึงเปลี่ยนใจ




หว่าเจ้ินปังขอให้พ่อขาย Wah Cheung และจำนองบ้าน
เพื่อเอาเงินมาสมทบกับเงินที่จะขายหุ้น Chang lu Fu chuan
อย่างน้อยก็น่าจะได้ซักร้อยล้าน พอตั้งบริษัทรถยนต์ไหว
เล่นเอาหว่าหมั่นฮอนฉุนขาด กลับบ้านไปซะก่อนจะโดนดีเหอะ






หวิงปิ้วเองก็ไม่พอใจ

หว่าเจิ้นปัง: ผมรู้ คุณจะบอกผมว่าอย่าฝันเฟื่องใช่มั้ย
หวิงปิ้ว: ที่จริง ผมอยากบอกว่าอย่าทำลายฝันของคนอื่น
เพื่อทำให้ฝันของคุณเป็นจริงจะได้มั้ย
ผมชื่นชมนะ ที่คุณมีความกล้าที่จะตั้งบริษัทรถยนต์
แต่อย่าเอาบริษัทของพ่อคุณไปเป็นเบี้ยอีกเลย
คุณจำได้มั้ยว่า Kwok Wai เจ๊งยังไง ถ้าจำไม่ได้ ผมจะบอกให้
Kwok Wai ต้องล้มละลายเพราะคุณ หว่าเจิ้นปัง
คุณชอบทำอะไรเสี่ยงโดยไม่มีความรับผิดชอบ
ถ้าคุณตั้งบริษัทรถยนต์ได้ด้วยฝีมือตัวคุณเอง
ผมเป็นคนแรกที่จะตบมือให้คุณ แต่อย่าได้คิดสละ Wah Cheung
หว่าเจิ้นปัง: คุณพูดถูก Kwok Wai เจ๊งเพราะผม
ผมถึงต้องตั้งบริษัทรถยนต์ให้สำเร็จ
คนส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งที่ผมคิดมันเป็นไปไม่ได้
ผมเสี่ยง และผมล้มเหลว แต่ดีซะอีก
มีคนไม่กี่คนหรอกที่จะประสบความสำเร็จ
ใช่ ผมฝันเฟื่อง เพราะผมเป็นคนไม่กี่คนนั้น แล้วตัวคุณเองล่ะ

หยามค่ะ หยามกันเห็นๆ





Hiu Zam Yan กลัวพ่อลูกจะผิดใจกันเพราะเรื่องนี้
หว่าหมั่นฮอนห่วงแต่หว่าหมั่นหงน่ะแหละ
ชีวิตของหมั่นหงมีความใฝ่ฝันอยู่แค่สองอย่าง
อย่างแรกก็ เอ่อ (ที่รู้กันอ่ะนะ ว่าเค้าอยากแต่งงานกับฉางผิง)
อย่างที่สอง ก็คือ อยากให้เมืองจีนมีรถยนต์ของตัวเอง

หมั่นฮอนอยากจะช่วยเหลือให้หมั่นหงสมปรารถนาซักเรื่องก็ยังดี




Ngai Tin Hung ไม่ยอมแพ้ที่จะทาบทามหวิงปิ้วให้มาทำงานให้
ต่อไป Chang Lu Fu Chuan จะกลายเป็นอดีต เมื่ออเมริการเข้ามาร่วมทุน
แบรนด์จะเปลี่ยนเป็น Chang Lu
หว่าหมั่นฮอนเป็นเพียงหุ้นส่วนเล็ก หว่าหมั่นหงก็เป็นแค่ผู้จัดการกินเงินเดือน
จะเอาอะไรมาทัดทาน ชอเพียงให้หวิงปิ้วช่วยเหลือปกปิด
เพื่อให้การร่วมทุนสำเร็จลงก่อนที่หว่าหมั่นฮอนจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ถ้างานนี้สำเร็จ หวิงปิ้วจะได้เป็นผู้จัดการ Chang Lu





หวิงปิ้วคิดหนัก ความจริงก็อยากช่วยหว่าหมั่นฮอน แต่ไม่รู้ว่าเจิ้นปังจะพาป่วนไปแค่ไหน
การจะหยุดยั้งเจิ้นปัง ก็พอมีวิธี แต่ออกจะเสี่ยง
ถ้าสำเร็จ Wah Cheung ก็จะอยู่รอด ไม่ต้องโดนเจิ้นปังพาไปเจ๊ง
แต่ถ้าล้มเหลว หวิงปิ้วก็ต้องสูญเสียทุกอย่าง เป็น Kai-keung จะทำยังไง

Kai-keung ไม่เคยคิดซับซ้อนอยู่แล้ว
ถนนมีตั้งหลายสาย ทางไหนติด ก็วิ่งอีกเส้น สุดท้ายก็ถึงปลายทางเหมือนกัน




หวิงปิ้วเสนอกับหว่าหมั่นฮอนว่า
วินเซ็นต์เพื่อนสมัยเรียนตอนนี้เป็น Vice President อยู่ที่ซีดาน มอเตอร์ส
หากหมั่นฮอนไม่สบายใจเรื่องการร่วมทุน ลองบินไปเจรจาที่สหรัฐดีไหม

สำหรับหว่าหมั่นฮอน ร่วมลงทุนหรือไม่ ไม่สำคัญ
ขอเพียงให้ซีดาน มอเตอร์ส อนุมัติให้หว่าหมั่นหงวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ต่อไป
หมั่นฮอนก็จะไม่คัดค้าน




หวิงปิ้วกังวลใจกับความรู้สึกของหว่าชิงหยู จึงลองหยั่งเชิงดูว่า
ถ้าเขาเกิดตัดสินใจผิด เธอจะว่าอย่างไร

หว่าชิงหยู: ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร ชั้นเชื่อว่า
คุณได้ไตร่ตรอง และคิดรอบคอบแล้ว
ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ชั้นจะสนับสนุนคุณเสมอ




หว่าชิงหยูจัดฉากให้หว่าหมั่นเซ็กได้ดินเนอร์กับ Kong Man
ไม่รู้ว่าดวงสมพงษ์กันหรืออย่างไร มาเจอกับ Ngai Tin Hung และหว่องซิ่วฟั่น ซะนี่





หว่าหมั่นเซ็กเห็นเมียเก่าชักขัดหูขัดตา
โต๊ะโน้นสั่งอะไร ก็เอามาให้เหมือนๆ กันเลย




หว่าหมั่นเซ็กเมาเหล้าแล้วเริ่มโวยวาย
หว่องซิ่วฟั่นเห็นแล้วยิ่งสมเพช





Ngai Tin Hung ติดธุระด่วน ต้องกลับไปก่อน
ซิ่วฟั่นเห็นหมั่นเซ็กเมามาก ก็คิดจะช่วยพยุง
แต่ไปสะกิดต่อมหึงหวงของ Kong Man เข้าให้
ผู้ชายของชั้น ชั้นดูแลเองได้ย่ะ




ระหว่างที่ Kong Man ไปเอารถ
หว่าหมั่นเซ็กเห็นรถของ Ngai Tin Hung ก็กะจะเอาเหรียญไปขูดรถให้หายเจ็บใจ
กลับเห็นหวิงปิ้วนั่งอยู่ในรถกับ Tin Hung











Create Date : 22 กันยายน 2551
Last Update : 27 กันยายน 2551 21:17:02 น. 6 comments
Counter : 944 Pageviews.

 
แวะมาอ่านที่แท้ก็เป็นเช่นนี้แล ตอนที่ดูแบบไม่ซับอังกฤษ ก็สงสัยว่าเจิ้นปังทะเลาะอะไรเสียงดังทีนี้รู้ล่ะ
แต่นะเป้นความฝันที่เสี่ยงเอามากๆเลยพี่เจิ้นปังขา


โดย: midori IP: 124.122.154.13 วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:21:29:12 น.  

 
ตามมาอ่านด้วยคนค่ะ :D


โดย: Cipher IP: 58.8.142.25 วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:9:12:53 น.  

 
เจ๊ซิงหยูเริ่มใจอ่อนแล้วเย้ ในที่สุดพี่ปิ๊วก็จะมีความสุขซะที ตอนที่ดูนะ แอบลุ้นคู่นี้เหมือนกันค่ะ ก็พี่ปิ๊วถึงจะร้ายแต่ก็รักซิงหยูนี่หน่า


โดย: O-yohyo วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:11:14:26 น.  

 
คู่ซิงหยูกำลังหวีทกันเลย มีออกเดทกันด้วย


โดย: ple IP: 125.24.234.28 วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:13:40:43 น.  

 
แจ้งข่าวสำหรับผู้ที่ติดตามเรื่องนี้ค่ะ

เนื่องจากหนังยาว 60 ตอน คนทำจึงแอบหนีไปทำ The Four ก่อน

แบบว่าลำเอียงชอบฟงฟงในหนังกำลังภายในมากกว่าหนังสากลอ่ะค่ะ

ขออภัยที่ทำให้ค้างคาใจกันเรียกได้ว่าข้ามปี

อีกสองตอน The Four จบ จะพยายามกลับมาทำเรื่องนี้

ถ้าไม่มัวไปทำ The Master of Taichi ซะก่อน

ก็เรื่องนั้น ฟงฟงหล่อมากกกกกก


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:7:56:49 น.  

 
มาลงต่อทีสิคะ
พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส


โดย: gabiNo IP: 182.52.95.92 วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:20:03:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.