Group Blog
 
All Blogs
 
ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 12





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 12



ที่อาจารย์กวนทำไปตั้งมากมาย
เพราะไม่อยากให้โม่หม่าจมอยู่กับความเสียใจ ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง
โม่หม่ายังทำใจไม่ได้ ขออยู่ลำพังได้ไหม




เสี่ยวกวงเป็นตัวแทนต้วนเฮ่าเซินมาส่งจดหมายท้าประลอง
โม่หม่าไม่อยู่ในอารมณ์จะสู้กับใคร จึงฉีกจดหมายทิ้ง




หลี่โหยวหว่อมาคารวะสุสานอาจารย์กวน
น่าเสียดายที่จะไม่มีโอกาสได้ประลองยุทธ์กับยอดฝีมือระดับอาจารย์กวนอีกแล้ว
แถมไม่มีคนสืบทอดฝีมือซะด้วย

โม่หม่า: พูดยังงี้หมายความว่ายังไง
หลี่โหยวหว่อ: หนที่แล้ว เจ้าสู้แพ้ต้วนเฮ่าเซิน แต่กลับไม่ยอมรับ
หนนี้ เขามาท้าสู้ เจ้าก็ไม่ยอมสู้กับเขาอีก คงกลัวแพ้ล่ะสิ
โม่หม่า: ตอนนั้น กับตอนนี้ไม่เหมือนกัน เจ้าจะสู้กับข้ามั้ยล่ะ
หลี่โหยวหว่อ: อย่างเจ้า ไม่มีคุณสมบัติจะสู้กับข้าหรอก
ไว้เจ้าเอาชนะต้วนเฮ่าเซินได้ ค่อยมาท้าสู้กับข้า
อ้อ แต่เจ้ายอมถอนตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ดีเหมือนกัน
แพ้ไปจะได้ไม่เสียชื่อถึงอาจารย์




แผนยั่วยุของหลี่โหยวหว่อได้ผล
เสี่ยวกวงลงเขามายังไม่ถึงครึ่งทาง โม่หม่าก็รีบตามมาตอบรับการประลอง
แบบนี้ ค่อยกลับไปรายงานต้วนเฮ่าเซินได้หน่อย
ยังนึกว่าโม่หม่าจะถอดใจเพราะมัวแต่เสียใจ
ที่อาจารย์กวนเกิดอุบัติเหตุระหว่างกรฝึกซ้อมลื่นตกเขาตายซะอีก

ต้วนเฮ่าเซินถึงกับอึ้ง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าอาจารย์กวนจากไปแล้ว




ซ่งชิงขอร้องให้เหยียนจื้อกุ้ยช่วยพูดกับต้วนเฮ่าเซิน
เลื่อนการประลองออกไปก่อน จนกว่าโม่หม่าจะหายเสียใจเรื่องอาจารย์กวน
ด้วยความไว้ใจในจื้อกุ้ย นางเผลอหลุดปากเรื่องการตายของอาจารย์กวน
ที่เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้กับโม่หม่า ทำให้เขารู้สึกผิดจนไม่เป็นอันฝึกวิชา

ซ่งชิงเอ๋ย ไม่ได้รู้เลยว่าหลงไว้ใจคนผิดซะแล้ว




ต้วนเฮ่าเซินกำลังคิดจะเลื่อนการประลองออกไปก่อนอยู่แล้ว
ขืนสู้กับโม่หม่าตอนนี้ ชนะไปก็ไม่ภูมิใจ

อ๊ายยยยย จื้อกุ้ยยอมไม่ได้ค่ะ อย่างนี้ก็ผิดแผนน่ะสิ





มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องใส่ไฟ อาศัยคำพูดของซ่งชิงมาสร้างความเข้าใจผิด
ยุยงให้ต้วนเฮ่าเซินเข้าใจว่าโม่หม่าจงใจฆ่าอาจารย์ตัวเอง

ต้วนเฮ่าเซิน: เป็นไปไม่ได้ อาจารย์กวนช่วยเหลือเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกเขาศิษย์อาจารย์ผูกพันกันขนาดนั้น โม่หม่าจะฆ่าอาจารย์กวนได้อย่างไร
เหยียนจื้อกุ้ย: ท่านเคยสู้กับโม่หม่าน่าจะรู้ว่าเขาเป็นคนชอบเอาชนะคะคานโดยไม่สนใจใคร
อีกอย่างความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ พวกเราคนนอกจะรู้ได้อย่างไร
ต้วนเฮ่าเซิน: แต่ฝีมือระดับอาจารย์กวน ไม่น่า..
เหยียนจื้อกุ้ย: อาจารย์กวนอาจจะเหมือนท่าน ไม่เคยคิดระแวงว่าโม่หม่าจะเป็นคนเช่นนี้
ความจริงซ่งชิงมาขอร้องให้ข้าช่วยพูดกับท่าน เลื่อนการประลองออกไป
แต่ดูท่าทางของนางเหมือนปกปิดอะไรบางอย่างไว้
ต้วนเฮ่าเซิน: เจ้าหมายความว่านางรู้ความจริงอะไรบางอย่าง แต่ไม่ยอมกลับปิดบังเจ้างั้นหรือ
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้าเป็นผู้หญิงเหมือนนาง ย่อมเข้าใจดีว่า
นางอยากช่วยชายที่ตนรัก ไม่ว่าเขาจะทำความผิดมหันต์เพียงใด
แต่มันก็แค่ข่าวลือ ข้าก็เดาไปอย่างนั้น อาจไม่จริงก็ได้
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่เลื่อนการประลอง
เหยียนจื้อกุ้ย: ท่านก็คิดว่าโม่หม่าฆ่าอาจารย์งั้นหรือ
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าไม่แน่ใจ ข้าจะหาความจริงให้ได้
เหยียนจื้อกุ้ย: แล้วถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาลอยนวลเด็ดขาด





ถึงวันประลอง ต่อหน้าซ่งชิง เหยียนจื้อกุ้ยก็ทำเป็นขอโทษขอโพย
ที่นางไม่อาจเกลี้ยกล่อมต้วนเฮ่าเซินให้เลื่อนการประลองได้





การประลองเข้มข้น โม่หม่าดูจะได้เปรียบเฮ่าเซินอยู่บ้าง
เล่นเอาอาจารย์รอง และเหยียนจื้อกุ้ยใจไม่ค่อยดี







ต่างฝ่ายต่างสู้เต็มที่




โชคร้ายที่ข่าวลือเรื่องโม่หม่าฆ่าอาจารย์กวน กระจายไปทั่วทุกสำนัก
บรรดาสำนักต่างๆ จึงเชียร์ให้ต้วนเฮ่าเซินกำจัดศิษย์เนรคุณเสีย




โม่หม่ารู้สึกผิด จะปฎิเสธก็พูดได้ไม่เต็มปาก
ต้วนเฮ่าเซินเห็นท่าทางโม่หม่า จึงเข้าใจผิดคิดว่าเขาฆ่าอาจารย์จริงๆ

คนหนึ่งโกรธแค้น อีกคนก็หมดใจ จะเอาอะไรมาสู้ล่ะ
ต้วนเฮ่าเซินทำร้ายโม่หม่าอย่างไม่ยั้ง จนจื้อกุ้ยทนดูไม่ได้ หนีไปจากลานประลอง





โม่หม่าถูกทำร้ายจนตกลานประลอง
ต้วนเฮ่าเซินเป็นฝ่ายชนะ งานนี้ สำนักมังกรดำได้หน้าไปเต็มๆ






แม้จื้อกุ้ยจะหลอกใช้ต้วนเฮ่าเซินให้แก้แค้นแทนตัวเองได้สมใจ
นางกลับไม่มีความรู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งนางเห็นโม่หม่าถูกทำร้าย นางยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก

เหยียนฉีเฉียว: เจ้ายังมีเขาอยู่ในใจล่ะสิ
ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะเป็นต้วนซือจินไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ย
เจ้าจะต้องลืมโม่หม่าให้ได้
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้าก็อยากจะลืมเขา แต่ข้า..
เหยียนฉีเฉียว: อย่าลืมสิว่าโม่หม่ามีซ่งชิงอยู่แล้ว
ขืนปล่อยยืดเยื้อ เจ้านั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ
เจ้าเองก็มีต้วนเฮ่าเซินอยู่ทั้งคน ผู้ชายที่มีรักแท้จริงใจหายากนะ
ดูพี่สิ ขนาดพี่คิดว่าได้พบผู้ชายที่จะฝากผีฝากไข้ได้ สุดท้ายแล้วเป็นไง
เจ้าเองไม่อาจหวนคืนได้แล้ว อย่าทำผิดต่อไปอีกเลย




ป้าเหมยเห็นฉีเฉียวคุยกับจื้อกุ้ยก็ไม่พอใจ
งานการไม่ทำดีแต่เม้าท์ ลูกค้าเต็มร้านไม่รู้จักดูแล
จื้อกุ้ยเห็นพี่สาวถูกแม่สามีปฏิบัติเช่นนี้ นางก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร
ได้แต่อ้างว่านางกำลังสั่งอาหารกลับบ้านต่างหาก





เห็นเฮ่าเซินตื่นเต้นยินดี จื้อกุ้ยกลับรู้สึกเหนื่อยล้าในใจ
ขอกลับไปพักผ่อนในห้องดีกว่า




เมื่อจื้อกุ้ยทำตามที่รับปากได้สำเร็จ
อาจารย์รองก็ไม่ผิดคำพูด ยินดียอมรับนางในฐานะญาติผู้น้องของเจ้าสำนัก
ต่อไปไม่ต้องนั่งหลบกินข้าวคนเดียวในห้อง
แต่สามารถร่วมโต๊ะกับทุกคนได้
ต้วนเฮ่าเซินเห็นอาจารย์รองให้เกียรตินาง ก็ยิ่งดีใจ

ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับใครเขาหรอก พ่อคนนี้




หม่าเฉียงเจ็บใจที่หลงเชื่ออาจารย์รอง
จนต้องชวดตำแหน่งเจ้าสำนัก
หลังจากต้วนเฮ่าเซินสู้ชนะโม่หม่าครั้งนี้แล้ว โอกาสของเขาก็ดูริบหรี่
หม่าเฉียงคิดมากเผลอตัวบีบแก้วเหล้าแตก ได้แต่กลบเกลื่อนว่าเมา





คิดหรือว่าอาจารย์สามจะดูไม่ออก ป่านนี้แล้วจะอิจฉาต้วนเฮ่าเซินไปทำไม

ไม่ได้อิจฉา แต่ยอมรับไม่ได้ ที่ต้วนเฮ่าเซินได้เป็นเจ้าสำนักอย่างไม่ถูกต้อง
พออาจารย์สามรู้ว่าหม่าเฉียงยอมล้มมวย ก็ไม่อาจยอมรับได้





อาจารย์สามนัดคู่กรณีมาเคลียร์กัน
ต้วนเฮ่าเซินไม่พอใจ อาจารย์รองทำเช่นนี้ ไม่เกินไปหน่อยหรือ
หากเป็นเจ้าสำนักโดยไม่ขาวสะอาด จะได้รับการยอมรับจากศิษย์ในสำนักได้อย่างไร

หยงไป่ซุน: แล้วไง ตอนนี้ เจ้าก็เอาชนะโม่หม่าได้แล้วนี่
เจ้าเป็นเจ้าสำนักได้อย่างเต็มภาคภูมิ
อาจารย์สาม: ข้าไม่เห็นด้วย เฮ่าเซินเอาชนะโม่หม่าได้
ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะหม่าเฉียงได้
หยงไป่ซุน: น้องสาม เจ้าอยากให้สำนักเราเกิดการแตกแยกหรือไง
อาจารย์สาม: ข้าเพียงต้องการทวงความเป็นธรรมให้หม่าเฉียง





อาจารย์สามต้องการให้ต้วนเฮ่าเซินกับหม่าเฉียงสู้กันใหม่
แต่อาจารย์รองไม่เห็นด้วย ประลองเลือกเจ้าสำนักเพิ่งผ่านไปไม่นาน
ก็มาจัดประลองใหม่อีกแล้ว ใครรู้เข้า จะว่าอย่างไร

สองคนช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
หม่าเฉียงก็อยากเป๊น อยากเป็นเจ้าสำนัก ไม่ได้เป็นก็จะเป็นจะตายให้ได้
ต้วนเฮ่าเซินก็ไม่ได้อยากเป็นเลย ถ้าไม่ได้คิดกตัญญูต่อบิดาล่ะก็ ไม่เป็นเจ้าสำนักให้ลำบากหรอก

จะเพื่อความยุติธรรม หรือเพื่อสำนักก็ตาม ต้วนเฮ่าเซินยินดีสู้กับหม่าเฉียงอีกครั้ง
ถ้าแพ้ก็ยินดียกตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับหม่าเฉียง
หม่าเฉียงเอ๊ย อายศิษย์น้องมั่งมั้ยเนี่ย แต่นิสัยแบบนี้ คงไม่อายมั้ง




การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด
สุดท้าย ต้วนเฮ่าเซินก็ใช้เพลงเตะเอาชนะหม่าเฉียงไปได้





หม่าเฉียงไม่มีน้ำใจนักกีฬาเอาซะเลย
ยิ่งแพ้ยิ่งไม่พอใจ ต้วนเฮ่าเซินจะช่วยฉุดให้ลุก ก็ปัดมือทิ้ง
นิสัยไม่ดี ต้องส่งไปปรับพฤติกรรมด่วน

หยงไป่ซุน: เจ้าแพ้แล้ว คงจะไม่มีอะไรพูดแล้วสินะ





หม่าเฉียงยังคาใจ กระบวนท่าที่เฮ่าเซินเอาชนะเขา
ทำไมเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไมอดีตเจ้าสำนักไม่เคยสอนเขา
หรือว่าจะไม่ใช่เพลงมวยสำนักมังกรดำ

อาจารย์สาม: กระบวนท่านั้น ข้าก็ไม่เคยเห็น
หรือว่าสำนักมังกรดำ จะมีเพลงมวยลับ ที่สอนเฉพาะเจ้าสำนัก
หม่าเฉียง: งั้นก็แปลว่า อาจารย์ตั้งใจให้ต้วนเฮ่าเซินเป็นผู้สืบทอดน่ะสิ
แล้วทำไมอาจารย์ถึงบอกข้าว่าตำแหน่งเจ้าสำนักเป็นของผู้มีฝีมือเท่านั้นล่ะ
อาจารย์สาม: ยังไงเฮ่าเซินก็เป็นลูกชายศิษย์พี่ใหญ่
เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าต้องทำใจยอมรับเฮ่าเซินเป็นเจ้าสำนักซะที




ที่จริงหม่าเฉียงเข้าใจถูกแล้ว
ต้วนเฮ่าเซินยอมรับกับอาจารย์รองว่าเขาจดจำกระบวนท่านี้มาจากเพื่อนนักเรียนญี่ปุ่น
แล้วนำมาปรับใช้กับเพลงมวยสำนัก

อาจารย์รองไม่สบายใจ หากอดีตเจ้าสำนักรับรู้ต้องไม่พอใจแน่ๆ
แต่ต้วนเฮ่าเซินกลับมีมุมมองคนละแบบ
กังฟูหากใช้รูปแบบเดิมๆ ก็จะย่ำอยู่กับที่ ควรเปิดใจรับเพลงมวยสำนักอื่นๆ
แล้วนำมาปรับให้สอดคล้องกับเพลงมวยของตนจึงจะถูก

เมื่อเจ้าสำนักมีความคิดเป็นของตนเอง หยงไป่ชุนก็ไม่คัดค้านอีกต่อไป
ขอให้อย่าประมาท แม้ชนะโม่หม่ากับหม่าเฉียงได้แล้ว นักกังฟูเก่งๆ ยังมีอีกมาก

ต้วนเฮ่าเซินรับปากจะตั้งใจปกป้องชื่อเสียงของสำนักมังกรดำอย่างสุดความสามารถ





โม่หม่าจิตตก ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง
ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ใครเรียกก็ไม่ยอมขาน
หลิวฉวนจะพังประตูเข้าไปอยู่แล้วเชียว ถ้าซ่งชิงไม่ห้ามไว้ซะก่อน




ซ่งชิง: ท่านอาหลิว ท่านอย่าบังคับโม่หม่าอีกเลย
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงไม่อาจกลับมายืนหยัดด้วยตัวเองได้อีก
หลิวฉวน: ข้ารู้ว่าการตายของพี่ซานเยวี่ยกระทบกระเทือนจิตใจเขามาก
แต่โม่หม่ายังต้องสืบทอดภาระของบิดาและอาจารย์
ความจริงการต่อสู้ย่อมมีแพ้ชนะ โม่หม่าควรหัดปล่อยวางบ้าง
ซ่งชิง: แต่โม่หม่าไม่จำเป็นต้องเดินเส้นทางสายกังฟูนี่คะ
ขอเพียงเขาใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อถือคุณธรรม
ข้าว่าท่านผู้อาวุโสทั้งสองก็คงยินดี เขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครอีก
ท่านอาหลิวคะ เส้นทางการดำเนินชีวิตมีหลายสาย
เราเพียงแต่ต้องเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับเรา
ที่โม่หม่าตัดสินใจเลิกใช้กังฟู อาจเป็นเส้นทางที่เขาต้องการก็ได้
หลิวฉวน: จริงสิ ข้าไม่เคยถามว่าเขาต้องการอะไร
งั้นก็แล้วแต่เขาจะเลือกเส้นทางเดินก็แล้วกัน ข้าจะไม่ฝืนใจเขาหรอก




ซ่งชิง: ท่านอาหลิวโมโหเพราะห่วงใยเจ้า
อาจารย์เจ้าก็ตั้งความหวังให้เจ้าสานต่อปณิธาน
ทั้งหมดคงกดดันเจ้าไม่ใช่น้อย
อาจารย์กวนเพิ่งเสีย เจ้าก็ต้องประลองฝีมือกับผู้อื่น
เจ้าเอาชนะไม่ได้ก็ไม่แปลก
ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้เสียใจที่พ่ายแพ้ แต่เสียใจที่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง
ลองคิดดูนะ อาจารย์เจ้าไม่เคยต้องการให้เจ้าเก่งเกินใคร
ท่านเพียงต้องการให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ เที่ยงตรง
แพ้หรือชนะไม่มีความหมาย
หากเจ้าคิดว่าจะต้องตอบแทนอาจารย์ด้วยการต่อสู้แต่เพียงอย่างเดียว
เจ้าก็ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวังแล้ว




โม่หม่ายอมเปิดประตูออกมากินข้าวกินปลา
ทำให้ซ่งชิงโล่งใจยิ่งนัก





หงเหลียงทำงานอยู่สำนักโคมเขียว
แต่นางเพียงร้องเพลงให้แขกฟัง
กลับต้องมาเจอเจ้าสำนัก Kar ลวนลาม
หลี่โหยวหว่อมาเห็นเข้าจึงไม่พอใจ เกิดต่อสู้กัน
เขาทำร้ายเจ้าสำนัก Kar จนขาหัก




ไฉเหว่ยมารับหลี่โหมวหว่อไปพบกับฉีเจียง
ทั้งคู่กะใช้หลี่โหยวหว่อชักนำโม่หม่าเข้าสู่วงการกังฟู
เพื่อก่อกวน เปิดโอกาสให้ฉีเจียงเขี่ยจั๊วะเหวินซุ่นออกาจากตำแหน่งนายก

หลี่โหยวหว่อปฏิเสธ ลูกผู้ชายมีสิ่งควรทำ ไม่ควรทำ




ไม่นึกเลยว่าจะทำคุณคนไม่ขึ้น อุตส่าห์ช่วยสนับสนุนหลี่โหยวหว่อมาตลอด
แค่ขอความช่วยเหลือนิดหน่อย ก็ปฏิเสธซะแล้ว
ถ้างั้น ตัดขาดความเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันไปเลยเหอะ
ต่อไปเจอหน้ากันก็ไม่ต้องมาทักทายกัน

โดยกดดันซะขนาดนี้ หลี่โหยวหว่อไม่รู้จะรับมืออย่างไร




โม่หม่าตัดสินใจล้างมือจากวงการ
และฝังผ้าลายมือบิดาที่หลุมฝังศพอาจารย์





หลี่โหยวหว่อมาขอพบโม่หม่า
ซ่งชิงไม่ยอมให้พบ โม่หม่าล้างมือแล้ว อย่ามากวนน้ำให้ขุ่นอีกเลย

หลี่โหยวหว่อ: ข้าไม่เชื่อ ข้ากับโม่หม่าเป็นคนประเภทเดียวกัน
พวกเราไม่มีวันล้างมือ ข้าว่า ไม่ใช่เขาหรอกที่อยากเลิก เจ้าต่างหากที่อยากให้เขาเลิก
แล้ววันหนึ่งเจ้าจะรู้ว่า มันเป็นไปไม่ได้




เพื่อพิสูจน์ความคิดของหลี่โหยวหว่อ
ซ่งชิงยอมร่วมมือ ทำเป็นถูกคนร้ายจับตัว
โม่หม่าลงมือช่วยซ่งชิง จึงได้รู้ว่าคนร้ายคือหลี่โหยวหว่อ





ระหว่างต่อสู้โม่หม่าพลัดตกหน้าผา โชคดียังคว้าจับไว้ได้
มุนโหยวหว่อส่งไม้ไผ่ให้เขา ถ้ายังคิดไม่ตก คิดว่าตัวเองผิดต่ออาจารย์
ก็ปล่อยมือให้ตกลงไปซะ ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต
แต่ถ้าไม่อยากให้อาจารย์เจ้าเสียสละโดยเปล่าประโยชน์
ก็ไต่ไม้ไผ่กลับขึ้นมาเอง











Create Date : 04 กรกฎาคม 2552
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:06:28 น. 3 comments
Counter : 793 Pageviews.

 
จื้อกุ้ยร้ายกาจนะเนี่ย ทำร้ายผู้ชายถึงสองคน

เฮ่าเซินนี่มีพรสวรรค์จริงๆ นี่ถ้ามีใจมุ่งมั่นกว่านี้รับรองรุ่งแน่ๆ ค่ะ สามารถประยุกต์กระบวนท่าได้ซะด้วย


โดย: O-yohyo วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:15:54 น.  

 
คุณพี่หม่าฉียงแพ้แล้วไม่ยอมแพ้

อะไรจะอยากเป็นขนาดนี้ คนเรานะ

เฮ้อคล้ายการเมองบ้านเราพิกล

จื้อกุ้ยโหดร้ายไปแล้ว 555เดี๋ยวจะได้

ดาบนั้นคืนสนอง เสียดายฉากใจร้าย

ของเฮ่าเซินช่างน้อยซะเหลือเกิน ทำไมฟงถึงได้รับบทโกรธง่ายหายเร็วนักนะ โกรธนานๆ แค้นนานๆ กว่านี้ไม่ได้หรือไง


โดย: มิโดริ IP: 124.120.200.161 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:16:50 น.  

 
ลองคิดดูนะ อาจารย์เจ้าไม่เคยต้องการให้เจ้าเก่งเกินใคร
ท่านเพียงต้องการให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ เที่ยงตรง
แพ้หรือชนะไม่มีความหมาย
หากเจ้าคิดว่าจะต้องตอบแทนอาจารย์ด้วยการต่อสู้แต่เพียงอย่างเดียว
เจ้าก็ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวังแล้ว



----- โอ๊ย คำพูดนี้มันโดน พูดได้ดีมากซ่งชิง


จื้อกุ้ย หล่อนร้ายได้เป็นธรรมชาติมากกกก หรือนี่คือตัวตนที่แท้จริง




ต้วนเฮ่าเซินเห็นอาจารย์รองให้เกียรตินาง ก็ยิ่งดีใจ

ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับใครเขาหรอก พ่อคนนี้

---- เห็นภาพเลย เฮ่าเซินน่ารักซะเหลือเกิน เป็นเดือดเป็นแค้นแทนอาจารย์ของโม่หม่าด้วย ดูเป็นคนดี๊คนดี ศรีสำนักมาก


โดย: แมวเก้าแต้ม IP: 192.168.182.20, 112.142.132.223 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:22:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.