Group Blog
 
All blogs
 
ตุ๊กตาล้มลุก



(ปกติจะใช้บริการภาพของคุณแป๋ว SevenDaffodils แต่วันนี้ถ่ายเองครับ)

มีน้องท่านนึง เขียนมาถามใน Face book เช่นนี้ครับ

"สวัสดีค่ะพี่

หนูเคยคิดว่า หนูจะไม่มีทางเสียเวลาให้เรื่องความรัก ตอนเห็นพี่ตอบๆคำถาม ยังคิดว่า จะอะไรกันหนักหนา

หนูร้องไห้แล้วปวดหัว นอนทั้งวันเพราะเพลีย เป็นวงจรแบบนี้มาตั้งแค่สัปดาห์ที่แล้ว เพราะหนูเริ่มทำใจไม่ได้

พอเค้าไปหนูคิดว่า โอเควันเดียวพอ แต่นี่วันศุกร์แล้ว หนูยังทำไม่ได้เลยค่ะหนูกลับมาวนอยู่ในลูปเดิมๆอีกแล้ว หนูนอนเกือบทั้งวันมาสองสัปดาห์เต็ม หนูคิดว่าหนูเป็นคนไม่ดีไปแล้วจริงๆค่ะ หนูหมดหวังกะชีวิต ชีวิตหนูไร้ค่าค่ะ

หนูจะถามพี่ว่า ทำไมหนูถึงได้ล้มแล้วล้มอีกคะ หนูก้อตั้งใจจะเริ่มชีวิตใหม่ แต่หนูก้อพลาดอีกแล้ว หนูเสียใจ แต่ตอนที่พิมพ์นี่ พยายามตั้งสติอยู่ค่ะ (คร่ำครวญ เดี๋ยวพี่ไม่คุยด้วย)"



จิตคนเรานี่ ถ้าตามลูกเล่นมันไม่ทัน ก็น่ากลัวจริงๆนะครับ
ขนาดตั้งใจว่าจะมีสติ ไม่คร่ำครวญ ก็ยังเป็นได้ขนาดนี้ เห็นมั้ย

คุณน่ะโชคดี ที่ไม่ได้เป็นน้องผมจริงๆ อยู่บ้านเดียวกัน
ไม่งั้นผมคงใช้วิธีอาจารย์เซ็น เอาไม้เคาะหัวโป๊กให้ไปแล้ว

จุดอ่อนคุณอยู่ที่ "ความคิด" คุณไหลตามความคิด
คุณไปตามใจจิตที่มันคร่ำครวญ ที่มันปรุงความอ่อนแอมาให้คุณเสพ
พอเสพแล้ว คุณก็มาบอกว่า หนูหมดหวัง หนูไร้ค่า ฯลฯ ปัดโธ่

ปัญหาของคุณอีกอย่างคือ ถ้าย้อนกลับไปอ่านดู
จะพบว่ามีคำอยู่คำหนึ่ง อยู่ในทุกประโยคที่คุณคร่ำครวญมา คำไหนรู้ไหม?

คำว่า "หนู" ไง หนูอย่างนั้น หนูอย่างนี้ หนูอย่างโน้น

พระพุทธเจ้าบอกว่า คนเราทุกข์ เพราะความไม่รู้
ไม่รู้ความจริงว่า กายนี้ ใจนี้ ไม่ใช่ตัวใช่ตนอะไร
ตัวตนมีขึ้น เพราะจิตมันเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ว่านี่คือเรา

เรื่องนี้ ผมเคยยกตัวอย่างเรื่องรถ เรื่องเครื่องบิน วันนี้เอาของกินมั่ง

สมมติว่า ต้มยำกุ้ง มันมีจิต แล้วมันคิดนึกปรุงแต่งรู้สึกรับรู้ได้
เกิดมีคนไปถามว่า "เธอคือใคร" มันก็คงตอบซื่อๆว่า "ต้มยำกุ้ง"

แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่เรียกว่า ต้มยำกุ้ง มันก็คือการประกอบกันเข้า
ของส่วนประกอบหลายส่วน อย่าง น้ำ กุ้ง พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ฯลฯ

ตอนก่อนจะเริ่มต้ม ตอนที่เครื่องปรุงมันอยู่แยกกันเป็นส่วนๆ
น้ำอยู่ในหม้อส่วนนึง กุ้งใส่จานต่างหาก พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
น้ำปลา มะนาว น้ำพริกเผา อยู่ในถ้วยแยกกัน

ถ้าผมชี้ถามทีละอันว่า "ไอ้นี่อะไร" เช่นชี้ไปที่น้ำปลา
คงไม่มีใครตอบว่า "ต้มยำกุ้ง" ใช่ไหม ทุกคนก็ต้องว่า "อิท อิส อะ น้ำปลา"
ชี้ไปที่ น้ำ แล้วถาม ก็ต้องบอกว่าน้ำ ก็คงไม่มีใครตอบว่าต้มยำกุ้งหรอก

ฉันใดฉันนั้น ถ้าแยกสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเราออกมาเป็นกองๆ
ร่างกายส่วนนึง จิตใจอีกสี่ส่วน ความรู้สึก ความจำ ความคิดนึกปรุงแต่ง ความรับรู้

การแยกส่วนประกอบแบบนี้ จะช่วยให้เราทำลายความเห็นผิด
ว่ากายนี้ ใจนี้ คือตัวตน เริ่มขึ้นวิถีแห่งการมีปัญญาแท้ๆ ว่าตัวเราไม่มี

ที่คร่ำครวญน่ะคือการทำงานของจิต มีตัวเราตรงไหนล่ะ
ก็ไอ้ที่ทุกข์เพราะเราไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นใช่ไหม
แปลว่าเราสั่งมันไม่ได้น่ะสิ เมื่อสั่งไม่ได้ แล้วจะเรียกว่าเป็นตัวเราได้ไง

สิ่งที่ใกล้เคียงกับความเป็น "เรา" ที่สุด คือตัวจิตที่ไปรับรู้สิ่งต่างๆ
ความรู้สึกต่างๆ ที่จิตปรุง แต่ไม่รู้เฉยๆ ไปโมเมสเตชั่นด้วยว่า
นั่นแหละ ฉันล่ะ ฉันอย่างนั้น ฉันอย่างนี้ ทั้งๆที่มันไม่มีตรงไหนเลย ที่เป็นเรา

มนุษย์เราน่าสงสารในทางหนึ่ง แต่ก็น่าเขกหัวในอีกทาง
คือโง่กันได้แบบซ้ำซาก เหมือนคนบ้าลากของหนักไปทั่ว
มันไม่ใช่ของเราสักหน่อย ดันไปยึดไปถือไปแบกไว้ แล้วก็บ่นว่า..ทุกข์จัง

เมื่อยังไม่เห็นความจริง ยังแบกไว้ ก็ต้องล้มลุกคลุกคลานอย่างนี้

ถ้าแนะนำแบบทางโลก ก็ต้องชวนให้นึกถึงตุ๊กตาล้มลุก
รู้จักไหมเรา? ตุ๊กตาที่ก้นมนๆ ผลักให้ล้มกี่ครั้ง มันก็จะเด้งกลับมาตั้งได้เสมอ
ทำตัวเป็นแบบนั้นไว้ อย่าเอาแต่บ่นว่าล้มอีกแล้วๆๆ

มันไม่สำคัญหรอกว่าล้มกี่ครั้ง
มันสำคัญว่า ขอให้ลุกขึ้นใหม่ให้ได้เท่าจำนวนครั้งที่ล้มก็พอ

วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกฯอังกฤษ
ที่พาอังกฤษสู้สงครามโลกกับฮิตเลอร์ เคยพูดว่า..

คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะไม่เคยล้มเหลว
แต่เพราะเขาสามารถผ่านความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยไม่สูญเสียกำลังใจ.. ต่างหากนะ

สุขสันต์วันที่ยังมีโอกาสให้เราล้มแล้วลุกได้นะครับ





Create Date : 19 ธันวาคม 2553
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 11:49:40 น. 12 comments
Counter : 1539 Pageviews.

 
คิดแบบพี่เอ๊ดยากเนอะ...
ต้องปฏิบัติมาพอควรสติกล้าแกร่ง..

แต่ทุกข์ครั้งที่มีอะไรแรงๆมากระทบ
จนเซหรือล้มหรือล้มแล้วโดนกระทืบซ้ำ

แค่คิดว่า..เราต่างเวียนว่ายตายเกิดมาหลายภพ
เราต้องเคยทำเค้าแบบนี้...
ช่างมัน...ถือว่าใช่เค้าไป
ไม่แน่เราอาจทำเค้ามากกว่านี้ก็ได้...

ชาติหน้าอย่าได้เจอกันอีกเลย โหสิๆๆๆๆ

ล้มแล้วต้องลุกค่ะสู้ๆๆๆๆ


โดย: Zuni.. IP: 183.89.53.140 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:12:14:33 น.  

 
วันหยุดอีกวันน


โดย: Junenaka1 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:12:27:08 น.  

 
"มันไม่สำคัญหรอกว่าล้มกี่ครั้ง
มันสำคัญว่า ขอให้ลุกขึ้นใหม่ให้ได้เท่าจำนวนครั้งที่ล้มก็พอ"
กดปุ่ม 'like' ค่ะ


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.35.175 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:14:00:44 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ เลยคะ
กำลังคิดทบทวนเรื่องบางอย่างอยู่พอดี
คิดซ้ำไปซ้ำมา คือทำใจรับไม่ได้
แล้วก็คิดได้ จะมานั่งเศร้าทำไม
มีอะไรต้องมากมายที่ยังไม่ได้ทำในชีวิต
เห็นด้วยคะ สำคัญว่า ขอให้ลุกขึ้นใหม่ให้ได้ของคุณต้นอ้อ
รู้สึกดีมาก ขอบคุณคะ


โดย: yuisy IP: 115.87.72.229 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:19:43:45 น.  

 
อ่านแล้วได้สติดีจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่มีให้อ่านเสมอมา
;)


โดย: Aoy IP: 58.8.36.195 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:22:19:22 น.  

 
คุณแอสตันถ่ายรูปสวยเหมือนคุณแป๋วเลยค่ะ :)


โดย: L J IP: 203.111.236.18 วันที่: 20 ธันวาคม 2553 เวลา:19:55:29 น.  

 
สงสัยอยู่ใกล้ๆจะไปปลอดภัยเสียแล้ว
มีเขกหัวด้วย บางคนล้มแล้วลุกยาก
เพราะอาจจะเจ็บหนัก แต่ถ้ายังอยากจะลุก
ก็นับว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง....
ดีกว่าไม่ยอมที่จะลุกขึ้นยืน
รูปสีสวยมาก angle กำลังดีทีเดียว...


โดย: phenprapa IP: 1.47.219.127 วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:13:37:34 น.  

 
ค้ม...คม
วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกฯอังกฤษ
ที่พาอังกฤษสู้สงครามโลกกับฮิตเลอร์ เคยพูดว่า..

คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะไม่เคยล้มเหลว
แต่เพราะเขาสามารถผ่านความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยไม่สูญเสียกำลังใจ.. ต่างหากนะ



โดย: oui IP: 110.164.206.20 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:9:31:22 น.  

 
มันไม่สำคัญหรอกว่าล้มกี่ครั้ง
มันสำคัญว่า ขอให้ลุกขึ้นใหม่ให้ได้เท่าจำนวนครั้งที่ล้มก็พอ
.....สุดยอด ล้มก้อต้องรู้จักลุก ล้มเองลุกเอง สู้ๆๆๆๆ


โดย: poo IP: 202.183.193.44 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:15:08:12 น.  

 
เพิ่งคิดเหมือนกันเลยค่ะว่าชีวิตก็เหมือนตุ๊กตาล้มลุก ไม่ว่าจะผิดหวังสักกี่ครั้งก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่ให้ได้ พอได้มาอ่านบล็อกของพี่เอ๊ดดี้วันนี้พอดีก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ต้องยอมรับค่ะ ว่าทำยากเหลือเกิน แต่ก็จะต้องพยายามทำให้ได้
ไม่ว่าในเรื่องใดๆ ก็ตาม


โดย: ยุ้ย IP: 24.7.178.141 วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:22:57:53 น.  

 

แล้วมันจะผ่านไป.......

.....เหมือนที่เคยผ่านมา


โดย: นก IP: 10.123.101.115, 119.46.151.53 วันที่: 24 ธันวาคม 2553 เวลา:17:21:30 น.  

 
ขอป็นกำลังใจให้เจ้าของคำถามน่ะค่ะ

เมื่อวานฉันเป้นอย่างคุณค่ะ เเต่เมื่อเช้านี้ฉันได้เข้าใจ เเละได้คำตอบเเล้ว เป้นความโชคดีที่ฉันได้เจอหนังสือของท่าน ติส นัช ฮัน เข้า
ฉันรู้เเล้วว่าสิ่งที่ค้างคาใจฉันเสมอมา คือ ฐิทิ แต่ตอนนี้ฉันก้าวผ่านมันไปแล้ว
ฉันโทรไปหาเค้า เราคุยกัน เเล้วจบด้วยคำว่า โชคดีน่ะค่ะ

let it be


โดย: gad. IP: 192.168.200.127, 115.87.235.116 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:12:19:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.