Group Blog
 
All blogs
 
ก้าวหนึ่ง ก็ถึงได้



ผมเคยได้ยินชื่อของวัดถ้ำผาปล่องมานาน จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อปราโมทย์
และกัลยาณมิตรอีกหลายท่าน ว่าเป็นวัดที่ควรแก่การไปสักการะบูชา และเจริญภาวนา

หลังจากวางแผนมาหลายครั้ง ผมก็พาตัวเองไปถึงอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่จนได้
ถัดจากทางขึ้นถ้ำเชียงดาวไปอีก 2 กม. ก็เป็นที่ตั้งของวัดถ้ำผาปล่อง

เรื่องน่าเขกกระโหลกตัวเองอย่างหนึ่งคือ
สมัยที่ยังอยู่เชียงใหม่ ผมบุญน้อย ไม่เคยรู้จักวัดนี้และหลวงปู่สิมเลย
ขนาดเคยมาถึงถ้ำเชียงดาวแล้ว ก็ไม่ใส่ใจว่าจะต้องเลยไปอีกแค่อึดใจเดียว จะมีของดีรออยู่

มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งของชาวพุทธมั้งครับ
พวกเราอยู่ใกล้วัด ใกล้พระธรรม ใกล้พุทธศาสนามาตั้งแต่เกิด
แต่น้อยคนจะเห็นและตระหนักถึงคุณค่าของมัน

ทางขึ้นของวัด ก็เหมือนวัดที่อยู่บนภูเขาทั่วๆไปครับ คือมีบันไดสูงชันหลายร้อยขั้น
ให้สาธุชนได้ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจตนเอง

ช่วงแรกของการเดินขึ้น มีจำนวน 201 ขั้น กว่าจะถึงผมหืดแทบจับ
เพราะมั่นใจในสังขารตัวเองไปหน่อย เลยจ้ำไว เหมือนจะไปตามควาย
เดชะบุญมีศาลาให้พักหายใจหายคอ
ผมว่าคนสร้างทางขึ้น คงคำนวณแล้วล่ะ ว่ามาขนาดนี้สมควรจะพักก่อนหน่อยนึง

บนศาลามีป้ายบอกว่า “ท่านได้ผ่าน 201 ขั้นที่ยากเย็นมาแล้ว
จงเดินต่อไปอีก 301 ขั้นที่สบายกว่า เพื่อขึ้นไปนมัสการ...ฯลฯ”
อ่านแล้วตาเหลือกว่า ไอ้ที่เหลือนี่เยอะกว่าที่ผ่านมาอีกเหรอ ^^”

แต่ไหนๆก็มาจะครึ่งทางแล้ว แถมตั้งใจมานานว่าจะมาเจริญภาวนาที่นี่
เลยออกเดินต่อ ปรากฏว่า ส่วนหลังมันเดินง่ายกว่าจริงๆนะ
เพราะมันมีทางลาดลงสลับขึ้นส่วนหนึ่ง

แล้วผมเปลี่ยนการเดิน เป็นเดินเรื่อยๆในจังหวะที่ไม่ช้า ไม่เร็ว
แต่เดินด้วยสติ ความรู้สึกตัว ทีละก้าวๆๆๆ

ผมพบว่า ถ้าจะเดินขึ้นยอดเขา อย่ามองไกลหรือสูงเกินไป
ขอให้รู้แน่ว่า เดินขึ้นเขาถูกลูก เดินขึ้นบันไดถูกอัน
ไม่ใช่อยากไปดอยสุเทพ แต่ไปเดินขึ้นเขาพระวิหารงี้ อีกร้อยปีก็ไม่ถึง

ถ้ามั่นใจว่ารู้จุดหมาย เลือกทางเดินขึ้นถูกแล้ว
ก็มองไปข้างหน้าแค่ระยะสายตา แล้วเดินทีละขั้นๆ แล้วมันจะไม่ท้อ
จะไม่มัวมาทุกข์ร้อนว่า เหลืออีกตั้งไกลแน่ะ เมื่อไหร่จะถึงว้า

และอย่านับก้าว ว่าก้าวผ่านมาแล้วกี่ก้าว
ให้ถือว่าทุกก้าว คือก้าวที่หนึ่งเสมอ
เหมือนที่ครูบาอาจารย์สอนว่าให้นับหนึ่งทุกวัน

ชีวิตเราก็เหมือนกันนะ.. บางคนตั้งใจทำอะไรดีๆไว้
ผ่านไปได้ครึ่งทางมันเหนื่อยมาก.... ก็เริ่มท้อ

มีคนมาบ่นเรื่องท้อกับผมบ่อยๆ ผมก็บอกได้แค่ว่าท้อได้แต่อย่าถอย
อันนี้เฉพาะถ้าตั้งใจในเรื่องดีนะ ไอ้ประเภทอยากแย่งสามีคนอื่นนี่ไม่นับ
และไม่ควรลังเลที่จะเลิกเสีย เพราะเขาไม่เรียกตั้งใจดี เขาเรียกตั้งใจชั่ว

คนเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ลิงบนตลับยาหม่อง จะได้นั่งถือลูกท้ออยู่ชั่วนาตาปี
จนควักยาหม่องมาใช้หมดไปหลายสิบปี
ลิงนั่นก็ยังนั่งถือลูกท้อบนฝาตลับ ไม่ขยับไปไหนสักที
ถ้าเหนื่อยก็พักพอหายเหนื่อยแล้วก็เดินต่อ เดินทีละก้าวๆนี่แหละ

จุดหมายที่ตั้งใจไว้ ถ้าไม่หยุดเดิน.. ไม่ลื่นตกเขาลงมาคอหักตายก่อน
ยังไงมันก็ถึง... ว่ามั้ยล่ะ
เสียดายว่า พอขึ้นไปถึงยอดเขา ภาวนาดี ชิวๆ วิวสวยขนาดไหน
ถ้ายังมีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน มีที่ตั้งแห่งความยึดมั่น
มันก็ยังต้องเดินกลับลงมา เพราะวัดเขาก็มีเวลาปิดถ้ำ

การเดินทางในสังสารวัฏ ก็เหมือนกัน
ชีวิตทุกชีวิตมีช่วงเวลาสิ้นสุดของมัน
มันไม่สุดจริง ตราบใดที่ยังไม่ถึงพระนิพพาน

คุณคงอยากถามว่า แล้วตอนจบของการเดินทางไปวัดถ้ำผาปล่องของผมเป็นยังไง
คำตอบของผม อยู่ในรูปที่ประกอบบทความนี้แล้วครับ

สุขสันต์วันที่ยังต้องเดินขึ้นๆลงๆนะครับ




Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 11:25:46 น. 14 comments
Counter : 1794 Pageviews.

 
รูปสวยงามค่ะ สีทองเหลืออร่าม

..ค่อยๆ ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ อย่าคิดว่ามันยาก
เดี๋ยวก็สำเร็จเนอะ


โดย: pinkypunch วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:39:34 น.  

 
เอนทรี่นี้มีความน่ารักเยอะแยะจัง
เรื่องสิ่งดีดีที่เขียนให้เราได้อ่านเนี่ยไม่ต้องเอ่ยแล้วของมันฟ้องที่ตัวเนื้อหา แต่ชอบจังเลย เราไม่ใช่ลิงบนตลับยาหม่องจะได้ท้ออยู่นั่น พี่ช่างเปรียบได้น่ารักและได้สติดีจังเลยนะคะ

รูปสวยและชื่นชมในการขึ้นบันได้จนได้สักการะค่ะ


โดย: ละอองเวลา วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:26:07 น.  

 
ว้าวเฝ้ารอพี่อัพบล็อกอย่างใจจดใจจ่อ และแล้วก็ได้อ่าน
เข้าใจยกตัวอย่างลิงถือลูกท้อนะคะ ชอบมากเลยเห็นภาพได้ชัดเจนดีคะ
สุขสันต์วันที่ยังต้องเดินขึ้นๆลงๆเช่นกันคะ

ปล.ภาพหนึ่งใบแต่ละคนก็ตีความหมายได้ไม่เหมือนกัน


โดย: เจ็บแต่ตอนหายใจ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:16:06 น.  

 





แวะมาทักทายตอนบ่ายๆ เอาดอกไม้สวยๆมาฝากค่ะ


โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:04:03 น.  

 
Great theme..
Everything that has a Beginning,
Has an end.


โดย: SkylineKip วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:14:56 น.  

 
ตอนนี้ กำลังเดินลงๆ เรื่อยๆๆค่ะ


โดย: candy IP: 125.25.238.167 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:53:23 น.  

 
สาธุ อนุโมทนา ให้ข้อคิดดี ขอบคุณภาพสวยๆด้วย


โดย: SPnoy IP: 119.31.3.251 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:48:39 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน และฝากข้อความไว้นะครับ ^^


โดย: aston27 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:42:54 น.  

 
อยากไปบ้างจังเลย สาว(เหลือ)น้อยอย่างเราจะนับหนึ่ง500กว่าครั้งไหวมั้ยน้า
จากคนเคยตื่นแล้วหลับต่อ^-^


โดย: คนเคยตื่นแล้วหลับต่อ^-^ IP: 10.20.32.34, 203.146.104.32 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:22:16 น.  

 
ปัญหาคือ ไม่รู้ว่าเราเดินมาถูกทางหรือเปล่าค่ะ
ถ้าเปรียบก็เหมือนคนที่เดินหลงอยู่ในถ้ำ และเห็นทางออกหลายๆทาง แต่ไม่รู้ว่าทางไหนเป็นทางออกที่เราต้องการ เมื่อเลือกว่าจะไปทางนึง เดินไปได้ระยะนึง ก็เกิดความสงสัยกับตัวเองว่า ฉันเดินไปถูกทางหรือเปล่าเนี่ย ควรเดินไปต่อดี หรือ เดินกลับหลัง เพื่อย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นดีค่ะ


โดย: คนคลำทาง IP: 58.137.173.82 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:29:07 น.  

 
คุณคนคลำทางครับ

ลองเดินทางที่เราสะดวกใจจะเดินที่สุดนั่นแหละครับ

ลองไปสักพักนึง แต่ทำให้ต่อเนื่อง สักระยะนึง แล้วจะค่อยๆรู้เอง ว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า

ถ้าเรามีสติเพิ่มขึ้น รู้ทันกิเลสมากขึ้น ใจเบาขึ้น เห็นทุกข์มากขึ้น เห็นความเปลี่ยนแปลงของใจตัวเองบ่อยๆ เห็นธาตุขันธ์มันแยกตัวออก ฯลฯ ความพอกพูนในอัตตามันบางลง

อันนั้นแปลว่า เราเดินถูกทางแล้ว ก็เดินต่อไป

แต่ถ้าภาวนาทางนั้นแล้ว ผลมันเป็นตรงข้ามกับที่ผมบอกมา ก็น่าจะเปลี่ยนครับ


โดย: aston27 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:30:24 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลย กะลังเก็บทีละ blog เริ่มจากอันล่าสุด ชอบมากๆค่า กด like 10 ที ^^



โดย: bow_Herbalife IP: 180.180.7.110 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:28:24 น.  

 

แอมเพิ่งไปเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาวเมื่อปลายปีที่แล้ว
และพี่กิจ (กะว่าก๋า) ก็แนะนำแกมกำชับว่า
อย่าลืมแวะเที่ยววัดถ้ำผาปล่องแห่งนี้
แต่ด้วยเวลาที่มี ทำให้แอมไม่ได้แวะไป
ได้มาอ่านบล็อกพี่เอ๊ดแล้วรู้สึกเสียดายจัง
น่าเขกกะโหลกตัวเองเหมือนกัน

ขอบคุณวิวยอดดอยหลวงสวยๆ จากการไม่ท้อของพี่เอ๊ดค่ะ
^^


โดย: am^^ IP: 58.8.159.106 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:34:13 น.  

 
@am แหม.. เสียดายจัง ^^


โดย: aston27 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:06:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.