Group Blog
 
All blogs
 
My Sister's Keeper คนดี คนป่วย กับสิทธิในชีวิต



ผมจำได้ไม่ถนัดว่า ชีวิตนี้ผมเคยรู้จักคนที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งมาแล้วกี่คน
จำได้แต่ว่าอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้ มีแนวโน้มลดลงจากสมัยก่อนมาก
ใครคิดว่า คนจะเป็นมะเร็งต้องสูงอายุมากๆ ต้องลองไปดูที่ศูนย์ผู้ป่วยโรคนี้
แล้วจะพบว่า มีหลายคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุน้อยๆอย่างน่าใจหาย

สิ่งที่ผมค้นพบอีกอย่างคือ บางครั้งคนที่น่าเป็นห่วงกลับไม่ใช่คนป่วย
แต่เป็นคนที่อยู่ข้างหลัง หรือคนที่แวดล้อมดูแลคนป่วยนั่นแหละ
ในบางกรณี ผมพบว่าคนป่วยกลับต้องมาปลอบใจญาติ จนไม่รู้ว่า ตกลงใครป่วยกันแน่

ว่ากันว่า คนเราอาจจะป่วยกายได้ โดยไม่ป่วยใจ
และอาจบางทีก็ป่วยใจได้ โดยไม่ป่วยกาย

เหมือนเรื่องราวในหนังที่ผมตั้งตารอ DVD ของแท้มาหลายเดือน เรื่องนี้
และหลังจากได้ชมแล้ว ผมกับแฟนก็เทใจให้ 10 คะแนนเต็มๆ

My Sister's Keeper เป็นหนังที่สร้างจากนวนิยายระดับขายดีมากๆ ของโจดี้ พิคูลท์
พูดถึงครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาวคนกลางป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย)
และลูกสาวคนเล็ก ที่เกิดจากหลอดแก้วเพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนทางชีวภาพให้พี่สาว

จุดเริ่มของหนัง พูดถึงการที่น้องสาวคนเล็กที่ว่าเดินไปหาทนายความ
เพื่อฟ้องขอเรียกร้องสิทธิในการตัดสินใจเหนือร่างกายของตัวเอง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็พูดถึงความป่วยของสมาชิกในบ้านแต่ละคน
ผ่านมุมมองของแต่ละคน รวมไปถึงตัวเด็กที่ป่วยเอง

ความดีเด่นของหนังคือ บทมันให้น้ำหนักที่เราเข้าถึง เข้าใจทุกคนในเรื่องได้
ตั้งแต่แม่ที่พยายามช่วยลูกคนหนึ่งให้อยู่ จนไม่สนใจว่าจะต้องทำวิธีไหน

พ่อที่ต้องคอยประคับประคองครอบครัวในเวลาที่ซวนเซ เพราะตามใจแม่
ลูกสาวคนเล็กที่ลุกมาฟ้องร้องพ่อแม่ตัวเอง ทั้งที่ไม่อยากทำ
ดูเหมือนเธอไม่ต้องการช่วยพี่สาว แต่เธอฟ้องคดีนี้ก็เพื่อพี่สาวเธอนั่นแหละ
ทนายที่เหมือนจะหน้าเงิน แต่กลับรับทำคดีที่ได้เงินเพียงน้อยนิด

หรือกระทั่งคนป่วย ที่ไม่ได้ต้องการยุดยื้อให้ทรมานตั้ง 14 ปี
และเลือกจะไปนั่งริมทะเล มากกว่าจะอุดอู้บนเตียงคนป่วยไปจนตาย

อย่างที่บอกว่า ถ้าเราคิดว่าคนป่วยเป็นมะเร็งน่าเป็นห่วง ผมว่าไม่ใช่
ครอบครัวที่ต้องดูแลคนป่วยเป็นมะเร็งต่างหาก ที่น่าห่วง
เพราะไม่มีมะเร็งอะไรที่ร้าย เท่ากับมะเร็งที่กัดกินจิตใจของคนในครอบครัว

หนังเหมือนจะหดหู่ แต่ในความจริง ไม่เลยนะครับ
เขานำเสนอออกมาได้สวยงาม และรักษาโทนของความรักในครอบครัวได้ดี

ที่เด่นมาก คือการพูดถึงการยอมรับความตายอย่างกล้าหาญของเด็กคนหนึ่ง
คนเราถ้าเวลานั้นจะมาถึง แล้วเรายอมรับได้ ความตายก็ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว

ที่น่ากลัวกว่าคือ เราได้เตรียมตัวไว้ดีพอหรือยังที่จะตาย
เพราะการตายของมนุษย์ เป็นแค่รอยต่อหนึ่งในสังสารวัฏที่ยาวไกล ไม่สิ้นสุด

การมีจุติจิต จิตสุดท้ายก่อนจะไปเกิดปฏิสนธิจิตในภพภูมิใหม่ เป็นสิ่งสำคัญ
ถ้าจุติจิตไม่ดี เราจะไปอบายภูมิ แต่ถ้าดี ก็จะปฏิสนธิในสุขคติภูมิ
หรือดีกว่านั้น ถ้าปล่อยวางจิตได้ อาจจะได้มรรคผลนิพพานไปเลย

ทุกคนมีสิทธิในการมีชีวิตอยู่ และเลือกใช้ชีวิตได้ในกรอบของกฏหมาย
ทุกคนมักจะพูดว่า ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตตัวเอง

คำถามคือ เรารู้หรือยังว่า อะไรคือสิ่งที่ "ดีที่สุด สำหรับชีวิต" จริงๆ?

สุขสันต์วันที่เรายังมีโอกาสจะเลือกนะครับ


Create Date : 10 มกราคม 2553
Last Update : 11 มกราคม 2553 8:13:25 น. 16 comments
Counter : 6328 Pageviews.

 
จะรีบหาหนังเรื่องนี้มาดูนะคะ เล็งๆอยู่เหมือนกันคะ


โดย: มุทิตา IP: 58.10.192.97 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:8:12:57 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะพี่


โดย: chaordic วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:9:04:52 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: กอบ IP: 115.67.252.247 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:13:13:54 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ที่คอยกระตุ้นเตือนให้เราหาสิ่งที่ "ดีที่สุด สำหรับชีวิต" จริงๆเสียที



โดย: Budd IP: 58.11.57.214 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:13:25:27 น.  

 
ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัว
ใช้ได้กับทุกคนจริงๆ


โดย: noi IP: 10.1.20.35, 61.91.248.100 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:16:15:23 น.  

 
อ่านบทวิจารณ์วันนี้แล้ว คิดว่าจะไปหามาดูค่ะ


โดย: เป่าจิน วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:17:16:55 น.  

 
สวัสดีครับพี่แอสตัน


ผมตามบล้อกพี่มา
เพราะพี่แป๋วส่งหนังสือธนาคารความสุขมาให้ผมทั้งสองเล่มเลยครับ

ผมชื่นชมและชื่นชอบฝีมือการถ่ายภาพของพี่แป๋วมากครับ


ตอนนี้อ่านเล่ม 1 ไปได้ครึ่งเล่มแล้วครับ
เดี๋ยวจะโดดงานไปอ่านต่อให่จบเล่มเลย 555

หนังสือของพี่อ่านสนุกมากครับ
เขียนได้เข้าใจง่ายมาก
และแทรกธรรมะที่คนอ่านสามารถคิดตามปฏิบัติตามได้โดยไม่ยาก


อ่านมาครึ่งเล่ม
ชอบการเปรียบเปรยเรื่องทะเลกับก้อนหินที่บาหลีครับพี่

คมคายและเห็นภาพชัดเจนดีครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:41:18 น.  

 
อ้อว่า..คนที่ป่วยทั้งกาย ป่วยทั้งใจ ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะคะพี่ ^^

อ่านบล็อกแล้วนึกถึง บทกลอนของ อ.ระวี ภาวิไล ค่ะ
จากโน่น มาที่นี่
อยู่ที่นี่ ทำอะไร
จากนี่ จะไปไหน
ไปทำไม เพื่ออะไร

ถ้าเรารู้ว่า เราอยู่เพื่ออะไร เราก็จะรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต
เมื่อเราใช้สิทธิ์ในการมีชีวิตไว้ดีแล้ว ความตายก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล
:)

ขอบคุณค่ะพี่เอ๊ด กับเนื้อหาและคำถามในบล็อก
ที่ช่วยเตือนให้ระลึกถึงเป้าหมายที่สำคัญของชีวิต
(^/\\^)


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.36.35 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:19:49:48 น.  

 
กำลังดูแลญาติผู้ใหญ่ซึ่งป่วยเป็นโรคนี้อยู่ค่ะ
ทุกวันจันทร์จะไปดูแลท่านตอนไปให้คีโมที่โรงพยาบาล เราต้องไปก่อนเื่พื่อรับบัตรคิว ออกจากบ้านตีห้านั่งรถแท็กซี่ขึ้นทางด่วนถึง รพ.ตีห้าครึ่ง ยังได้คิวที่100 กว่า ไปถึงมีคนรอหน้า รพ. เต็มไปหมด ระหว่างรอเรียกรับบัตรเพื่อไปรักษาต่อจะเห็นคนมา รพ. มากขึ้นๆ มีทั้งคนแก่ วัยทำงาน วัยรุ่น และ เด็กๆ เห็นแล้วก็ น้ำตาไหลเลยค่ะ (ทั้งๆ ที่ไปหลายครั้งแล้ว) เห็นว่าการเกิดนี้เป็นทุกข์จริงๆ ค่ะ ตัวเราเองก็คงต้องเจอกับสภาพนี้เข้าสักวัน อนิจจัง สุขขัง อนัตตา จริงๆ ค่ะ ยังไงก็ตามจะดูแลผู้ป่วยและตนเองให้ดีที่สุดค่ะ


โดย: พิม IP: 124.157.137.138 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:10:09:33 น.  

 
อายุมาก โรคถามหา^^"

เดี๋ยวนี้ นึกจะมา จะเป็น ก้อเป็นกันได้ทุกวัย^^"



รับมือกับมันยังไงดีคุณเอ็ด???


โดย: พี่แหม๋ว IP: 58.11.72.180 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:15:10:28 น.  

 
ได้ดูแล้วค่ะ สงสารตัวละครทุกตัว แต่ทุกคนต่างพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนที่เขารัก เมื่อถึงเวลาจากกันก็ไม่มีใครต้องเสียใจ


โดย: songta IP: 110.164.125.251 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:41:48 น.  

 
ดูแล้วค่ะ หนังดีมาก ร้องไห้ทั้งเรื่องเลย...ชีวิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ


โดย: เมย์ IP: 202.44.135.39 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:50:35 น.  

 
พูดถึงหนังที่แสดงถึงความรักของคนในครอบครัว ไม่รู้เคยดูเรื่อง Klye XYรึยังคะ? เป็นseriesหนังแนวเหนือธรรมชาติ โดยมนุษย์ชายที่ถูกสร้างให้เกิดจากหลอดแก้วเป็นเวลา17ปี(ไม่รู้จะใช้คำว่าคลอด,กระเทาะเปลือก,หรือแหวกดี-"-เพราะเปิดแค็ปซูลหลอดแก้วที่ฟักตัวออกมา)จู่ๆก็เกิดมาโตแล้วโตโดยไม่มีความทรงจำเลย แต่มีความอัจฉริยะมากกกกกกก ไคล์อยู่ในความดูแลของคุณหมอที่มีครอบประกอบด้วยสามีลูกสาว ลูกชาย เค้าต้องเริ่มชีวิตใหม่ที่เพิ่งเกิดใหม่ในวัย 17กับครอบครัวนี้ (ลองดูนะคะว่าดียังไง)


โดย: dekcing IP: 110.49.190.239 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:0:20:16 น.  

 
ยังไม่เคยครับ ^^

ขอบคุณที่แนะนำครับ แต่ซีรีส์ จะหาเวลาดูยากหน่อยครับ เพราะมันต้องดูต่อเนื่อง ^^


โดย: aston27 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:10:00:14 น.  

 
ขอเป็นแฟนคลับของคุณ aston27 นะครับ
ชอบผลงานเขียนของคุณมาก ให้ผลดีในการดำเนินชีวิตสำหรับผมได้เป็นอย่างดี ผม Follow คุณด้วยนะในทวีตเตอร์ ^^


โดย: tackoda IP: 192.168.100.116, 124.122.182.253 วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:21:53:20 น.  

 
น่าดูมากครับ


-----------------------------------------------------------------------------
Onkyo TX-NR708 Price Onkyo TX-NR5008 Price Onkyo TX-SR603X Onkyo TX-905 Onkyo TX-NR1008 Price 5231JA2006 LG LRBP1031


โดย: bookza วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:14:05:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.