Group Blog
 
All blogs
 
อันเนื่องมาจาก "เรารักกันมาก"


(ภาพประกอบเอื้อเฟื้อโดยคุณแป๋ว SevenDaffodils ครับ)

พี่แอสตัน

แฟนที่คบกันมา 8 ปี โทรมาบอกว่าทำผู้หญิงท้อง เรารักกันมากและน้องไม่เคยระแวงเรื่องนี้มาก่อนเลย

ทางผู้ใหญ่บ้านน้องไม่ยินยอม ให้จดทะเบียนสมรสไว้ก่อน และเราเองก็ทำใจไม่ได้ในตอนนั้น เราเชื่อว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจ และจะกลับมา

แต่เราก็ดูและเข้าใจว่าไม่เหมือนเดิม เค้าบอกความจริงว่า เค้าอยู่กันมานานเป็นปีและผูกพันกัน เค้าให้น้องยอมรับเราก็อยู่ส่วนเรา เค้าก็อยู่ส่วนเค้า

เราเจ็บปวดกับเรื่องนี้มากร้องไห้อย่างหนักและคิดฆ่าตัวตายด้วย แต่ได้ครอบครัวและเพื่อน รวมทั้งBlogพี่เป็นกำลังใจ

จนมาวันนี้เราเริ่มทำใจยอมรับมัน ติดที่ว่าครอบครัวต้องการเรียกเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเค้าก็บอกว่าจะหาให้ แต่เค้าก็โทรมาอ้อนวอนถึงความลำบากเมื่อให้เงินเราแล้ว

อยากถามพี่แอสตันว่า
1. การที่เราเรียกร้องค่าเสียหาย ที่เราเสียชื่อเสียงเป็นบาปไหมคะ

2. พรุ่งนี้น้องจะพบเค้าเพื่อเจรจาถ้าจบไม่ได้คิดว่าต้องฟ้องร้อง ซึ่งไม่อยากให้เกิดเนื่องจากเราก็ยังก็จิตใจ ไม่เข้มแข็งและอีกอย่างก็เป็นคนที่เคยรัก

3. เค้ายังอยากให้เรายังคงพูดคุย และเมื่อเค้าลำบากก็ให้การช่วยเหลือ (อยากให้พูดจาเหมือนแฟนกัน)

น้องลำบากใจมาก เราควรมีวิธีวางตัว วางใจอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะเราก็ติดใจว่าเราเอาเงินเค้ามา (แต่ผู้ใหญ่คงไม่ให้เก็บเองกลัวน้องเอาไปคืน)

น้องก็อ่านปัญหาที่ลงในBlog ของพี่แอสตันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้และรักษาจิตใจตัวเองมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ ถ้ามีคดีความเราเองก็อยากให้ใจตัวเองเข้มแข็งเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้

ขอบคุณพี่แอสตันมากนะค่ะ


ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า เวลามีคนมาร้องไห้ในบล็อกผม ว่าแฟนนอกใจ
รายไหนรายนั้นจะต้องพูดว่า "เรารักกันมาก"

ผมถึงกับขึ้นบัญชีดำประโยคนี้ไว้ ว่าเป็นประโยคที่ เชื่อถือไม่ได้เลย

ความรักเหมือนระดับน้ำ มันขึ้นๆลงๆตามแรงดึงดูดของพระจันทร์กับปัจจัยอีก 108
วันนี้รักมาก ไม่ได้แปลว่าวันหน้าจะรักเท่าเดิม

ถ้าวันนี้มีใครมาบอกว่า "รักคุณ" ให้เชื่อเขาแค่ 40
อีก 60 ให้เผื่อใจไว้ว่าเขา "รักตัวเอง" เพราะพิสูจน์กันมาแล้วว่า
นอกจากพ่อแม่แล้ว หาคนอื่นที่จะรักเรามากกว่าตัวเอง ...ยากนัก

ใจจริง ผมไม่สนับสนุนให้ทำเรื่องถึงโรงถึงศาลหรอก
แต่ไหนๆ เรื่องมันก็เลยมาถึงขนาดนี้แล้ว จะค้านไปก็เห็นจะไม่ทัน

คือถามว่ามันบาปไหม มันไม่ได้บาปเพราะผิดศีล
แต่มันก็จะเป็นเวรเป็นกรรมติดตัวกันไป ถ้าเขาผูกใจเจ็บอ่ะนะ

คนเราเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเองนะครับ
พระพุทธเจ้าท่านใช้สำนวนว่า มีกรรมเป็นเรือนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

ถ้าทำใจยอมรับได้ว่า โลกนี้ ไม่มีเรื่องฟลุ๊ก ทุกอย่างเกิดเพราะมีเหตุ
ก็น่าจะยอมรับได้ง่ายขึ้นว่า ทุกข์ของเรานั้น มันสมควรแก่เหตุแล้ว

โลกนี้ มันหมุนไปด้วยแรงกรรม ชาติก่อนเป็นผู้กระทำ ชาตินี้มารับผล
แล้วก็เวียนกันเล่นบทบาทผู้กระทำ กับผู้รับกรรม ไปอีกไม่รู้จบ
พระท่านถึงบอกว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

อะไรที่แล้วไปแล้ว ก็ต้องรู้จักปล่อยให้มันแล้วไป
คนเราควรจะมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อย่าพิร่ำพิไรหวนไห้ไปถึงอดีต

เหมือนอดีตเราเคยได้ดอกไม้เข่งใหญ่ สวยสดชนิดตดใส่ก็ยังหอม
แบกไปชื่นชมดมนาน พาลดอกไม้ก็เริ่มเหี่ยวเฉาเน่าเฟะ
ก็ต้องรู้จักโยนมันทิ้ง โดยไม่คร่ำครวญว่ามันเคยหอมฟุ้งจรุงจิต

คือถ้ายอมรับเสียได้ อีกอย่างว่า คนเราเกิดมาพบกันชั่วครั้งคราว
เหมือนลมหนาวที่โชยพัดให้เราขุดเสื้อหนาวมาใส่
จะหนาวขนาดไหน มันก็ต้องผ่านไป ฤดูใหม่ก็จะต้องมาแทน

ฉะนั้น จะไปบ่นเสียดมเสียดายอะไร ถ้าบางคราวจะหนาวสั่น
บางวันก็อาจจะหนาวสั้นไปบ้าง

เราก็มีชีวิตอยู่ให้แฮปปี้มีสุขได้ไม่ว่าจะฤดูไหน
ถ้าเข้าใจธรรมชาติของมันอ่ะนะ

ส่วนเรื่องติดต่อคบหาเจรจาความกันต่อไปภายหน้า อันนี้อย่าได้ลังเลใจ
เอาตัวเอาใจเราให้แข็งแรง เข้มแข็ง เหมือนกระทิงแดง แรงเย่อร์เสียก่อน

หลังจากนั้น ค่อยว่ากัน ตามอัธยาศัยของน้องล่ะครับ
อย่าไปสวมบทแม่พระ ในเวลาที่เรายังกระท่อนกระแท่น

จะให้พูดจาคบหากันปกติได้อย่างไร ในเมื่อเราก็ยัง "ไม่ปกติ"

หายวันหายคืนนะครับ


Create Date : 02 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 8:54:50 น. 42 comments
Counter : 2464 Pageviews.

 
โห... ขยันจัง.. วันละ blog เลยเหรอ


โดย: oui IP: 124.121.8.195 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:46:33 น.  

 
ติดตาม Blog ของคุณเป็นประจำครับ
ขอให้รักษาสุขภาพมากๆนะครับ


โดย: ธนัช IP: 124.121.212.151 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:50:04 น.  

 
อ่านแล้วให้ต้องย้อนคิดเรื่องตัวเอง ความต่างอาจจะอยู่ตรงที่ว่า เราไม่เคยบอกกันและกันเลยว่า "เรารักกันมาก" แต่มันคือความรู้สึกที่สะสมมาเป็นเวลา 14 ปี การแสดงออกเรื่องความห่วงใย การเอาใจใส่ กาที่ขาคิดถึงเรา หรือเราคิถึงเขา เมื่อเราเจอเรื่องยากลำบาก ซึ่งถ้าตามหลัก "ตรรกะ" แล้ว เออ เราน่าจะลงเอยด้วยชีวิตคู่หลังจาผ่านมรสุมของการเป็นแฟนกัน เป็นคูรักกัน มาเป็นเวลา 14 ปี แล้วเรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อตอนปี 2000 ต่อ 2001.... ในวันเกิดของเขาที่เราพยามยามที่จะติดต่อเพื่อส่งของขงัญไปให้ตามที่เคยทำทุกปี แต่มันมีความผิดสังเกตุเกิดขึ้นโดยที่เราเองก็ไม่เอะใจเลย คือ เอ้อ... เขาหายไปนานมากหลังจากโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายในเดือนเมษายน ปี และ วันเกิดเราเขาก็หายไป จนถึงเดือนเกิดเขาในเดือนพฤศจิกายน

เราตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทของเขา เพื่อนเขาก็อึกอัก เพราะไม่คิดว่าเราไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น คำถามที่เขาถามเรามาเหมือนเขาเอาอะไรมาทุบที่หัว คือ "ทำไมเธอไม่งานแต่ง
งานเขา...ฟ่ะ ทำใจไม่ได้เหรอ" แต่ที่จริงคือ เราไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำว่าเขาแต่งงานแล้ว ยิ่งกว่าน้ำ ทุบซ้ำลงที่เดิมบนกลางกระหม่อม คือ เนี่ยเขาได้ลูกสาวแล้วนะ แต่งพฤษภาคม คลอด ปลายตุลาคม คำตอบมันชัดเจนคือ เขาทำผู้หญิงท้อง ซึ่งเป็น classmate เขาใหนหลักสูตรปริญญาโท ที่เราวิ่งเทียวไล้เทียงคื่อ ไปส่งหนังสือให้ ส่ง case study ให้....

เราก็คนธรรมดาคนนึงเหมือนกัน โชคดีเป็นช่วงที่มีงานเยอะมาก มันเลยทำให้เราละเลยเรื่องความบอบช้ำใหนหัวใจที่เกิดขึ้น....

ที่จะพูดมาทั้งหมดเนี่ย ก็แค่จะบอกว่า "ความรัก"ที่ถูกต้อง คือ รักแบบไม่ต้องคาดหวัง ถ้าเรารักเขาจริง เขาจะเป็นอย่างไร ความรู้สึกดีๆ มันก็จะยังคงอยู่ เพราะความรัก ไม่ใช่ การได้ครอบครอง ไม่ได้ต้องจบด้วยคำว่า แต่งงาน และได้อยู่ร่วมกัน เป็นตอนจบของเรื่อง ความรัก

แต่มันอยู่ที่ว่า มีคนๆ นึงที่เราพูดคุยได้เมื่อเราเจอปัญหา เราช่วยเขาได้ในยามที่เขาเผชิญความทุกข์ และอาจจะหาทางออกไม่ได้

จริงๆ แล้วความรักที่ต้องแต่งงาน ถึงวันนหนึ่ง ถ้าโชคดี มันก็มีความเข้าใจ แต่ถ้าไม่ล่ะ มันก็ตามมาด้วยปัญหา การหย่าร้าง ขุดเอาแต่เรื่องแย่มาพูดกัน เหมือนตอนเป็นแฟนกันแล้วทะเลาะกัน แต่หนักกว่าเพราะมีความรับผิดชอบชีวิตบริสุทธิ์ทั้งที่เกิดมาด้วยความตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ที่เราต้อง อดทน และทนอยู่....

ซึ่งทั้งหมดที่เขียนมาคือ เรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง จากวันที่รู้จักเขาในปี 1988 จนถึงวันนี้ ผ่านไปเกิน 20ปี แต่สิ่งเราให้เขาได้ก็คือแค่คำว่า "เพื่อนที่ดี" เขาจะคิดถึงเราเมื่อวันที่เขารู้ว่าเราจะมีคำตอบที่ช่วยเขาได้ ในขณะที่คนที่บ้านให้เขาได้

จะด้วยเหตุอะไรก็ตามแต่ เราได้แต่ภาวนาแทนเขาว่าขอให้เขาประคองครอบครัวเขาผ่านมรสุมชีวิตคู่ไปให้ได้ เพราะมันมีสัญญาณอันตรายหลายตัวที่เป็นดัชนีบ่งบอกได้

ถามว่าเราทำใจได้ยังไง ก็คือ "หัดเป็นผู้ให้" ให้ชีวิตบริสุทธิ์ที่จะเกิดมา มีความสมบรูณ์ พร้อมพ่อ พร้อมแม่ เพื่อที่ว่าเขาจะไม่ต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ ในอนาคต หรือแย่กว่านั้น คือการทำแท้งเอาชีวิตน้อยๆ นั้นออกจากปัญหา เพื่อความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่ ที่ต้องการครอบครองความรัก และแสดงความเป็นเจ้าของ...

ทุกข์มั้ย แน่นอนว่าในระยะแรก มีทั้งโกรธ มีทั้งแค้น มีทั้งอยากเอาคืน แต่โชคดีที่มี "งาน" มาทำให้เราละจากความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นเป็ฯเวลาหลายปี

มาถึงตรงนี้.... ดีใจที่ได้เคยรู้จักคำว่า "รัก" แต่ดีใจยิ่งกว่าที่ไม่หลงไหลอยู่กับ "ความรัก" และปลื้มที่ "เข้าใจ" ชีวิต สุขก็ประเดี๋ยวประด๋าว ทุกข์มาแล้วก็ไป ไม่มีอะไร .จีรังยั่งยืน" สุดท้ายก็แค่โรงจำปา กับ ดินกลบหน้าอีกนิดนึง ค่าเสียหายที่ได้มาก็ไม่สามารถเอาไปด้วยได้ แต่กำลังจะทำให้คนๆ นึง ทุกข์ใจ ลำบากใจ เพียงเพื่อความ "สะใจ" ของใครบางคน

"หัดเป็นผู้ให้" แล้วจะไม่รู้สึกทุกข์

แค่นี้แหล่ะค่ะ อยาก comment


โดย: complimentary IP: 58.8.228.161 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:31:54 น.  

 
คุณเอ๊ด............

แจงว่าแจงแย่แล้วหละ
ตอนนี้แจงไม่แน่ใจว่าพ่อรักแจงจริงๆ หรือเปล่า

คิดว่าตัวเองมีความคิดที่...สับสน
แย่ด้วย แต่ก็คิดไปแล้ว

แจงโคดรักเจมีเลย
แต่มันก็สงสัยอะ....

ไว้จะอีเมลล์ไปหาดีกว่า
มันจะไม่ไหวแว้วววว ^^"



โดย: jme วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:39:43 น.  

 
โมทนาค่ะพี่ : )


โดย: ฝนifon IP: 125.25.241.167 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:17:45 น.  

 
ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของเรื่องผ่านพ้นค่ะ


โดย: วันดี IP: 58.9.13.119 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:23:50 น.  

 
ชอบตั้งแต่ชื่อบล็อก...อ่านปั๊บ เดาเนื้อหาออกเลย...หุหุ

เป็นกำลังใจให้จขกท. ปล่อยให้ลง ปลงให้เป็นในเร็ววัน
และเป็นกำลังใจให้พี่แอสตันเขียนบทความดีๆต่อไปเน้อ



โดย: Budd IP: 61.90.68.107 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:47:22 น.  

 
อืม หวังว่าเจ้าของเรื่องจะผ่านมันไปและเข้มแข็งในเร็ววัน

จริงแท้ค่ะ บางวันหนาวสั่น บางวันก็ก็หนาวสั้น
อยู่ที่จิตใจเราจริงๆ ปัยหาแบบนี้แหล่ะค่ะเห็นภาวะของจิตชัดเจน เพราะว่ามันมาทั้งเศร้า ทั้งโกรธ สลับกันไป จิตมันวิ่งวุ่นของมัน

นึกถึงตอนตัวเองมีปัญหาแล้ววิ่งมาขอคำชี้แนะจากพี่ที่นี่เมื่อหลายปีก่อนเลย


เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: ขมเตย วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:48:07 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^


โดย: aea IP: 202.176.126.190 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:29:50 น.  

 
พี่แอสตัน ตอบดีจัง เคยประสบเรื่องคล้ายๆกัน แต่ผ่านมาและผ่านไปแล้ว


โดย: jeafry IP: 202.176.185.82 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:59:53 น.  

 
พี่เอ็ด
ชอบบล็อคนี้จริงๆค่ะ พี่สาวหนูกำลังมีปัญหาคล้ายๆกันอยู่นิดหน่อยเลย ขอบคุณมากนะคะ

ปล. ชอบประโยคนี้จัง "จะให้พูดจาคบหากันปกติได้อย่างไร ในเมื่อเราก็ยัง "ไม่ปกติ" "


โดย: aritsumemoon IP: 115.87.118.142 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:53:12 น.  

 
ให้กำลังใจเจ้าของเรื่องค่ะ

รวมทั้งให้กำลังใจตัวเองด้วย ^^
เหมือนที่คุณขมเตยบอกเลยค่ะ
มาทั้งเศร้า โกรธ วุ่นๆ
บางทีคิดเหมือนเดิมกันแท้ๆ แต่กลับรู้สึกต่างกัน


โดย: Ling IP: 180.180.71.212 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:13:27 น.  

 
อ่านทีไรก็โดนใจทุกที ...
ถ้าบางคราวจะหนาวสั่น
บางวันก็อาจจะหนาวสั้นไปบ้าง

เรา ก็มีชีวิตอยู่ให้แฮปปี้มีสุขได้ไม่ว่าจะฤดูไหน
ถ้าเข้าใจธรรมชาติของมัน อ่ะนะ

ยกนิ้วให้เลยค่ะ คุณaston

เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ


โดย: noi IP: 61.91.248.100 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:43:10 น.  

 
หอบช่อดอกไม้หอมช่อโตไว้
นานไปมันก็เหี่ยวเฉา
เราก็ต้องรู้จักโยนมันทิ้ง

เห็นภาพค่ะพี่

ความรักไม่มีน้ำยาฟอร์มาลีนฉีดไว้ให้มันไม่เน่า
แต่ถ้าฉีดจริงๆ มันก็จะกลายเป็น
รักเป็นพิษ

แหะแหะ
หนูคิดต่อไปเรื่อยเปื่อย

เห็นอีกอย่างว่า
บล็อกนี้กับบล็อกก่อนหน้า
เหมือนกันตรงที่มีขึ้นๆ ลงๆ
ต้องคอยระลึกไว้ว่าชีวิตเป็นแบบนี้ใช่ป่าวคะ

ขอบคุณพี่เอ๊ดที่เขียนบล็อกให้อ่านเสมอๆ

หวังว่าเจ้าของคำถามจะเป็นปกติได้ในเร็ววันนะคะ
^^



โดย: am^^ IP: 58.8.239.62 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:07:38 น.  

 
เมื่อรู้ว่าคนอื่นเจอหนักกว่า
จึงรู้ว่าที่เราโดนมัน "ชิวๆ"
เป็นกำลังใจให้นะครับ
สาธุครับ...
ได้มาเป็นอุทธาหรณ์


โดย: สุริยา IP: 115.87.84.240 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:20:15 น.  

 
อันนี้โดนโดยไม่ตั้งใจคะ จะให้พูดจาคบหากันปกติได้อย่างไร ในเมื่อเราก็ยัง "ไม่ปกติ"
เพราะตอนนี้กำลังทำตัวเป็นแม่พระ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ไหวจะเคลียร์ ต้องฝืนยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ทำไม

ขอบคุณมากคะ ประโยคเดียวบรรลุเลย


โดย: มุแอน IP: 58.10.192.73 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:00:11 น.  

 
มีผู้ใหญ่ใจดีน่านับถือ เคยเล่าให้เราฟังว่า

แม่ไก่ตัวนึง มันออกลูกมา 7 ตัว
มันก็พาลูกออกหากิน

วันต่อมา พบว่าลูกไก่เหลือแค่ 6 ตัว
แม่ไก่ก็ยังคงพาลูกไก่ออกคุ้ยเขี่ย หากิน

จนวันนึง มาดูอีกที เหลือลูกไก่แค่ตัวเดียว
แต่แม่ไก่ก็ยังคงพาลูกไก่ตัวเดียวนั้น ออกหากิน
..ไม่ได้ร้องไห้ หรือคร่ำครวญ โถ ลูกของฉันไม่น่าตายเลย

มันก็ยังทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่


ไม่ได้ห้ามเสียใจหรอกค่ะ มันห้ามไม่ได้
แต่คงช่วยให้มีกำลังใจ ช่วยปล่อยวางอารมณ์ได้บ้าง


โดย: ทราย IP: 183.89.174.71 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:29:13 น.  

 
อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมามาก

ต้งใจว่า
ต้องจัดการปัญหารักที่คาราคาซัง
ของตัวเองให้ได้


อนุโมทนาค่ะ


โดย: ouilui IP: 202.149.25.234 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:50:17 น.  

 
โห.... blogนี้คนมาเม้นเยอะจัง




โดย: ผักบุ้ง IP: 117.47.9.189 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:18:42 น.  

 
บางทีคงจะดีกว่าการที่เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังแต่งงานไปแล้ว

อ่านแล้วก็ยิ้มตรงที่ "อย่าไปสวมบทแม่พระ เวลาที่เรายังกระท่อนกระแท่น"


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:47:11 น.  

 
คุณ aston ตอบดีจังคะ ขอเป็นกำลังใจให้คนถามด้วยนะคะ
ไว้วันหลังมีปัญหาจะถามบ้างอิอิ
วันอาทิตย์ไปวัดเจอคุณ aston ด้วยแต่ไม่แน่ใจว่าไช่คุณ aston ไม๊ก็เลยไม่ได้ทัก เห็นเทปลากระป๋องอยู่ ไช่มะคะ


โดย: กิ๊บค่ะ IP: 61.47.18.239 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:58:37 น.  

 
ดีใจที่ได้เจอพี่ทุกคำพูดสอนให้คนหาหนทางไม่เจอได้พบทางไม่มีอะไรใช่ของจริงสักอย่างจริง ๆ


โดย: ple IP: 113.53.59.119 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:05:37 น.  

 
ขอบคุณที่เตือนสติครับพี่


โดย: poompuien IP: 118.172.67.82 วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:2:03:59 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:23:09 น.  

 
เริ่มเข้ามาอ่านบล็อคของคุณแอสตันเมื่อปีที่แล้ว เพราะโดนทิ้งอย่างแรงค่ะ ทิ้งในความรัก ทิ้งในความเป็นเพื่อน แต่คุณแอสตันจุดประกายความคิดหลายอย่าง และก็เริ่มดูจิต ตอนนี้ ระลึกเสมอว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด เป็นไปตามกรรม เป็นเรื่องสมควร สมเหตุสมผลแล้ว ปัจจุบันนี้ ศึกษาธรรมะเพิ่มขึ้น มีเพื่อนญาติธรรมที่คุยเรื่องเดียวกันมากขึ้น ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เป็นประโยชน์กับโลกใบนี้มากที่สุด และภาวนาว่า ถ้าเผื่อต้องเกิดอีกในชาติหน้าไม่ว่าจะเกิดในสภาวะอะไร ก็ขอให้ได้พบกับธรรมะของพระพุทธเจ้าอีก เพื่อจะได้ศึกษาต่อไป เผื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้าอาจมีซักวันที่จะหลุดพ้น และไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดให้เป็นทุกข์


โดย: L J IP: 203.111.236.18 วันที่: 15 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:02:20 น.  

 
ลืมกล่าวคำขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะคุณแอสตัน ที่ช่วยเหลือและชี้แนะแนวทาง ขออนุโมทนาให้ผลบุญที่คุณช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ทำให้คุณ
เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ


โดย: L J IP: 203.111.236.18 วันที่: 15 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:15:03 น.  

 
คุณ L J

ผมขอถวายบุญนี้ให้พระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ของผมนะครับ

อนุโมทนาด้วยครับ ขอให้ภาวนาไปจนถึงที่สุดแห่งทุกข์นะครับ

คุณกิ๊บ
ใช่แล้วครับ ผมเอง

ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเห็นไว้นะครับ ใครอนุโมทนามา ผมก็สาธุด้วย

ภาวนากันไว้นะครับ


โดย: aston27 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:04:13 น.  

 
ขอร่วมถวายบุญถ้าเผื่อว่าตัวเองมีอยู่บ้าง ให้พระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ของคุณแอสตัน และคุณแอสตันด้วยค่ะ และภาวนาว่าขอให้สถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทย คลี่คลาย และสงบ สันติค่ะ


โดย: L J IP: 114.108.227.5 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:14:42 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกว่าดีครับ อยู่ที่คำคำเดียว ' ยอมรับความจริง '

คุณ complimentary เข้มแข็งมากครับ เก่งจริงๆครับ


โดย: ิbkktvonline IP: 125.24.11.34 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:45:40 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่ได้รับสิ่งดีดีจากคำคมที่ทำให้ได้คิด
ขอเป็นกำลังใจเจ้าของกระทู้ผ่านทุกข์นี้ได้เร็ววัน


โดย: นางพิม IP: 118.173.212.252 วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:19:52 น.  

 
ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ เข้าใจค่ะเพราะเป็นเจ้าของหัวข้อเรื่องไม่คาดคิดค่ะ คิดว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรค่ะ


โดย: เล็ก IP: 183.89.53.53 วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:0:10:36 น.  

 
อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย เพิ่งอกหักมา และต้องผ่านไปให้ได้ นึกว่ามองเห็นเมฆบนท้องฟ้าก็แล้วกัน ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป


โดย: blue sky IP: 125.25.102.254 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:11:33:27 น.  

 
??????????????


โดย: Gift IP: 206.53.152.32 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:20:15:44 น.  

 
เมื่อคืนใช้บีบี ตอบกระทู้คะไม่รู้ว่าไม่ขึ้นภาษาไทย

ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นเรื่องราวไปได้นะคะ

รู้สึกลงปัจจุบันไปเรื่อยๆ ก็จะไม่ทุกข์คะ (อันนี้พูดง่ายทำยาก แต่ว่าเราทำแล้วมันทุกข์น้อยลงคะ ดีกว่าแต่ก่อนที่ทุกข์แล้วรู้ไม่ทัน)

ขออนุโมทนากับคุณแอสตันด้วยนะคะ ไปวัดหลวงพ่อบ่อยๆ ยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆ เลยคะ

กิ๊ฟ...


โดย: Gift IP: 192.168.126.87, 61.47.18.34 วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:8:27:51 น.  

 
"..ผิดหวัง พ่ายแพ้ มันก็แค่เพียง
ชีวิต บางครั้งฟ้านั้นลำเอียง.."
...มีหลายสิ่งในชีวิต ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ บางครั้งเราก็ต้องหันกลับมาสำรวจตัวเราเองว่าเข้มแข็งแค่ไหน และจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร พอมาถึงจุดๆ นึง เราจะเข้าใจว่าการรู้จักรักตัวเองให้มากๆ นั้นเป็นสิ่งที่วิเศษยิ่งพรใดๆ...

ยิ้มไว้นะคะ


โดย: ก้อนหิน...ฤดูหนาว วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:25:27 น.  

 
อ่านแล้วซึ้งมากค่ะ คุณ complimentary

และอนุโมทนาบุญกับคุณแอสตันด้วยนะค่ะ

ดีใจจังได้อ่านบล็อกนี้ ^^


โดย: dazzle IP: 110.164.248.125 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:14:14:57 น.  

 
อ่านบล็อกของคุณ complimentary แล้วรู้สึกเห็นในหลายอย่างของความรักการเป็นผู้ให้เป็นความรู้สึกที่มีความสุขที่สุด แต่ตอนนี้ตัวเองอยากจะทำเช่นนั้นให้ได้ ไม่อยากที่จะมีความทุกข์ แต่เราจะต้องมีสติรู้ถึงสิ่งที่มันเป็นอยู่
ขอขอบคุณที่มา Share ความรู้สึกทำให้รู้ว่าความรักต้องควบคู่กับการให้มันจึงจะทำให้เรามีความสุข ขอบคุณจริง จริง ค่ะ และขอบคุณเจ้าของบล็อกที่จำทำบล็อกนี้มาเป็นบุญจริง ๆ ค่ะ


โดย: minja IP: 110.164.109.74 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:56:32 น.  

 

รู้ทุกข์ ก็ดับทุกข์
รู้รัก ก็ดับรัก
มีรัก ก็มีทุกข์
ไม่มีรัก ก็ไม่มีทุกข์
กิเลส(รัก โลภ โกรธ หลง).............
ถ้าตัดได้ตัวหนึ่ง ก็เหลือเรื่องรุงรังน้อยลงไปบ้าง คงจะดีกว่า แต่ถ้ายังตัดรักไม่ขาด ก็หันกลับมารักตัวเอง พร้อมกับเจริญสติให้มั่น ...ทุกเรื่องราวที่เข้ามากระทบก็จะเหลือเพียงแค่"สิ่งใดสิ่งหนึ่ง" มองเค้าไม่ใช่เค้า เพราะเป็นเพียงสิสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผ่านมาเหมือนลมหนาว เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไปเจอร้อนเจอฝนอีก แล้วถ้าเกิดโชคร้ายกลายเป็นพายุ สติที่ฝึกมาดีแล้ว ก็จะช่วยเกื้อหนุนปรับสมดุลย์ให้อยู่กับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไม่เคยหยุด ได้อย่างหลุดพ้น..
เชื่อคำตอบของคุณ aston27 ก็ยังไม่เท่ารู้ในจิตในใจของคุณเอง รู้แล้วละ รู้แล้ววาง วางแล้วก็จะว่าง ความชุ่มเย็นก็จะเข้ามาแทนความร้อนรุ่มมังคะ
........ภาวนาให้คุณผู้ถามละวาง อย่าผูกเวรต่อกันเลยค่ะ.........
........อนุโมทนา สาธุการในคำตอบของคุณ aston27 ที่ให้ธรรมทานอย่างเรียบง่าย และปฏิบัติได้จริง โดยไม่ต้องลังเลสงสัยเลยค่ะ..


โดย: numphueng IP: 115.31.163.98 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:55:05 น.  

 
ผมเพิ่งหย่ากับแฟนเช่นกันครับ ผ่านมา 10 กว่าวันเอง เค้ามีคนใหม่ แล้วก็เลิกกันครับ วันแรกๆก็แย่มาก สับสนวุ่นวายใจ พยายามดูจิตตัวเองเวลาที่คิดถึงเค้า ตอนนี้พยายามไม่รับข้อมูลว่าเค้าอยู่กับคนใหม่ หรือ facebook เพื่อไม่ให้เจอรูปเค้า

พยายามทุกวันครับ ดีบ้าง แย่บ้าง ผมก็ยังทำครับ แต่ชอบพี่เอ็ดอย่างนึงคือ ถ้ายังไม่รู้จะทำอะไรงงๆอยู่ ก็ให้หายใจไว้ครับ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
เป็นกำลังใจให้ทุกคู่รักที่ผิดหัวงครับ
เอก


โดย: eakartcom IP: 124.120.254.248 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:11:05:53 น.  

 
ขอบคุณครับ :)


โดย: aston27 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:17:19:36 น.  

 
เจอหนังสือ ของคุณแอ๊ดตัน ตอนที่เลิกกับแฟน ยอมรับว่าเจ็บปวดมากแม้นจะผ่านมา2เดือนแล้วมันทั้งรักทั้งแค้นรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง เสียแฟนเพราะไว้ใจคิดว่าไม่ไปไหนเล่นแต่เฟชบุ๊กอยู่บ้าน แต่เชื่อไหมว่าแฟนใหม่เขาก็คือคนที่เล่นเฟชด้วยกันคุยกันมานานจนเขามั่นใจว่าผู้หญิงก็ชอบเขา จึงมาบอกเลิกเรา แล้วจะให้เรายอมรับความจริงไม่โกธรเขาให้อภัยเขา เราไม่ใช้แม่พระนิ ใครจะทำได้ คอยตามไปดูเขา2คนในเฟชบุ๊คทุกวัน พออ่านแล้วก็ยิ่งทุกข์ เสียน้ำตาทุกวันรู้สึกเกลียดตัวเองที่อ่อนแอจนสุดท้ายต้องยกเลิกเฟชบุ๊คไปเลยหันมาอ่านหนังสือก็ไปเจอหนังสือเรื่อง วิตามินแห่งความสุข ของคุณ แอ๊ดตัน ชอบมากโดนใจหลายเรื่องทำให้รู้สึกดีขึ้น ถึงวันนี่จะยังทำไม่ได้ แต่มั่นใจว่าวันหนึ่งเราต้องกลับมาแข็มแข็งเหมือนเดิม ขอบคุณ คุณแอ๊ดตันค่ะ ที่เขียนหนังสือดีๆมาให้อ่าน ขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วยค่ะเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนเลยค่ะ วันนี้กลับไปหาหนังสือของคุณแอ๊ดตันได้มาอีก3เล่ม คือธนาคารแห่งความสุขค่ะ


โดย: ปลายฝน IP: 14.207.245.149 วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:18:39:35 น.  

 
เรื่องนี้เข้าใจและอาจทำใจยาก...เวลา...เพื่อน..ครอบครัวช่วยเราได้ดีที่สุดค่ะ......แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น


โดย: t IP: 125.27.204.120 วันที่: 4 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:44:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.