Group Blog
ลิงกวินี่แฮมเห็ดอบชีส







ลิงกวินี่แฮมเห็ดอบชีส




เมนูนี้...ทำแล้วดองเอาไว้ไม่ได้เอาลงบล็อก เพิ่งจะมีความขยันเอามาลง
เป็นเมนูที่ทำคู่กับผักโขมอบชีส ทำพาสต้าครีมแฮมเห็ด เอามอซซาเรลล่าชีสใส่แล้วอบ
อร่อยยยยยย.... >___<


ไปดูวัตถุดิบกัยเถอะครับ... 



เส้นพาสต้าสำหรับ 1 ที่

(นิชาใช้เส้นลิงกวินี่)

มอซซาเรลล่าชีส 3 ช้อนโต๊ะ

ชีสแผ่น 1 แผ่น

แฮม 2 แผ่น หั่นเป็นเส้นๆ 

เห็ดฟาง 4 ดอก หั่นบางๆ

กระเทียมสับ 1/2 ช้อยฃนโต๊ะ

หอมใหญ่ 1/2 หัว สับละเอียด

พาสลีย์สับ 1 ช้อนโต๊ะ

นมสด 1/2 ถ้วย

แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ 

เนยเค็ม 1 ช้อนชา 

เกลือ พริกไทย น้ำมันพืช ผงปรุงรสเล็กน้อย



เริ่มจากต้อมเส้นกันก่อนเนอะ นิชาวัดขนาดสำหรับ 1 ที่รับประทาน ประมาณ 1 วงเหรียญ 5 บาทค่ะ
ใส่น้ำมันและเกลือลงในน้ำที่ใช้ต้มเล็กน้อย จะทำให้เส้นไม่ติดกันเวลาที่พักเส้นเอาไว้ 
โดยที่ไม่ต้องคลุกน้ำมันเพิ่มเลยค่ะ 



ต้มประมาณ 8-10 นาที จะได้เส้นประมาณนี้ค่ะ
พักเอาไว้ก่อนเนอะ 



ตั้งกระทะ ผัดเนยกับกระเทียมให้หอม



ตามด้วยหอมใหญ่สับ ผัดให้ใส



เปิดไฟอ่อนๆเติมนมสดลงไป



ใส่เห็ดลงไปผัดให้สุกค่ะ



ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ เกลือ ผงปรุงรสเล็กน้อย



ตามด้วยแฮมหั่น



ถ้าเปิดไฟแรงอยู่  เปิดไฟให้อ่อนลงอีกซักนิด ค่อยๆใส่แป้งสาลีละลายน้ำ
ค่อยๆคนให้น้ำซอสของเราข้นขึ้น 



ใส่เส้นลิงกวินี่ที่พักไว้ลงไปเลยยยย



คลุกให้เข้ากัน ใส่พาสลีย์สับ



แอบใส่ชีสแผ่นเพื่อความเจ้มจ้น



ใส่จานกระเบื้องเตรียมอบ 



น่ากินอ๊ะเปล่า ><



โรยมอซซาเรลล่าชีสให้ทั่วๆ 



อบไฟบน ปานกลาง ประมาณ 5 นาที หรือเอาที่เกรียมๆถูกใจ ^^



ออกมาล้าวววววววว >p<



ขอดูใกล้ๆหน่อยซิ หูยยยยยยย...



อ้าปากหน่อยยยยย -0-


Follow me!
Facebook : NichachaCuisine









Create Date : 02 มกราคม 2560
Last Update : 2 มกราคม 2560 23:11:57 น.
Counter : 2935 Pageviews.

0 comment
คาโบนาร่าลูกชิ้นทอด!!! ><








คาโบนาร่าลูกชิ้นทอด !!!



สวัสดีค่าาาา...บล็อกนี้มาพิศดารหน่อย 555

เรื่องมีอยู่ว่ายัยเพื่อนคนนึงนางทำโรงงานลูกชิ้น ทำเองขายเอง 
พอเห็นเราชอบทำอาหารก็เลยเอามาส่งให้ลองถึงที  



แต่ก็นะ...ปิ้งกิน ทอดกิน สำหรับนิชา มันธรรมดา ไป๊ >< 

ก็เลยจับลูกชิ้นของนางแปลงร่างเป็นคาโบนาร่าซะเลย 

ไปดูวัตถุดิบและเครื่องปรุงกันดีกว่า...



สำหรับ 1-2 ที่

เส้นพาสต้า นิชาใช้เส้นลิงกวินี่ (พาสต้าเส้นแบน) ปริมาณวงเท่าเหรียญบาท

ลูกชิ้นหมูแบบไม่แป้ง 10 ลูก 

เนยเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ

นม 1/2 กล่อง

พามาซานชีส 1 ช้อนโต๊ะ

แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1/2 ช้อนโต๊ะ

ไข่แดง(แยกไข่ขาว) 1 ฟอง

พาสลี่ย์ 1 ต้น

กระเทียมสับ 1 กลีบ

เกลือและพริกไทยดำนิดหน่อย



ก่อนอื่นเราต้องต้มเส้นลิงกวินี่ก่อน ใส่น้ำ 
หยดน้ำมันพืชและเกลือลงเล็กน้อย ต้มประมาณ 8-10 นาที 



คนเป็นระยะๆไม่ให้เส้นติดหม้อ แต่ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อยช่วยได้มากเลยค่ะ 



นิชาชอบสีประมาณนี้แหละ กำลังดีเลย เอาลงน้ำเย็น
แล้วก็สะเด็ดน้ำพักไว้ก่อนค่ะ



มาเตรียมลูกชิ้นกันต่อ นิชาหั่นลูกชิ้นบางๆ แยกเป็น 2 ส่วน 
สำหรับใส่รวมกับเส้นพาสต้า และทอดกรอบๆเอาไว้โรยหน้าแบบเบค่อนทอด



ส่วนที่ทอดเอากระดาษซับให้แห้ง เวลาทอดจะได้น้ำมันไม่กระเด็น
แล้วก็กรอบบบบบบบบบบบบ.... ><



ทอดๆๆใส่น้ำมันให้เยอะหน่อยจะได้กรอบๆ



เสร็จแล้วได้ประมาณนี้ ^^



ต่อไปเป็นการเตรียมครีม ตามสูตรจริงๆคาโบนาร่าเค้าใช้ครีม
แต่นิชาใช้นมสดธรรมดาๆแทนค่ะ เพราะว่าหาซื้อง่ายดี 



ใส่พามาซานชีสลงไปคนๆให้เข้ากันพักไว้ค่ะ



ต่อไปจะรวมร่างแล้วนะ ตั้งกระทะใส่เนยลงไปโลด



เอาลูกชิ้นที่เราทอดแล้วลงไปผัดเนยให้หอมๆซักนิดแล้วเอาขึ้นพักไว้จ้า




เอากระเทียมสับลงผัดให้หอม



ใส่ลูกชิ้นส่วนที่ไม่ได้ทอดลงไป 



เติมครีมที่เราผสมเอาไว้แล้วลงไปเลยค้าบบบ...



เพราะว่าเราใส่นม มันจะไม่ข้นเท่าครีม นิชาเลยต้องใส่แป้งสาลีละลายน้ำลงไปด้วย
เพื่อให้เนื้อครีมคาโบนาร่าของเราข้นขึ้นอีกนิด โดยที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป
ตอนนี้ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อยค่ะ 



ใช้ไฟอ่อนๆหน่อยนะคะตอนนี้ เป็นไงข้นยังเอ่ย ^^



ชิมรสให้ออกเค็มๆมันๆ พอได้ที่แล้วใส่เส้นลิงกวินี่ลงไปเลย



คลุกๆคนๆให้เส้นเข้ากันกับครีม



ปิดไฟแล้วค่อยๆเอาไข่แดงลงไปคลุกอีกรอบค่ะ



โรยพริกไทยดำแล้วก็พามาซานชีสอีกนิดหน่อย



ตามด้วยพาสลีย์สับ -0-



และพระเอกของเรา ลูกชิ้นหมูทอดดดดด ><



หูยยยย...มีทั้งลูกชิ้นทอดและไม่ทอดในคำเดียวกัน 
ลูกชิ้นหมูแน่นๆนี่เข้ากันกับคาโบนาร่าได้อย่างไม่น่าเชื่อออ ><


ใครอยากทานลูกชิ้นอร่อยๆสั่งซื้อได้ที่เพจ ==> ลูกชิ้นลินจง นะคะ  
หร่อยจริงไรจริง >________________<


หวังว่าจะชอบเมนุนี้ของนิชากันนะค้าาาา




Follow me!
Facebook : NichachaCuisine






Create Date : 06 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2559 4:15:08 น.
Counter : 1869 Pageviews.

1 comment
สปาเก็ตตี้ปูผัดพริกแห้ง
สปาเก็ตตี้ปูผัดพริกแห้ง




เมนูนี้...บอกเลยว่าเกิดจากการเหมือนโดนท้าชิงกันชัดๆ ><
เรื่องมีอยู่ว่าลุงเบส (สะมี) ฮีได้ไปแข่งฟุตบอลกับทีมๆนึง
ซึ่งเจ้าของทีมที่ฮีไปเล่นด้วยก็มีกิจการขายเนื้อปูแกะ!!
(เอิ่มสรุปขายอะไร?? เนื้อ ปู รึแกะ??? -0-) 

ม่ายช่ายยยเฟ้ยยยย...เค้าขายเนื้อปูทะเลที่แกะแล้วอ่ะค่ะ ><
นั่นแหละ..พอเค้าเห็นว่าเมียลุงเบสชอบทำอาหาร ลุงเบส
ก็ชอบโพสรูปอาหารที่เมียทำ โพสบ๊อยย บ่อย ประมาณว่า
เมียข้าเลี้ยงดูอย่างดี อิจฉาป้ะล่ะะะ >///< 
(ใครเค้าอิจลุงคะ??? 555)

เค้าคนนั้นก็เลยให้เนื้อปูมา 1 ถุง ประมาณ 1 กิโลถ้วน
ฝากลุงเบสมาให้เมียลองทำอาหาร และพูดตบท้ายว่า
เอาไปแล้วไม่ใช่ ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วถ่ายรูปมาให้ดูนะ 
อย่างนั้นไม่ได้เรียกว่าทำหรอกนะ -0-

นั่น!! นั่นไง!! พอรู้ถึงหูเมียลุงเท่านั้นละะะะ
ปรี๊ดดด...เลย นะะ..นี่มันเป็นการลูบคมชัดๆๆ
อย่างนี้ต้องจัดเด็ดๆให้หงายเงิบกันไปเลย !!

นิชาเลยเอาปูที่เค้าให้มาจัดเป็นเมนูถึง 4 เมนู ><
หึๆๆให้มันรู้ซะมั่งใครเป็นใคร !!

แต่ว่า...เอ...รู้สึกว่าคนที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆ
ก็คือลุงเบสชัดๆ ฮีกินพุงกาง 4 เมนูเต็ม

กว่าจะรู้ว่าโดนลุงหลอก ปูก็หมดแล้ว 

โถ่ววว...ชั้นช่างเป็นเมียที่หลอกง่ายอะไรเยี่ยงนี้ 

ฮื่ออออ T_____________T


เอาเถอะ ไหนๆก็ทำแล้วไปดูเมนูแรกกันเลยดีกว่า


"สปาเก็ตตี้ปูผัดพริกแห้ง"



เครื่องปรุง
-เส้นสปาเก็ตตี้ปริมาณเท่าเหรียญ 5 บาท 2 เหรียญ สำหรับ 2 ที่

(แต่ว่าถึงจะบอกว่าเป็นสปาเก็ตตี้แต่จริงๆแล้วที่นิชาใช้ทำ
เป็นเส้นคาเปลินี่ที่มีขนาดเส้นเล็กกว่าสปาเก็ตตี้ต่างหากล่ะ
แต่เพื่อความเข้าใจตามสไตล์คนไทยก็ขอเรียกว่าสปาเก็ตตี้ละกันค่ะ)
-เนื้อปู 1 ถ้วย

-พาสลี่ย์ 1 ต้น

-พริกแห้ง 5 เม็ด

-กระเทียมใหญ่ 4-5 กลีบ

-เนย 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมันหอย  3 ช้อนโต๊ะ

-ผงปรุงรสนิดหน่อย

-พริกไทยดำเล็กน้อย

- พามาซานชีส 

ปรุงแล้วแต่ใจบ้านใครบ้านมันเด้อค่าา...


ก่อนอื่นก็ต้มเส้นกันก่อนใส่เกลือและน้ำมันเล็กน้อย



ไฟกลางๆ 15-20 นาทีก็ได้แล้วล่ะ ><



สะบัดหมาดรอไว้ ไม่ต้องคลุกน้ำมัน
เพราะเราใส่น้ำมันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว >< 



ตั้งกระทะไฟอ่อนๆละลายเนยลงไป



ผัดพริกแห้งให้หอม ระวังไหม้นะคะ
แค่ส่งกลิ่นก็รีบตักขึ้นได้เลยค่ะ
พักพริกแห้งไว้ก่อนนะ ><



ต่อไปก็เอากระเทียมลงไปผัด 
แต่ตอนนี้นิชาใจลอยไปหาคุณปลัด ศรันย์อ่ะค่ะ 
ไม่รู้อิท่าไหนเอาปูลงไปก่อน เลยต้องแยกไว้
เอากระเทียมลงไปผัดข้างๆ อิอิ >p<



ใส่ปูค่าาา เอามาผัดรวมๆๆๆ



ใส่เส้นลงไป



ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไปเลยค่ะ



พริกแห้งด้วย หักๆลงไปโลดค่ะ 
จริงๆใส่ใบโหรพาด้วยจะหอมน่ากินยิ่งขึ้น
แต่ว่าในตู้เย็นดิชั้นมีพาสลีย์ที่ตั้งใจจะเอาไว้
ทำคาโบนาร่าก็เลยเอามาใส่แทนไปก่อน ><

เสร็จแล้วก็ผัดให้เข้ากัน ชิม ดูให้ออกเค็มๆ หอมๆเนย 
หวานนิดหน่อยจากน้ำมันหอย เผ็ดจากพริกแห้งและ
ร้อนๆจากพริกไทยดำ



ตักเสริฟ เราว่าจานนี้ของเรามันแห้งไปนิสสสส..
แต่ก็โออยู่ไม่มันมาก 




โรยด้วยพาสลีย์และพามาซานชีสเป็นอันจบ
ปิดไป 1 จ็อบ สำหรับเมนูปู ><







หน้าเพิ่งตื่นแต่อยากถ่ายกับเมนูที่ทำ 5555


Follow me!
Facebook : NichachaCuisine



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 19 มีนาคม 2559 21:34:17 น.
Counter : 2367 Pageviews.

0 comment
ขนมจีนพริกน้ำย้อย

ขนมจีนพริกน้ำย้อย



สวัสดีค่ะ เมนูนี้เกิดขึ้นมาเพราะว่าเพื่อนส่งพริกน้ำย้อยจากเมืองแพร่มาให้
ใครที่ไม่คุ้นชื่อกับพริกน้ำย้อยเลย นิชาก็จะบอกให้ฟังว่าเป็นประมาณ พริกตำ หอม กระเทียม 
เอามาทอดรวมกัน กลิ่นหอมมากเลยค่ะ เค้าจะมาทำน้ำขนมจีนน้ำใสๆแล้วกินกับ
เจ้าพริกน้ำย้อยนี่แหละค่ะ เพื่ือนบอกวิธีทำคร่าวๆมา นิชาก็ลองมาดัดแปลงตามวิธีของนิชาค่ะ ^^



วัตถุดิบ...

กระดูกหมู 1/2 กิโล
หมูสับ 2 ขีด
เลือดหมูหรือเลือดไก่ 1 ก้อน
พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนชา
รากผักชี 2 ราก
กระเทียมทุบ 1 หัว
มะเขือเทศ 
ผักชีต้นหอมซอย
ซุปก้อน 
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาร้าเล็กน้อย
(แต่นิชาไม่ได้ใส่ค่ะ เพราะกลัวจะเหม็นห้อง ><) 
ผักสดที่ชอบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
สำหรับเป็นผักเคียง



พริกน้ำย้อย และขนมจีน ^^



ต้มกระดูกหมูให้เปื่อยเลยค่า ใส่รากผักชี พริกไทยดำ และกระเทียมลงไปด้วยค่ะ 
ต้มประมาณ 1 ชั่วโมง พอเปื่อยแล้วก็เอาพักไว้ก่อนค่ะ 



หั่นเลือดเป็นชิ้นพอคำ ลวกในน้ำเดือด เสร็จแล้วก็พักไว้ค่ะ 



นิชาเอาน้ำซุปที่ต้มกระดูกหมูเมื่อสักครู่มากรองออก ต้มให้เดือด ใส่ซุปก้อนไปหนึ่งก้อน
ใส่หมูสับ ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย ใครมีน้ำลาร้า ใส่น้ำปลาร้าไปตอนนี้เลยจ้า

พอหมูสับสุกเราก็ใส่กระดูกหมู แล้วก็เลือดที่เราเตรียมไว้แล้วลงไป

ใส่มะเขือเทศ ><



ต้มซักพักแล้วแต่ชอบ นิชาไม่ชอบมะเขือเทศเละๆ เลยต้มไปแป๊บเดียว ><



ต้มน้ำให้เดือด แล้วก็เอาขนมจีนลงไปลวก แค่ไม่ให้เส้นติดกันค่ะ สะเด็ดน้ำแล้วพักไว้



ตักน้ำซุปที่เราทำเสร็จแล้วราด



ใส่พริกน้ำย้อย และเหยาะน้ำปลานิดหน่อย ><
หอมๆๆๆ 



โรยผักชีต้นหอม แล้วทานกับผักเคียงที่ชอบ
อย่างเช่นถั่วฝักยาว มะเขือ แตงกวา ^^



พอได้นะ ถ้าใส่ปลาร้าคงเจ้มจ้น อร่อยกว่านี้ ><



อร่อยยยยยยยยยยยยย ><

Follow me!
Facebook : NichachaCuisine










Create Date : 18 เมษายน 2558
Last Update : 18 เมษายน 2558 15:55:39 น.
Counter : 6113 Pageviews.

1 comment
ราดหน้าเส้นทาโร่ เมนูคลีน (ตู้เย็น)

ราดหน้าเส้นทาโร่ เมนูคลีน(ตู้เย็น)


เมนูนี้นิชาก็มั่วไปเรื่อย...พอดีมีของเหลือการทำชาบูของเมื่อวาน กับเห็นทาโร่วางอยู่ซองนึงไม่มี
ใครเอามากินซักที ก็เลยลองเอามารวมร่างกัน เป็นราดหน้าเส้นทาโร่ เครื่องไม่ครบ ตามมีตามเกิดนะคะ อย่าว่ากัน ><



เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่หามาได้

เส้นทาโร่ 1-2 ห่อ
ผักที่เหลือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
กระเทียบสับ 1 ช้อนชา
หมูชาบูเมื่อวาน
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ผงปรุงรสนิดหน่อย
น้ำสะอาด
แป้งมันละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
(เค้าไมมีเลยใช้แป้งสาลีแทน)
เต้าเจี้ยว (ไม่มีอีกเช่นกัน T_T)




เอาเส้นทาโร่มาคั่วๆในกระทะ หรือจะเวฟก็ได้ ลองซัก 1 นาทีก่อนนะ 
แล้วเอามาดู ถ้าไม่กรอบค่อยอบใหม่ ไม่งั้นจะเป็นปลาเส้นดำได้ = =



ตบกระเทียมผัดกับหมูให้หอม



เอาผักลงไปผัด อารมณ์แบบผัดผักเลยเนอะ



ใส่น้ำลงไปพอขลุกขลิก 



ปรุงรสด้วย น้ำตาล ซีอิ้ว น้ำมันหอย เต้าเจี้ยวแต่เราไม่มีเต้าเจี้ยว T_T



ใส่มะเขือเทศ คือเาไม่ชอบมะเขือเทศเละๆเลยใส่ที่หลัง



ใส่ไข่ ก็ไข่มันเหลือฟองนึงเลยเอมามาใส่ซะเลย 555 
โค่ะมั่วววว ><



ละลายแป้งมัน 1 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน นี่นางก็ไม่มีแป้งมันอีก 
นางเลยใช้แป้งสาลีแทน ถามว่าแคร์มั๊ยยยย นางบอกว่าม่ายยย
เพราะนางกินเอง จะทำยังไงก็ได้ 55555 



ใส่ลงไปพร้อมคนรัวๆ ไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน 



ได้ละ หน้าตาไม่ค่อยจะเหมือนราดหน้าเลยแฮะ = =
ถ้าใช้แป้งมัน สีจะใสกว่านี้ค่ะ - -



เส้นทาโร่อบกรอบ



ราดลงไปเลย โรยพริกไทยนิสหน่อยยย



หน้าตาไม่ค่อยเหมือนราดหน้า แต่รสชาติโอเคแหละน่าาาาา ><
เสร็จแล้วกับเมนูมั่วไปเรื่อยของนิชา ไปแล้วค่าาาา 


Follow me!
Facebook : NichachaCuisine




Create Date : 18 เมษายน 2558
Last Update : 18 เมษายน 2558 14:23:38 น.
Counter : 5716 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  

Am Nicha
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]



New Comments