เพราะไฟลท์ดีเลย์ เราเลยไปถึงสนามบิน Irkutsk ประมาณตี 1 กว่า ๆ เวลาที่ Irkutsk เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงค่ะ เราหอบเสื้อโค้ทขึ้นเครื่องไปด้วย คืนนั้นอุณหภูมิ -33 ค่ะ สนามบินใช้ bus gate เลยอยากฟีลดูว่า -33 มันขนาดไหน ก็เลยไม่ใส่โค้ท... อื้อหือ!! ซึ้งค่ะ 

ความประทับใจต่อไปจากดินแดนแห่งนี้ก็ตามมารัว ๆ 

เราไม่เคยมีปัญหากับ ต.ม. ที่ไหนมาก่อน แต่ที่นี่เค้าพลิกดูหน้าพาสปอร์ตเราทุกหน้า พลิกกลับไปมาแล้วหันมาถามเราอะไรไม่รู้ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่จับคำได้ว่า stamp เราถามแสตมป์ ต.ม. ขาออกจากไทยน่ะเหรอ ไม่มีหรอก ใช้ออโต้เกท เค้าบอกไม่ใช่ แล้วเค้าก็พูดเหมือนพาสปอร์ตจะต้องมีแสตมป์อะไรไม่รู้ทุกหน้า แต่ของเรามีไม่ครบทุกหน้า 

อ้าวว!! แบบนี้ต้องถามกงสุลไทยแจ้งวัฒนะแล้วล่ะ เราก็ใช้เล่มนี้อยู่เล่มเดียว กี่ประเทศก็ไม่มีปัญหานะ  เค้าก็ถามทำเสียงดุ พลิกไปมา แล้วก็ทำหน้าเบื่อ ๆ แบบไม่มี เราก็ให้คำตอบไม่ได้อ่ะ เราคนสุดท้ายแล้วด้วย จนท. ต.ม. คนอื่นอีก 4 คนที่เสร็จงานแล้วก็มามุงดูแล้วเอาพาสปอร์ตเราไปพลิก ๆ กันใหญ่ สุดท้ายเหมือนเจอในสิ่งที่ต้องการ ส่งพาสปอร์ตคืนเราสภาพยับเยินพร้อมยิ้มหวาน แต่เรายิ้มไม่ออกอ่ะวินาทีนั้น 

กำลังช็อคกับค่าแท็กซี่ลืมซิมการ์ดเลย 

เรื่องที่งงกับชีวิตก็มีอยู่แค่นั้นค่ะตลอด 6 วันที่นั่น เราไม่มองว่ามันเป็นเรื่องแย่นะ เรามองว่ามันเป็นเรื่องที่ครั้งนึงเกิดขึ้นกับเราให้ได้มีเรื่องเล่าเท่านั้นเอง 

มาว่ากันด้วยเรื่องของ Irkutsk กันเถอะ 

อย่างที่บอกค่ะ Irkutsk เป็นจุดแวะจอดระหว่างทางของรถไฟสาย Trans-Siberia เมืองนี้เลยมีนักท่องเที่ยวแวะหยุดพักก่อนจะออกเดินทางด้วยรถไฟต่ออย่างไม่ขาดสาย นักท่องเที่ยวที่มาช่วงเดือน ก.พ. - มี.ค. ส่วนมากเพราะทะเลสาบไบคาล แต่จริง ๆ ที่นี่เที่ยวได้ทั้งปีและไม่ได้มีแค่ไบคาลนะคะ 

Irkutsk เป็นเมืองที่ถือว่าเป็นเมืองหลักของไซบีเรียตะวันออก ที่นี่เป็นจุดแวะซื้อขายสินค้ามาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วค่ะ และเพราะเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจคึกคักมาก เลยทำให้ก่อเกิดถนนที่สร้างตรงไปถึง Moscow เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ

แม่น้ำสายหลักของ Irkutsk คือ Angara River ค่ะ ถึงจะหนาวเย็นจนแม่น้ำเป็นน้ำแข็งได้ แต่ที่นี่ไม่เป็นน้ำแข็งค่ะเพราะเค้าใช้สารเคมีไม่ให้น้ำแข็งตัว เนื่องจากต้องใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้อยู่ในการทำอุตสาหกรรมต่าง ๆ

สินค้าหลักของที่นี่ คือ อลูมิเนียม ที่นี่มีโรงงานอลูมิเนียม มีโรงงานเครื่องบินซึ่งเป็นเหมือนสาขาของโรงงานผลิตเครื่องบินเก่าแก่ของรัสเซีย (ไม่น่าใช่เครื่องบินพาณิชย์แต่เป็นเครื่องบินรบนะคะเราว่า แต่เราไม่แน่ใจว่าที่ Irkutsk นี่ผลิตเป็นลำมาเลยหรือแค่ผลิตชิ้นส่วน) นอกจากนั้นยังมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (hydro power plant) ใหญ่ ๆ อยู่อีกด้วย นับว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเมืองหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

แล้ววันแรกของเราที่นี่ตอนเช้าหิมะเป็นละอองโปรยปราย พอสายหน่อยหมอกลงจัด 

เราอยู่ที่ Irkutsk สองวัน คือวันแรกที่ไปถึงและวันก่อนกลับ วันแรกที่ไปถึงนี่ดี๊ด๊ามากตามสไตล์วันแรกของการเที่ยว แต่ความดี๊ด๊าหมดลงเมื่อเจออากาศ -28c  เดินออกจากโรงแรมสามก้าว รู้สึกอะไรบางอย่างที่ขนตา จะปัดออกแต่ทำไมแข็ง ๆ เราก็ไม่ได้ใช้มาสคาร่านิ อ่ะ!! คิ้วอีกด้วยแฮะ 

กรรมเวร สามก้าวของเราน้ำแข็งเกาะเลยทีเดียว 

แต่ที่นี่เราชอบบ้านไม้นะคะ บ้านไม้เก่ามีให้เห็นอยู่ทั่วเมืองค่ะ เราชอบมาก 

แต่มันหนาวเหลือเกิน สุดท้ายยอมแพ้ค่ะ กลับเข้ามาที่โรงแรมรอเวลาและขอทำใจซักนิด เข้าใจแล้วว่าความหนาวของ Siberia นี่มันขนาดไหน คนที่นี่เค้าอยู่กันได้ยังไง?!? 

และถ้าอากาศมันจะขนาดนี้ ก็ไม่ต้องออกไปก็ได้มั้ง พรุ่งนี้ค่อยออกเพราะพรุ่งนี้ซื้อทัวร์ไปทะเสสาบไบคาลไว้ พอเริ่มหิวก็นั่งทานอาหารที่คาเฟ่ของโรงแรมนี่แหละค่ะ จานนี้เป็นอาหารทานเล่น ดีนะไม่สั่งอย่างอื่นมาอีก มันเยอะมากก อาหารที่นี่ไม่แพงแฮะ ราคาสมเหตุสมผลค่ะ 

เพราะทานอาหารเที่ยงช้า กว่าจะทานเสร็จก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว อากาศดีขึ้นมาก เหลือแค่ -17c เราเลยพอออกไปเดินเล่นแถวโรงแรมได้บ้าง 

ภาพวาดบนกำแพงนี้มีเพื่อระลึกถึง WWII เยอรมันเข้ามาไม่ถึง Irkutsk หรอกค่ะ แต่ที่นี่ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย รัสเซียใช้ Irkutsk เป็นฐานทัพ และทหารญี่ปุ่นที่มาช่วยก็ใช้รถไฟเส้นเดียวกับ Trans-Siberia เพื่อขนกำลังพลค่ะ เราฟังเค้าเล่าแล้วเราก็ อื้มม!! ปกติไม่เคยสนใจประวัติศาสตร์รัสเซียและประเทศนี้ แต่รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

เดินตรงมาก็จะเป็น Eternal Flame ตั้งอยู่หน้าหอสดุดีวีรชนที่ออกรบใน Patriotic War ปี 1941-1945 เพื่อเข้าสู้กับนโปเลียน เค้าบอกว่าตรงนี้มีดีที่การเปลี่ยนกะของการ์ดซึ่งจะเป็นนักเรียน high school ค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ดูหรอก มาซะเย็นขนาดนี้

เดินตรงขึ้นสะพานจะเป็น Bridge of Love Locks ก็ไม่แน่ใจว่าวัฒนธรรมการแขวนกุญแจแบบนี้เริ่มมาจากที่ไหนเนอะ มีกันเกือบทุกประเทศเลยทีเดียว วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ด้วย เห็นหนุ่มสาวมาชมวิวที่นี่กันอยู่บ้างค่ะ

ใกล้กันเป็น Epiphany Cathedral of Irkutsk โบสถ์นี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ แต่มากด้วยการผสมผสานของศิลปะแบบต่าง ๆ ถ้าอ่านคำบรรยายแล้วเราว่ามันดูแฟนซีมากกว่าจะเป็นโบสถ์นะ 

ที่เห็นเป็นอนุสาวรีย์อยู่ตรงข้ามโบสถ์จะเป็นอนุสาวรีย์ของผู้ก่อตั้งเมือง Irkutsk ค่ะ เลยไปอีกจะเป็น Moscow Gate แต่เราก็ไม่ได้เดินไปหรอก อยู่แถว ๆ นี้แหละค่ะ เรื่องของเรื่องคือจะเดินหาซุปเปอร์มาร์เก็ต 

ถัดมาทาง Lenin Street อีกนิดนึงจะเป็น Church of Saviour เป็นโสถ์สีขาวสไตล์ baroque โบสถ์นี้มีจุดเด่นที่รูปร่างแปลกจากโบสถ์อื่นที่มีลักษณะเหมือนเรือค่ะ

เริ่มเย็นมากแล้ว... มืออ่ะค่ะเย็น เพราะถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็หาไม่เจอ กลับโรงแรมนอนพักดีกว่า พรุ่งนี้ออกนอกเมืองด้วย เปลี่ยนอากาศกระทันหันแบบนี้กลัวไม่สบายแล้วจะไม่สนุกน่ะค่ะ

กลับโรงแรมมืดพอดี จริง ๆ ที่นี่ก็สนุกดีนะคะ สถานที่เยี่ยมชมมันไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่เลย แต่มันหนาวนี่สิ ที่ห้องพักมีชาให้ อากาศหนาว ๆ แบบนี้ จิบชาร้อนหอม ๆ รสชาติดีทั้ง ๆ ที่เป็น tea bag นี่มันฟินดีจริง ๆ เลยค่ะ 

วิวจากห้องยามค่ำคืนนี่ก็มองเพลินดีเหมือนกันนะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ