|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
อยากลาออก แต่ทำได้แค่หยอกเล่น |
|
อยากลาออก แต่ทำได้แค่หยอกเล่น > >> >>>>> >> >ผมเพิ่งกลับมาจากทำงานต่างจังหวัดครับ เรียกว่านอนอยู่นั่นยาว 3 วันรวด แต่ดีครับ....ไม่ค่อยเหนื่อยมาก เพราะทำงานอย่างเดียว ไม่ต้องขับรถไปๆ กลับๆ ไม่ต้องรู้สึกว่า ที่มันเวลาต้องกลับบ้านแล้วนี่หว่า ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถไป ตื่นชิลๆ แล้วไปทำงานโปรเจคตรงนี้ถือว่าน่าจะใหญ่สุดในปีนี้ เพราะแยกทีมเข้ามารุมไซต์เดียวถึง 8 คน ตลอด 3 วันส่วนวันแรก เข้ามาเปิดงานหมดแผนกครับ ครบทีม 12 คน อ้อ...ตอนนี้สมาชิกกลับมาที่ 12 คนแล้วครับ มีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม 1 คนหลังปีใหม่ถามว่าเหนื่อยมากไหม รันงานยาว 3 ยาวรวดส่วนตัวผม เหนื่อยมากในวันแรกครับ เพราะวันเปิดงานใช้สมองเยอะมาก พูดเยอะมาก เพื่อทำความเข้าใจ ชี้แจ้ง ในส่วนของตัวเองแต่งานเส็ดไม่ได้เย็นมากนัด 5-6 ก็เรียบร้อย แยกย้ายกลับไปนอน วันที่ 2 ลงทำงานหน้างานจริงๆ จังๆ แต่ทำไมไม่ค่อยเหนื่อยไม่รู้ครับ อาจจะเริ่มอยู่ตัว และการลงมือทำงาน ผมไม่ได้ทำอะไรมาก ทีมงานเป็นคนทำซะส่วนใหญ่ ผมแค่ลง Observe กาแฟก็มีคนสั่งให้ ข้าวก็มีคนหาให้กิน จะเอาอะไรน้องมากันเต็มทีมมันทำให้หมดอยู่แล้ว

และด้วยความมีทรงเหมือนไม่ค่อยสบายจากอาการภูมิแพ้ ทีมกับลูกค้าก็ดูใช้งานผมค่อนข้างถนอม ถึงแม้จริงๆ อาการประมาณนี้ผมจะถือว่าปกติ ทำงานได้สบายๆ ก็ตาม ตกเย็นก็ยังขับรถกันนั่งกินข้าวกินเบียร์ริมเขื่อนเปลี่ยนบรรยายายชิลๆ ได้แหม่....ระหว่างทางนี่ก็ธรรมช๊าด ธรรมชาติ อีกกลุ่มก็ไปนั่งร้านอาหารฟังดนตรีสดอยู่ในเมือง ส่วนอีกพวก ก็ไปโผล่อยู่ซุ้มยาดอง บอกว่าได้ฟิลต่างจังหวัดดี


วันที่สามถึงจะดูวุ่นวาย แต่ก็มีเวลารอครับว่างๆ ระหว่างรอ ก็มีช่วงน้องไปนั่งหาอะไรกินที่คาเฟ่ซักหน่อย ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนกัน กลับมาทำงานต่อก็เหนื่อยไม่มาก เพราะผมออกไปเดินหน้างานนิดหน่อย แล้วกลับมานั่งคุยกับทางลูกค้าที่ห้องประชุม ลูกค้าก็ถามเยอะมากครับ ถามเล็ก ๆ น้อยๆ อะไรเยอะมาก เรียกว่าตอบจนเหนื่อย

ผมเลยหงายการ์ดาสายเอ็นเตอร์เทน พาออกอ่าวออกทะเลคุยเรื่องอาหาร เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยรุ่นใหม่ๆ เรื่องบรรยากาศปีใหม่ของกรุงเทพ เรื่องเที่ยวอะไรไปเรื่อยไม่รู้ผมนั่งคุยเล่นท่าไหน แต่ตอนช่วงบ่ายผมนั่งทำงานอยู่ที่ห้อง คนฝั่งลูกค้าเดินมาแวะมาเมียงๆ มองๆ หน้าห้องอยู่หลายรอบ จนจังหวะนึง ผมกำลังจะเปิดประตูไปเข้าห้องน้ำพอดี แล้วก็ป่ะ กับแอดมิน ธุรการ จป. ของไซต์ที่หน้าห้อง ซึ่งก็หัวเราะกันใหญ่ที่จากจะมายืนดู แต่ผมดันเปิดประตูออกมา"มีไรป่ะครับ" ผมก็ถามงงๆ"ไม่มีอะไรค่ะพี่ๆ" ว่าแล้วกลุ่มนั้นก็เดินหัวเราะส่วนกับพี่ ผจก ที่ไซต์ ที่หันไปทักอะไรกลุ่มแอดมินซักอย่าง ก่อนจะหัวเราะกันแล้วเดินมาหาผม"มันมาดูคุณกัน ผมบอกว่า วิศวะซัพที่มาโคตรไนซ์ แล้วน่ารักด้วย""อ้อ ขอบคุณครับ" เขินดิครับ 5555 แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีผมเปลี่ยนมุมนั่ง เปลี่ยนมานั่งหันหลังให้ประตู ข้างเดียวกับไนท์และย้ง ส่วนหัวโต๊ะหันข้างให้ประตู เป็น เจมส์ กลายเป็นนั่งกันประหลาดๆ ที่ต่างคนต่างนั่งหันหลังให้ประตูทำงาน 5555วันที่สี่ของสัปดาห์ผมก็ยังคงต้องออกไซต์ครับ เหนื่อยไหมไม่ต้องถาม เพราะเกินจุดนั้นมาเยอะแล้ว ไนท์ก็ยังเป็นห่วงถามตลอดว่าเหนื่อยรึป่าว ซึ่งผมก็ตอบไปว่า "อยู่ตัวแล้ว""วันแรกเราโคตรเหนื่อยเลย วันที่สองสามนี่ชิลแล้ว""ใช่ไหม....พี่บอกแล้วว่าอยู่ตัว""เออ เหมือนบูสติดไปแล้ว ที่เหลือก็ไหลๆ""เอาจริงๆ ไหม....พี่แม่งจะไม่รับงานแบบนี้เลยนะเว่ย แบบที่รับมาแล้วhandle ไม่ได้"ผมเปิดประเด็นขณะนั่งกินอะไรก่อนเริ่มงาน"พี่ด่าใครวะ" ไอ่ไนท์พูดพร้อมหัวเราะ เหมือนมันก็รู้ว่าผมด่าใคร"ไม่ได้ด่า แค่หมายถึงว่า ถ้าเป็นพี่ แล้วดูดิ...แม่งต้องเอาคนมาทมงานงานเดียว 8 คน งานยาว 8 วันยังไม่จบไม่สิ้น ดีลยังไงวะ....งานอื่นแม่งชิบหายหมด""เออ เราเข้าใจที่พี่พูดเลย เราปลงแล้ว""พี่ก็อยากปลง แต่จะให้ปลงยังไง...."ทำไมไนท์มันถึงต้องมาจุดประเด็นมาให้ผมขึ้นตอนกำลังกินวะ ทีนี้ก็เซ็งกินไม่อร่อยขึ้นมาซะอีก
เช้ามาวันนี้ วันศุกร์หรรษา ผมว่างได้ทันเวลาพอดี เพราะเป็นวันที่หลานมีแข่งกีฬาสี เลยได้ไปร่วมงาน ดูหน้าแข่งกีฬา เพราะวันนี้หลายเป็นนักกีฬา เรื่องจริงๆ คืออะไรรู้ไหมครับ.....เค้าอยากเป็นดรัมเมเยอร์ครับ แต่ตัวเองดันเก่งกีฬา 55555เค้าก็ไปบอกคุณครูว่าขอเป็นดรัมเมเยอร์ได้ไหม คุณครูเลยเริ่มให้ไปซ้อม กีฬาก็ยังต้องซ้อมนะครับ เรียกว่าจะควง 2 ก็ว่าได้ ทีนี้ หลานเคยเห็นรูปว่าผมเคยเป็นดรัมเมเยอร์จากพี่สาวผม เค้าเลยเดินถือม้วนกระดาษ เดินมาที่บ้านผม พร้อมเดินเป็นจังหวะ"คุณน้าปริ๊นซ์ขา" มีคำว่า คุณ ด้วยวะ"คะ? เอาอะไรมาให้น้าปริ๊นซ์คะเนี้ย""น้าปริ๊นซ์สอนข้าวหอมถือไม้หน่อย""อะไรนะ" ผมถามก่อนที่พี่สาวจะอธิบาย "อยากเป็นดรัมเมเยอร์จ้า อยากให้น้าปริ๊นซ์สอน ตอนนี้มี 10 กว่าคน ต้องไปคัดตัว"ผมได้แต่ยิ้มๆ เขินก็เขิน งงก็งง แต่ก็เรียกหลานให้มาเดินให้ดู หลังจากวันนั้น หลานก็เดินมาพร้อมม้วนกระดาษอันเดิมทุกเย็น แล้วก็มาเดินไปเดินมา อันนี้ท่าพัก อันนี้ท่ารอ อันนี้ท่ายืน ผมก็ follow ที่คุณครูเค้าสอนมา แค่จัดระเบียบท่าทาง มือไม้ให้แค่นั้น"สอนหมุนๆ ได้ไหมคะ" หลานพูด ว่าแล้วก็พยายามหมุนม้วนกระดาษ"คุณครูให้หมุนด้วยหรอคะ""หมุนได้"ผมเลยต้องนั่งสอนว่ามันต้องทำมือยังไงให้ไม้มันหมุนไม่ฟาดหน้าตัวเอง"โยนได้ไหม" .....ห๊ะ?!"ไม่ได้ค่ะ เค้าไม่โยนกันค่ะ""โย๊น ข้าวหอมเห็นในทีวี โยนให้ดูหน่อยได้ไหมคะ""โยนตอนนี้ไม่ได้ค่ะติดเพดาน สมัยก่อนน้าปริ๊นซ์ไปซ้อมที่สวนสาธารณะนะคะ แล้วแรกๆ นะน้าปริ๊นซ์โยนแล้วรับไม่ได้ ลงหัวตัวเองบ้าง ลงขาข้าง เขียวไปหมด ซ้อมไม่ทันถึงอาทิตย์ ไม้หัก..."อันนี้บอกเลยว่าต้องหยุดขำ หลานก็ขำทั้งๆ ที่นึกภาพไม่ออก"หักยังไงคะ""อันแรก หัวหลุด""หัวหลุด!!! 55555""อันที่สอง หักกลางเลย โยนแล้วตกลงพื้นสนามบาส สุดท้ายน้าปริ๊นซ์ต้องไปเอาไม้ที่ตกหัวหลุดมาต่อใหม่มาใช้ซ้อม แต่โชคดีที่มันไม่ตกอีกแล้วนะคะ ไม่งั้นหักกลางอีกนี่คิดไม่ออกเลย" หลานขำมากครับ คงคิดตามแล้วดูทุลักทุเล แต่ไอ่ที่ผมเล่านั่นน่ะ ความจริงทั้งนั้น คฑาอันแรกที่ผมใช้ซ้อมเป็นไม้เก่าส่วนกลางของโรงเรียน ซึ่งขนาดมันก็ไม่ได้กับความสูงของผมหรอก แต่เอามาใช้ซ้อมก่อน เพราะคิดว่าต้องพังแน่ๆ เอามาซ้อมได้ 2-3 วัน ก็ตกบ้าง ฟาดขาตัวเอง ฟาดพื้นบ้าง จนหัวหลุดโรงเรียนซื้อให้ใหม่ ทีนี้ซื้อได้ความสูงผมเลย แหม่เหมือนจะดี แต่คราวนี้มันทำให้ผมต้องกะระยะใหม่หมด รวมทั้งจังหวะที่โยนไม้ขึ้นไป ต้องกะว่ามันจะหมุนกลับลงมาท่าไหน... ซึ่งปกติทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน ผมจะซ้อมอยู่ที่สนามบาส หรือลานปูน เพราะยืนง่าย มั่นคง ตอนนั้นไม่ถนัดยืนบนหญ้าแล้วตอนซ้อมที่โรงเรียน ผมก็โยน ปั๊บ..... คฑาหมุนแล้วรูดผ่านมือ...2มือด้วยนะ 5555 ลงพื้นดัง โป๊ง!!!!อ่ะ...ตอนมันผ่านมือลงไป ผมหลับตาด้วย เพราะกลัวฟาดหัว พอลืมตามาได้นี่......."เชี้ย......"คฑาอันไหมอายุไม่ถึง 1 อาทิตย์ หัวไปทาง หางไปทาง ตัวไปทางเรียกว่าไม่เหลือชิ้นดีหันไปมองหน้ารุ่นพี่ที่มาซ้อมให้ รุ่นพี่ก็กุมหัวตัวเอง ประมาณว่า กูคิดถูกหรือผิดวะ เอาไอ่นี่มาเป็นดรัมเมเยอร์ 555555 ก็ต้องเอาไอ่อันแรกมาซ่อมแล้วใช้ซ้อมครับ เพราะแม่งต้องตกอีกหลายรอบแน่ๆ ซึ่งผมก็ต้องเปลี่ยนที่ซ้อมมาเป็นสนามหญ้า ตกมาจะได้ไม่พังไปมากกว่านี้
2 อาทิตย์ผ่านไป จับ2มือตั้งแล้วโยน เริ่มรับได้ทุกรอบ อีกอาทิตย์ มือเดียว โยน..... ......รับได้แล้ว......
ตัดภาพมาที่หลาน..... หลานซ้อมทุกวันติดต่อวัน 2 อาทิตย์เลยนะครับ จากเดิมที่เค้าเล่ามามีเพื่อนซ้อมด้วย 10 กว่าคน ตอนนี้เค้าบอกว่า"เพื่อนไม่มาแล้วนะคะ ตอนนี้ซ้อมแค่ 5 คน""วันนี้เหลือ 3 คน"คงจะเริ่มคัดเลือกกันแล้ว และเค้าก็ยังอยู่ในกลุ่มนั้น"คุณแม่ขา น้าปริ๊นซ์ขา....วันนี้คุณครูให้จับกระดาษขึ้นมาจากกล่อง ข้าวหอมไม่ได้เป็นดรัมเมเยอร์นะ"ผมนั่งฟังอยู่ด้วย คิดทันทีเลยว่า เค้าจะเสียใจไหมนะ"แต่ข้าวหอมเป็นนักกีฬาได้ ถ้าเป็นนักกีฬาจะได้เหรียญด้วย"พี่สาวก็บอกว่าใช่ครับ และบอกข้อดีของการเป็นนักกีฬา พร้อมชมเค้าว่าเค้าทำดีมากๆ แล้ว ผมก็บอกเค้าว่า ผมภูมิใจในความพยายามของเค้ามาก และเค้าทำได้ดีมากๆ อยากให้ดีใจที่ได้ทำสุดท้าย นักกีฬาของผมก็ได้เหรียญทองมาจนได้ ยินดีด้วย คนเก่งของน้า
จบกีฬาสีของหลานผมก็เข้ามาออฟฟิศส่งบิลทำเอกสารนั่นนี่ วันนี้ไม่อยากทำงานเลยครับ ยังสนุกกับกีฬาสีหลานอยู่เลย
Create Date : 24 มกราคม 2568 |
Last Update : 24 มกราคม 2568 17:40:43 น. |
|
15 comments
|
Counter : 405 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณทนายอ้วน, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณกะริโตะคุง |
โดย: babyL' วันที่: 24 มกราคม 2568 เวลา:23:39:15 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 มกราคม 2568 เวลา:23:41:04 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 25 มกราคม 2568 เวลา:6:24:14 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 25 มกราคม 2568 เวลา:18:57:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มกราคม 2568 เวลา:21:01:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มกราคม 2568 เวลา:21:52:36 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 27 มกราคม 2568 เวลา:16:21:07 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 28 มกราคม 2568 เวลา:14:39:16 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 30 มกราคม 2568 เวลา:21:36:36 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
ส่วนหลานนี่เก่งเหมือนกันนะ ได้เหรียญมาด้วย