lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
มีนาคม 2568
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
14 มีนาคม 2568
space
space
space

แต่ละมื้อ แต่ละเดย์... ปวด Head กลุ้ม Heart




ชีวิตช่วงนี้ โหด มันส์ ฮา มากครับ





เริ่มจากเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ผมเหมือนจะติดไข้หวัดใหญ่......
แต่ด้วยเพิ่งฉีดวัคซีนมาได้ 3เดือน ทำให้ไม่เชิงจะมีอากาศอะไรมากครับ

แค่เจ็บคอค่อนข้างมาก กับเป็นไข้ 37-38 อยู่ 2 วัน
ซึ่งผมหยุดงานไป 1 วันคือวันจันทร์ เพราะถึงไข้ไม่สูงแต่รู้สึกเพลียๆ มึนๆ 
แล้วผมจะมีงานเข้าไซต์อังคาร พุธ เลยอยากพักซักวันก่อนออกไซต์ทำงาน
หลังจากนั้นก็โอเคครับ เจ็บคอค่อยๆ เบาลงเหลือแค่พอรำคาญ ไม่มีไข้ ทำงานได้แบบซึมนิดๆ











วันพุธเสร็จจากงานที่ไซต์ แม่ก็ฝากให้ไปรับหลายที่ร้านอาหาร

ที่หลานขอไปกินข้าวกับเพื่อนในวันสุดท้ายของการเรียน  K2
ผมก็ไม่มีปัญหา แวะไปรอรับที่ร้านอาหารได้ ซึ่งผมก็นั่งตึง ๆ ดมยาดม
"คุณน้าไม่สบายอีกแล้วหรอคะ"  คุณแม่ท่านนึงถาม
"ครับ" ผมแค่ยิ้มๆ 
"ปีนี้หลายรอบเหมือนกันนะคะเนี้ย"
"ปกติติดจากคนนั้นครับ" ผมชี้ไปที่หลานที่นั่งกินพิซซ่าพร้อมยักไหล่
"แต่คราวนี้น่าจะป่วยเอง" ผมยิ้มเบาๆ พร้อมดมยาดมต่อ










กินเสร็จไม่จบ เพราะเด็ก ๆ จะไปคาเฟ่ต่อพร้อมเล่นของเล่น
ผมออกตัวว่าป่วย ขอไม่ไปเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ แต่ก็ออกไปยืนๆ นั่งๆ ดูหลานเป็นระยะ
แต่ไม่รู้ด้วยป่วย ด้วยร้อนจัด หรือแพ้หญ้า แพ้ฝุ่นต้นไม้
อยู่ๆ ก็เริ่มไอๆ แน่นๆหน้าอก เลยกำลังจะเดินกลับไปเข้ารอด้านห้องแอร์
แต่แค่คิดเท่านั้น
พ่อเพื่อนหลานก็เดินตรงเข้ามาแล้วจับแขนผมให้นั่งคุยด้วย
ไอ่ผมนี่ยิ้มแห้งเลย....
"น้องข้าวหอมจะขึ้นโชว์เปียโนหรอครับ อาทิตย์นี้"  คุณพ่อท่านนั้นถาม
"อ้อ ครับ"
"คุณยายบอกว่าคุณแม่กับคุณน้าก็เล่นเปียโนได้ นี่คือสอนเองหรือว่าเรียนข้างนอกครับ"
"ข้างนอกครับ" ผมตอบแบบประหยัดคำพูด เรียกว่าเก็บอาการ
"เรียนปีนึงได้แล้วไหมครับ"
"จะ 2 ปีแล้วครับ"
"โอ้ เร็วจังเลยนะครับ แสดงว่าเริ่มตั้งแต่เข้า K1 เลยใช่ไหมครับ"


ถามเยอะจังครับคุณพ่อ ซึ่งผมแค่ยิ้มแล้วพยักหน้า 
พร้อมกับที่หลานวิ่งกลับเข้ามาหา ก่อนเอาตัวมาดันจะนั่งตัก

"แล้วดีไหมครับสมาธิงี้ ด้านอารมณ์"
"ช่วงเล่นก็มีครับ แต่ถ้าง่วงอารมณ์ก็ไม่ดี" 
ผมยิ้มพร้อมถอนหายใจตั้งหลัก แต่ผมคงยิ้มแห้งจริง เพราะหลานก็นั่งมองหน้า

"What's wrong?"  หลานถาม
"Can't breathe well"
"Oh...let's go inside to see Granny. Follow me"
ว่าแล้วหลานก็ลุกขึ้นแล้วจูงมือผมให้กลับเข้าไปข้างใน
"โอ้ ข้าวหอมพูดเก่งเลยนะครับ"
ตรงนี้ผมแค่ยิ้มแล้วจูงมือเดินกลับเข้าด้านในพร้อมหลาน
บอกเลยว่า เกือบหลับแต่กลับมาได้  เพราะทีแรกทำท่าจะขับรถไม่ไหว
หลานก็น่ารักเดินไปบอกแม่เพื่อนว่า
"มีใครขับรถให้น้าหนูได้บ้างคะ"
แม่เพื่อนก็ตื่นเต้นเลยครับ 55555 ส่วนแม่ผมก็นั่งกอดอกมองหน้าผมว่าสรุปจะยังไง
แต่พ่นยานั่งพักพร้อมดื่มชาร้อนไป 1 กา ก็ได้อยู่ เลยขอให้หลานลาเพื่อน ผู้ปกครองกลับบ้านก่อน













หลานก็จูงมือยายกลับบ้าน แล้วค่อยๆ ซบหน้าร้องไห้เงียบๆ ในรถ
"ข้าวหอมเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคะ" ยายเข้าไปกอดแล้วถาม
"ข้าวหอมอยากเล่นต่อ....แต่ข้าวหอมต้องกลับบ้าน"
"น้าปริ๊นซ์ไม่ค่อยสบาย แต่น้าปริ๊นซ์มาอุตส่าห์มารับข้าวหอมไงลูก
เรากลับบ้านก่อนให้น้าปริ๊นซ์พักผ่อนแล้วคราวหน้าเรามาใหม่นะ"

"ได้ค่า...."  

เป็นได้ค่ะที่พูดไปร้องไห้ไปแล้วนั่งหันหน้าร้องไห้แบบไม่มีเสียงอยู่บนคาร์ซีท
สงสารมากครับ แต่....นั่นก็4โมงครึ่งแล้ว
ทำผมได้แค่เอื้อมมือไปลูบขาหลานแล้วตบเบาๆ 







พฤหัสเข้าออฟฟิศก็ส่งบิล เซ็นต์เอกสารหลายสิบ
เบิกเงิน ลงใบงานนอกสถานที่ 
เคลียร์ mailbox ไม่ให้เต็ม  ตอบ  e-mail บางเมลล์ที่ทำไม่เสร็จจากที่ไซต์
เรียกว่า ทำงานไป กินข้าวเที่ยงไปบนโต๊ะทำงาน ยังต้องนั่งอยู่จนเกือบทุ่ม
ทั้งๆ ที่เวลาเลิกงานคือ 5 โมงเย็น ไม่งั้นงานไม่เสร็จ





วันศุกร์ผมมีไปทำงานที่นครปฐม 
ไหนๆ หลานก็ปิดเทอมแล้ว งานก็พอมีเวลาบ้าง ผมเลยชวนหลานพร้อมยายไปด้วย
ระหว่างทางไป ก็แวะจอดดู
Air show 88 ปีกองทัพอากาศ กลางทางครับ 5555
หลานไม่มักจะไปดูใกล้ ๆ ครับ พวกบอกเสียงดัง













ไปถึงนครปฐมผมก็ไปทิ้ง 2 คนไว้ที่คาเฟ่ ที่มีปลาคราฟ เรือเป็ดให้ปั่น มีขนม น้ำ ข้าวให้กิน
มีตุ๊กตาให้ระบายสี เรียกว่าอยู่ได้ยาวๆ 
ส่วนผมก็ไปทำงานซัก 2 ชั่วโมงนิดๆ  ก็เสร็จ แล้วกลับมาหาหลาน













ไหน ๆ ก็มานครปฐมแล้ว ประจวบกับ ต้นชมพูพันทิพย์ 
ที่ ม. เกษตร กำแพงแสนกำลังบาน
ผมเลยถือโอกาสขับรถต่อไปกำแพงแสน ไปดูดอกชมพูพันทิพย์กัน












ตอนที่ผมไป ดอกยังบานเยอะอยู่ครับ แต่เริ่มมีใบแซมๆบ้างแล้ว
แต่ถือว่ายังสวยสดใส ถ่ายรูปแล้วหวานๆ เลยครับ
หลานนี่ร้องว้าวววว
So cute!
"อันนี้ซากุระไหมคะ"
"ไม่ใช่ค่ะ อันนี้ชมพูพันธ์ทิพย์ค่ะ"  ผมตอบ
"ชมพูพันธ์ทิพย์หรอคะ เหมือนซากุระเลยเนอะ"
"เคยเห็นซากุระหรอคะ"
"เห็นในทีวี แต่อันนี้ก็เหมือนนะ ว้าวววว I like it"












ทรงแล้วผู้หญิงกับดอกไม้จะเป็นของคู่กัน เพราะหลานนี่เดินชมดอกไม้ซะเหมือนอากาศเย็นสบาย
ทั้งๆ ที่อากาศตอนบ่าย 2 นี่ร้อนจนเหงื่อซึมหลัง 
ส่วนผมก็ทำหน้าที่เป็นตากล้อง ถ่ายรูปให้หลานอยู่ร่วมชั่วโมง





ก่อนกลับพาแวะคาเฟ่ซักที่ก่อนกลับบ้าน










ส่วนเสาร์หลานมีคอนเสิร์ตเปียโน
วันอาทิตย์ก็พาแฟนไปกินข้าว เดินห้างซื้อของ เอ็นเตอร์เทนตามประสา












You're always my pride






วันจันทร์มามีงานต้องเข้าไซต์และเข้า 3 วันติดๆ 
แต่ผมก็ทำเรื่องตั้งแต่เช้าวันแรกด้วยการยืนๆ อยู่แล้วจอดับ
ซึ่ง4-5 วิ ทันทีที่รู้ตัวผมรีบถอยหลังไปเข้ากำแพงแล้วลงนั่ง

....หลังจากนั่นก็ภาพตัดไปเลย....
รู้เรื่องอีกทีก็คือเสียงไนท์เหมือนเรียกชื่อผมเรื่อยๆ แล้วบอกว่าไปโรงบาลกันนะๆ



ไอ่ผมก็ ติดๆ ดับๆ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ ก็ไม่ได้ฟังหรือตอบไอ่ไนท์
 สรุปต้องนอนให้น้ำเกลือ ตรวจเลือด รอดูอาการ ประมาณ 3 ชั่วโมง
ไนท์ก็กลับไปทำงานบอกว่าถ้าหมอให้กลับได้ยังไงให้โทรมาบอก
ถ้างานเสร็จมันจะมารับ ถ้าไม่เสร็จจะให้ซีเกมส์มารับ
แต่ผมต้องขับรถไหวด้วย เพราะไม่มีใครขับรถผมกลับได้ คราวหน้าให้เอาฮอนด้ามา 5555  
ครับ....ขับรถไหว แต่ขับแบบเหนื่อยมาก ดีที่ไนท์ขับตามมาเรื่อยๆ เป็นเพื่อน










วันรุ่งขึ้นผมมีงานนะ แต่เลือกไม่เข้าไซต์
อ้อ....ไม่ไปทำงานด้วย....เพราะตื่นมาตอนเช้าอาบน้ำแล้วรู้สึกเวียนหัว เพลียๆ 
แฟนบอกว่า ผมนี่หน้าซีด ปากซีด เหมือนจะเป็นลมตลอดเวลา
ถ้าไปทำงาน น่าจะถึงโรงบาลก่อนถึงออฟฟิศ
และด้วยความรู้สึกเพลียๆ มึนหัวมากนั่น แฟนเลยพาไปหาหมอ
ได้นอนให้กลูโคส เพราะน่าจะอ่อนเพลีย จากอาการป่วยก่อนหน้านี้แล้วไม่ได้พักผ่อน



กลับมาเลยลงนอนปิดม่าน ปิดมือถือ ตื่นอีกทีบ่าย
ซึ่งแม่ก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้กินที่ห้องนอน ส่วนแฟนไปทำงาน 
โดนบอกพี่เพ็ญให้แวะมาดูผมบ้าง ไล่ให้ดื่มน้ำ หรือกินอะไรบ้าง อย่าเอาแต่นอน











อีกวันมีงานไซต์ ผมก็ไม่ไป
เพราะกางใบรับรองแพทย์มา หมอเขียนให้หยุด 2 วัน
อ่ะ....
กูขอใช้สิทธิ์เต็มบาร์เลยแล้วกัน.....เลยนั่งๆ นอนๆ ทำงานอยู่บ้าน
เหนื่อยก็นอน ไหวก็ลุกขึ้นมาทำงาน





กว่าจะมาทำงานจริงๆ ก็วันพุธละครับ เรียกว่าคราวนี้หยุดซะฉ่ำ
งานก็ไม่มีอะไรค้าง เพราะผมนั่งเคลียร์อยู่ทุกวัน
หลังจากนั้น ผมก็อยู่ไซต์ยาวๆ 
ยาวจนถึงวันนี้ แต่ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ นั่งเป็นพระประธานอย่างเดียว
ให้ไนท์โซโลเอาเอง แถมดูแลซีเกมส์อีกหนึ่งคน มีอะไรค่อยถามผมแล้วกัน 





นี่แหละครับ เหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้ผมหายไปจากบล๊อก 
ไม่เข้าไซต์ก็ป่วย ถ้าไม่ป่วย ได้เข้าออฟฟิศก็เคลียร์งานเกือบตาย

เรียกว่าไม่มีเวลาเงยหน้าขึ้นมาจากจอเลยครับ 
ข้าวก็กินไม่ค่อยจะลง ซึ่งหมอบอกว่าถ้าเครียด เหนื่อย เบื่ออาหาร กินไม่ลง
ก็ให้นั่งกินน้ำเกลือแร่ซักวันละ 2  แก้ว จะได้ไม่เพลีย







ส่วนเรื่อง มันส์ ฮา เกิดเมื่อไหร่.....
เพิ่งเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เองครับ

คืนวันเสาร์ผมได้งานพร้อมกับน้องพีท น้องเนตไอดอลที่ผมเคยเล่าให้ฟังน่ะครับ
ซึ่งตอนทำงานมีเสื้อผ้าที่ทางลูกค้าเตรียมให้ใส่
เสร็จงานราวๆ 4 ทุ่ม ทางลูกค้าบรีฟให้ใส่เสื้อเชิ๊ตขาว กางเกงยีนกลับ
ผมกับพีทมารถคันเดียวกันเหมือนทุก ๆครั้ง 
และเข้ามาห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมตัวกลับ



พี่ออกาไนซ์เค้าเข้ามาชม มาขอบคุณ แล้วหยิบเบียร์ยื่นให้คนละกระป๋อง
เพราะข้างนอกพวกอินฟูลฯ เค้าก็ดื่ม ปาร์ตี้กันหลังงานเลิก
ผมก็ถามพีทว่ามันก็อินฟูลฯ ทำไมไม่ไปปาร์ตี้กับเค้า
เพราะมันก็มาถ่ายงานส่งเหมือนกัน
แต่พีทบอกพวกนั้นเบอร์ใหญ่ทั้งนั้น เค้าไม่คุยกับมันหรอก
และพรุ่งนี้มันต้องมีไปทำคลิปงานลูกค้าต่างจังหวัดแต่เช้า เลยอยากรีบกลับ



พีทรับเบียร์ แล้วเปิดชนกับทีมงานทันที ส่วนผมรับไว้แต่ไม่ได้เปิดดื่ม
กระป๋องเดียวอ่ะครับ น้องพีทยกสามทีก็หมดแล้ว
จากนั้นก็ดื่มน้ำเปล่ากันคนละขวด แล้วเดินกลับ
ระหว่างกลับก็ลาลูกค้า ตากล้อง ช่างผม ช่างไฟ อินฟูลฯ อะไรไปเรื่อย
กว่าจะเดินไปถึงรถก็น่าจะครึ่งชั่วโมงได้





"พี่ขับป่ะละ พี่ไม่ได้กินเบียร์"
ผมพูดพร้อมเปิดประตูหลังโยนเบียร์ลงเบาะ
"ไม่เป็นไรพี่ คอนแทคเลนส์ไม่ตรงสายตาไม่ใช่หรอ ผมขับเอง"
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเดินไปนั่งที่ข้างคนขับปกติ
เพราะรู้อยู่แล้วว่า เบียร์กระป๋องเดียว พีทไม่ได้เมาหรือจะมีอาการอะไรอยู่แล้ว


ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อง
Avatr 11... รถน่ะครับ
กำลังคุยกับสนุกก็ผ่านที่ทำการตำรวจทางหลวง พร้อมเจอด่านโบกให้เปิดกระจก
พีทก็เปิดกระจกปกติ เพราะคิดว่ายังไม่ดึก น่าจะเป็นด่านความมั่นคง




"สวัสดีครับ" คุณตำรวจทักทายพร้อมส่องไฟมาใกล้ๆ 
แต่ดูทรงแล้วเค้าคงตกใจพีทนิดนึง ที่เซตผมแต่งหน้ามาแน่น

"อุย...นี่ไปไหนมาครับเนี้ย"
"ทำงานให้ลูกค้าครับ"  พีทตอบ


จำได้ไหมครับ ที่ผมเคยบอกว่า พีทมันจะเป็นคนล้นๆ พูดเยอะๆ ลุกลิกๆ 
นี่ก็เหมือนกัน มันก็เล่นบทคนเฟรนลี่ ยิ้มแย้มพูดเสียงสดใส แถมพูดเยอะอีก

"แล้วกำลังจะไปไหนครับ"  คุณตำรวนพูดเสียงเป็นกันเอง
"กลับบ้านแล้วครับพี่ แต่เดี๋ยวต้องไปส่งพี่ผมก่อน" 
"ทำงานนี่ดื่มรึป่าว"
"ดื่มมาครับ แต่ดื่มมานิดเดียว"
"นานยังครับหนุ่ม"
"ซักใหญ่แล้วนะครับ น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว"
"เดี๋ยวเป่าหน่อยนะครับ"

แล้วพีทก็เป่าครับ......เป่าแบบไม่ลังเล
เป่าเสร็จเราไม่รู้ผล แต่คุณตำรวจบอกว่า ....

"เดี๋ยวลงหน่อยน้า เข้าไปข้างในหน่อย"










เท่านั้นแหละไอ่พีทกับผมหันหน้ามามองกันทันทีที่กระจกปิด
แล้วพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

"....ชิบหาย...."


"พี่ว่าขึ้นไหมอ่ะ"  พีทยังจะมีหน้ามาถาม
"ไม่ขึ้นเค้าจะให้ลงไปห้องเย็นหรอพีท" ผมนี่ถึงกับกุมขมับ
"แต่ป๋องเดียวนะ"
"พี่ว่ามันขึ้นเว่ย...แต่พี่ว่าไม่เกิน ป๋องเดียวไม่น่าเกิน"
"ไม่เกินเนอะ"  ไอ่พีทยิ้มแล้วทำท่าจะเปิดประตูรถ
ส่วนผมก็ดึงไหล่มันไว้แล้วยื่นน้ำที่หยิบมาให้มันกิน

"เอาไง คิดยัง" ผมถาม
"ก็.....ก็ต้องคุยดูอ่ะเนอะ"
ใจเย็นชิบหาย.....พีทสูดลมหายใจแล้วยิ้มอีกครั้งเหมือนกำลังเปิดโหมดอะไรซักอย่าง



ลงจากรถได้พีทยิ้มให้คุณตำรวจ

"พี่ถามจริงๆ น้อง งานลูกค้านี่ต้องชงต้องดื่มรึป่าว"
"ป่าวเลยครับพี่....เป็นงานอีเว้นท์ครับ" แล้วพีทก็เริ่มพูดถึงงานให้พี่เค้าฟัง
ยิ้มหัวเราะกันเหมือนไม่ได้โดนด่าน..... ก่อนคุณตำรวจจะแตะหลังพีทเบาๆ 

"เดี๋ยวเชิญข้างในนะหนุ่มนะ"



ส่วนผม ผมค่อนข้างกลัวเหตุการณ์นี้ครับ
เนื่องจากมีประสบการณ์โดนค้นตัวค้นรถมาก่อน
แล้วถ้าค้นรถนี่ชิบหายเลยนะ เพราะมีเบียร์ในรถ แถมเหล้าของพีทอีก 1 ขวดไปอีก




แต่ผมก็ลงจากรถพร้อมพีทมายืนเงียบๆ สังเกตการณ์ข้างรถ
ซึ่งสภาพผมก็ไม่ต่างจากพีทเลยครับ หน้า ผม มาอย่างแน่น
พี่ตำรวจ 2 คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมองแล้วยิ้มๆ ไอ่ผมก็ยิ้มธุรกิจนิดๆ ยืนกอดอกพิงตัวรถ


จนพี่ตำรวจที่อยู่กับพีทหันมาเรียกผมอีกคน

"เข้าให้นั่งให้กำลังใจเพื่อนได้นะครับ"
พี่ตำรวจยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียง สีหน้าสุภาพเป็นกันเอง 
ในใจผมนี่คิดว่า ตายห่านแน่มึง ถ้าเป่าไม่ขึ้นเค้าจะให้กูมาให้กำลังใจเพื่อ....


ส่วนคุณตำรวจอีกคนที่เป็นคนให้เป่าและพูดคุยกับพีทซึ่งอายุน้อยกว่า
ก็เดินนำผมกับพีทให้เข้าไปนั่งด้านในที่ทำการ

"เดี๋ยวพี่นั่งตรงนี้นะครับ"
คุณตำรวจท่านเดิม ผายมือให้เราทั้งคู่นั่งหน้าโต๊ะ
ส่วนคุณตำรวจในห้องดูงงนิดๆ อาจจะด้วยเสื้อผ้าหน้าผมของเราสองคน
แถมแต่งตัวเหมือนกัน  เค้าก็มองแล้วมองอีก 55555 



"เอ๊ะนี่....คุณพี่มาด้วยกันรึป่าวครับ หรือว่า....."
"พี่เค้าเป็นนายแบบ มาด้วยกัน...มาสด้าสีดำ 7XX" คุณตำรวจท่านเดิมบอก 
"อ้อ...อ๋อ....โอเคครับ"
พอหายงงคุณตำรวจเริ่มเริ่มอธิบายหลักการและให้พีทเป่าซ้ำ


พีทเป่า ก่อนเครื่องจะเริ่มประมวลผล
ซึ่งนาทีนี้ ทั้งผมทั้งพีทนี่ใจจะขาด เสียวมาก ลุ้นมาก
พีทมันเอื้อมมือมาจับขาผม ส่วนผมดันมือมันออกว่า
มึงจะจับกูทำไม อย่าพิรุจดิวะ 5555



ตี๊ด ----- เสียงเครื่องดัง 
"ตรวจไม่พบแอลกอฮอลล์นะครับคุณพี่" คุณตำรวจยิ้มให้
"ถ้าระหว่างกลับบ้านเจอด่านที่ไหนอีก พี่บอกว่าเป่าผ่านมาแล้วนะครับ
แล้วใช้เอกสารนี้นะครับ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือมากครับ 
เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะครับ"




หุย...บอกเลยว่า ถ้านี่ไม่ใช่การโดนเป่าแอลกลฮอล์
เรียกว่าเป็นการ
ให้การบริการ ดูแลที่ดีมากๆ 
คือมันไนซ์มากครับ ดูแลดี พูดจาดีมาก จัดการทุกอย่างให้เราเสร็จ
พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ....
"พี่ฉีดแอลกอฮอล์ล้างมือในรถเนอะ"
งงไปหมดเลยครับ ........



ทั้งผมทั้งพีทพยักหน้ารับ พีทมันก็นิ่งๆ รับเอกสารแล้วขอบคุณ 
แล้วลุกขึ้นหันหลังเดินออกจากที่ทำการ


พี่ตำรวจอีกท่านที่โบกเรา มายืนส่งพร้อมตะเบ๊งหนึ่งที

"โชคดีนะหนุ่ม เดินทางกลับบ้านปลอดภัย"




พีทหันมาหาผมในรถ
"เชี่ยยยยย โล่งชิบหาย...แต่งงมาก 0.00 นี่ตลกมาก"
"ไม่ตลก กูไม่ตลก ถ้ามึงนอนคุกยิ่งไม่ตลก ชิบหายของจริงแน่"
"เออ จริงนะพี่ ตอนนั้นคิดเหมือนกันว่าถ้าโดนนี่จบเลย
งานต้องถูกยกเลิก ลูกค้าต้องไม่จ้าง จบหมดเลยนะสายนี้"



"แล้วพีทบอกเค้าหรอว่าเป็นอินฟูลฯ ถ้าเกินละโดนหนักแน่ ถ้าขอให้เค้าช่วยน่ะนะ
คราวหน้าพีทไม่ต้องไปบอกอะไรเค้าเยอะ ถามอะไรก็ตอบแค่นั้นพอ"

ผมนี่ก็จัดหนักแทนแม่มัน 
"ก็เค้าถามไงพี่ เป็นใครเห็นก็ต้องถาม ผมก็บอกว่าเป็นอินฟูลฯ เป็นนายแบบ
ทำงานไม่ดื่มอยู่แล้ว แล้วพี่ปริ๊นซ์รู้สึกป่ะว่าเค้าดีกับเรามากเลยนะ
อาจจะเป็นเพราะเค้ารู้ก็ได้ เราไม่อยากมีปัญหา เค้าก็ไม่อยากมีปัญหา"



อ่ะ....ก็ตามใจมึง....
ส่วนพีทก็ตบท้ายว่า "ใช้โชคดีที่เดือนนี้หมดไปแล้วมั้งเนี้ย
ไม่งั้นไม่อยากคิดเลยว่า ป่านนี้ยังต้องนั่งอยู่ที่นั่นแน่เลย"

"เออ...แล้วนอนที่นั่นเลย 2 คืน วันจันทร์ส่งศาล" ผมตบให้

"ฮื้ย.....ไม่เอาแบบนั้นสิ แต่ตำรวจเค้าดีมากนะพี่ปริ๊นซ์ ดีจนอยากคุยกัน
แต่ก็ไม่กล้าคุยมากกลัวเค้าหาว่าเมาแล้วรั่ว พูดไปเรื่อยงี้"

ว่าแล้วมันก็หัวเราะอย่างสบายใจ
"เออ...หันนั่งเงียบๆ บ้างนะ"




โอย.....แต่ละมื้อแต่ละเดย์ นี่ผมต้องเจออะไรบ้างครับเนี้ย......



 



Create Date : 14 มีนาคม 2568
Last Update : 14 มีนาคม 2568 14:42:57 น. 26 comments
Counter : 368 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทนายอ้วน, คุณกะริโตะคุง, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณmultiple, คุณNior Heavens Five, คุณSweet_pills


 
พี่มาแปะโหวตไว้ก่อนนะครับ
กำลังจะเลิกงานกลับบ้าน แถวนี้ฝนตกหนักเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:15:54:10 น.  

 
ป่วยอีกแล้ว แถมยังจ้องมาแคร์
ความรู้สึกของหลานรักอีก
ช่างหน้าสงสารคุณน้าคนดีจริงๆ เล้ย



โดย: หอมกร วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:16:26:46 น.  

 
โหด มันส์ แต่ไม่ค่อยฮา
แต่อย่างน้อยตอนจบก็แอบฮานิดหน่อย ลุ้นใจหายใจคว่ำไปด้วย
คุณตำรวจก็นะ จะเชิญลงจากรถเพื่อ ...

ยังไงก็ไม่ดื่มเลยดีที่สุด โดยเฉพาะสุขภาพไม่โอเคด้วยแล้ว



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:17:01:43 น.  

 
55555 อย่างลุ้น แต่สุดท้ายก็รอดนะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:17:50:59 น.  

 
อ่ะ ลุ้นแทนเลยตอนโดนเป่า 5555

แต่ถึงจะขึ้นก็แค่เสียค่าปรับค่าาา ตอนอยู่โรงพักเห็นบ่อย มาจ่ายค่าปรับ ถ้าไม่ได้เมาแล้วขับให้เกิดอุบัติเหตุน่ะนะ

ทางนี้เวลาป่วยนี่ก็เป็นนานนนนนนเลยค่ะ นี่ก็ยังมีไออยู่ไม่หายซะที ยาแก้ไอหมดไปหลายขวดละ


โดย: babyL' วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:18:30:05 น.  

 
ปีนี้ชมพูพันธุ์ทิพย์บานช้ากว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะหนาวนานครับ ปกติเค้าจะบานช่วงปลายมกรา - กุมภา เท่านัี้น ปีนี้กลางมีนาแล้วยังบานอยู่เลยครับ




โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:19:57:05 น.  

 
เป่าลูกโป่งก็ต้องลุ้นกันเนอะ มีคะแนนด้วยอีกต่างหาก

เวลาผมป่วยนี่ผมหยุดเต็มใบรับรองแพทย์ครับ ไม่เคยพลาด


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:20:12:40 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นส์

อ่านเรื่องราว การไปรับน้องข้าวหอมซึ่งไปกินข้าวกับเพื่อน เรื่อง
เรื่องพาน้องข้าวหอมไปเล่นเปียโน ตามด้วยอาการป่วยจนต้องเข้า
ร.พ. เฮ้อ ! เหตุการณ์สุดท้าย โดนเป่าแอลกอฮอล์ ลุ้นนะว่าจะ
โอนไหม โชคดีรอดไปได้ ใจหายใจคว่ำนะซี อิอิ
หลายบล็อกที่เธอไม่ได้เข้ามาเม้นท์ โหวดเสร็จก็หายจ้อยไปเลย เฮ้อ! เข้าใจจ้ะ คนทำงาน แถม มีโรครุมเร้าอีก ครูว่า ไปทำบุญเกี่ยวกับยาให้มาก ๆหน่อย ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อย ๆ หน่อย พักผ่อนให้มาก ๆ ด้วย นะจ๊ะ
โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:21:47:33 น.  

 
เวลาเด็กไปโรงเรียน
ก็มักจะเอาโรคกลับมาติดคนที่บ้าน
พี่ก๋าปีนี้ติดหวัดจากหมิง 3 รอบครับ
เพลียเลย 555

ยิ่งวัยประมาณข้าวหอม
มีโรคประจำถิ่นหลายโรคเลยนะครับในโรงเรียน
ทั้งไข้หวัดใหญ่ และอื่นๆ

อ่านกิจกรรมของน้องข้าวหอมมาเรื่อยๆ
ปิดท้ายด้วยอาการป่วยของน้องปริ๊นซ์เลย

สำหรับพี่ก๋าโยคะคือศาสตร์แห่งชีวิตนะครับ
หมายถึงว่ามันเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย
แต่เป็นเรื่องของการฝึกสมาธิ การรู้ตัว
จนไปถึงระดับปัญญาญาณ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:22:16:12 น.  

 
ป่วยบ่อย รักษาสุขภาพมากๆนะครับ
ยังไม่เคยโดนเรียกเป่าครับ(ผมไม่ค่อยไปไหนเวลากลางคืน)
ตั้งแต่ต้นปีมา ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะไป 2 รอบแล้วครับ ตรวจในที่ทำงาน และตรวจในหมู่บ้าน(อุทัยเป็น 10 จังหวัดนำร่องตรวจสารเสพติด)


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:23:22:42 น.  

 

@กะริโตะคุง

ใช่ไหมฮะ! ป่วยได้ใบแพทย์มา ก็ลามันเต็มสิทธิ์ไปเลย 5555
จริงๆ ผมพยายามจะไปทำงานแล้วนะครับ แต่ไม่ไหว กลัวเรื่องจะยาว 5555

เอาจริงๆ ผมไม่เคยถูกเป่าแต่เคยถูกด่านความมั่นคงเรียกจอด เปิดกระจกทุกบาน ให้ลงจากรถ แล้วพาไปค้นตัวกับกำแพงดึก รื้อรถค้น...ตรงๆ ไม่อายเลยว่า กลัวมากครับ
แค่รถสี รุ่น ยี่ห้อน่าจะต้องสงสัย แล้วฟิล์มดำสนิท 4 บาน ไฟแต่ง แล้วโหลด
แต่น้องถูกเป่าลุ้นมากครับ กลัวมันจะพัง


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 14 มีนาคม 2568 เวลา:23:37:20 น.  

 
พี่ก๋าจำได้เลย
ว่าตอนหมิงเรียนอนุบาล
คุณหมอบอกว่าส่งลูกไปป่วย 555
ปัญหาคือป่วยเสร็จก็เอามาติดคนในบ้านนี่แหละ
เหมือนต้องสร้างภูมิคุ้มกันตามเด็กเลย 555



ปีนี้พี่ก๋าเจอไข้หวัดใหญ่ 3 รอบ งูสวัด 1 รอบ
อ่วมมากครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:5:23:07 น.  

 
เดี๋ยวผมมาอีกที ครึ่งวันเช้าผมเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงต้องออกแล้ว ยังเหลือสิ่งที่ต้องทำซึ่งน่าจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงถึงจะทำเสร็จ เดี่ยวเรามาดูกันว่ามนุษย์มันสุดยอดแค่ไหนในเวลาที่ทรัพยากรจำกัด แต่สิ่งที่ต้องทำก็ต้องทำให้สำเร็จ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:10:23:27 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

แหมมมม..งานราษฎร์ งานหลวง เต็มอัตรา ไม่มีพร่องเลยค่ะ
ร่างกายพักไม่พอ ความป่วยมาเยือนเลย
อ่านสนุกเพลินมากค่ะ

เรื่องสุดท้ายนี่ ขำไม่ไหวค่ะ ไอ้พี่ก็ลุ้นตามไปด้วย
อิตอนลุ้นผลเป่ารอบสองนี่ พี่อย่างฮา
แหมมมม...คุณตำรวจบริการดีได้โล่ห์มากค่ะ ปรบมืออออ

ตอนนี้ร่างกาย 100% แล้วนะคะ
นี่ดีนะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไว้ก่อน ผ่อนหนักเป็นเบา

วันนี้ขอให้เป็นวันที่ดีนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:10:38:50 น.  

 
กลับไปเจอที่บล็อก น้องออนทัวร์อีกแล้ว 555
ดีเลยค่ะ พาครอบครัวเที่ยวพัทยา แถมได้งานด้วย

งั้นเตรียมหาที่เที่ยวอาทิตย์หน้ารอได้เลยค่าาาา





โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:11:10:44 น.  

 
สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

คุณหลานข้าวหอม เก่ง น่ารักครับ
คุณน้าเองก็รักษาสุขภาพนะครับ แข็งแรงๆ ครับ
.
แอร์โชว์เนี่ย ซ้อมกันอยู่หลายวันเลย
ผมอาศัยชะโงกมองตรงหน้าต่างดูเอาครับ
.
แหมม เรื่องเล่าที่ด่านตรวจนี่ อ่านไปก็ลุ้นตามไปด้วย ตื่นเต้น
.
จากบล็อก ผมไม่แน่ใจว่าอกไก่ไหม แต่เนื้อล้วนคือฟินแว้ว
ที่ติดตู้เย็นกับช็อคโกแลตเจอที่ไชน่าทาวน์อยู่ครับ
ผมก็ซื้อช็อคโกแลตมา 55


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:21:33:41 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
รับบทดูแลหลานพี่ว่าหลานน่ารักแบบนี้ หายเหนื่อยแน่นอนนะ
เดี๋ยวนี้ร้านคาเฟ่ จัดร้านได้น่านั่งทุกร้านเลยนะครับ แถวนนท์นี่คาเฟ่เพียบเหมือนกันครับ
ตอนพี่ไปวิ่งที่กำแพงแสนก็มีถ่ายไปชมพูพันทิพย์มานิดนึงครับ ยังดีเป็นตอนเช้าคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
เป่าแอลกอฮอล์นี่ลุ้นจริง ๆ พี่เคยมีประสพการณ์เหมือนกัน ตอนนั้นตีแบดเสร็จจะไปกินร้านข้าวต้มต่อเจอด่านเพื่อนโดนจับเป่า ฮากันใหญ่ ก็กำลังจะไปกินนะ 555
ยังงัยรักษาสุขภาพด้วยครับน้อง


โดย: The Kop Civil วันที่: 15 มีนาคม 2568 เวลา:23:15:48 น.  

 
โอ้ ขนาดฉีดวัคซีนแล้วนะครับ
สงสัยคงจะพักผ่อนน้อย ทำงานแยะเกินไป
ไหนจะต้องเป็นพี่เลี้ยงหลานอีกด้วย
ดูแล้วเป็น เดอะแบกเลยนะครับนี้ 555

เสร็จแล้ว ได้ไปนครปฐม มีแวะดู airshow
วันนั้นทีแรก อาจารย์เต๊ะ ก็ไม่รู้นะครับ
แต่บ้านใกล้สนามบิน บน.6 ที่ติดกับสนามบินดอนเมือง
ได้ยินเสียง สนั่นหวั่นไหว นึกว่าใครมาโจมตี ไทย บุกเข้ามาถึง กทม เลยเหรอนี่ ที่แท้ กองทัพอากาศ เค้าจัดฝูงบินโชว์นะครับ
โล่งอกไป 555

ส่วนไปทำงานนครปฐม ฝากหลานไว้กับเรือเป็ด เอ๊ะหรือหงส์มากกว่านะครับ 555 หลานก็กินเบียร์เก่งไม่ใช่เล่น เย้ย ม่ายช่าย555

แล้วก็คิวแน่นตลอดทั้งเสาร์อาทิตย์เลยนะครับ เรียกว่าต้องไปทั้งงานหลาน และเดินคอยรูดบัตรให้แควน ช้อปอี้ก แฮร่ 555

พอมาทำงานอ้าว เครื่องช็อต จอดำ วูบเลย เป็นบ่อยๆแบบนี้
ต้องเช็คร่างกายละเอียดหน่อยแล้วมั้งครับเนี่ย

เดี๋ยว อาจารย์เต๊ะมาต่อนะครับ หิวข้าวหาของกินก่อนครับ555



โดย: multiple วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:18:54:18 น.  

 
ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์จอดับครับ อย่างมากก็แค่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเอนตัวพิงกับโซฟา หลับตาแปบแล้วจอก็ดับ ดับบ่อยๆ อันตรายนะ แสดงว่าพักผ่อนไม่พอแล้ว ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย ถ้าป่วยก็ต้องพักครับ พักไปเลยดีที่สุด

จริงๆ อาการมันออกตั้งแต่ตอนไปรับหลานแล้วนี่ครับ ผมไม่ค่อยเจอบรรยากาศแบบทำงานแล้วแวะเที่ยวได้เลย เคยไปทำอีเว้นท์งานแห่งหนึ่งมีเวลาแวปไปถ่ายภาพบรรยากาศงาน ให้เพื่อนๆ อิจฉาคิดว่าได้เที่ยวแต่จริงๆ แล้ว แทบไม่ได้เที่ยวแหละครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:20:13:57 น.  

 
เต๋า ขงจื๊อ พุทธ อยู่ในยุคสมัยเดียวกันครับ
เซ็น แตกออกมาจากพุทธ
แต่ทั้งเต๋า ขงจื๊อ พุทธ(มหายาน)
สุดท้ายก็หลอมรวมกันไปตามยุคสมัยของประเทศจีนนี่ล่ะครับ
บางช่วงเต๋าก็นิยม บางช่วงก็มหายาน บางช่วงก็เซ็น
ผลัดกันไปผลัดกันมาครับ

สุดท้ายทุกศาสนาหรือความเชื่อ
ก็จะตอบคำถามเรื่อง "ความทุกข์" ของมนุษย์นี่ล่ะครับ
ใครตอบถูกใจคน
ความเชื่อหรือศาสนานั้นก็เจริญรุ่งเรือง
แต่ถึงจุดหนึ่งคนก็จะเบื่อและเปลี่ยนไปเรื่อยๆนะครับ
ทั้งวิธีสอนหรือรูปแบบพิธีกรรมต่างๆ

เพียงแต่ถ้าเราสึกษาไปที่ "หลักธรรม" หรือ "สัจธรรม"
ถ้าเราเข้าใจ
ก็จะเห็นความเหมือน-ความต่างในแต่ละศาสนา
แล้วเราค่อยหยิบหรือเลือกวิธีที่เราชอบหรือถูกใจครับ

การไม่เชื่อหรือนับถือศาสนา
ก็ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ
คือเลือกที่จะไม่เชื่อในรูปแบบ
แต่หาหนทางในการทำให้ตัวเองทุกข์น้อยที่สุด
หรือไม่ทุกข์เลย
เมื่อพบวิธีหรือคำตอบที่ช่วยให้ตนพ้นทุกข์ครับ

ปล.ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:21:33:45 น.  

 
มาอ่านต่อนะครับ

แล้ว อุ๊ย แล้วน้องพืท ก่อนกลับซดเบียร์มา โชคดีซะเหลือเกินมาเจอด่านเข้าให้อี้กก

แถมคนหล่อ มาด้วยกัน ใส่เสื้อผ้า หน้าผมเป๊ะปังเหมือนกันอีก
ถ้าอาจารย์เต๊ะ เป็น รตท. คุมด่านตรงนั้นต้องคิดว่า ไอ้หนุ่ม 2 คนนี่ ทำงาน เอนเทอเทน สาวแก่แม่หม้าย แหงๆ อิอิ

แล้วระหว่างตรวจ มีแอบนั่งบีบต้นขา กันอี้ก เอาเข้าไป
อีแบบนี้ คิดดีไม่ได้เลยเชียว แฮร่ 555

แต่ก็รอดมาได้ ถือว่าโชคดีมากเลยนะครับ
ของอาจารย์เต๊ะ ไม่ดื่ม เลยไม่มีประสบการณืเรื่องแบบนี้เลย
โดยมากจะโดนเรียก เพราะ ฝ่าไฟแดง ทนไม่ไหว อิอิ
กับขับรถเร็วเกินลิมิต
แต่ส่วนใหญ่ จะรอดมาได้เพราะ เครื่องแบบ
สมัยทำงานสนามบิน เวลาใส่เครื่องแบบเต็มยศ จะดูคล้ายๆ ทหารอากาศ ตำรวจเห็นเครื่องแบบ นึกว่าเป็นทหาร ก็ตะเบ๊ะก่อนเลยละครับ555 แต่ตอนนี้ถ้าให้ใส่เครื่องแบบ ทรงจะดูเหมือน คนขับรถเมล์ ปอ มากก เพราะพุงป่องซะไม่มี 555



โดย: multiple วันที่: 17 มีนาคม 2568 เวลา:5:04:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2568 เวลา:6:36:57 น.  

 
เรื่องชื่อนี่ อาจารย์เต๊ะ คิดว่า คุณพี่เย็น แกคงตั้งชื่อ ตามชื่อ รถแกแน่นอนครับ ระดับนี้แล้ว555

ส่วนรูปนั่น สมัยทำงานสนามบินตอนนั้น คอม ยังไม่เข้าครับ
ยังนั่งเขียนมือ ขูดกระดาษไขกันฝุ่นตลบ555

ตอนหลังค่อยมาเปลี่ยนเป็น AutoCAD+ Sketchup
แต่ก็ยังแก้แบบ บ่อยเหมือนเดิม แต่ง่ายขึ้นแยะครับ 555

ส่วนเรื่องกล้องนี่ เดี๋ยวนี้ ขอให้โฟกัสเข้า ชัดๆพอแล้วครับ
ที่เหลือก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของพี่ Lightroom กับ Photoshopเค้าบรรเลงครับ555

ส่วนกางเกงออกกำลังพี่โดมเป็นไงน้อ สาวๆถึงกรี๊ดกันไส้แตกซะขนาดนี้555

ส่วนบิลค่าอาหารนี้ ร้านนี้ร้านดัง ร้านเก่าแก่ของสุพรรณ
เค้าออกทีวีเป็นว่าเล่น อาจารย์เต๊ะไปลองชิม
กุ้งตัวใหญ่มากกก ราคาก็แพงม้ากกก ตามไปด้วยเลยครับ
กินเสร็จ แถมซื้อกลับบ้าน ห่อไปด้วย มันเลยแพงอะครับ แฮร่555





โดย: multiple วันที่: 17 มีนาคม 2568 เวลา:10:24:46 น.  

 
ลุ้นไปด้วยแต่รอดก็โล่งใจเลยนะคะ

หลานข้าวหอมรู้ว่าน้องปริ๊นซ์ไม่ค่อยสบาย
นอกจากจูงมือเข้าข้างในแล้ว ยังถามว่ามีใครขับรถให้น้าได้บ้าง
และยังกลับบ้านทั้งที่ใจอยากอยู่เล่นต่อ
หลานคิดและทำอะไรเป็นเหตุเป็นผล
ทั้งรักและเป็นห่วงน้องปริ๊นซ์ น่ารักจริงๆค่ะ

พี่ต๋าไม่ได้เข้าบล็อกมาอาทิตย์กว่า
ขอบคุณน้องปริ๊นซ์แวะทักทายนะคะ

อากาศร้อนมาก ขอให้สุขภาพแข็งแรงค่ะน้องปริ๊นซ์





โดย: Sweet_pills วันที่: 17 มีนาคม 2568 เวลา:12:18:12 น.  

 
ที่เขารับมาเป็นลูกศิษย์เพราะเก่งนี่ล่ะครับ
ไม่งั้นตอนดวลธนูกันคงแพ้และตายไปแล้ว 555

พี่ก๋าคิดว่ามีหลายคนนะ
เข้าหาศาสนาเพราะมีความทุกข์
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับศาสนาแล้ว
เพราะเมื่อพ้นทุกข์ได้
ศาสนาหรือเครื่องมือ
ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
เหมือนที่เค้าเปรียบเทียบว่า
เราใช้เรือเพื่อข้ามฝั่ง
พอข้ามฝั่งแล้วก็ไม่ต้องแบกเรืออีกต่อไป

พี่ก๋าไม่ได้ตักบาตรเลยครับ
ในชีวิตนี่น่าจะตักบาตรไม่เกิน 3 ครั้ง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2568 เวลา:21:48:44 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2568 เวลา:6:02:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space