Group Blog All Blog
|
คนที่ชื่ออีสป อีสปเป็นนักเล่านิทานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากตั้งแต่ช่วง 620 – 560 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่พื้นเพดั้งเดิมอีสปเป็นเพียงทาสชาวกรีก เกิดที่แคว้นฟรีเยีย เมืองอะเมอเรียม ประเทศตุรกีในปัจจุบันซึ่งเป็นพื้นที่แถบเอเชียไมเนอร์รอยต่อระหว่างทวีปยุโรปกับทวีบเอเชีย ในช่วงนั้นต้องนับว่าดินแดนแถบนี้เจริญสูงสุดทั้งด้านการค้า ศิลปะวัฒนธรม คำว่า อีสป (Aesop) เป็นการออกเสียงของชาวยุโรปที่เพี้ยนมาจากคำเดิมว่าเอธิออป(Ethiop) ซึ่งคาดเดากันว่ามาจากรากศัพท์ว่าเอธิโอเปียที่เป็นชื่อประเทศ ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นอะบิสซีเนีย อีสปเป็นทาสอยู่ที่เมืองซามอส ประเทศกรีซ เจ้านายของอีสปคืออิดมอน น่าแปลกที่อิดมอนยอมให้ทาสมาสอนหนังสือลูก ๆ และเป็นเรื่องบังเอิญที่บ้านของอิดมอนเป็นที่ชุมนุมบุคคลสำคัญของกรีซ ฐานะของครูสอนหนังสือให้ลูกอิดมอนทำให้อีสปมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับบุคคลที่มีชื่อเสียงของกรีซด้วย อีสปใช้โอกาสอันดีงามนี้เล่านิทานที่เขาแต่งขึ้นมาเองให้บุคคลเหล่านั้นฟัง หลายคนชอบฟังนิทานของอีสป เขาว่ากันว่าผู้ที่เกิดมามีรูปเป็นทรัพย์มักจะสวยแต่เพียงรูปนั่นคือมักจะด้อยสติปัญญา ส่วนผู้ที่อัปลักษณ์มักจะได้สติปัญญาสูงส่ง พระเจ้าจะไม่ลำเอียงโดยให้ประชาชนของพระองค์ได้รับสิ่งที่ดีงามแต่เพียงบางคนเท่านั้น ทุกคนจะได้รับพรจากพระเจ้าโดยถ้วนหน้ากันเพียงแต่ได้ไม่เท่ากันและได้ไม่เหมือนกัน น้อยคนนักที่จะโชคดีมีทั้งรูปลักษณ์ดีและสติปัญญาสูงส่ง อีสปมีรูปลักษณ์ที่เรียกว่าอัปลักษณ์เป็นที่สุด ตัวดำเป็นเหนี่ยง หลังค่อมตัวงอ จมูกบี้ ปากแบะ ลิ้นคับปาก แต่ทว่าสติปัญญาล้ำเลิศและมีอัจฉริยะด้านการแต่งนิทานเพื่อสอนคุณธรรมโดยแต่งนิทานจากกจินตนาการ นอกจากอัปลักษณ์ทางร่างกายเป็นที่สุดแล้วแม้แต่น้ำเสียงยังไม่ไพเราะเสนาะหู เขาว่ากันว่าเสียงพูดยิ่งไม่น่าฟัง เสียงที่คล้ายเสียงสัตว์เพราะเขาชอบพูดให้เสียงอยู่ในลำคอ ยิ่งเพิ่มความน่ารังเกียจมากทวีคูณ แต่ทว่านิทานที่เขาเล่ากลับมีเสน่ห์เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้คนที่ได้มีโอกาสฟังอีสปเล่านิทานลืมส่วนที่น่ารังเกียจของอีสปไปจนหมดสิ้น ความที่ว่าอีสปเกิดในชนชั้นต่ำมีฐานะเป็นทาสแถมด้วยรูปร่างอัปลักษณ์ทำให้ชีวิตดูลำเค็ญ แต่อีสปปเป็นคนที่เกิดมาแล้วไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาราศีทำให้คิดหาจุดเด่นของตนเองนั่นคือการคิดเพ้อฝันแต่งเป็นเรื่องเป็นราวแต่งแต้มเติมฝันให้ความสดชื่นแก่ตัวเองและมีผลทำให้ผู้ฟังพลอยสดชื่นตามไปด้วย นอกจากนั้นยังแถมด้วยความรู้จนฮิตติดตลาดมานานจนถึงปัจจุบัน คนที่มีความคิดจินตนาการจะเป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบและด้วยความสามารถพิเศษด้านนี้นี่เองทำให้อีสปหลุดพ้นจากการเป็นทาสได้แถมยังยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ภายในราชสำนักของกษัตริย์โครเอซุสแห่งแคว้นลิเดีย ความสามารถในการแต่งนิทานทำให้เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์โครเอซุสเป็นอย่างมาก ขนาดคนที่เป็นกษัตริย์และเป็นผู้ใหญ่ยังหลงใหลในการฟังนิทานแล้วเด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ในวัยเพ้อฝันจะไม่นิยมชมชอบในการฟังนิทานได้อย่างไร อีสปได้พบปะกับนักปราชญ์ราชบัณฑิตคนสำคัญของกรีก โซลอนเป็นนักปราชญ์ที่อีสปเข้าไปคุ้นเคยด้วย โซลอนเป็นญาติของปีซัสเตรตัสผู้ปกครองเมืองเอเธนส์ซึ่งโดนชาวเมืองขับไล่ด้วยบ้าอำนาจชอบกดขี่ข่มเหงรังแกประชาชน อีสปได้นำเรื่องนี้มาแต่งนิทานเรื่องกบเลือกนายแล้วเล่าให้ชาวเมืองฟัง ชาวเมืองจึงเข้าใจและยกเลิกการขับไล่ปีซัสเตรตัสผู้ปกครองเมือง นิทานของอีสปมักจะมีเค้าโครงจากเรื่องจริงแต่ใช้ถ้อยคำภาษาในรูปของเรื่องเล่าที่มีตัวเอกของเรื่องเป็นสัตว์น้อยใหญ่ เป็นการเปรียบเปรยแต่ทำให้ผู้คนได้คิดคล้อยตามและเข้าใจ นอกจากแต่งนิทานจากสิ่งที่พบเห็นได้จริงในชีวิตประจำวันแล้ว อีสปยังได้เค้าโครงนิทานจากการฟังเรื่องเล่าเก่า ๆ ของอินเดีย กรีก อาระเบีย เปอร์เซียแล้วนำมาแปลงเป็นนิทาน ในสมัยนั้นยังไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร การที่อีสปเลือกให้สัตว์น้อยใหญ่เป็นตัวเอกของเรื่องคงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ตนเองแทนการพูดโต้ง ๆ ออกไป โดยสัตว์แต่ละตัวจะเป็นสัญลักษณ์ที่ต่างกัน เช่น สิงโตแทนความมีอำนาจโดยเปรียบกับผู้มีอำนาจเช่นกษัตริย์ หนูเปรียบเป็นผู้ต่ำต้อยเช่นชาวนาหรือชนชั้นผู้ยากไร้หรือสิ่งของที่ด้อยราคา สุนัขจิ้งจอกแทนความ เจ้าเล่ห์ฉลาดแกมโกง คนที่คดโกงเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แพะแทนความโง่เขลาเบาปัญญา คนซื่อบื้อเซ่อซ่าที่ชอบโดนคนหลอกลวงและเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ การเล่าในรูปนิทานของอีสปแทนการพูดโพล่ง ๆ ออกมาตรง ๆ จึงเป็นการสัพยอกผู้มีอำนาจในยุคนั้นโดยไม่ก่อให้เกิดความผิดหรือตัวเองได้รับอันตรายจากการพูด ไม่ได้เป็นการจาบจ้วงหรือท้าทายอำนาจที่ยิ่งใหญ่คับฟ้าโดยตรง หรือไม่ทำให้ใครเสียหน้าแต่ให้ข้อคิดสะกิดใจแทน ใช้การเปรียบเปรยให้ข้อคิดโดยนำเอาสัตว์มาเป็นตัวเดินเรื่อง นิทานของอีสปเป็นที่รู้จักในยุคนั้นเป็นอย่างดีแต่ไม่ได้บันทึกให้เป็นเรื่องเป็นราวนอกจากการเล่าสืบต่อกันมา ต่อมาฟีดรัสได้นำเรื่องที่ผู้คนได้เล่าสืบต่อกันมานี้บันทึกในแผ่นปาปิรัสอียิปต์โบราณเป็นภาษาลาติน ฟีดรัสเป็นทาสเช่นเดียวกับอีสป แต่ฟีดรัสเป็นทาสชาวมาซีโดเนียนในยุคจักรพรรดิออกุสตุสแห่งจักรวรรดิโรมัน เรื่องเล่าของอีสปจึงกลายเป็นเรื่องเล่าที่ผู้คนทั่วไปรู้จักเพราะบันทึกและเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง เดมิตริอุสเป็นอีกคนหนึ่งที่รวบรวมนิทานของอีสปเป็นรูปเล่มประมาณ 30 ปีก่อนคริสตกาล พระมาซิมุล พลานูดแปลนิทานจากภาษาลาตินเป็นภาษาอังกฤษเมื่อคริสตศักราช 1400 พอเป็นภาษาอังกฤษยิ่งทำให้มีผู้สนใจอ่านมากยิ่งขึ้นและแต่ละชาติเริ่มแปลไปเป็นภาษาของตนเอง ปัจจุบันนิทานอีสปเป็นนิทานที่โด่งดังและเล่าขานสอนเด็กไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |