bloggang.com mainmenu search

บล็อกหนนี้พาเที่ยวจังหวัดทางผ่านที่ผมขับเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาบ่อยที่สุดในโลก สระบุรี ซึ่งอยู่เลยที่ทำงานผมไปแค่ 1 กม. เท่านั้นเองครับ และด้วยความติดอยุธยาขนาดนี้ ความเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เล่นเลย

อยุธยาเป็นพื้นที่ราบลุ่มทั้งหมด แต่สระบุรีเต็มไปด้วยภูเขาหิน แหล่งอารยธรรมโบราณ+ภูเขาหินจะมาพร้อมอะไรครับ?? ...การระเบิดหิน? ....ไม่ใช่! จารึกโบราณต่างๆ ต่างหาก เมื่อครั้งกระโน้นเราพาไปชมถ้ำพระโพธิสัตว์ พร้อมแวะกินข้าวที่ปากช่องกันแล้ว คราวนี้มาอีกถ้ำหนึ่งที่มีจารึกโบราณเช่นกัน ถ้ำนารายณ์ในเขตวัดเขาวงครับ ขับรถขึ้นมาตามสาย 1 ผ่านตัวเมืองสระบุรีมาทาง อ.พระพุทธบาท เลยสวนพฤกษศาสตร์พุแคมาหน่อยเดียวจะเห็นทางแยกไปถ้ำนารายณ์ครับ
 

ภายในวัดเป็นพื้นที่ติดภูเขา ธรรมชาติสวยงาม

 

ทางเข้าโบราณสถานถ้ำนารายณ์

 

ภายในถ้ำมีอากาศเย็นสบายตลอดปี ในสมัยอยุธยาพระเจ้าทรงธรรมและพระนารายณ์เคยมาพักแรมในถ้ำแห่งนี้ด้วย เป็นเหตุให้มีชื่อว่าถ้ำนารายณ์ ปัจจุบันถูกพัฒนาเป็นวัดและสถานปฏิบัติธรรม


ภายในถ้ำมีจารึกภาษาปัลลวะยุคทวารวดี แปลได้ว่า "กัณทราชัย ผู้ตั้งแคว้นอนุราธปุระ ได้มอบให้พ่อลุงสินาธะเป็นตัวแทนพร้อมกับชาวเมือง (อนุราธปุระ) จัดพิธีร้องรำ เพื่อเฉลิมฉลอง(สิ่ง)ซึ่งประดิษฐานไว้แล้วข้างในนี้" แสดงให้เห็นการติดต่อสัมพันธ์ของชาวเมืองอนุราธปุระในลังกากับคนพื้นที่นี้


กลับมาสาย 1 แล้วแล่นต่อมาอีก 6 กม. จะเป็นทางเข้า วัดพระพุทธบาท ถนนเข้าวัดเป็นเมืองย่อมๆ ที่เกิดขึ้นมาเพราะการท่องเที่ยวเลยครับ

ในสมัยอยุธยา รัชกาลพระเจ้าทรงธรรมได้ส่งภิกษุไปนมัสการพระพุทธบาทที่ลังกา พระลังกาบอกว่าแถวๆ อยุธยาก็มีพระพุทธบาทนะ อยู่บนไหล่เขาสุวรรณบรรพต ว่าแล้วพระเจ้าทรงธรรมก็ส่งคนออกตามหาพระพุทธบาทรอบอยุธยา จนกระทั่งพรานบุญมาพบเข้าและแจ้งเจ้าเมืองสระบุรีนำไปทูลพระเจ้าทรงธรรม ท่านจึงสร้างเป็นวัดขึ้นในปี พ.ศ.2137 และเริ่มประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทในเดือน 3 และเดือน 4 นับแต่นั้นมา มีความเชื่อมาแต่โบราณว่าหากใครได้นมัสการพระพุทธบาทจะเป็นกุศลอย่างแรง สมัยคุณยายผมยังเด็กๆ เดินเท้ากับเพื่อนจากบางปะหันมาพระพุทธบาท ลองเช็คกูเกิ้ลดู ...45 กม. ไป-กลับ เกือบร้อย กม. !! 125 คนรุ่น silent generation นี้แข็งแกร่งมากจริงๆ

บริเวณภูเขาหินของสระบุรีมีจารึกสมัยทวารวดีมากมาย พระพุทธบาทที่สร้างไว้ที่นี่ก็อาจเป็นอารยธรรมเดียวกับที่ทิ้งจารึกไว้ที่ถ้ำนารายณ์และถ้ำพระโพธิสัตว์ก็ได้นะครับ แรกเริ่มเดิมที พระเจ้าทรงธรรมได้สร้างมณฑปครอบพระพุทธบาท โบสถ์ วิหาร จากนั้นได้มีการต่อเติมอาคารเข้ามาเรื่อยๆ ในยุคหลัง ทำให้วัดนี้มีศิลปะจากหลากหลายยุค สิ่งก่อสร้างสมัยพระเจ้าทรงธรรมเองก็ถูกสร้างทับไปหมดแล้ว 145

ภาพจำของวัดนี้คือบันไดนาคทางขึ้นพระพุทธบาทสร้างในสมัย ร.1 มณฑปครอบพระพุทธบาทเป็นมณฑปยอดเดียวสร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมแต่ถูกบูรณะมาหลายยุค รูปแบบปัจจุบันนี้บูรณะในปี พ.ศ.2478 โดยพระพุฒาจารย์ (นวม)

  วัดพระพุทธบาท
(Wat Phrabhuddabat)

รอยพระพุทธบาทสลักหินถูกครอบด้วยแผ่นทองเหลืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แผ่นที่เห็นล่าสุดนี้สร้างขึ้นสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีทองเหลืองแผ่นเก่าเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัดนี้นะครับ ผมยังไม่เคยเห็นรอยพระพุทธบาทจริงๆเลย ตามบันทึกรอยพระพุทธบาทสลักหินนี้มีลายกงจักรมหามงคล 108 ประการ ตามลักษณะที่พระลังกาบอก ในมณฑปมีบุษบกครอบพระพุทธบาท สร้างสมัยพระเจ้าทรงธรรม และบานประตูมุก สร้างสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  แต่ถูกทำลายตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 ที่เห็นนี้บูรณะขึ้นใหม่สมัยหลัง

ปกติเราดิ่งมาไหว้พระพุทธบาทแล้วก็กลับ หนนี้มาโต๋เต๋กันดีกว่าว่าวัดนี้มีอะไรให้ชมบ้าง 118 118 118
 

จากที่จอดรถเข้าประตูมาจะเจอโบสถ์ของวัดนี้ สร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม บูรณะสมัยรัตนโกสินทร์ และวันนี้มันปิด (อีกละ)

 

วิหารคลังล่าง เคยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด แต่คับแคบเกินไปเลยย้ายออก ตอนนี้ใช้ประดิษฐานเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

 


ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ feat. กับเจ้าพ่อศรีดอกไม้ เจ้าพ่อสายฝน เจ้าพ่อดำดง เจ้าพ่อจุ้ย และเจ้าพ่อจุก
แต่ละองค์อิทธิฤทธิ์แตกต่างกันไป เลือกขอพรได้เลย

เดินขึ้นสุวรรณบรรพต มณฑปพระพุทธบาทที่ขึ้นจากบันไดนาคนี่คือเชิงเขาเองนะครับ ยังมีให้ขึ้นไปต่ออีกเพียบ! ถัดขึ้นไปจากมณฑปมีวิหารหลวงพ่อโตและวิหารคลังบน


วิหารหลวงพ่อโต
 

วิหารคลังบน ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)

 

เดินขึ้นเขาต่อ มาได้ครึ่งทางจะพบวิหารพระพุทธสิบชาติ คือพระชาติใหญ่ของพระพุทธเจ้าทั้ง 10 ชาติ ซึ่งสั่งสมบารมี 10 ประการ ตั้งแต่พระเตมีย์ใบ้ จนถึงพระเวสสันดร

 

ขึ้นมาจนเกือบสุดจะมีพี่อาสาท่องเที่ยวจังหวัดพาไปชมถ้ำพระนอนบนยอดเขา (ถ้าไปเองค่อนข้างจะหายาก)  ให้ทิปพี่เขาได้ตามกำลังทรัพย์นะครับ
 

พระพุทธฉาย คือภาพสีพระพุทธเจ้าบนผาหิน แต่พระพุทธฉายที่โด่งดังจริงๆ คือที่วัดพระพุทธฉายนะครับ เดี๋ยวกลางๆ บล็อกจะพาไป

 

พระพุทธสิหิงค์กลางภูเขา เศียรถูกโจรตัดไป
คุณพี่ไกด์อาสาปั้นหัวให้ด้วยสกิลช่างท้องถิ่นก็ได้ประมาณนี้

 

เห็นร่องอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้ ถูกแต่งตั้งให้ศักดิ์สิทธิ์ไปทั้งหมดครับ ทั้งอ่างล้างเท้าพระพุทธเจ้า รอยมือพระพุทธเจ้า ฯลฯ ถ้ำพระนอน เป็นถ้ำเล็กๆ บนยอดเขาสุวรรณบรรพต
 



จากนั้นก็กลับลงสู่ภาคพื้นดิน ที่ทางลงด้านหลังจะมีศาลาเปลื้องเครื่อง สำหรับกษัตริย์เปลี่ยนชุดให้ทะมัดทะแมงก่อนขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาท แต่สมัยนี้มีบันไดขึ้นง่ายแล้ว ใส่ส้นสูงขึ้นไปยังได้ แต่แต่งตัวให้สุภาพเหมาะสมกับสถานที่นะจ๊ะ

 


วิหารหลวงของวัดนี้สร้างสมัยพระเจ้าปราสาททอง ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งพระพุทธบาท โดยพระพุฒาจารย์ (นวม) ย้ายพิพิธภัณฑ์จากวิหารคลังล่างมาที่นี่ ภายในมีโบราณวัตถุและชิ้นส่วนของวัดที่ถูกเปลี่ยน ตั้งแต่สมัยอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์ ชิ้นที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นภูษาของพระนารายณ์ ที่นี่เข้าชมฟรีแต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะ

 


อนุสาวรีย์พระเจ้าทรงธรรมด้านหลังวัด

ใช้แรงกายพอสมควรเลยครับ วัดนี้กว้างไม่พอ ยังมีการเดินทางแนวดิ่ง พี่อาสาบอกว่าหลังภูเขามีวิหารร้าง แต่ไม่ได้ไปอะครับ ไกล (พอบอกว่าสร้างสมัย ร.1 เลยไม่ค่อยสนใจด้วย ไม่เก่าอะ) หลังเที่ยวทั่ว (เท่าที่อยากเที่ยว) แล้ว ก็เดินตลาด+วนรอบๆวัดหาอะไรกินครับ
 

ตลาดเริ่มมีของขายพอสมควร ช่วงที่ไปโควิดคลายไปเยอะแล้ว เดี๋ยวคงกลับมาคึกคักครับ

 

กินร้านก๋วยเตี๋ยวป้าดาวหลังวัด มีก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อ น้ำข้น น้ำใส แต่ไม่มีน้ำตก เมนูแนะนำคือคอปเตอร์ เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำข้นใส่ทุกอย่าง 50 บาท เครื่องเยอะดี รสชาติน้ำไม่ถึงกับเด็ด

 

ทางตะวันตกของวัดมี พระตำหนักท้ายพิกุล เป็นพระราชนิเวศน์เชิงเขาพระพุทธบาทที่พระเจ้าทรงธรรมให้สร้างขึ้นพร้อมวัดนี้ ปัจจุบันแทบไม่เหลืออะไรให้ชมแล้วครับ มีแค่ฐานเกยช้าง-ม้า ฐานวัง และกำแพง ร.4 เคยบูรณะตำหนักขึ้นมาทับฐานเดิมเป็นตำหนักไม้ แต่ก็พังหมดอีกรอบ


ถนนเส้นก่อนเข้าวัดพระพุทธบาท มีกุศลสถานบ่อพรานล้างเนื้อ ที่มีตำนานเกี่ยวข้องกันว่าพรานบูญ ผู้ค้นพบพระพุทธบาทมักใช้น้ำในบ่อนี้ล้างเนื้อสัตว์ที่หามาได้ ทำให้น้ำในบ่อมีสีและกลิ่นคาวเลือดและถูกยกให้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ยุครัตนโกสินทร์แล้วสุนทรภู่ผ่านมาที่บ่อนี้ยังบอกว่าเหม็นคาว จนต้องเขียนบ่นลงนิราศพระบาท ปัจจุบันน้ำสะอาดแล้วนะครับ ติดกันมีบ่อพรานปักหอกกับบ่อพรานคุกเข่า เรียกว่าเห็นอะไรเป็นหลุมๆ โบ้ยนายพรานบุญรัวๆ ช่วงโควิดระบาดเขางดสัมผัสน้ำในบ่อนะครับ


ใกล้ๆกันมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างถ้ำประทุน ถ้ำประทานพร แต่ช่วงนี้ปิดตัวหมดสิ้น ชะโงกไปบนยอดเขามีวัดนิกายเต๋าอยู่ ใครขึ้นบันไดไปถึงบนนั้นรับรองได้เลื่อนคลาสเป็นเซียน


แล่นเข้าถนน 3022 แล้วเข้ามาในถนนชนบทพื้นที่ทุ่งนาด้านหลังถ้ำประทุนจะมีพระตำหนักสระยอ พระนารายณ์สร้างขึ้นตอนเดินทางมาสักการะพระพุทธบาทครับ ลักษณะฐานก่อด้วยหินเหมือนพระตำหนักธารเกษมที่พระเจ้าปราสาททองสร้างไว้ก่อนหน้านี้ (ซึ่งผมไม่ได้ไปนะครับ เข้าไปยากอยู่) เรียกว่ากษัตริย์สามรัชกาลมาไหว้พระพุทธบาทก็สร้างที่พักใหม่สามตำหนักเลย

  หมดธุระกับ อ.พระพุทธบาทแล้วครับ กลับผ่าน อ.เมืองลงมา ผมชอบแวะดงร้านค้าหลังทางรถไฟ ขายของกินของฝากอร่อยๆหลายร้านเลยครับ ทั้งกะหรี่ปั๊บ ขนมเปี๊ยะนมสด พัฟสติ๊ก ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ
 


อีกวัดของสระบุรีที่โด่งดังใกล้เคียงพระพุทธบาทก็คือวัดพระพุทธฉาย อยู่ตอนใต้ของ อ.เมือง ลงมานิดเดียวครับ ที่มีเงาของพระพุทธเจ้าบนผาหินเขาปฐวี ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เช่นเดียวกัน


ขึ้นบันไดไปไม่สูงมากจะมีพระพุทธฉาย เป็นเงาพระพุทธเจ้าบนผาหิน สูง 5 เมตร ตามตำนานพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดนายพรานฆาฏกะจนสำเร็จพระอรหันต์ และฉายเงาตัวเองลงบนผาหินไว้เป็นที่ระลึก
 
  วัดพระพุทธฉาย
(Wat Phraphutthachai)

ใกล้กันมีลายเซ็นเชื้อพระวงศ์ที่เคยมาเที่ยวที่นี่ ตั้งแต่ ร.5 ร.9 พระนางเจ้าสิริกิต์ พระนางเจ้ารำไพพรรณนี พระเทพ ฯลฯ
 

บันไดอีกด้านขึ้นถึงยอดเขาเลยครับ อันนี้สูงหน่อย จะขับรถขึ้นไปก็ได้นะ ด้านบนมีมณฑปห้ายอด ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง แต่ในปี พ.ศ.2537 ช่วงบูรณะมณฑปได้ย้ายพระพุทธบาทจำลองออกและกระเทาะพื้นซีเมนต์ พบรอยพระพุทธบาทโบราณอยู่ด้านใต้ เชื่อว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเสือ วัดนี้จึงมีทั้งพระพุทธฉายและพระพุทธบาท เช่นเดียวกับที่วัดพระพุทธบาท


ตอนมาวัดพระพุทธฉายก็แวะกินข้าวที่ทางเข้าวัดนี่ละครับ มีสองร้านเด็ดๆ ตั้งประชันกันเลย ครัวประภัสสร ขายอาหารไทย-ฝรั่งหน้าตาสวยงาม อร่อย ราคาไม่แพง ที่สำคัญเสิร์ฟไวเฟร่อ! ทำตัวอย่างกับร้านข้าวต้ม!


อีกร้านคือก๋วยเตี๋ยวตำลึงพระพุทธฉาย คนเยอะเช่นเดียวกับร้านแรก ก๋วยเตี๋ยวชามละ 40-60 บาท เสิร์ฟพร้อมตำลึงเป็นเอกลักษณ์ มีอาหารอีสานและอาหารตามสั่งขายด้วยนะ


จากพหลโยธิน เลี้ยวเข้าเส้น 33 ไปนครนายก แล้วเข้าเส้น 3222 ขึ้นมาทางเหนือ กลับเข้ามาเขตสระบุรี จะมี วัดป่าสว่างบุญ เป็นวัดที่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2528 โดยหลวงพ่อสมชาย และเริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสิ่งก่อสร้างดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะเจดีย์ห้าร้อยยอด และพระนอนที่กำลังก่อสร้างอยู่

พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ 500 ยอด (เรียกชื่อสั้นๆว่าเจดีย์ 500 ยอด) เพิ่งสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2550 นี้เอง เจดีย์บริวารทุกองค์บรรจุสิ่งของมีค่าที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย สามารถเดินขึ้นไปด้านบนผ่านซุ้มทั้ง 4 ทิศได้ ด้านในมีเจดีย์ประธานองค์เล็กประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจาก 3 ประเทศ คือเนปาล อินเดีย และศรีลังกา

  วัดป่าสว่างบุญ
(Wat Pasawangbun)

 


ข้างเจดีย์ 500 ยอด มีฆ้องอาเซียนขนาดมหึมาวางอยู่ข้างทางเหมือนใครเอามาทิ้ง

 

บนเนินเล็กๆหลังวัดมีมหาเจดีย์เทพนิธากร สร้างโดยตระกูลนิธากรในปี พ.ศ.2536

 

และสิ่งก่อสร้างที่กำลังจะแย่งซีนเจดีย์ 500 ยอดก็คือพระนอนด้านหลังวัด พระพุทธสีหไสยาสน์ อันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ยาวถึง 209 เมตร ตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง แต่ก็เห็นไซส์ที่ราวกับตึก 5 ชั้น เรียงเป็นแถวยาวเหยียด หากก่อสร้างเสร็จจะเป็นพระนอนที่ยาวที่สุดในโลกครับ ปัจจุบันแชมป์ประเทศไทยคือพระนอนวัดบางพลีใหญ่กลาง ยาว 53 เมตร และแชมป์โลกคือพระนอนวัดป่าวินเส่งตอว์ยะที่เมาะลำเลิง ประเทศพม่า ยาว 170 เมตร




ใครแวะไปเที่ยวก็ทำบุญกันได้นะครับ มีชุดถวายหินทรายสร้างพระนอนและแผ่นทองปิดลูกนิมิตรขายอยู่ในอาคารหน้าพระนอน ในนี้มีพระนอนแกะสลักหินยาว 10.5 เมตรเป็นพระนอนแกะสลักจากหินชิ้นเดียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทยด้วย วัตถุมงคลที่นี่จะแพงอยู่สักหน่อย เพราะส่วนหนึ่งเอาไปสมทบทุนสร้างพระนอนและอุโบสถใหม่ รวมทั้งอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงาน เลยต้องระดมทุนมากมายมหาศาล เฉพาะพระนอนตอนนี้ใช้งบไป 100 ล้านบาทแล้ว และคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะแล้วเสร็จ เดี๋ยวก็เศรษฐกิจตกต่ำคนไม่มีเงินทำบุญ เดี๋ยวก็โควิด ต้องชะลองานก่อสร้าง เอาจริงๆเงินหลักร้อยล้าน แต่สร้างแหล่งท่องเที่ยวที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่นี้ถือว่าคุ้มค่ามากนะครับ คำว่า "พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก" นี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มหาศาล อยากให้รัฐสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวระดับนี้ให้มากขึ้น

ผมมาวัดนี้ในช่วงเช้า อากาศดีมากๆ วัดอยู่ห่างจากถนนใหญ่ ได้บรรยากาศแบบพื้นที่ใกล้เขาใหญ่เต็มๆ มีสัตว์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในชีวิตประจำวันอย่างกิ้งกือกระสุนและฮอว์คมอธด้วย

  ถนนเส้นไปนครนายกนี้มีร้านล้อมต้นไม้ขายเพียบ เพิ่งเคยเห็นการล้อมต้นไม้ที่ใหญ่ขนาดนี้เหมือนกัน บ้านใครมีพื้นที่หลายไร่แล้วอยากแต่งสวนมาเลือกซื้อต้นไม้ที่นี่ได้นะครับ
 

ขอแถมหนึ่งวัด วัดจุฬาภรวนาราม วัดนี้อยู่นครนายก แต่ไหนๆ ก็แวะมาวัดป่าสว่างบุญแล้ว คนนิยมเที่ยวคู่เป็นแพ็คเกจครับ วัดห่างจากเส้น 33 ลงมาไม่เยอะ เป็นวัดใหม่ที่สร้างในโอกาสเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์อายุครบ 50 ปีในปี พ.ศ.2550 ตัววัดแทบไม่มีอะไร จุดขายคือซุ้มไผ่ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ต้นไผ่อายุไม่มาก ไม่ได้หนาแน่นแบบป่าไผ่ที่อาราชิยามะนะครับ


และเนื่องจากที่ทำงานของผมอยู่ใกล้สระบุรีมาก เที่ยงไหนพอจะมีเวลาก็จะออกมาหาข้าวกินแถวๆ หนองแค-หินกอง มีร้านดีๆเยอะเลยครับ ขออุทิศช่วงท้ายบล็อกนี้ด้วยร้านโซนสระบุรีที่คัดสรรมาแล้ว ทุกร้านไปมาไม่ต่ำกว่า 5 รอบครับ

ข้าวมันไก่โกเล็กประตูน้ำ เดิมอยู่บนถนนเข้านิคมเหมราช ตอนนี้ย้ายมาอยู่เส้นวัดสหมิตรมงคล ขายข้าวมันไก่และเย็นตาโฟ อร่อยทั้งไก่ต้มไก่ทอด ใครชอบกินหนังบอกเด็กเสิร์ฟให้สงวนหนังไว้ด้วยนะครับ หลังคาร้านเป็นสังกะสีถ้ามาวันแดดแรงๆก็เตาอบดีๆนี่เอง


ขับมาตามเส้นเลียบคลองระพีพัฒน์มีวิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านขุดพบที่คันคลองโดยบังเอิญในปี พ.ศ.2502  เป็นที่นับถือของคนในพื้นที่ ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรกัน


ปีก่อนแวะมาเที่ยวงานลอยกระทงที่นี่ จัดใหญ่อยู่เหมือนกัน


เลยวิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ไปเล็กน้อยจะมีถนนเข้าไปฟาร์มเมล่อน แต่ก่อนชอบแวะกินสยามเป็ดย่างแล้วค่อยไปซื้อเมล่อน เดี๋ยวนี้ที่ฟาร์มเปิดร้านขายข้าวแล้ว เบ็ดเสร็จเลย แต่บางวันก็ยังอยากกินเป็ดย่างอยู่นะ ที่วาสนาฟาร์มเมล่อนแห่งนี้ปลูกเมล่อนได้คุณภาพเหมือนอยู่ต่างประเทศ มีหลากหลายชนิดทั้งสีเขียวสีทองให้เลือก (มีตัวอย่างให้ชิมก่อนซื้อมั่ว) สำหรับร้านอาหารเป็นเมนูตามสั่ง ประดับประดาด้วยผักสดๆจากฟาร์ม ความสดเลเวล max ส่วนรสชาติกับข้าวยังคงอยู่ระดับมนุษย์โลกครับ


จากหนองแคขับตามสาย 1 ขึ้นมาอีกเล็กน้อยจะถึง อ.หินกอง มีแยกออกจากถนนใหญ่เข้า อ.อุทัย หรือจะกลับรถไปนครนายกก็มีร้านอร่อยเรียงรายให้เลือก มาทางอุทัยก่อนครับ ไม่ไกลจากสาย 1 จะมีร้านฮักอีหลี ขายอาหารอีสาน เป็นห้องแอร์ เมนูหลากหลายและรสชาติดีทุกอย่างตั้งแต่คอหมูย่างยันผัดกระเพรา ใครชอบต้มเล้ง ร้านนี้ทำเล้งแซ่บได้อร่อยที่สุดในจังหวัดสระบุรีแล้วครับ


จากร้านฮักอีหลี ขับมาถึงไฟแดงแล้วเลี้ยวขวาจะมีร้านครัวใบไม้ เป็นร้านตกแต่งบรรยากาศย้อนยุค อาหารเมนูภัตตาคารทั่วไป ร้านอยู่ซอกหลืบมากแต่ลูกค้าไม่น้อยนะครับ ที่ทำงานเพิ่งจะกูเกิ้ลเจอร้านนี้ไม่นาน กลายเป็นร้านประจำมื้อที่ต้องการกินอะไรหรูๆไปเลย


จุดเด่นของร้านนี้คือโซนจัดแสดงของสะสมที่จัดไว้หลายห้องให้ชมกันฟรีๆ ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อมๆเลย


มาฝั่งนครนายกบ้าง ร้านที่มากินเป็นร้านแรกๆคือขนมจีนสดเมืองคอน น้ำยาอร่อยทุกชนิด แต่คนขายเรื่องมาก ต้องจองโต๊ะก่อน ถ้ามาไม่ตรงเวลา เพิ่มโต๊ะ หรือสั่งเพิ่ม มีลุ้นโดนคนขายทั้งลุงทั้งป้าด่าได้นะครับ เห็นว่าหลังๆ ลุงสงบลงเยอะ แต่ก็ยังไม่แนะนำให้คนต่างถิ่นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปกินอยู่ดี

มาร้านฝั่งตรงข้ามแล้วกันครับ ร้านขนมจีนเส้นสดซีฟู้ด อยู่ต้นถนน เน้นเมนูขนมจีนชุด ถ้าสั่งชุดซีฟู้ดก็มีกุ้งหอยปูปลาหมึกถาดใหญ่ให้ตามภาพ ขนมจีนเลือกน้ำยาได้สามอย่าง ถ้าหมดเขามาเติมให้เรื่อยๆ แต่กินร้านนี้มา 5 ครั้งยังไม่เคยกินน้ำยาหมดเลยครับ ให้มาเต็มชามสังกะสีขนาดนี้ จะสั่งจานเดียวก็ได้ หรืออาหารตามสั่งก็มี เมนูอย่างปลาทอดหรือหมูสามชั้นทอดน้ำปลานี่อร่อยจนตกใจ ทั้งที่ขนมจีนที่เป็นจุดขายรสชาติเฉยๆมากอะนะ ทุกเมนูราคาไม่แพงครับ โดยเฉพาะขนมจีนนี่คุ้มมาก มีห้องแอร์ให้นั่ง ติดตรงที่จอดรถน้อยไปหน่อย

 

ที่จริงมีเด็ดๆ อีกหลายร้านเลยครับ แต่เขาปิดช่วงโควิดแล้วไม่เปิดกลับมาอีก 111

  
 ไม่ได้เขียนบล็อกยาวๆแบบนี้มานานถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่สมัยก่อนบล็อกยาวเท่านี้ถือเป็นสแตนดาร์ดมากนะครับ
คราวหน้าพาเที่ยวกาญจนบุรี แต่ก่อนนั้นขอคั่นด้วยบล็อกภาพยนตร์สัก 1-2 เรื่องจ้า

355


 
Create Date :18 สิงหาคม 2563 Last Update :23 สิงหาคม 2563 20:35:40 น. Counter : 3072 Pageviews. Comments :35