bloggang.com mainmenu search


หลังจบซีรี่ยส์อยุธยาอันยาวเหยียดไปหมวดนี้ก็ถูกทิ้งร้างไป 7 เดือน นับว่าร่ายประวัติศาสตร์รัฐต่างๆที่เคยอยู่ในดินแดนประเทศไทยนี้ตั้งแต่ภาคเหนือ-ภาคใต้-ภาคอีสาน-ภาคกลาง---จนมาจบที่อยุธยาที่รวบรวมดินแดนส่วนใหญ่และส่งต่อความเป็นรัฐชาติมาจนถึงประเทศไทยในปัจจุบัน ตอนนี้เรายังค้างกันอยู่ช่วงกรุงแตก พระราชวังและวัดพระศรีสรรเพชญ์ลุกไหม้ปุดๆ ผู้คนเผ่นหนีบ้าง ถูกกวาดต้อนบ้าง ขอสต๊อปเรื่องราวของประวัติศาสตร์สายหลักไว้ตรงนี้ครับ ก่อนที่จะต่อประวัติศาสตร์ยุคกรุงธนบุรี ขอมาเที่ยวเล่นเมืองโบราณเล็กๆน้อยๆ ที่เหลืออะไรน้อยเสียจนไม่ได้พาไปดูในเซ็ตเมืองทวารวดีกันหน่อยครับ เมืองแรกก็ต้องนี่เลย เมืองโบราณบ้านคูเมือง อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

ผมเคยอัพบล็อกสิงห์บุรีไปแล้ว เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์คู่อยุธยามายาวนานและมีโบราณสถานใหญ่ๆ สำคัญๆ อยู่เยอะเลย วันนี้จะขอพาเที่ยวเฉพาะ อ.อินทร์บุรี ที่อยู่เหนือตัวเมืองสิงห์บุรีขึ้นมาหน่อยเดียวครับ ที่นี่มีโบราณสถานสมัยทวารวดีอย่างบ้านคูเมือง และวัดสมัยอยุธยาที่กำลังฮ็อตเป็นอันซีนไทยแลนด์อย่างวัดไทรอยู่

ขับรถขึ้นมาสายเอเชียผ่านอยุธยาและอ่างทองมาเข้าเขตสิงห์บุรีที่ อ.พรหมบุรี ที่นี่มีร้านอาหารดังอย่างผัดไทยปากบาง ถึงจะเป็นร้านดังแต่ก็ไม่ต้องพิถีพิถันมากครับ ผัดไทยจานละ 30.- ผัดกระทะใหญ่ๆเสิร์ฟได้ทีละหลายๆจาน ไม่ต้องรอนานเลย เป็นแบบโบราณเลยนะครับ เส้นหนึบๆ ไม่ต้องเน้นน้ำปรุงเยอะหรือกุ้งแม่น้ำให้ดูอลัง แต่รสชาติดี พวกตามสั่งหรือก๋วยเตี๋ยวอย่างอื่นก็มี แต่มากินผัดไทยเหอะ



จากนั้นจะเข้าตัวเมืองสิงห์บุรี ขึ้นจากตัวเมืองไปแค่ 17 กม. ก็ถึงอินทร์บุรีแล้วจ้า จากถนนสายเอเชียเข้ามาที่เส้น 3275 เป็นถนนเส้นหลักที่จะเข้าอินทร์บุรี ต้นถนนทางซ้ายมือมีร้านขนมเปี๊ยะเล้าซากี่ ลูกชายแม่ละเอียด มีขนมเปี๊ยะนมสด แป้งคล้ายแป้งขนมลูกเต๋า หอม นุ่ม อร่อยมากๆ ครับ Smiley ขนมลูกเต๋าร้านนี้ก็อร่อยที่สุดในชีวิต ซื้อไปฝากที่ทำงานแป๊บเดียวหมดเหอะ





อินทร์บุรีมีร้านขนมเปี๊ยะดังๆ อร่อยๆ หลายร้านเลยครับ อย่างแม่ศรีเมืองในตลาดอินทร์บุรีนี่ก็ดังมานาน ส่งขนมเปี๊ยะไปขายหลายที่ด้วย

เข้ามาเรื่อยๆจะชนแม่น้ำที่ตลาดอินทร์บุรีครับ เจอสามแยกแล้วเลี้ยวขวามาเรื่อยๆ สุดถนนก่อนถึงเส้นรอบเขื่อนจะมีร้านอาหารริมน้ำ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานตั้งแต่ยังเป็นห้องแถวเรือนไม้ บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาสมัยก่อนคงสวยน่าดู แต่ตอนนี้ทำเขื่อนกันตลิ่งพังตลอดแนวแม่น้ำเลยครับ บังวิวมิดชิด แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ก็คือฝีมืออาหารของร้านนี้ที่ดึงดูดผู้คนด้วยเมนูปลาแม่น้ำที่หลากหลาย มาสิงห์บุรีต้องไม่พลาดกินปลานะครับ ไม่ได้มีแค่ปลาช่อนนะ ร้านนี้มีทั้งปลาคัง ปลาค้าว ปลาม้า ปลาเนื้ออ่อน ปลาบึก ปลาน้ำเงิน ฯลฯ ปลาราดพริกอร่อยมาก อาหารจานไม่ใหญ่ ราคาไม่แพง ที่เห็นนี้ร้อยกว่าบาททุกจานนะครับ เจ้าของร้านก็ยิ้มแย้มอัธยาศัยดี น่าเสียดายร้านเก่าแก่นี้ วิวที่หายไปคงทำให้ลูกค้าหายไปด้วย ในขณะที่คนทุนหนาๆได้ทำเลสวยๆไปเปิดร้านใหม่กันมากมาย ใครผ่านมาแถวอินทร์บุรีก็ลองแวะมาชิมกันได้ ร้านหยุดทุกวันจันทร์นะครับ



ร้านต่อไป....... เลิกกินได้แล้ว! พาไปเที่ยวซะทีสิว้อย!! Smiley <<เสียงคนอ่านโทรมาด่า

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้วเลี้ยวซ้ายที่ไฟแดง จะเห็นป้ายทางเข้าวัดโบสถ์ นั่นคือที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี ครับ เดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดโบสถ์ที่ก่อตั้งโดยเจ้าอาวาส พระเทพสุทธิโมลี (ผึ่ง โรจโน) เพื่อรวบรวมโบราณวัตถุของจังหวัดสิงห์บุรี และได้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปี พ.ศ.2496 ได้สร้างอาคารใหม่จากเดิมที่เป็นอาคารไม้ (ตึกเพิ่ม ดุริยางกูร)  และปรับศาลาการเปรียญเป็นพิพิธภัณฑ์อีกอาคารหนึ่ง (อาคารศักดิ์บุรินทร์-ปัจจุบันเป็นอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์) เจ้าหน้าที่ที่นี่อัธยาศัยดียิ้มแย้มแจ่มใสทุกคนครับ มากี่รอบก็ประทับใจ เปิดทุกวันเว้นจันทร์-อังคาร เวลา 8.20 - 16.30 น. มีหยุดพักเที่ยง เปิดอีกทีตอนบ่ายโมงตรงครับ ค่าเข้า 10 บาท





โบราณวัตถุชิ้นสำคัญคือธรรมจักร พระพุทธรูปปางยืนประทานพร และโครงกระดูกวัว สมัยทวารวดี ขุดพบที่บ้านคูเมือง เดินบนทางเชื่อมอาคารไปชั้นสองของตึกเพิ่ม ดุริยางกูร จะเป็นที่เก็บเครื่องอัฐบริขาร มีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายยุคหลายสมัย ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครคือเทวรูปฟ้อนรำสำริดประดับยอดเสาธง สมัยลพบุรี





ส่วนชั้นล่างเป็นข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ แสดงวิถีชีวิตชาวบ้านสมัยก่อนครับ



มองจากหน้าพิพิธภัณฑ์จะเห็นแนวกำแพงวัดโบสถ์เดิม วัดนี้เป็นวัดร้างสมัยอยุธยา เริ่มมีพระเข้ามาจำพรรษาในสมัย ร.5 และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่พระเทพสุทธิโมลีเป็นเจ้าอาวาส จนได้ยกระดับเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีเป็นแห่งแรกของจังหวัดสิงห์บุรีในปี พ.ศ.2525





ออกจากพิพิธภัณฑ์กลับไปที่แยกไฟแดง ไปต่อทางด้านซ้ายตามถนน 3285 ไป 6 กม. จะเห็นคูน้ำล้อมเกาะไว้ นี่คือ เมืองโบราณบ้านคูเมือง ชุมชนโบราณสมัยทวารวดีอายุราว 1,200 ปี ขนาด 650 เมตร x 750 เมตร ปัจจุบันเหลือเพียงคูน้ำและคันดินครับ





เราสามารถขับรถข้ามสะพานเข้าไปชมเกาะเมืองโบราณนี้ได้ ไม่มีซากโบราณสถานอะไรให้ดูนะครับ แต่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของที่นี่จัดแสดงได้น่าสนใจทีเดียว



พิพิธภัณฑ์บ้านคูเมือง ก่อตั้งโดย อบต.ห้วยชัน เป็นนิทรรศการแสดงความเป็นมาของเมืองโบราณบ้านคูเมือง มีโบราณวัตถุนิดหน่อย โบราณวัตถุชิ้นสำคัญๆ ถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแหงชาติอินทร์บุรีหมดแล้วครับ ที่นี่เหลือแค่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ชาวบ้านขุดเจอแล้วบริจาคมา แต่ที่น่าสนใจคือนิทรรศการที่จัดได้น่าสนใจจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นแค่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่แทบไม่มีคนเข้ามาเลยครับ





แผนที่นูนต่ำอันนี้มีจอฉายเล่าเรื่องราวเมืองโบราณยุคทวารวดีและชี้จุดสำคัญบนแผนที่ประกอบเรื่องด้วย



จอให้สร้างตัวละครที่แต่งกายยุคทวารวดีพร้อมตั้งชื่อให้ด้วย



อันนี้เด็ดครับ ให้พิมพ์ชื่อลงไปแล้วจะแปลงเป็นภาษาปัลลวะ ภาษาที่รับจากอินเดียและใช้กันในกลุ่มเมืองยุคทวารวดี ก่อนมีอักษรมอญ ขอม หรือลายสือไทยซะอีก



เลื่อนจอไปที่ซากโบราณสถานสำคัญในประเทศต่างๆแถบอาเซียนแล้วจะขึ้นภาพและคำอธิบาย


เจ้าหน้าที่ก็ให้การต้อนรับและตั้งใจอธิบายดีมากๆ ที่นี่เข้าฟรีนะครับ ไม่มีกล่องให้บริจาคสมทบทุนด้วยซ้ำ อย่างน้อยมาแล้วก็เขียนชื่อลงสมุดผู้เยี่ยมชมเป็นกำลังใจให้เขาด้วยนะ อยากให้โปรโมทมากๆ คนจะได้มาเที่ยวกันมากกว่านี้

แผนที่อินทร์บุรีครับ (คลิ๊กเพื่อชมภาพขยาย) กรอบแดงๆ ทั้ง 4 จุดคือสถานที่ที่เล่าในบล็อกนี้ แถวตลาดอินทร์บุรียังมีร้านน่านั่งหรือแวะซื้อของฝากอีกเยอะเลย ทั้งอริยะเบเกอรี่ คะแนนรีวิวดีเหมือนกันแต่เป็นแนวอาหารฝรั่ง ขนมเปี๊ยะแม่ศรีเมืองก็ดัง



ผมมาพิพิธภัณฑ์อินทร์บุรีและบ้านคูเมืองสองรอบครับ 11 ส.ค. 61 และ 9 ก.พ. 62 (บล็อกนี้รวมภาพจากทั้งสองทริปเข้าด้วยกัน) สาเหตุที่มาอีกรอบเพราะขนมเปี๊ยะนมสดอร่อยมาก เอ้ย! อ่านเจอวัดไทรและพบว่าเรายังไม่ได้เที่ยววัดนี้เลยนี่หว่า ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง

ว่าแล้วก็ขับรถจากอินทร์บุรีขึ้นไปเลยครับ วัดไทรอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งเดียวกับตลาดอินทร์บุรี อยู่ห่างตลาด 11 กม. วัดไทร เดิมชื่อวัดทะยาน เป็นวัดร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พอในยุคปัจจุบันมีต้นไทรขึ้นล้อมเลยเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไทร แล้วคนก็เรียกพระประธานในโบสถ์ว่าหลวงพ่อวัดไทรตามชื่อวัดไปด้วย

เทียบกับโบสถ์ปรกโพธิ์ค่ายบางกุ้งสมุทรสงครามแล้ววัดนี้ใหญ่และสมบูรณ์กว่าครับ ไม่ถึงกับต้องเอาเหล็กมาดาม แต่มันก็ไกลกรุงเทพมากกว่าด้วย





ถึงจะอยู่ค่อนข้างลึก แต่ด้วยความเป็นอันซีนไทยแลนด์และโบราณสถานที่มีรากไม้ชอนไชก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวกระแสหลัก ที่นี่เลยไม่เงียบเหงาเหมือนสองที่ที่ผ่านมาครับ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาหลายกลุ่ม มีของขาย มีลานจอดรถให้ด้วย


ทีแรกกะว่าจะเป็นบล็อกสั้นๆ ตามระดับความขี้เกียจให้คนอ่านตกใจ "อะไรฟะ ดองไปตั้งนาน อ่านครึ่งนาทีจบแล้ว?!!" อะไรแบบนี้ ไปๆมาๆ มันก็ยาวกว่าที่คิด อินทร์บุรีของดีเขาเยอะเหมือนกัน แวะมาไม่เสียเที่ยวครับ รับประกันเลย

Smiley



Create Date :14 กุมภาพันธ์ 2562 Last Update :14 กุมภาพันธ์ 2562 23:03:37 น. Counter : 4498 Pageviews. Comments :71