bloggang.com mainmenu search
บล็อกนี้เป็นบล็อกสุดท้ายของทริปกำแพงเพชร-สุโขทัย ช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาครับ

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็น 1 ใน 4 อุทยานประวัติศาสตร์ของไทย ที่ได้รับการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, ศรีสัชนาลัย และพระนครศรีอยุธยา เนื่องด้วยความหนาแน่นและสวยงามของซากโบราณสถาน ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แบบที่คอโบราณคดีไม่ควรพลาด ค่าเข้าชมที่นี่เช่นเดียวกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย คือคนไทย 20 บาท นำรถยนต์เข้า 50 บาท แต่ซื้อตั๋วทีเดียวเที่ยวได้ทั้งจังหวัด ไม่เหมือนสุโขทัยที่ตั๋วเข้าชมใบหนึ่งเข้าได้เฉพาะบางเขต ต้องซื้อตั๋วหลายรอบครับ เรารู้จักอยุธยากับสุโขทัยกันมามากแล้ว เชิญชวนให้ไปกำแพงเพชรครับ รับรองได้ว่าจังหวัดนี้มีดีมากกว่ากล้วยไข่

แหล่งเมืองโบราณในกำแพงเพชรแบ่งออกเป็นหลายเมืองย่อย หากขับจากกรุงเทพฯขึ้นมาตามถนนสาย 1 เมื่อเข้าจังหวัดมาไม่นานจะมีเมืองไตรตรึงษ์อยู่ทางด้านขวามือ เป็นเมืองโบราณในสมัยทวาราวดีก่อนสร้างเมืองกำแพงเพชร และเมื่อขับขึ้นมาก่อนข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงเข้าตัวเมืองจะมีกลุ่มโบราณสถานเมืองนครชุม และเมื่อเข้ามาในตัวเมืองกำแพงเพชรจะมีอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ซึ่งแบ่งกลุ่มโบราณสถานออกเป็นคามวาสี (โบราณสถานในตัวเมือง) ได้แก่วัดพระแก้ว, วัดพระธาตุ, ฯลฯ ซึ่งเป็นวัดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง และเขตอรัญญิก (วัดป่า) ซึ่งมีวัดจำนวนมากมายกระจายอยู่ในป่า โบราณสถานในกำแพงเพชรจะสร้างด้วยศิลาแลง ผิดกับเมืองนครชุมที่สร้างด้วยอิฐ

กำแพงเพชรเป็นเมืองเก่าเคียงคู่สุโขทัยมาช้านาน ในสมัยสุโขทัย เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งในเมืองของอาณาจักรสุโขทัยที่สร้างขึ้นเป็นศูนย์กลางการปกครองแถบแม่น้ำปิง ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นแต่อย่างใดครับ
ในสมัยของพระยาลิไท กษัตริย์องค์ที่ 6 ของกรุงสุโขทัย ได้สถาปนาเมืองนครชุมขึ้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงในปี พ.ศ. 1900 และสร้างวัดพระบรมธาตุขึ้นที่ใจกลางเมือง แต่เมืองนี้มีบทบาทอยู่ไม่นาน ศูนย์กลางชุมชนแถบแม่น้ำปิงก็ย้ายมาอีกฝั่ง บ้างก็ว่าเพราะแม่น้ำเปลี่ยนทิศทาง บ้างก็ว่าอยุธยาเข้ามามีอำนาจสร้างกำแพงเพชรขึ้นมาแทนที่นครชุม แต่ที่แน่ๆช่วงหลังของสมัยสุโขทัยนั้นเมืองกำแพงเพชรที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้มีบทบาทเหนือกว่าเมืองสุโขทัยเองเสียอีก เจ้าเมืองกำแพงเพชรที่เรามักได้ยินชื่อในประวัติศาสตร์ เช่น พระยาญาณดิศ, พระยาแสนสอยดาว, พระยาศรีธรรมาโศกราช, ฯลฯ

หลังสุโขทัยถูกอยุธยาเทคโอเวอร์ไปแล้ว เมืองกำแพงเพชรมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านของอยุธยาครับ และเป็นเมืองที่พม่ามักยกทัพเข้ามาตีเนื่องจากมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างมากสำหรับการเข้ายึดครองอยุธยา แต่ก็ตีไม่เข้าง่ายๆเพราะกำแพงเพชรมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง เมืองโบราณอื่นๆ ทั้งสุโขทัย อยุธยา หรือเมืองโบราณอื่นๆ มักใช้คันดินเป็นกำแพงเมือง (อยุธยาเพิ่งก่ออิฐป้องกันเมืองในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) แต่กำแพงเมืองชั้นในของเมืองกำแพงเพชรทำจากศิลาแลงซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าอิฐมาก และนอกจากลำน้ำปิง แล้วยังมีการสร้างคูน้ำคันดินอีกสามชั้นเพื่อป้องกันตัวเมือง คนใหญ่คนโตสมัยนั้นจึงให้ชื่อเมืองที่มีพลังป้องกันสูงลิ่วนี้ว่า "กำแพงเพชร"




ลักษณะของเมืองกำแพงเพชรมีกำแพงศิลาแลงล้อม มีป้อมโดยรอบตัวเมืองชั้นใน นอกกำแพงเป็นคูน้ำและคันดิน เรียกว่าบุกเข้ามาไม่ได้ง่ายๆเด็ดขาด
ส่วนเมืองกำแพงเพชรชั้นในปัจจุบันรกร้าง ถูกปรับสภาพเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีครับ มีถนนขับวนชมกำแพงเมือง ประตู และป้อมโบราณได้รอบเมืองเลยนะ มีซากโบราณสถานปรากฎเป็นหย่อมๆ แต่โบราณสถานที่สำคัญคือวัดพระแก้วและวัดพระธาตุข้างศาลหลักเมืองนั่นละ


สภาพเมืองกำแพงเพชรในปัจจุบัน



บริเวณสระมน ซึ่งคาดว่าเป็นที่ตั้งของพระราชวัง


จากคำขวัญของจังหวัดกำแพงเพชร "กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก" ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบล็อกนี้เกือบทั้งหมด ยกเว้นกล้วยไข่กับน้ำมัน ...คำว่า "เมืองคนแกร่ง" นั้นเป็นเพราะเมืองนี้มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่โชกโชนในฐานะเมืองหน้าด่านของอยุธยาที่รบกับเขาไปทั่วครับ และก็ไม่ได้ตีแตกง่ายๆ ในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งล้านนายกทัพลงมาเป้นฝ่ายรุกโจมตีใส่อยุธยาและยึดเมืองศรีสัชนาลัยได้นั้น ล้านนายังไม่สามารถตีเมืองกำแพงเพชรเข้า จากนั้นพระบรมไตรโลกนาถได้ขยายแนวป้องกันโดยออกจากกรุงศรีอยุธยาขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลกเพื่อบัญชาการรบแนวหน้าด้วยตนเอง และสามารถป้องกันอยุธยาไว้ได้สำเร็จ
น่าเสียดายที่กำแพงเพชรถูกพม่าตีแตกในปี พ.ศ. 2109 ชาวบ้านต้องทิ้งเมืองอพยพเข้ามาในอยุธยา จากนั้นไม่นานอยุธยาก็เสียกรุงครั้งแรก และเมืองกำแพงเพชรนี้ก็ถูกทิ้งร้างไปในที่สุด คิดว่าหลังกู้เอกราชกลับมาได้ เมืองกำแพงเพชรก็ถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง พระเจ้าตากสินเคยได้รับตำแหน่งพระยาวชิรปราการและถูกแต่งตั้งให้ปกครองกำแพงเพชรก่อนเสียกรุงครั้งที่สองด้วย

อันที่จริงก่อนสร้างเมืองนครชุมและกำแพงเพชรนั้น บริเวณนี้มีเมืองโบราณก่อนสมัยสุโขทัยหลายแห่งกระจัดกระจายอยู่ ทั้งเมืองไตรตรึงษ์, เมืองคณฑี และเมืองเทพนคร แต่นอกจากเมืองไตรตรึงษ์แล้วเมืองอื่นๆแทบไม่เหลือซากให้เห็น


แผนที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร (คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพใหญ่)

โบราณสถานในเขตคามวาสี

วัดพระแก้ว

วัดที่โดดเด่นที่สุดของกำแพงเพชรคงไม่พ้นวัดพระแก้ว ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งพระแก้วมรกตและพระพุทธสิหิงค์เคยมาประดิษฐานอยู่ ร.6 จึงเรียกวัดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนี้ว่า "วัดพระแก้ว" วัดนี้มีความยาวมากกกก แค่เดินจากท้ายวัดไปหน้าวัดก็เหนื่อยแล้วครับ มีศิลปะปนกันอยู่หลายยุคจึงคาดว่าสร้างเพิ่มเติมมาหลายสมัย โดยกลุ่มโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดคือแถวๆเจดีย์ช้างล้อมด้านท้ายวัด (ด้านที่ติดกับศาลหลักเมือง) ด้านหน้าเจดีย์มีซากเท้าของพระยืน คาดว่าเคยมีพระศิลาแลงขนาดใหญ่สูง 20 เมตรยืนอยู่ตรงนี้ พระพุทธรูปส่วนมาก รวมทั้งพระประธานก็ชำรุดเหลือแต่โกลนศิลาแลงด้านใน
ส่วนจุดขายของวัดนี้ก็คือพระสามองค์นี้ครับ หน้าเหลี่ยมแบบพระอยุธยามากกว่าจะเหมือนพระสุโขทัยเหมือนในวัดอื่นๆของกำแพงเพชร





วัดอีเก้ง

คั่นอยู่ระหว่างวัดพระแก้วและวัดมหาธาตุ ถ้าไม่มีป้ายบอกก็ไม่รู้ว่าเป็นคนละวัดกัน




วัดพระธาตุ

เช่นเดียวกับเมืองโบราณอื่นๆที่ต้องมีพระธาตุอยู่ใจกลางเมืองครับ เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบสุโขทัยที่ค่อนข้างสมบูรณ์





พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกำแพงเพชร

เทียบกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติรามคำแหง ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแล้ว ที่นี่เล็กกว่ามาก แถมไม่มีแอร์ งบประมาณคงน้อย ตอนผมไปไฟดับเลยเข้าชมฟรีอีกต่างหาก ;A; แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่เหนือกว่าพิพิธภัณฑ์รามคำแหงลิบลับคือ ด้านในถ่ายรูปได้ ครับ


ด้านหน้าอาคารมีโบราณวัตถุจัดแสดงไว้มากมาย ...มีกระทั่งโบราณสถาน นี่คือวัดเสมางามที่อยู่ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ครับ



ด้านในจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดพบตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมา ที่นี่มีพระพุทธรูป เทวรูป และพระพิมพ์จำนวนมาก มีพวกลายปูนปั้นหรือชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจากซากโบราณสถานต่างๆด้วย แต่ไฮไลท์คือเทวรูปพระอิศวรบนชั้นสองครับ เป็นเทวรูปสำริดสูง 210 ซ.ม. นับว่าเป็นเทวรูปพระอิศวรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย เดิมประดิษฐานอยู่ที่ศาลพระอิศวร แต่เคยถูกคนร้ายชาวเยอรมันตัดเศียรและมือทั้งสองข้างส่งขายตลาดสด เอ้ย! ส่งออกนอกประเทศ แต่ถูกจับได้และส่งของคืนเสียก่อน (ที่มือและคอจะเห็นรอยเชื่อมด้วย) ปัจจุบันยกเทวรูปมาไว้ในพิพิธภัณฑ์และสร้างองค์จำลองไว้ที่ศาลแทนครับ คุณลุงเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์คอยช่วยอธิบายประวัติต่างๆอย่างละเอียด ถึงงบจะน้อยแต่เจ้าหน้าที่ที่นี่หัวใจให้บริการดีมากๆ




แถวๆนี้มีศาลพระอิศวรด้วย (สร้างในปี พ.ศ. 2053) แต่ผมไม่ได้แวะไป เพราะเทวรูปของจริงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แล้วนิ


วัดป่าสัก




วัดดงอ้อย



โบราณสถานในเขตอรัญญิก

เขตป่าของเมืองกำแพงเพชรโบราณนี้มีวัดกระจายอยู่มากมาย และส่วนมากแม้จะเป็นวัดที่ไม่มีชื่อเสียงก็ยังมีขนาดใหญ่ ไม่ใช่เจอเศษอะไรหน่อยก็เรียกวัดแบบในอุทยานประวัติศาสตร์อื่นๆนะครับ

จุดที่ผมชอบคือโบราณสถานของที่นี่ถูกปกคลุมด้วยพืชขนาดเล็กจนดูเก่าแก่สวยงามเหมือนซากโบราณในนิยายแฟนตาซี ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ไม่ดูแลนะครับ ถ้าพืชยืนต้นมาขึ้นก็จะถอนทิ้ง ไม่ให้รากไปชอนโบราณสถานพัง


อย่างที่เล่าไปแล้วว่าวัดที่นี่สร้างจากศิลาแลง แม้แต่องค์พระก็ทำจากศิลาแลงหล่อปูนครับ ศิลาแลงเป็นดินปนออกไซด์ของโลหะ เมื่อขุดขึ้นมาจะนิ่ม สามารถปั้นได้ และจะแข็งตัวเมื่อถูกอากาศ 1 วัน หน้าวัดทุกแห่งจะมีบ่อขุดศิลาแลงมาสร้างวัดด้วย (หลังขุดแล้วก็ใช้เป็นบ่อน้ำหน้าวัดได้อีก) เรียกว่าเจอศิลาแลงตรงไหนสร้างวัดมันตรงนั้นเลย ในอุทยานนี้มีบ่อศิลาแลงขนาดใหญ่ด้วยนะ



วัดป่ามืดนอก




วัดพระนอน

วัดขนาดใหญ่ด้านหน้าอุทยาน ชื่อวัดพระนอนเพราะมีพระนอนเป็นประธาน แต่ปัจจุบันไม่เหลือซากให้เห็น (สงสัยตื่นแล้ว) สิ่งที่ทำให้ผมชอบเพราะวัดนี้เป็นวัดแรกในเขตป่าที่ข้ามาชมแล้วเห็นความใหญ่โตอลังการของสิ่งก่อสร้างศิลาแลงครับ




ด้านหน้าของที่นี่มีศาลา ห้องน้ำ และบ่อน้ำ ที่ทำจากศิลาแลงทั้งหมด เป็นลักษณะของวัดใหญ่ในกำแพงเพชรที่จะมีสิ่งก่อสร้างพวกนี้หน้าวัดสำหรับผู้เดินทางมา อันนี้ห้องน้ำโบราณครับ



วัดฆ้องชัย




วัดพระสี่อิริยาบถ

วัดเด่นอีกแห่งหนึ่งของกำแพงเพชร ที่นี่มีมณฑปจตุรมุขมีองค์พระปางลีลา-นั่ง-นอน-ยืน ซึ่งพระยืนสมบูรณ์ที่สุด ส่วนองค์อื่นๆพังเกือบหมดแล้ว หลายๆคนเลยเรียกวัดนี้อีกชื่อหนึ่งว่าวัดพระยืน





วัดสิงห์

อยู่ข้างๆวัดพระสี่อิริยาบถครับ เด่นที่องค์พระประธานบนวิหารและเจดีย์ที่ยอดพังลงมาเหลือแต่ซุ้มพระด้านหลังวัด





วัดช้างรอบ

ตอนมาที่นี่คนล้านแตกไม่รู้มาจากไหนกันเยอะแยะ วัดอื่นยังดูร่มรื่นอยู่แท้ๆ แถวนี้วัดไหนมีเจดีย์ช้างล้อมเมื่อไหร่ ยอดฮิตเมื่อนั้น ต้องรอให้คนซาลงแล้วค่อยถ่ายรูป
บ่อขุดศิลาแลงของวัดนี้มหึมามากครับ กลายเป็นป่าอยู่ในบ่อเลย เจดีย์ของวัดนี้มีขนาดใหญ่ ล้อมด้วยช้าง 68 เชือก ใหญ่กว่าวัดช้างล้อมที่ศรีสัชนาลัยด้วยซ้ำ ซุ้มประตูยังสมบูรณ์สวยงามดีครับ





วัดริมทาง




วัดอาวาสใหญ่

เป็นวัดใหญ่จริงอย่างชื่อ มีสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นวัดที่จัดผังได้สวยงามมาก นอกจากสิ่งก่อสร้างมาตรฐานอย่างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ แล้ววัดนี้ยังมีกุฏิสงฆ์มากมาย สมัยก่อนคงมีพระสงฆ์อยู่ไม่น้อย





วัดกรุสี่ห้อง

เป็นเศษโบราณสถานอันกระจิ๋วหลิวเหมือนศาลพระภูมิกระจายอยู่สี่อัน (สร้างไว้ทำไมฟะ?)




วัดเจดีย์กลม




วัดป่ามืด




วัดป่ามืดใน




วัดป่าแลง




วัดหมาผี (โอ้โฮ ชื่อ...)




วัดเตาหม้อ




วัดมณฑป




วัดตะแบก




วัดรามรณรงค์




วัดนาคเจ็ดเศียร




นอกเขตป่าแล้วก็ยังมีวัดอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในเขตกำแพงเมืองด้วยครับ

วัดช้าง

มีส่วนที่สร้างใหม่ด้วย ตัวโบราณสถานตั้งอยู่กลางคูน้ำ ต้องข้ามสะพานไป เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ช้างล้อม 18 เชือกครับ





วัดดงหวาย

อยู่ใกล้วัดช้าง




โบราณสถานในเขตนครชุม

ข้ามแม่น้ำปิงมาอีกฝั่งบ้าง จะเป็นเมืองนครชุมซึ่งสร้างขึ้นใกล้เคียงกับเมืองกำแพงเพชรตามที่เล่าไว้ด้านบนครับ เมืองของนครชุมจะลักษณะใกล้เคียงกับอยุธยา คือใช้อิฐมากกว่ากำแพงเพชรที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลง คิดว่าสิ่งก่อสร้างต่างๆได้อิทธิพลจากอยุธยาค่อนข้างมาก

วัดเจดีย์กลางทุ่ง

เมื่องขับรถออกจากเมืองกำแพงเพชรมาจะเห็นเจดีย์ตั้งโด่เด่สูงตระหง่านอยู่ ถ้าต้องการเข้ามาเก็บภาพให้ได้มุมสวยจริงๆ รถเข้าลำบากครับ เลยจอดรถถ่ายข้างทางก็ได้ภาพเท่านี้แหละจ้า




วัดหนองลังกา

อันนี้ขับตามแผนที่เข้ามาค่อนข้างลึก ถนนลูกลังทุลักทุเล แต่ก็นับว่าคุ้มครับ เพราะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่พอสมควร



อันที่จริงใกล้ๆกันนี้มีวัดหนองพิกุล แต่ผมเห็นป้ายวัดพิกุลคิดว่าวัดสร้างใหม่เลยไม่ได้แวะเข้าไป ที่จริงตัวโบราณสถานคือวัดหนองพิกุล แต่วัดสร้างใหม่คือวัดพิกุล อยู่ใกล้ๆกัน (เวรกรรม)


วัดซุ้มกอ

อีกวัดที่อยู่ข้างถนน ทุกคนต้องขับผ่าน




ป้อมทุ่งเศรษฐี

โบราณสถานที่โด่งดังที่สุดของฝั่งนครชุมครับ เป็นป้อมขนาดใหญ่โดดเด่นอยู่ข้างถนนเช่นกัน มีลักณะคล้ายป้อมยุโรป จึงคาดว่าสร้างสมัยอยุธยาตอนกลาง




ส่วนโบราณสถานศูนย์กลางเมืองนครชุมอย่างวัดพระบรมธาตุผมไม่ได้ไป เพราะรู้มาว่าเขาบูรณะจนใหม่เอี่ยมไม่ดึงดูดคอโบราณสถาน แถมให้พม่ามาบูรณะพระธาตุซะกลายเป็นเจดีย์ทรงพม่า



โฮ่ย... หนนี้ร่ายมาซะยาวเลย ทั้งที่เป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์น้อยกว่าสุโขทัยกับศรีสัชนาลัยแท้ๆ แต่ชอบครับ เชียร์ให้ไปเที่ยวกันเยอะๆ

สำหรับคนที่เลื่อนมาอ่านตอนจบเลยผมจะสรุปเนื้อหาบล็อกที่ยืดยาวให้ฟังสั้นๆนะ: บล็อกนี้ผมไปเที่ยวอุทยานคลองวังเจ้าในเมืองกำแพงเพชรมาครับ น้ำตกใหญ่โตมาก
Create Date :25 กันยายน 2555 Last Update :30 กรกฎาคม 2560 18:19:32 น. Counter : 15678 Pageviews. Comments :53