มกราคม 2548

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
11
14
16
18
19
21
23
26
27
28
29
31
 
 
All Blog
เรื่องสั้นออนไลน์ชุดที่ 1 ...เธอ...ยังคงมีฉัน
3.เธอ...ยังคงมีฉัน [ 05/05/2003 , 10:36:27 ]



ด้วยสาเหตุของการทำงาน
อุษาจึงจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานจากบ้านที่อยู่
มาพักกับพี่ชายของเธอซึ่งอยู่คนละจังหวัด

อุษาเป็นหญิงสาวร่างระหง
หน้าตาน่าเอ็นดู นิสัยใจคอ เรียบง่าย ไม่มีพิษ ไม่มีภัยกับใคร ความคิดความอ่านของเธอเป็นผู้ใหญ่เกินวัย
บางทีก็ขัดกับท่าทางอ้อนๆ ของเธอ


"โหล ษาเหรอ ตัวเองช่วยเราหน่อยสิ" เสียง นุชนารถ เพื่อนสนิทของอุษาดังมาตามสาย
"มีไรเหรอ ทำเสียงอ่อนเสียงหวานขนาดนี้" อุษาถามอย่างรู้ทัน
"เราลืมของไว้อ่ะ ตัวเองไปเอาของมาให้เราหน่อยสิ นะๆ ตัวเองนะ"
นุชนารถอ้อนจนอุษาต้องตกปากรับคำ

"ษาเหรอครับ นี่ของที่นุชเขาลืมไว้ครับ" อุษารับของที่เพื่อนลืมไว้จากมือ ชายตรงหน้า
ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ ก่อนจะลากลับ


หลังจากกลับมาถึงบ้าน
อุษาก็รู้สึกว่า มีบางอย่างในใจของเธอที่เปลี่ยนไป
ภาพชายหนุ่มที่ดูสุภาพ อบอุ่น วนเวียนอยู่ในความคิด เธอพยายามสลัดหัวอย่างแรง
เพื่อให้ภาพที่ติดอยู่นั้นเลือนหายไป แต่ไม่ได้ผล นอกจากจะมึนหัวแล้ว ภาพทุกอย่างกลับเด่นชัดมากขึ้น

"เราจะได้เจอเขาอีกไหมเนี่ย เฮ่อ..... จะได้เจอไหมเนี่ย จะได้เจออีกไหม"


"โหล ษาเหรอ ตัวเองมาหาเราหน่อยสิ" วันนึงนุชนารถก็โทร.มา และชักชวนให้
อุษาเดินทางข้ามจังหวัดไปหาหล่อนที่นั่น
"อืม ได้ๆ" อุษารับปากตามประสาคนเรียบง่ายสำหรับเพื่อนๆ
"ดีเลย งั้นมาพร้อมพี่โจ้เค้าแล้วกัน เค้าจะมาทำธุระที่นี่พอดีเลย" นุนารถ
หาเพื่อนร่วมทางให้เพื่อนรัก อุษาเออออ อย่าเสียมิได้
แต่ในใจนั้น เหมือนมีลิงกระโดดโลดเต้นอยู่ซัก 10 ตัวได้ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสได้เจอกับเขาอีกครั้ง

ก่อนวันเดินทาง พี่โจ้แวะมาหาเธอที่ที่ทำงาน เพื่อพูดคุย ทำความสนิทสนมกันเพิ่มขึ้น
และนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สอง ของทั้งสองคน

หลังจากที่เขากลับไป อุษาบอกตัวเองว่า....

"คนนี้แหละใช่เลย คนนี้คนเดียวเท่านั้น คนนี้ คนนี้ จะเป็นคนอื่นไปไม่ได้"

และหญิงสาวก็ตัดสินใจลางานนั่งรถไปกับเขาในวันรุ่งขึ้นทันที

อุษาตัดสินใจไปพักกับนุชนารถ 1 คืน
ทำให้ทั้งสองมีเวลาพอที่จะไปดูหนัง กินข้าวและพูดคุยกัน มันเป็นความประทับที่ทั้ง 2 จดจำไว้เป็นอย่างดี
ช่วงเวลาไม่มากที่ได้สนทนากัน ทำให้เพิ่มความรู้จัก และรู้ใจกันมากขึ้น

วันต่อมาอุษาต้องรีบเดินทางไปทำธุระกับพี่ชายที่อีกจังหวัดนึง
"นุชเหรอ เป็นไงบ้างตัวเอง"อุษาโทรกลับมาหาเพื่อนอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นกิจวัตรที่กระทำทุกวันอยู่แล้ว หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ
แลกเปลี่ยนเรื่องราวในวันนั้นแล้ว นุชก็พูดออกมา
"อืม ษา พี่โจ้อยู่ข้างๆ นี่แหล่ะ" แค่ได้ยินชื่อของเขาเท่านั้น อุษามีอาการตกประหม่า
หน้าแดง เผลอยิ้มอยู่ตลอดเวลา หัวใจโครมคราม แต่อุษาไม่ได้ปล่อยให้กิริยาเหล่านั้นหลุดออกไป
เธอเพียงรับรู้ สิ่งที่เพื่อนพูดเท่านั้น

หลังจากวางสายไป อุษาปลดปล่อยหัวใจให้พลิ้วไหวอย่างอิสระ ใบหน้านวลงาม แดงจัดด้วยขวยเขิน
กิริยาไม่เสแสร้งแกล้งจริต หญิงสาวอดรนทนอาการของตนไม่ได้ ถึงกับเผลอยิ้มให้กับหมอนสีฟ้าใบโปรด


ความที่เธอไม่เคยหวิวไหวกับใครอย่างง่ายดาย
หัวใจที่เคยแข็งแกร่ง กลับสั่นเทาด้วยความคิดถึง
อุษาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ผู้เป็นแม่ฟัง หวังให้ท่านรับรู้ความหวั่นไหวของตน
"ถ้าไม่ใช่คนนี้ ษาก็ไม่รักใครแล้วนะคะแม่" เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็นึกตำหนิตัวเอง
ชอบมั่นใจในสิ่งที่ไม่ควรมั่นใจ
"อย่าเพิ่งสรุปแบบนั้นสิษา เท่ากับเป็นการปิดโอกาสของตัวเองเลยนะลูก"
ผู้เป็นแม่กล่าวเตือนอย่างห่วงใย
"อ้าวแม่ ษารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะคะ" เธอย้ำคำพูดอย่างมาดมั่น และเด็ดเดี่ยว

หลังจากนั้นเมื่ออุษากลับมายังบ้านที่อาศัยอยู่กับพี่ชาย เธอแทบจะไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย

"ษาเหรอครับ ตอนนี้พี่อยู่ที่ห้องพักคนเดียว เหงาจัง มาทำงานคราวนี้ เหงาๆ ยังไงไม่รู้"
เสียงบอกเล่าตามสาย ทำให้เธออึ้ง ไม่เข้าใจ และสงสัยในคำพูดของเขา น้ำเสียงเหมือนการบอกเล่าปกติ
แต่ประโยคเหล่านั้น มันชวนให้ไหวเอน
คืนนั้น เธอก็ไม่สามารถข่มตา ข่มใจ ให้หลับลงได้

"เขาคิดอะไรของเขานะ โทร.มาพูดแบบนี้ บ้าจริงเชียว เซี้ยวที่สุด คนผีทะเล
พูดงี้ใจแกว่งนะเนี่ย" หญิงสาวได้แต่แอบต่อว่า ผ่านหมอนใบเดิม

ไม่นาน ชายหนุ่มก็เดินทางกลับมา
ทั้งสองมีโอกาสได้พบกันมากขึ้น กิจกรรมที่สำคัญของการพบกันก็คือ
การทานอาหารแปลก ๆ
เพราะพี่โจ้มาอยู่ที่นี่ก่อนอุษา
เขาจึงรู้จักที่ทางที่นี่ มากกว่าเธอ

อุษาคิดว่า การพบกันของเธอและเขา เป็นเรื่องของพรหมลิขิตโดยแท้

คนที่อยู่คนละทิศ คนละที่ มีโอกาสได้พบปะกัน
ถือเป็นบุญวาสนาต่อกัน
ยิ่งถ้าเมื่อพบกันแล้ว ทั้งสองต่างมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน หากไม่ใช่พรหมลิขิต จะเป็นอะไรไปได้
และเรื่องของเธอและเขา ช่างพอเหมาะพอเจาะในทุกเรื่อง

ไม่ว่าเขาจะไปในทางไหน
เธอก็จะบังเอิญมีธุระที่จะต้องไปทางนั้นตลอดเวลา
ถึงจะเป็นด้วยความจงใจของเธอส่วนหนึ่งก็ตาม
แต่ไม่ใช่ว่า..ใครที่คิดจะทำอะไร
จะสามารถทำได้เช่นนั้นทุกคน


"ษาครับ วันนี้วันเกิดพี่" เขาอ้ำอึ้งเล็กน้อย
"ค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ" อุษาอวยพรให้เขาด้วยใจจริง
สิ่งที่เธอปรารถนามากที่สุด ก็คือ เห็นเขามีความสุขที่สุด
"วันนี้พี่ต้องไปธุระ น้องเขาจะมารับไปกินข้าว อืม น้องจริงๆ นะครับ" เขายืนยันหนักแน่
"ค่ะ ษาก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ทานให้อร่อยนะคะ มีความสุขมากๆ ค่ะ" อุษาอวยพรซ้ำด้วยใจจริง

"อืม ถ้าพี่เสร็จธุระแล้ว พี่แวะไปหาษาได้ไหมครับ ษาอย่าเพิ่งเข้านอนนะครับ"
น้ำเสียงคาดคั้น
เหมือนต้องการการรับปากจากอีกฝ่าย
"อย่าเลยค่ะ ษาต้องทำงานกลับดึกมาก พี่พักผ่อนเถอะค่ะ" หญิงสาวบอกปัดตามความจริง
"รอนะครับ พี่จะไปหา พี่มีธุระกับษา" เมื่อเขายืนยันแน่นหนัก
อุษาจึงไม่ปฏิเสธอีก

นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
ชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับกล่องของขวัญก็มาถึงบ้านของเธอราวกับนางฟ้าผู้มาตามหาซินเดอเรล่า
"พี่ให้ษาจ๊ะ" โจ้ยืนขัดเขินพร้อมยื่นกล่องของขวัญใบน้อยให้
"ของขวัญ พี่โจ้เพี้ยนแล้วแน่เลย นี่มันวันเกิดพี่นะคะ ไม่ใช่วันเกิดษา" อุษายืนงง
นึกขำในความช่างคิดของเขา
"บ้าน!! พี่เอามาให้ษาทำไมคะ " เธอถามเขาอย่างสงสัย
"ไม่มีอะไรแค่อยากเอามาให้" เขาตอบก่อนจากไป
"เดี๋ยวค่ะพี่ มีความสุขมากๆ นะคะ" เธออวยพรอีกครั้งพร้อมยื่นห่อของขวัญ
ซึ่งข้างในนั้นคือหนังสือที่เขาเคยบอก ว่าอยากอ่าน




เขากลับไปแล้ว
อุษามานอนเล่นบนเตียง เอียงหน้ามองของขวัญในมือ
อย่างนี้จะให้คิดว่ายังไงกัน

มันมีความหมายอะไรลึกซึ้งหรือเปล่า




"พี่สาวคนดี ว่างไหมคะ" อุษากดโทรศัพท์ไปหาสาวใหญ่ที่เป็นเสมือนพี่สาวของเธอ
"อืม ว่าไงจ๊ะ แม่อุษาวดีของพี่" เสียงเมามายค้างเติ้ง ทำให้ อุษาลอบถอนใจนิดหน่อย
"ยังไม่หายเมาเหรอคะ เมื่อคืนไปดื่มมาอีกแล้วเหรอ" อุษาทำเสียงกระเง้ากระงอดโดยไม่รู้ตัว

"ฮา ฮา ฮา แหม ไม่ได้ไปไหนมา เห็นเป็นเบอร์ษานั่นแหล่ะ พี่เลยแกล้งเล่น มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ
โทร.มานี่น่ะ"
อีกฝ่ายหัวเราะ อุษาจึงรู้สึกตัวว่าคงแสดงอาการทางน้ำเสียงออกไปเสียแล้ว
"โห พี่ มุขนี้เลยเหรอคะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษค่ะ แต่อยากปรึกษาอะไรนิดหน่อย"
อุษาเริ่มเปิดประเด็นในการพูดคุย
"นั่นไง เจ๊ว่าแล้วเชียว" อีกฝ่ายยังคงล้อเล่นอยู่
"โห พี่อ่ะ พูดงี้เขินหมด จะฟังไหมคะ" อุษาทำเสียงงอน อีกฝ่ายหัวเราะร่า
"จ๊ะๆ ฟังจ๊ะ ว่ามา" สาวใหญ่วัยดึกทำเสียงทุ้มลึกน่าเชื่อถือ แต่อุษากลับรู้สึกขำมากกว่า





"วันดีคืนดีก็เอาโทรศัพท์มาแลกเบอร์กัน ษาก็ถามว่ามีใครจะโทรมาเป็นพิเศษไหม
เค้าก็บอกว่าไม่มี เหมือนแสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้เรารับทุกเบอร์" อุษาเล่า
อีกฝ่ายจับความตื้นตันในน้ำเสียงได้
"แผนเปล่า จริงๆ เขาซื้อเครื่องใหม่แอบไว้ไง เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่เคลียร์สาวๆ หมดแล้วไง"
สาวใหญ่ แกล้งแหย่
ให้อีกฝ่ายฉุกคิด เพราะเมื่อความสุขเข้าตา ตาเราก็พร่ามัวได้ เขาถึงว่าความรักทำให้คนเราตาบอด
"แหม พี่อ่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ได้ซื้อใหม่ วู้ นี่ษาก็ให้พี่เขาเอาเบอร์ษาไปใช้
ษาก็บอกว่าไม่มีอะไรเหมือนกัน" หญิงสาวเล่าต่ออย่างสุขใจ
"อืม หรือไม่ก็วางแผน เช็คช้วนเรา" สาวใหญ่ยังคงเบรคต่อ
"แหม พี่อ่ะ มองโลกแง่ร้ายจัง" อุษาทำเสียงเคือง
"ษาเอ๊ย จึงเชื่อมั่นในความรัก แต่จงระวังในคำรัก
ถ้าเธอจะเชื่อในสิ่งที่เขาทำ พี่ไม่ได้ว่าอะไร
แต่อย่าหลงระเริงกับความรักมากนัก
เพราะถ้าซักวันอะไรเปลี่ยนไป
อย่างน้อยพี่ก็หวังว่าเธอจะเก็บแต่สิ่งดีๆ ที่เขาทำให้
แต่ไม่เก็บคำพูดที่เขามาให้ มาทำร้ายตัวเอง" สาวใหญ่สรุปก่อนวางสายไป


อุษานั่งขบคิดในสิ่งที่ได้ฟังจากพี่สาว
เธอจำเป็นต้องใช้สติ ในการมีรัก

โดยปกติอุษาเป็นคนเข้มแข็ง
ทำอะไรอย่างมีสติอยู่แล้ว
เธอครองตนได้ดี แม้จะต้องผ่านสิ่งเร้ามากมายในวัยเด็ก
เพื่อนๆ ต่างรู้กันว่า อุษาเป็นคนที่วางตัวได้ดี
รักการเรียน ไม่เที่ยวเตร่เหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน
ทั้งที่ เธอมีอิสระมากกว่าเพื่อนๆ เธอแยกมาเรียนข้ามจังหวัด
พักอยู่คนเดียวมาตลอด แต่เธอก็ไม่เคยทำให้คนในบ้าน
ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ในการวางตัวของเธอแม้แต่น้อย


"ษาครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ นี่พี่ตื่นมาใส่บาตรให้
ขอให้บุญ ส่งให้ษา มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง
คิดสิ่งใดด้วยสติ มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองนะครับ" คำอวยพรยามเช้าของเขา
ทำให้เธอปลื้มใจมากจนอยากจะร้องไห้ออกมา
"ขอบคุณมากค่ะ พี่โจ้" คำพูดเดียวที่ออกจากของเธอได้ในยามนี้
"วันนี้ทานข้าวด้วยกันนะครับ" เมื่อนัดหมายกันเรียบร้อย
เขาก็ขอตัวไปทำงาน


" พี่คิดดูสิ โคตรปลื้มเลย ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้ให้ 55555
ของขวัญวันเกิดเป็นเรซิ่นรูปหัวใจสีแดง เฮ้อ ไม่คิดมากได้ไงเนี่ย"
เสียงร่าเริงของน้องสาวร่วมจอแก้วและคีย์บอร์ดแว่วมาตามสาย
สาวแก่ร่างบางได้แต่เออ ออ ไปด้วย ตามสูตรของมิ่งมิตรคนนึงที่ว่า
"ถ้าเธอสบายใจ ฉันก็สบายดี ถ้าเธอสบายดี ฉันก็สบายใจ"
"เราชอบเพลงแนวเดียวกัน ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน วันนึงษาไปหาเขาที่มหาวิทยาลัย
พี่เขาเครียดเรื่องทุนจะไปเรียนต่อนี่แหละ ก็นั่งฟังเขาพูด ปลอบเขาบ้าง
เขาเคยเขียนเนื้อเพลงเพลงนึงส่งมาให้ ซึ้งมาก ได้ยินทีไรก็คิดถึงกันทุกที
เพลงนี้เลยกลายมาเป็น "เพลงของเรา" ของษากับพี่เขาสองคน ไม่เกี่ยวกับใคร อิ๊อิ๊
มันมีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ"
อุษา ยังคงพูดด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น


"อ้าวพี่เป็นไรเงียบไป ไม่ช่างพูดเหมือนเคยเลย" เมื่อพูดจบจึงสังเกตว่าอีกฝ่าย
ไม่ได้ส่งเสียงตอบมาว่าอะไร นอกจาก อืม เออ ออ
"จำคำโบราณไว้นะอีหนู ถ้าวันไหนเราหัวเราะมากเท่าไหร่ จึงเตรียมใจไว้เพื่อ
จะร้องไห้เท่ากัน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ จงเลือกหัวเราะน้อยๆ แต่หัวเราะนานๆ นะ"
"โห พี่ พูดเหมือนสายัณห์ สัญญาเลย" หญิงสาวยังคงเพริดอยู่กับความสุข
จนมองอะไรก็เป็นเรื่องสวยงาม สดใสไปเสียงหมด
ผู้มากวัยกว่าได้แต่ถอนหายใจ และคิดภาวนาให้น้องสาวที่น่ารัก
มีความสุขตลอดไป


อุษาเริ่มคุ้นเคยกับความใกล้ชิด และห่วงใยที่มีให้กัน
ทั้งสองคุยกันทุกเรื่อง ครอบครัว การงาน การเรียน
ที่อยู่ บางครั้งเธอเองก็แปลกใจ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุยได้ทุกเรื่องจริงๆ

บางวันพี่โจ้ก็พาเธอไปบ้านญาติผู้ใหญ่ของเขา
เหมือนทุกอย่างจะลงตัว และดำเนินไปได้อย่างสวยงาม

"ษาพี่ว่าษาเหนื่อยเกินไปแล้วนะเนี่ย พี่ไม่อยากให้ษาทำงานเลย
อยากให้อยู่เป็นแม่บ้านเฉย ๆ " โจ้พูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นอุษา
มีปัญหาเรื่องการงานหนักขึ้นทุกที อุษาได้แต่อึ้งกับประโยคที่ได้ยิน
ไม่มีคำตอบใดๆ เล็ดลอดออกมาจากปากที่อยู่บนใบหน้าอันแดงกล่ำของเธอ

ความรู้สึกดีๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเองอีกต่อไป
จากคำพูด การกระทำของอีกฝ่าย
ทำให้เธอมั่นใจว่า นี่คือ ความรัก แน่แล้ว
ไม่ใช่เพียงความฝัน หรือ การแอบรัก

โจ้ยังคงไปรับ ไปส่ง อุษาเป็นปกติ
หลังจากเลิกเรียน เขาต้องขับรถจากกลางกรุง มุ่งหน้าสู่ถนนรอบเมือง
และรับเธอไปส่งอีกมุมเมืองหนึ่ง
ก่อนที่เขาจะขับรถกลับไปยังที่อยุ่กลางกรุงอีกครั้ง



จนกระทั่งวันปีใหม่มาถึง
อุษาได้รับของขวัญเป็น อีเมลล์ฉบับหนึ่ง

"ไม่มั่นใจว่าเราจะเป็นคนที่ใช่ของกันและกันจริง ๆ หรือเปล่า"



"ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความจงรัก และภักดีได้แค่ไหน"




"ไม่อยากปิดโอกาสใคร"





อุษางุนงงกับข้อความที่ได้รับ
อ่านซ้ำไป ซ้ำมา หลายรอบ
และดูเหมือนแต่ละรอบจะทำให้ความรู้สึกในใจยิ่งทวีคูณขึ้น


น้ำตา
เป็นผลมาจากความไม่เข้าใจ
ทำไม
คือคำถามในใจตลอดเวลา


สิ่งที่คนเรากลัวมากที่สุด

ไม่ใช่ความผิดหวัง

สิ่งที่คนเรากลัวมากที่สุด

ไม่ใช่ความสูญเสีย

สิ่งที่คนเรากลัวมากที่สุด

คือความไม่ชัดเจน

ความไม่ชัดเจน
ทำให้คนเรา
สับสน
บ้าคลั่ง
กระวนกระวาย
ไม่แน่ใจ
ไม่เข้าใจ


และยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้น

อุษาไม่เพียงรู้สึกกลัวความไม่ชัดเจนในสิ่งที่ได้เห็นเท่านั้น
แต่ความไม่ชัดเจนในใจของเขา คือสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุด


แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้อีก
ทุกอย่างเป็นไปตามปกติเหมือนเดิม
ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก


ทั้งเธอ และเขา

ไม่มีใครพยายามพูดถึงข้อความเหล่านั้น


เหมือนเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้น
และนั่นคือ ความฝันเท่านั้น


แล้ววันสุดท้ายก็ต้องมาถึงจนได้

"ที่พี่โจ้เขียนมาบอกษา มีอะไรพิเศษไหมคะ"
อุษาตัดสินใจถามเขาก่อนการเดินทางไปเรียนต่อของเขา
"ษา พี่ขอโทษ พี่คิดว่าพี่เจอคนที่ใช่มากกว่า
คนที่พี่สามารถรักเขาได้อย่างหมดใจจริงๆ"
แล้วน้ำตาลูกผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก็ไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้
อุษาตะลึงกับคำพูด และกิริยาที่ได้รับรู้ และได้เห็น
ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดจากปากของเธอ


ภาพที่เห็นในสายตาคนทั่วไป
คือชาย หญิง หันหน้าเข้าหากัน
แล้วร้องไห้อย่างไม่อายใคร


หลายคนที่ผ่านมา และผ่านไป
นึกยิ้มให้การร่ำลาที่แสนจะอาลัย
หากแต่ในหัวใจของเขาทั้งสอง
มันยิ่งใหญ่กว่านั้น
และมันไม่ได้มีความหมายเพียงเท่านั้น




หลังจากที่โจ้จากไป
อุษายังคงเก็บตัว นิ่งจมอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง
ไม่มีการติดต่อจากเธอ
แม้ว่าอีเมลล์หลายฉบับจะถูกส่งมาในนามของเขา
และเธอก็ได้รับรู้ข้อความต่างๆ ในนั้น

เขาเสียใจ
เขาไม่ได้ตั้งใจ
เขารักเธอไม่ได้

ทั้งๆ ที่เขาพยายามแล้ว

เธอได้แต่รับรู้
แต่ไม่ได้เข้าใจเลยสักนิด

เหตุการณ์ที่ผ่านมา
เธอไม่คิดว่ามีตรงไหน
เป็นจุดแยก
ไม่มีตรงไหน
เป็นสัญญาณใดๆ
และดูเหมือน..ในความรู้สึกของเธอ
ไม่มีตรงไหนเลย
ที่ชี้ให้เห็นว่า ..เขากำลังพยายามที่จะทำ โดยไม่ได้เต็มใจนัก



"ถึงพี่โจ้ที่เป็นที่รัก (เช่นเดิม)

ที่ษาเขียนเมลล์ฉบับนี้มาหา
นานเหลือเกินกว่าจะตัดสินใจส่งมาได้
ษาเพียงแค่อยากให้พี่รู้
ไม่ได้คิดจะยื้อรั้ง
หรือเรียกร้องให้รับผิดชอบความรู้สึกของษา
ษาให้อภัยทุกอย่าง
ษาไม่เคยนึกโกรธกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ษาไม่รู้หรอกว่าความรักเป็นยังไง
ไม่รู้ว่าษารักพี่หรือหลง
แต่ตอนนี้
ษาอยากให้พี่รู้ว่าษาให้อภัยทุกอย่าง
และษายังคงอยู่ในที่ของษาเหมือนเดิม
พี่อยากได้อะไรขอให้บอกมา
ษาพร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง
ไม่มีอะไรที่ษาทำให้ไม่ได้


นอกจาก

ให้เลิกคิดถึงพี่เท่านั้น

อุษา"




"ดีแล้วล่ะอีหนูเอ๊ย ทำได้นางเอกมาก" เสียงพี่สาวคนดีลอยมาตามสาย
"ความรักมันไม่เบ็ดเสร็จอย่งนี้เสมอแหล่ะ" คำปลอบโยนด้วยถ้อยคำธรรมดาเช่นนี้
กลับมีค่ามากมายสำหรับคนใจเขว
"ษาคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกรธเขานะพี่ โกรธเขาเราก็ทุกข์
เขาก็ไม่มีความสุข" อุษาอธิบายเหตุผลของตนเอง
"ก็ดีแล้ว แล้วไม่สามารถกำหนดหัวใจใครได้หรอก
หัวใจใครก็หัวใจใคร ต่างมีจุดหมายไปตามทิศทางของตน" สาวแก่วัยดึกพูดอย่างที่ตนคิด
เหมือนเป็นคติสอนใจตนเองในเรื่องความรัก
และยังหยิบมาสอนคนอื่นในบางครั้งที่มีโอกาส
"บางทีนะษา คนเราก็ต้องการแค่เพื่อนเท่านั้นในบั้นปลายชีวิต
เราไม่ได้ต้องการความรักหวือหวา หรือคนที่รู้ใจ ตามใจอะไรเรานัก
แค่ใครซักคน ที่นั่งฟังเรื่องราวของเราได้ซักพัก
แม้เขาจะไม่พูดอะไรเลย เราก็จะรู้สึกอุ่นใจเสมอ" อีกความคิดจากประสบการณ์เนิ่นนาน ในคำว่า
"รัก"
ได้ถ่ายทอดผ่านปากผู้สูงวัย สู่ใจน้องสาวคนสนิท


"ค่ะพี่ ษาแค่อยากให้พี่โจ้เขารู้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เขาจะยังคงมีษาตลอดไป"


เสียงอืมในลำคอ ทำให้คนอ่อนวัยกว่าอุ่นใจ
ที่พี่สาวไม่ได้คิดทักท้วง

"ไปวัดกันไหมคะพี่ ไปทำบุญกัน" อุษาเอ่ยชวนหลังจากทิ้งให้ความเงียบก่อตัว และจางลง
"ไอ้บ้า พี่เข้าวัดไม่ได้ ร้อน ไปกินเหล้าพอไหว"
เสียงหัวเราะเป็นการเริ่มต้นที่ดี สำหรับจิตใจของใครหลายคน


(ลองดูสิคะ)



Create Date : 09 มกราคม 2548
Last Update : 9 มีนาคม 2549 22:20:04 น.
Counter : 190 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แฟนไท
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Friends Blog
[Add แฟนไท's blog to your weblog]