คุณย่าวัย50 Day45...74.5 Heart Rate Monitor มันสำคัญจริงๆนะ(เจ๊แดงมา)

เออ..นี่เราแต่งงานกับคุณบิลครบ 10ปีแล้วหรือนี่ อยู่อเมริกา 11ปีเต็ม ลำบากกว่าอยู่เมืองไทยเยอะ เฮ้อ ย้ายกลับบ้านเราดีกว่า...

เข้านอน 3ทุ่มครึ่ง ตื่นตี 5กว่า นอนหลับไม่ค่อยสนิทเท่าไร ก่อนนอนรู้สึกร้อน ก็ดึงผ้าออก รู้สึกตัวอีกทีก็หนาวสั่นคว้าผ้านวมแทบไม่ทัน พอลุกไปฉี่ อ้าวเจ๊แดงมา ชั่งน้ำหนักอยู่ที่74.5 ลงมาอีกครึ่งกิโล

กลับมานอนต่อเนื่องจากปวดหลัง แต่นึกขึ้นมาได้ว่าลืมหยิบเจ้าHR Monitor เข้ามาด้วย หลังจากวัด ตัวเลขขึ้นสูงกว่าเมื่อวาน เฉลี่ยอยู่ที่ 64-79 ความแข็งแรงจึงลดลงมาอยู่ที่ระดับ "ยอดเยี่ยม"

มีอาการปวดเมื่อยหลังและปวดท้องนิดหน่อย เจ๊แดงเพิ่งมาจิ๊ดเดียวยังออกกำลังกายได้อยู่ เลือดลมสูบฉีดแรงๆ จะได้ถ่ายเลือดเสียออกมาเยอะๆ...

06.00...สมูทตี้สับปะรด1แก้ว(100)นั่งเซทอัพ HR Monitor ใหม่ลองเปลี่ยนประเภทของการออกกำลังกายโดยเลือก"วิ่ง"ดูบ้าง หลังจากเลือกเสร็จก็เข้าไปเซทข้อมูลส่วนตัว
08.30...เดิน 30นาที วันนี้ไม่ปรับความชัน อยากรู้ว่าถ้าวิ่งพื้นราบจะอยู่ที่สปีดไหน...
วอร์มอัพที่สปีด 2.5>3>3.5และเริ่มวิ่งเหยาะๆที่สปีด4(ประมาณ 6.5กิโลเมตร/ชม.) สักพักเสียงเตือนว่าเร็วเกินไป
ลดมาอยู่ที่3.5(ประมาณ 5.6กิโลเมตร/ชม.)จำได้ว่า เคยเดินที่สปีด2.5 แต่ตอนนั้นปรับชันที่ระดับ5 เดินช้าแต่เหนื่อยเร็ว และยังควบคุมให้อยู่ที่โซน2 พอดี จึงลดต่ำลงมาอีกหน่อยคือสปีด3 เพราะเราไม่ได้ปรับชัน
แค่แป๊บเดียว เสียงเตือนว่าต่ำเกินไป จึงสปีดขึ้นไปที่4อีกครั้ง เพื่อให้ชนเพดาน แล้วค่อยลดลงมาที่3.5 นาทีที่27จึงคูลดาวน์ลดต่ำลงมาที่2 ยังไม่ทันครบ30นาทีเลย เสียงเตือนว่า ต่ำเกินไป 555ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆแน่เลย...



หลังจากดูกร๊าฟ ก็พอจะเดาได้ว่า ที่เราเลือกมาเป็นวิ่งนี้ นาฬิกาจะควบคุมMax HR ไม่ให้เกินโซนที่4 และไม่ให้ต่ำกว่าโซนที่3 คือถ้าลงมาเตะโซนที่2 เมื่อไร มันจะเตือนทันทีว่า ต่ำเกินไป
หลังจากไปศึกษาดู ก็ปรากฏว่า"วิ่ง"เป็นกีฬาประเภท ฝึกฝนความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งอยู่ในโซนที่3และ4

งั้นขอต่ออีก30นาที(ไม่อยากให้ค้างคาใจ)เลือกใหม่ เอาแบบเดิมคือOther หรือกีฬาประเภทอื่น คราวนี้สปีดขึ้นไปให้ชนเพดานก่อน แล้วลดลงมาที่2.5(4กิโลเมตร/ชม.)มันก็เตือนอีก เอ๊ะยังไง เลยสปีดขึ้นๆลงๆจนครบ25นาที คูลดาวน์อีก5นาที



พอดูกร๊าฟ ปรากฏว่ามันลงไปอยู่ในโซนที่1ครึ่งนึง และอีกครึ่งนึงต่ำกว่า ซึ่งโซนที่1นั้นไม่ได้จัดให้อยู่ในประเภทของการออกกำลังกาย แต่เป็นเพียงการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อสุขภาพ ซึ่งร่างกายใช้กลูโคสในกระแสเลือดมาเป็นพลังงาน วิธีนี้ดีต่อผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวาน เพราะส่วนใหญ่ ลูกๆหลานๆไม่อยากให้ทำงาน

แต่ยายหนูออกโหด ชอบปล่อยให้แม่ทำ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านเล็กๆน้อยๆ เดินไปตลาด และทำกับข้าวเอง ล่าสุดถามแม่ว่า
"เบาหวานลดไหม"
"ขึ้นปรู๊ดเลย"
"อ้าว ทำไมอ่ะ"
"ก็ออกไปเดินตลาดเองนี่แหละ ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ทั้งเงาะ ทั้งทุเรียน"
"พอๆแล้วแม่ ไม่ต้องบรรยาย หนูอยาก กร๊ากกก"

โซนที่2 ถึงจะเรียกว่าเป็นการออกกำลังกายประเภทแอโรบิก ซึ่งร่างกายใช้ไขมันในการผลิตอ๊อกซิเจ่น ถ้าเลยขึ้นไปโซน 4-5หรือ6 ร่างกายเหนื่อยมากเกิน หัวใจผลิตอ๊อกซิเจ่นไม่ทัน ร่างกายก็จะเลยไปดึงไกลโคเจ่นที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อออกมาใช้แทน...

สรุปการเดินของเช้านี้ 30นาทีแรกได้ความแข็งแรงของร่างกาย 30นาทีหลังเผาผลาญไขมันไปจิ๊ดนึงแค่13นาที อีก12นาทีเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อสุขภาพ ไม่มีอยู่ในโซนที่2เลย แงแง...
นี่ถ้าไม่มีเจ้า HR Monitor มาให้ความรู้ เราจะต้องเดินอีกกี่ชาติ ไขมันจึงจะลด หรืออาจจะวิ่งได้เดือนเดียว ก็คงขยาดกับความเหนื่อยแล้วล้มเลิกไป และนี่คือความสำคัญของเจ้า Heart Rate Monitor

10.00...สมูทตี้สับปะรด1แก้ว(100)
11.00...ข้าว(100)แกงเนื้อ(200)กระเพราไก่(100)
13.00...แคร็กเกอร์ 20อัน(160)กาแฟดำ
17.15...โปรตีนเช็ก1กล่อง(150)

*เปลี่ยนแผนด่วน กะว่าจะเดินตั้งแต่5โมง เกิดขายดี ต้องทำอาหารเติมติดต่อกัน และยังมีออเดอร์สลัดห่อกุ้งสดอีก เลยทำเผื่อตัวเอง4อัน คุณบิลอีก2 กว่าจะเสร็จก็หมดเวลาออกกำลังกาย เพราะช่วงนี้เข้านอนแต่หัวค่ำ ตื่นเช้ามืด...

19.00...แซลมอนย่าง+น้ำพริกเผา(300)สลัดห่อกุ้งสด4อัน+น้ำจิ้ม(200)

รวมพลังงาน 1410

Create Date : 19 พฤษภาคม 2554 Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 10:13:49 น. Counter : 742 Pageviews.		7 comments
Share Tweet