Bloggang.com : แม่เนื้ออุ่น : Orange Chiffon Cake With Orange Sauce

Orange Chiffon Cake With Orange Sauce

อันที่จริงเมนูนี้ อุ่นทำไว้ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้วค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสเอารูปจากกล้องลงคอมพิวเตอร์และเพิ่งมีโอกาสนั่งนิ่งๆ เล่นเน็ตนานๆ โดยไม่มีเรื่องอะไรรบกวนก็วันนี้เอง รบกวนพี่ยุ้ยเข้ามาตรวจการบ้านหน่อยนะคะ ^^

อุ่นเป็นคนหนึ่งค่ะที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการทำสปันจ์เค้กสูตรของพี่แหม่ม Tiara เค้กเป็นไตบ้างล่ะ เค้กไม่ฟูบ้างล่ะ ฯลฯ จนสามารถรวบรวมปัญหาเกี่ยวกับสปันจ์เค้กมาได้เยอะอยู่ เพราะทำพลาดมาเกือบจะครบทุกสาเหตุแล้ว เอิ๊กๆ

ไข่ไม่สด

เนยร้อนไป

เนยเย็นไป

ตีเค้กไม่ได้ที่

และปัญหาสำคัญอีกอย่างที่น่าเบื่อมากสำหรับอุ่นคือ "เอสพีเสีย" เป็นเรื่องที่กลุ้มใจมากเลยค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เอสพีของเรามันจะยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า และมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เอสพีเสีย เก็บนานเกินไป? (กระป๋องนี้ก็เพิ่งเปิดใช้อาทิตย์ก่อนเองนะ) ปิดไม่สนิท? (แน่นหนาแล้วนา) วางในที่ร้อนเกินไป? (ก็กระป๋องนี้เอาใส่ไว้ในตู้เย็นเลยด้วย)

แล้วคืนนั้น อุ่นต้องทำเค้กส้ม ๓ ปอนด์เพราะมีคนในที่ทำงานสั่ง กว่าจะกลับจากที่ทำงาน กว่าจะได้ลงมือทำก็ดึกดื่น กว่าจะตระหนักรู้ว่าเอสพีเสีย เค้กไม่ขึ้นฟู มันก็ดึกเกินกว่าจะหาซื้อเอสพีกระปุกใหม่ได้จากที่ไหนเสียแล้วค่ะ

ในขณะที่กำลังยืนกลุ้มใจอยู่นั้น แสงสว่างก็วาบขึ้นมาในความคิด อา .. พี่ยุ้ยผู้น่ารัก พี่ยุ้ยเคยทำเค้กส้มเนื้อชิฟฟ่อนนี่นา

ก็เลยถือโอกาสส่งการบ้านพี่ยุ้ย ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน เสียเลยนะคะ แล้วก็ขอบคุณพี่ยุ้ยด้วยที่ทำให้อุ่นผ่านค่ำคืนแสนวิกฤตมาได้อย่างราบรื่นค่ะ ^^

สูตรเค้กส้มเนื้อชิฟฟ่อนจากบล็อกของพี่ยุ้ยตามลิงค์นี้นะคะ

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=tablet&date=09-12-2007&group=8&gblog=13

Orange Chiffon Cake

ส่วนผสม

ส่วนที่ 1

- แป้งเค้ก 120 กรัม
- ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
- นมผง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย (1) 90 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา

ส่วนที่ 2

- น้ำมันพืช 60 กรัม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำส้ม 90 กรัม

ส่วนที่ 3

- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย (2) 90 กรัม

วิธีทำ

1. ร่อนส่วนที่ 1 (แป้งเค้ก ผงฟู นมผง น้ำตาลทราย เกลือ) เข้าด้วยกัน เทใส่ชามผสม ใช้ช้อนแหวกแป้งเป็นหลุมตรงกลาง พักไว้

2. ใช้ตะกร้อมือผสมส่วนที่ 2 (น้ำมันพืช ไข่แดง น้ำส้ม) ให้เข้ากัน แล้วเทลงไปกลางหลุมแป้งที่เราพักไว้ ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อแป้งเข้ากับส่วนผสมแล้วให้หยุดคน เพราะคนนานจะทำให้เนื้อเค้กเหนียว

3. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงให้ขึ้นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ แล้วตีต่อไปจนได้ฟองละเอียดจึงทยอยใส่น้ำตาล ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน จึงปรับความเร็วมาที่ต่ำสุดเพื่อตัดฟองอากาศอีก 1 นาที

4. ใช้พายยางตักไข่ขาวประมาณ 1/3 มาผสมกับส่วนของไข่แดงที่เราพักไว้ ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน แล้วตักไข่ขาวส่วนที่เหลือมาผสมกันจนหมด

5. เทแบทเทอร์ใส่พิมพ์กลม 3 ปอนด์ที่รองกระดาษไข ไม่ทาไขมัน อบไฟบน-ล่าง (เตา OTTO 787) อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที

ก่อนอื่นก็ตวง แป้งเค้ก ผงฟู นมผง น้ำตาลทราย เกลือ รวมกันก่อนค่ะ บางคนจะแยกเกลือ กับ น้ำตาลทรายผสมทีหลังเพราะมันร่อนไม่ผ่านตะแกรง แต่อุ่นร่อนรวมกันไปเลยค่ะ (ขี้เกียจง่ะ แหะๆ) อะไรที่ร่อนไม่ผ่านตะแกรงก็คว่ำลงไปตอนสุดท้ายเลย เอิ๊กๆ

ร่อนรวมกันสองรอบ

เทใส่อ่างผสม ใช้ช้อนหรือไม้พายแหวกตรงกลางให้เป็นหลุมรอไว้ (อุ่นใช้ไม้พายแหวก เพราะใช้มือแล้วมันเปื้อนน่ะค่ะ)

ใส่ไข่แดง น้ำมันพืช น้ำส้ม ลงในชามเดียวกัน

ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน รู้สึกในรูปจะตีแรงไปหน่อย ฟองฟ่อดเลย จริงๆ ตีแค่พอเข้ากันก็ได้นะคะ

เทส่วนผสมไข่แดงลงไปกลางหลุมแป้ง

คนส่วนผสมให้แป้งเข้ากับไข่แดง พอหมดผงแป้งก็หยุดคนเลยค่ะ

ทีนี้ก็มาตีไข่ขาวกันบ้าง

เตรียมไข่ขาว ครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำตาลไว้ใกล้ๆ มือ ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงให้ขึ้นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ แล้วตีต่อไปจนได้ฟองละเอียดจึงทยอยใส่น้ำตาล

ตั้งยอดอ่อน ประมาณนี้

ตีด้วยความเร็วต่ำเพื่อตัดฟองอากาศอีก 1 นาทีก็จะตั้งยอดประมาณนี้พอดี

ใช้พายยางตักไข่ขาวประมาณ 1/3 มาผสมกับส่วนของไข่แดง

เมื่อตะล่อมส่วนแรกเข้ากันแล้ว ก็ตักส่วนผสมไข่ขาวที่เหลือครึ่งหนึ่งมาตะล่อมรวมกันอีก เมื่อเข้ากันแล้วก็ตักไข่ขาวส่วนสุดท้ายมาตะล่อมรวมกันจนหมด

เมื่อตะล่อมรวมกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้แบทเทอร์พร้อมอบแบบนี้มา

เทใส่พิมพ์ 3 ปอนด์ที่รองกระดาษไข ไม่ทาไขมัน

อบไฟบน-ล่าง 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที เช็คสุกด้วยการใช้นิ้วกดหน้าเค้กเบาๆ ถ้าหน้าเค้กคืนตัวตามนิ้วก็แสดงว่าสุกแล้ว อาจจะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเช็คเนื้อเค้กอีกรอบเพื่อความชัวร์ก็ได้ค่ะ

แต่รอบนี้อุ่นอบนานไปหน่อย 40 นาที หน้าเกรียมเยย T_T

พักเค้กบนตะแกรงให้เย็นในพิมพ์ (พี่จุ๋มเคยบอกว่า เอาชิฟฟ่อนออกจากพิมพ์ตอนร้อนๆ เค้กจะหดค่ะ) แล้วคว่ำออกจากพิมพ์ จัดการทำศัลยกรรมเค้กแล้วก็ได้ออกมาขาววิ้ง พอไหวเนอะ

เค้กฟูนุ่มดีค่ะ สูงดีด้วย ชอบๆ แม้ว่าฟองอากาศจะเยอะไปหน่อย แหะๆ

อบนานไปนิดนะคะ เนื้อเค้กเลยดูร่วนๆ ไปหน่อย คราวต่อไปจะไม่อบนานอย่างนี้แล้วค่ะ สัญญา!!

สไลซ์เค้กเป็น 3 ชั้น รอไว้

สไลซ์เค้กเสร็จแล้วก็พักไว้ก่อน มากวนหน้าซอสส้มกันค่ะ

สูตรและวิธีทำซอสส้ม คงไม่ต้องลงหรอกเนอะ เพราะทุกคนน่าจะมีสูตรนี้ในมือกันอยู่แล้ว แต่หากใครไม่มีจริงๆ ตามลิงค์นี้ของอุ่นไปนะคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sleeping-beauty&month=12-2007&date=02&group=2&gblog=9

ราดหน้าเค้กด้วยซอสส้มเสร็จแล้ว พักไว้ให้เย็นสนิทก็หาอะไรมาครอบกันหน้าเค้กแห้ง แล้วจับเข้าตู้เย็นเลยค่ะ ตอนนั้นดึกมากแล้ว ตื่นเช้ามาค่อยว่ากันอีกที

คนสั่งเค้กเค้าขอให้ตัดเค้กมาให้เลยเพราะหลังเป่าเค้กเสร็จจะได้ไม่ต้องวิ่งหามีดตัดเค้กกัน อุ่นเลยใช้ที่แบ่งเค้กทำหน้าเค้กเป็นรอยไว้ก่อน แล้วค่อยใช้ส้มแต่งหน้า

จริงๆ เสียดายแสงที่ห้องมากเลยค่ะ แต่ตอนนั้นต้องรีบไปทำงานมาก เดี๋ยวรถจะติด ก็เลยต้องหอบมีดและอุปกรณ์ตกแต่งมาจัดการต่อที่ทำงาน

ใช้แรงงานของพี่ๆ ที่ทำงานด้วยค่ะ พอตัดและพันพลาสติกแล้วก็ให้ช่วยโรยเม็ดน้ำตาลซะเลย พี่ๆ เค้าดูหนุกหนานกันมากนะคะ แย่งกันทำใหญ่เลย

สังเกตว่าอุ่นผูกโบว์แปลกๆ ไหมคะ เหมือนผูกตรงข้างเค้ก ไม่ผูกหน้าตรง มันมีเหตุผลเนื่องจากตอนตัดพันพลาสติกอยู่นั้น มีเค้กอยู่ชิ้นนึงที่ล้มแล้วหน้าเยินไปหน่อยค่ะ ก็เลยใช้เค้กชิ้นนั้นเป็นชิ้นที่ใช้ปักป้าย "สุขสันต์วันเกิด" ซะเลย โบว์ก็เลยต้องผูกตามตำแหน่งของป้าย มันเลยดูผิดทิศผิดทางไปหน่อยแบบนี้ล่ะค่ะ

หันมาให้ดูอีกข้างหนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าลืมถ่ายรูปตอนตัดเอาไว้เพราะรีบมากเลยค่ะ กลัวคนสั่งเค้กเค้าจะโผล่เข้ามาเอาเค้กก่อนที่จะเรียบร้อย

ในที่สุดก็ใส่กล่องได้เรียบร้อยทันเวลา ส่งให้คนสั่งอย่างเรียบร้อยและ
โล่งอก แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอเค้าอีกเลย ไม่รู้รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง เหอๆ

ขอบคุณพี่ยุ้ยอีกครั้งนะคะสำหรับสูตรเค้กชิฟฟ่อนส้มที่ฟู นุ่ม และอบได้สวยมากๆ ทำให้อุ่นไม่ต้องขายหน้าเค้าและสบายใจที่ได้ส่งเค้กที่มีคุณภาพไปให้คนอื่นกินค่ะ ^^

หลังจากส่งเค้กส้มตามสั่งเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนั้นก็ยังกลับมาทำเค้กส้มอีกค่ะ แต่รอบนี้เป็นคัพเค้ก

อุ่นเคยมาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำเรื่องที่คุณแฟนจะจัดมีตติ้งแกงค์กีตาร์ของเค้าซึ่งมีแต่ผู้ชาย อุ่นไม่ได้ไปด้วยแต่ก็อยากมีส่วนร่วม เลยอาสาจะทำขนมฝากไปให้กิน แล้วก็เลยมาขอคำแนะนำชาวก้นครัวว่าทำขนมอะไรดีให้ผู้ชายกิน

แล้วสุดท้ายก็มาลงตัวที่เค้กส้มอยู่ดี เพราะเป็นเค้กที่รสชาติดี กินแล้วสดชื่น ไม่เลี่ยน และเนื้อเค้กไม่หนักมาก สามารถกินเป็นของหวานหลังมื้ออาหารได้

แต่รอบคัพเค้กนี่ไม่ได้ใช้สูตรชิฟฟ่อนนะคะ เพราะเตาอบอุ่นเล็ก ต้องอบหลายรอบกว่าจะเสร็จ ถ้าใช้แบบชิฟฟ่อนกลัวว่าเค้กจะยุบไปก่อนระหว่างรออบ ก็เลยใช้สูตรสปันจ์เหมือนเดิมค่ะ เพราะใส่เอสพีเลยทำให้รออบได้นานหน่อย แบทเทอร์ไม่ค่อยยุบ (คราวนี้ซื้อเอสพีมารอไว้กันเหนียวสองป๋องเลย)

สปันจ์เค้กสูตรพี่แหม่ม ใช้ถ้วยเล็กๆ แบบนี้อบออกมาได้ 36 ถ้วยค่ะ

อุ่นจำไม่ได้แล้วค่ะว่าถ้วยฟอยล์นี้เส้นผ่านศูนย์กลางเท่าไหร่ รู้แต่เป็นขนาดที่เล็กที่สุดแล้วที่มีฝาปิด (อุ่นซื้อที่ร้านชวนชม ตรงตลาดเสนานะคะ)

ที่เลือกแบบที่เล็กที่สุด เพราะเป็นเค้กกินหลังอาหาร ถ้าทำถ้วยใหญ่ไปกลัวจะกินกันไม่หมดหรือจุกไปซะก่อน

ที่เลือกแบบมีฝาปิด เพราะจะได้ขนส่งได้ง่าย ผู้ชายที่ไม่ค่อยระมัดระวังของบอบบางอย่างเค้กจะได้หิ้วไปได้อย่างสะดวกค่ะ

จัดเรียงใส่กล่องเค้กขนาด 3 ปอนด์ได้ 30 ชิ้นพอดีค่ะ ส่วนที่เหลือก็เสร็จโจร ฮิๆ

ใส่ช้อนไปให้ด้วย เวลากินจะได้สะดวก ไม่ต้องวิ่งหาช้อนกันอีก จริงๆ ไม่อยากเลยค่ะ เพราะมันเป็นช้อนพลาสติก เหมือนหนับหนุนให้โลกร้อนขึ้น -_- แต่ในบางโอกาสมันก็จำเป็นเนอะ จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ให้น้อยที่สุดนะคะ

ผลตอบรับก็ดีค่ะ คุณแฟนบอกว่าหมดเกลี้ยง ทุกคนชมว่าอร่อยมาก (เศร้านิดหน่อยที่แฟนเรากินไม่ได้ แต่แค่ไม่ทำให้เค้าขายหน้าก็ดีแล้วแหละ) ขอบคุณก้นครัวสำหรับสูตรขนมดีๆ ที่ทำให้อุ่นได้ส่งอะไรไปโชว์พาวให้เพื่อนแฟนดูนะคะ โฮะๆๆๆๆ

พบกันใหม่ในเมนูหน้าค่ะ ขอเก็บห้องก่อนนะคะ ห้องรกมาก ทำขนมไม่ได้เลย T_T

Create Date : 16 มีนาคม 2551

Last Update : 20 สิงหาคม 2552 0:02:20 น. 8 comments

Counter : 12949 Pageviews.

Share
Tweet