การแสดงชุดนี้ นำเสนอกิริยาของปลาตะเพียนในแม่น้ำที่ต้องผจญกับสภาวะต่างๆ ตามธรรมชาติ   และสภาวะที่เกิดจากมนุษย์ถ่ายทอดเป็นกระบวนรำนาฏยศิลป์ไทยสร้างสรรค์ ใช้เวลาในการแสดง ๕ นาทีโดยมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน จากความเชื่อในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับปลาตะเพียน ในประเด็นต่างๆ เช่น

๑. เชื่อว่าเป็นเครื่องมงคลที่บูชาแล้วเกิดผลเรื่องโชคลาภ เงินทอง ให้พุทธคุณในเรื่อง ความร่มเย็นเป็นสุขช่วยพยุงและเสริมฐานะแก่ผู้บูชา

๒. ปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง” มีความหมายแฝงถึงความเจริญก้าวหน้าเหมือนปลา ที่สืบสายพันธุ์ต่อไปไม่มีวันหมด นอกจากนั้นยังหมายรวมไปถึงการครองชีวิตร่วมกัน อย่างผาสุกด้วย

๓. ความเชื่อในเรื่องชื่อของปลาตะเพียน คำว่า “เพียน”ซึ่งเป็นคำท้ายนั้นออกเสียงคล้ายกับคำว่า “เพียร” หมายถึงความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และรวมไปถึงการขยันทำมาหากินด้วย

๔. ความเชื่อเรื่องการเสวยพระชาติเป็นปลาตะเพียนเพื่อการสั่งสมบุญบารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งผ่านเรื่องราวของปลา ๓ ตัว เป็นสหายกันชื่อว่า พหุจินตี อัปปจินตี และมิตจินตี ปลาเจ้าปัญญาชื่อมิตจินตีได้ช่วยให้เพื่อนหลุดพ้นจากข่ายด้วยปัญญาจนกลายมาเป็นคำสอนของพระพุทธองค์เรื่อง ไม่ควรผลัดวันประกันพรุ่งเพราะจะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี ในส่วนนี้จึงเป็นที่มาของชื่อระบำชุดมิตจินตี เพื่อเตือนใจต่อพุทธศาสนิกชนในเรื่องดังกล่าว

จากความสำคัญข้างต้นจึงเป็นประเด็นสำคัญทำให้จังหวัดอ่างทองได้ประกาศให้ปลาตะเพียนทองเป็นสัตว์น้ำประจำจังหวัดตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๕๘ เป็นต้นมา 

ระบำมิตจินตีหรือระบำปลาตะเพียนเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทยประเภทระบำสร้างสรรค์           โดยนางสาวณัชญา มาสุขนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ ๔ สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง โดยมี อาจารย์ ดร.สุขสันติ แวงวรรณ เป็นที่ปรึกษา