จะเห็นแก่ตัวไปถึงไหน ไอ้ประเทศบ้า
อนุสัญญาเกียวโตมีผลใช้บังคับในวันพุธ ชาติอุตสาหกรรมให้คำมั่นลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อชะลอภาวะโลกร้อน แต่สหรัฐกับออสเตรเลียปฏิเสธให้สัตยาบันรับรอง นักอนุรักษ์เตรียมประท้วงอเมริกาทั่วโลก
ข้อตกลงซึ่งเริ่มใช้ในเวลาเที่ยงตรงของไทยในวันพุธฉบับนี้เรียกร้องให้ประเท ศอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 5.2% ภายในปี พ.ศ. 2555 โดยแต่ละประเทศต้องลดลงตามระดับการปล่อยก๊าซของตน
จนถึงขณะนี้มีชาติต่างๆ ร่วมลงนาม 141 ประเทศ รวมทั้ง 30 ชาติอุตสาหกรรม แต่สหรัฐกับออสเตรเลียไม่ยอมให้สัตยาบันรับรอง โดยอ้างว่าจะส่งผลกระทบต่อความเติบโตทางเศรษฐกิจของตน
ประเทศกำลังพัฒนาที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างจีนกับอินเดียก็ไม่ได้เข้าร่วมใ นอนุสัญญาฉบับนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช หยิบยกมาอ้างในการถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวเมื่อเข้ารับตำแหน่งในปี 2544 ทั้งนี้ อนุสัญญามีผลใช้บังคับหลังจากรัสเซียให้การรับรอง
ในโอกาสเริ่มใช้ข้อตกลงฉบับนี้ บรรดานักอนุรักษ์มีแผนจะจัดการประท้วงทั่วโลก รวมทั้งในนครเกียวโต โดยมุ่งเป้าไปยังสหรัฐ โดยจะมีพิธีเริ่มใช้ข้อตกลงนี้ในเมืองโบราณของญี่ปุ่นดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการบรรลุข้อตกลงเมื่อปี 2540 โดยมีเจ้าของรางวัลโนเบล วันการี มาธาอี นักสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีช่วยฯ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเคนยาเข้าร่วมด้วย
นางมาธาอีบอกกับหนังสือพิมพ์ไมนิจิว่า อนุสัญญาเกียวโตไม่เพียงเรียกร้องการลงมือของภาครัฐและภาคธุรกิจเท่านั้น หากยังเรียกร้องให้คนทั่วไปเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแบบบริโภคนิยมด้วย
"เหตุผลหนึ่งที่หลายประเทศไม่สนับสนุนอนุสัญญาเกียวโตก็เพราะไม่ต้องการลดกา รบริโภคอย่างเกินตัว" สตรีชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้กล่าว "วิธีหนึ่งในการลดการบริโภคอย่างเกินตัวก็คือ รู้จักนำทรัพยากรต่างๆ กลับมาใช้ใหม่ ไม่ใช่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง"
รัฐบาลบุชแสดงความกังขาในเรื่องภาวะโลกร้อน ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าโลกกำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากการเผาผลาญน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ได้กักความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้แทนที่จะปล่อยให้แผ่รังสีกลับไปยังอวกาศ เกิดเป็นภาวะเรือนกระจกซึ่งส่งผลมหาศาลต่อภูมิอากาศของโลก.
//www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=16/Feb/2548& เอามาจากกระทู้ของคุณ ก้อนหินละเมอ ที่บลูพลาเน็ท
ยิ่งอยู่ประเทศนี้เมืองนี้ ก็ยิ่งไม่ชอบนิสัยฟุ่มเฟือย วัตถุนิยมของมันขึ้นทุกวัน
หลักการตลาดของที่นี่ คือทำยังไงก็ได้ให้คนซื้อของมากขึ้นๆๆๆๆๆ จะได้ๆกำไรเข้าบริษัทมากขึ้นๆ
ไอ้กันบางคน เปลี่ยนรถทุกหกเดือน ไอ้บ้าบางคนขับรถตีนโต ไปทำงาน ใช้น้ำมันวันละสิบแกลลอน (ประมาณ ครึ่งถังบ้านเราอ่ะนะ) ไอ้ทุเรศบางคน มันเปิดทีวี วิทยุ ไฟ ไว้ตลอดวันทั้งที่ไม่มีคนอยู่บ้าน เพราะขี้เกียจปิด????
ไปซื้อของซูปเปอร์มาร์เก็ต มันใส่ของ สองชิ้นใน หนึ่งถุงก๊อปแก๊ป ซื้อสิบชิ้นใส่มาห้าถุง
มันทำหนังห่วยๆไร้สาระ บทอุบาทว์ พร้อมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็ค ระเบิดรถ ระเบิดตึก เป็นร้อยซีน เป็นไงล่ะ .... ไอ้ที่มันทำ... เผาบ่อน้ำมันให้มันเกิดมลพิษในโลกเล่น
มันคิดแต่จะบริโภคสิ่งที่โลกให้มา เพราะมันคิดว่าเป็นสิทธิ์ของมัน มันมีปืนมีอำนาจในมือ
แล้วยังมีคนโง่ๆ ในประเทศอื่น โง่ไปบริโภคสิ่งที่มันเบียดเบียนจากชาวบ้าน อีกต่างหาก....
เฮ้อ.... ไอ้กัน
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2548 |
|
4 comments |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2548 16:42:25 น. |
Counter : 390 Pageviews. |
|
|
|