|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
1 ปีที่ผ่านไป
หลังจากขัดส้วม นับโถ ไม่ถ้วน ปูเตียง ไปก็หลายเตียงอยู่ เก็บถ้วย จาน ชาม ไปล้าง อย่าให้นับเลย + อะไรต่อมิอะไร ล้านห้า จิปาถะ
เอ่อ หรือเราจะมีชีวิตอยู่แค่นี้จริงๆ
เรียนมาทำไมตั้งสูง ไม่เห็นได้ใช้อะไรหางานอะไรได้เลยนี่ ??? **** พนง โรงแรม ชาวเยอรมัน คนนึง ถามให้อิฉันอึกอัก จึกจึก ในใจ เมื่อครั้งฝึกงาน ***
ลาออก แล้วเธอจะมี บ้านอยู่ไหม เธอจะมีที่อยู่ที่กิน หรือเปล่า ???
*** อิลุงประสานงาน โมเทลวัน ถามฉัน วันที่ยื่นใบลาออก ***
เอ่อเน๊อะ เค้าพูดจามีประเด็นกันนะนี่
****** ********* ******
แต่ เคยฟังเพลง พี่ นภ เค้าบอก ว่า
อดทนเวลาที่ฝนพรำ
อย่างน้อยก็ทำให้เรา
ได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง
ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
1 ปีเต็มแล้ว ที่เปิดเจ้าโฮสเทลเล็กๆ
จริงๆตอนนั้น อยากไปหาเช่า โรงแรม มาทำเลยมากกว่า
แต่ช้าก่อน
ค่ามัดจำ+ค่าพนักงานที่ต้องเทคโอเว่อร์ +ค่าจิปาถะ นี่ไม่ใช่น้อย แถมนายหน้าที่หาโรงแรมให้เราก็เสนอมาแต่โรงแรมในแหล่งที่มันเป้นการท่องเที่ยวเฉพาะฤดู ซึ่ง อันนี้เป็นโจทย์ใหญ่
ค่าโสหุ้ย **เรียกแบบนี้ไหมค่ะ**มันสูง แล้วรายได้มันอาจจะไม่สูงตามนั้น...
ในช่วง ไฮซีซั่น คงต้องปั่นๆเงินให้คุ้มกับช่วงโลว์เป็นแน่เเท้ เพราะค่าใช้จ่ายมันมีกำหนดอยู่เเล้วตายตัว และนั่นอาจจะไม่ใช่โจทย์ที่ดีนักในการเลือกลงทุน สำหรับนักลงทุนตัว*ไม่น้อย*แต่เงิน*น้อย*อย่างอิฉันและอิหมี...
ทั้งหมดเลยมาตกที่อิฉันเล็งตึกที่ให้เช่า 1ชั้น ไว้ และเริ่มคุยกับอิหมีว่า อันนี้ละน่าจะทำโฮสเทลได้ ...
เพราะว่านักท่องเที่ยวมีตลอดปี *อาจจะหายบางตาบ้างใน พ.ย. และธันวาก่อนสิ้นปี* และนททกลุ่ม backpack ยังคงบูม อยู่มาก
อีกทั้งที่นี่ยังกระตุ้นการ ท่องเที่ยว มาได้แค่กี่ปี **ย้อนไปดูเมืองไทยว่ากระตุ้นกันมานานนับหลายทศวรรษแล้ว** มันก็เลยเป้นจุดที่ น่าจะเป็นโจทย์ที่เราตีออกได้ไม่ยากนัก และ น่าจะเป็นคำตอบ ของบ้านเราที่จะ ลงทุน
เพราะในการเป็น selfemploy ที่นี่ ธนาคารไม่ปล่อยกู้ใน 2ปีแรกแน่ๆ เม็ดเงินเราเลยจำกัด ค่าลงทุนตบแต่งก็ต้องคิด จากตึก **ร้างโครตๆ**
จนเปลี่ยนมาเป็นโฮสเทลให้คนได้พักได้นั่งได้นอน นี่น้ำตาไหลไปหลายปี๊บ
แม่บอกเสมอว่า ถ้าจะลงทุนก็ต้องเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย นะลูก
แต่อิฉัน กล้าได้ แบบไม่อยากเสีย เลยลงทุนไป น้ำตาไหลอาบแก้มไป ช่วงที่ยังไม่ได้เปิดทำการ **ก็กลัวเจ๊งนี่เค๊อะ**
เมษา ปีที่แล้ว
เปิดทางการเดือนแรก
ปิดบัญชีไปได้ น่าจะ 6 พันกว่าๆ หักค่าเช่าตึก ค่าอาหารเช้า+จิปาถะแล้วก็พอให้ชื่นใจ
เดือนต่อๆมา
ก็ดีขึ้นที่เดียว ได้ยิ้มกับแก้มบาน **ซึ่งจริงๆแก้มก็บานอยู่เเล้วเอิ้กๆ**
โลว์ซีซั่น ที่อิฉันกลัว ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเช่า *ถึงกับมีการกันเงินไว้จ่ายค่าเช่าตึก*
คือ พ.ย. 2008 - ก.พ.2009
ปรากฏว่า พอค่าตึก+ค่าใช้จ่าย
โล่ง...
ได้ข้อควรกระทำมาอีกอย่างคือ
ควรจ้างพนักงานเฉพาะช่วงไฮซีซั่นเท่านั้น นอกนั้นในฤดู โลว์ซีซั่นก็เเรงงานในครอบครัว ซึ่งไม่ได้มีอะไรหนักหนาเลย
อีกอย่างที่ช่วยประคับประคอง กันคือ
งานขายห้องพักของโรงแรมให้ผู้ร่วมประชุมต่างๆ ซึ่งส่วนนี้ เป็น บริษัทย่อย ของอิหมี
ขอแค่มีเนท มีสายโทรศัพท์ เท่านั้น เราทำได้ๆๆๆๆๆ
ทั้งโฮสเทล ทั้ง งานขายห้อง ตลาดมันเเน่น
แต่นโยบายของอิฉันและอิหมีคือ แทรกตัวเข้าไปในราคาที่ย่อมเยาว์เพราะเราทำกันในครอบครัว ต้นทุนเราเลยไม่สูง ขายบริการ*อุย* 55 ได้ในราคาตัดตลาด กว่าชาวบ้าน ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้มันก็เป็นตัวเลือกที่ คุ้มเม็ดเงิน ของ ผู้ซื้อ
อิฉันเคยท้อ
โฮสเทล มีเป้นร้อยๆ แต่ละอันใหญ่ๆทั้งนั้น เป็นเชนก็มีเยอะ
เเล้วเราละเป็นใครมาจากไหน ? +มือใหม่อีกต่างหาก
กลัวแม่เอ้ย ...
แต่ในอีกที ก็อยากมีใหญ่ๆแบบเค้ามั่ง...แต่ทำไงได้
พ่อไม่ได้นามสกุล ฮิลตัน แถม สาระมี ก็ ไม่ได้มีทรัพย์สลิงคาน มากมายขนาดนั้น ตั้งเเต่แต่งงานกันมาก็เริ่มจาก 0 จริงๆ
แต่อิฉันคิดเสมอว่า มองคนใหญ่ๆไปทำไม ก็ตัวเรายังเด็ก ยังเล็ก อยู่
*อุปมานะค่ะหาใช่สัดส่วนแท้จริงไม่**
มองหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทำแล้วมีความสุขก็ทำ
ทุกวันนี้ แขกที่มาพัก ก็กลับมาเป้นขาประจำกันบ้าง ให้คนทำงานได้ชื่นใจ
บางทีแขกจอง โฮสเทลใหญ่ๆ มีชื่อ ในเมืองไว้ วันอื่นๆ พอเช็คเอ้าท์ไปก็กลับมาตายรังกับเราใหม่ เพราะไม่ถูกใจ เหมือนพักกับเรา
บางคนก็ขอบคุณ มีของขวัญ มาให้
มี **แอบติดกรอบรูปดอกไม้ น่ารักๆ ในห้อง วีไอพี**ไว้ให้ดูต่างหน้าก็มี ...
ตอนนี้เริ่มปรับปรุงแต่งเติม โฮสเทล
มีกล้อง วงจรปิด *ว่าจะซื้อเพิ่มอีก 2ตัว* เพื่อความปลอดภัย
ประตูโฮสเทล *ชั้นบน มีระบบ โค๊ด อร้ายย เปรี้ยว**คิดไปเอง**
ตบแต่งตามอารมณ์ศิลป์ **ศิลเปรอะ**ของอิฉัน
แฮ่... อย่ามองคนตัวใหญ่ ที่จะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเล็กจิ๊ดเดียว
อย่ามองข้าม ความจิ๊ด ในความเป็นตัวเล็กๆของเรา เพราะในความจิ๊ดเดียวของเรา มันอาจจะมีไอเดียดีๆ มีความคิดดีๆ แฝงไว้ก็ได้
อย่ามอง หนทางข้างหน้า ที่ดูขรุขระแล้วบอกตัวเองว่า **ตรูทำไม่ได้** เพราะจริงๆแล้ว คุณทำได้ *นะเค๊อะ*
มองตัวเอง มองที่ข้างในใจ มองสิ่งที่ตัวเองอยากทำ มองให้เห็นศักยภาพที่แท้จริง มองให้เห็นความเป้นได้... แล้วตามมันไป ขอแค่นี้เองงงงงงงงงงงง จริงๆนะเค๊อะ
Create Date : 05 พฤษภาคม 2552 |
|
9 comments |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2552 4:09:08 น. |
Counter : 3177 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Patrizio 6 พฤษภาคม 2552 12:45:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: gadeja 12 พฤษภาคม 2552 19:12:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: asita 19 มิถุนายน 2552 16:20:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ม่วง IP: 58.9.124.28 13 กันยายน 2552 21:38:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Bavaria Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
I am an ordinary Girl, who happens to be a small Hotelier in Germany
*คนธรรมดาคนนึงที่เขียนBlogเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ชีวิต*
**All Right Reserved**
|
|
|
|
|
|
|
[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]