1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
บทที่ 9. "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย...ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ "ช่อคราม"
ทุกวันอาทิตย์ - อังคาร และ วันเสาร์ พบกับนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ขม ๆ ของช่อคราม เจ้าหญิง...องก์สุดท้าย ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ และ ทุกวัน พุธ ศุกร์ พบกันนิยายตื่นเต้น ระทึก ๆ ของ... ริมหาด เงาเพลิง ********************************* เรื่องยาวจบบริบูรณ์...ของ "ช่อคราม" ณ ปลายฟ้า...คือเธอ ********************************* เรื่องสั้น...ของ "ช่อคราม (นักเขียนรับเชิญ บล็อกลายปากกา)" ถนนพระจันทร์...ทางเดินแห่งหัวใจ ********************************* "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย... ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ (Last Act of Princess...Love songs forever) "ช่อคราม" บทที่ 9 อธิศอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้... ใกล้เหลือเกิน... ใกล้ขนาดที่วัศนิได้ยินเสียงลมหายใจของเขาอยู่ข้าง ๆ เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะมีโอกาสเช่นวันนี้ ช่วงเวลาตั้งแต่เธอได้ยินเสียงเขา ชั่วเวลานั้น เธอก็รู้สึกว่าเขาอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน แม้จะเป็นแค่เสียงก็ตาม จนกระทั่งเธอได้นั่งตรงข้ามกับเขา เธอก็ได้แต่มองเขาเหมือนดวงดาวบนฟากฟ้าแสนไกล ยิ่งได้สนิทสนมกับเขา แม้จะเป็นแค่ผ่านตัวอักษร เธอก็รู้สึกว่ายิ่งใกล้เขามากขึ้น ๆ และจนวินาทีนี้...วัศนิรู้สึกถึงความสุขเล็ก ๆ ที่เธอสามารถเอื้อมมือสัมผัสได้ แม้ความรู้สึกภายในจะอึดอัดมากมาย มากยิ่งกว่าเมื่อวันที่นั่งทานมื้อเย็นด้วยกัน เธออยากบอกเขาเหลือเกินว่าเธอคือใคร แต่หากเธอบอกไปแล้ว เขาจะมีปฏิกิริยากับเธอเช่นไร... เขาอาจโกรธเธอมากมาย ที่ทำเหมือนหลอกเขา หรือว่าเขาอาจจะปฏิเสธเธอว่าเขาไม่ใช่อธิศคนที่เธอคุยผ่านทางอินเตอร์เน็ต... วัศนิถอนหายใจ ความกลัวเริ่มแผ่ออกมาอย่างบางเบา ฉาบรอบ ๆ ความรู้สึก พยายามดึงฉุดรั้งความจริงให้ห่างออกไป... บางทีการไม่เผชิญหน้ากับความจริงไปซักระยะหนึ่ง ให้เธอดื่มด่ำความสุขแบบนี้ไว้
ปล่อยให้ แซ็กโซโฟนอยู่เพียงเบื้องหลังจอคอมพิวเตอร์ โลดแล่นเพียงแค่ตัวอักษร อยู่ในเงามืดแห่งรัตติกาลไปแบบนั้น เธอไม่อยากเสียความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้ไป ... คงดีกว่า หากเธอต้องเจอกับความจริง ที่เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะพร้อมรับการปฏิเสธของเขาหรือไม่ ... อธิศแนะนำอัญมณีประเภทต่าง ๆ ในห้องแสดงอัญมณี บนชั้นสอง ตั้งแต่เพชรดิบ พลอยดิบ หินดิบก้อนเล็ก ก้อนกลาง ก้อนใหญ่ จนไปถึงก้อนมหึมาที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน และอัญมณีที่ผ่านการเจียระไนเรียบร้อยแล้ว ที่เดลีน่าเรารับซื้อ และก็ขายต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราเน้นงานออกแบบ กับเครื่องประดับสำเร็จมากกว่า ไม่ได้เน้นงานเจียเองมากเท่าไรนัก แต่พอมีเจ้าหน้าที่สามสี่คน ไว้สาธิตให้กับลูกค้า หรือลูกค้าที่พอใจงานตั้งแต่เป็นก้อนดิบ ๆ อธิศแนะนำเหมือนหุ่นยนต์ วัศนิรู้สึกอย่างนั้น... ในสายตาเขาดูว่างเปล่า เหมือนสายตาที่มองมายังเธอ ในน้ำเสียงไร้ชีวิตชีวา... ไม่เหมือนอธิศที่อยู่ในรายการวิทยุกับเสียงเพลงตลอดเวลา หรือแม้แต่ท่ามกลางวงสนทนาเมื่อวันก่อน หญิงสาวตีความไม่ออก ดูความกระตือรือร้นที่เขาเห็นเธอยังพอมีหลงเหลือบ้าง แต่ช่างเป็นแสงริบหรี่ ไม่ระยิบระยับเหมือนเพชร หรืออัญมณีแวววาวที่หมุนล้อแสงไฟอยู่ในตู้โชว์
หรือบางทีเขาจะเป็นประเภทไม่ชอบชีวิตกลางวัน หรือบางทีคงเพราะเขาอดหลับอดนอน ทำงานทั้งกลางวัน กลางคืน เลยแปรสภาพเป็นผีดิบ หรือหุ่นยนต์ไปซะแล้ว ชายหนุ่มยังคงบรรยายเรื่องราวของหินต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับเธอเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา สมาธิไม่ได้อยู่น้ำเสียงเรื่องราวเหล่านั้นของเขาเอาเสียเลยมันไม่สนุกเหมือนเวลาเขาคุยเรื่องเพลงในรายการจริง ๆ ... สายตาเฉย ๆ ไร้ความรู้สึกที่มองกลับมาเป็นระยะ มันทำให้เธออึดอัดมากกว่ามีความสุข แม้มันจะรู้สึกร้อนผ่าว ๆ เย็นวูบ ๆ ชวนให้เป็นลมอยู่บ้าง แต่บางครั้งมันเหมือนว่าเขา แอบรู้ว่าเธอกำลังแอบซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้ วัศนิรู้สึกยิ่งอยู่ใกล้เขา เธอก็ชักคิดมาก ฟุ้งซ่านไปร้อยแปด ตามประสาคนมีชนักติดหลัง...ว่าไปก็เหมือนติดทั้งตัวนั่นแหละ ทั้งเรื่องราวสิ่งที่ผ่านมาของเธอ รวมทั้งสิ่งใหม่ ๆ ที่เธอทำเอาไว้ด้วยนั่นแหละ
หญิงสาวยิ่งคิด ก็ยิ่งถอนหายใจ เรื่องนั้นเรื่องนี้สับสนอลหม่านอยู่ในใจ จนอธิศรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของหญิงสาว ดูคุณจะไม่ค่อยชอบพวกเพชร พลอย เอ หรือว่าผมพาชมกิจการของเดลินี่ไม่ได้เรื่องละ เหมือนคุณถอนหายใจรำคาญหรือเปล่าครับ โอ้...ไม่ใช่!! ไม่ใช่เลยค่ะ วัศนิรีบยกไม้ยกมือแก้ตัวพัลวัน อดไม่ได้ที่จะถอนใจตามไปอีก นี่เธอจะทำให้เสียบรรยากาศดี ๆ ไปหรืออย่างไร งั้นไปดูห้องโน้นดีกว่าครับ ดูงานออกแบบ และเครื่องประดับเลยดีกว่า...คุณอาจจะชอบพวกนั้นมากกว่า บรรยากาศยังเป็นเหมือนเดิม ๆ คงเพราะวัศนิไม่ได้ใส่ใจกับของสวย ๆ งาม ๆ แพงหรูระยับแบบนี้ ไม่เหมือนคุณย่าของเธอที่ชื่นชอบและสะสมไว้มากมาย เธอพยายามตั้งสติใหม่ ไล่ความสับสนวุ่นวายในใจ คงทำให้เสียมรรยาทอยู่ไม่น้อย เธอพยายามแสร้งทำท่าตื่นตาใจกับเครื่องประดับในตู้โชว์ ที่มีมากมายมากกว่าด้านล่าง... แต่คนอย่างเธอจะเสแสร้งบทบาทเป็นเจ้าหญิงโฉมงามกับเครื่องเพชรอลังการไปได้ซักแค่ไหนกัน แต่ก่อนที่เธอจะจบเห่ เสียท่ากับอารมณ์ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบของบริษัทเดินเข้ามากระซิบกระซาบกับอธิศ หญิงสาวเดินเลี่ยงไปชมเครื่องประดับอีกฟากหนึ่งของห้อง ก่อนที่เขาจะเดินกลับมายังเธอ ดูเหมือนคุณหญิงรัชนีจะตามหาคุณ ผมคิดว่าเราไปห้องท่านประธานดีกว่านะครับ อธิศส่งยิ้มแบบมรรยาท หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองลืมเรื่องคุณย่าไปเสียสนิท เธอเหลือบดูนาฬิกาในห้องนั้น นี่เธอใช้เวลาสามสิบนาทีอันมีค่าได้อยู่ใกล้ชิดเขา เป็นคิดมาก ฟุ้งซ่าน จนเสียโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป ที่ไม่รู้จะมีโอกาสอย่างนี้อีกหรือเปล่า... ป่านนี้คุณย่าเธอคงบ่นอุบ คิดว่าเธอหลงทาง จนต้องส่งคนมาตามหา หรืออย่างไร เมื่อคิดว่าจะต้องไปพบคุณย่า พร้อมกับคุณคำรณ เธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย แม้อธิศจะอยู่ใกล้ ๆ แต่เธอจะขอความช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ยิ่งอธิศกับคุณคำรณต่างก็เป็นเจ้านายลูกน้อง เหมือนอยู่กันคนละฟากฝั่งกันเลย หญิงสาวเผลอถอนหายใจอีกครั้ง ขณะเดินตามอธิศออกมาจากห้องแสดงสินค้า ไม่ชอบที่นี่ หรือไม่สบายใจเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ
หรือว่าเรื่องงาน อธิศหันมาสบตากับเธอโดยตรง นิ่ง เนิ่นนาน... วัศนิเหมือนลมหายใจตัวเองขาดช่วง สายตา รอยยิ้มแบบนี้ เสียงห่วงใยแบบนี้ต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะละลาย ท่านประธานใจดีครับ ยิ่งคุณเป็นหลานคุณหญิงรัชนีด้วย ไม่น่าคุยยาก ไม่ต้องกังวลหรอกนะครับ...ยังไงผมช่วยลุ้นงานของคุณเต็มที่ อธิศยิ้ม เพิ่มความมั่นใจ เติมกำลังใจให้เธอมากยิ่งขึ้น วัศนิรู้สึกเต็มตื้นในความรู้สึก มันหวิว ๆ ทั้งร้อนทั้งเย็นสลับกัน ทำไมนะเมื่อก่อนหน้านี้เขาไม่มีท่าทีแบบนี้ หากเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกเธอคงละลายกองอยู่บนพื้นในห้องนั้นไปเรียบร้อย ทำอย่างไรเขาจะมีสายตา รอยยิ้มแบบนี้ให้เธอตลอดไป ทำอย่างไรเขาจะเป็นห่วงเป็นใย เป็นกำลังใจเพิ่มความเชื่อมั่นให้เธอรู้สึกดีอย่างนี้ได้ตลอดไป นี่ต่างหากคืออธิศอย่างที่เธอรอคอย อธิศคนตรงหน้าที่เหมือนเสียงในวิทยุ... เหมือนอธิศในข้อความ ในตัวอักษร... ความตื้นตันพร่างพรายอยู่ในความรู้สึก เป็นประกายระยิบ อธิศเริ่มเหมือนอัศวินหนุ่มในเกราะเงินแวววาว บางทีเขาอาจจะช่วยให้เธอรอดพ้นจากแผนการที่คุณย่าของเธอวางไว้ก็ได้... มา...เชิญ ๆ เข้ามาเลย เจ้าของห้องลุกขึ้นเชื้อเชิญอย่างเป็นกันเอง วัศนิมองห้องทำงานกว้างใหญ่ไปรอบ ๆ เธอเห็นคุณย่านั่งจิบน้ำชา อยู่ที่เก้าอี้รับแขกติดกับกระจกอีกฝั่งกับประตูห้อง ในสายตาของเธอคุณคำรณแลดูเป็นหนุ่มใหญ่วัยกลางคนมากกว่าชายชราสูงอายุ ดูภูมิฐาน แคล่วคล่อง วัศนิยกมือไหว้ เผลอผ่อนลมหายใจยาว เหมือนถอนหายใจ จนอธิศเหลือบตามามองอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ถอนหายใจแทบทุกนาที ราวกับเธอไม่เต็มใจมาอย่างนั้น... เขายกมือไหว้คุณหญิงรัชนีอย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีการแนะนำ เคยเห็นตอนเล็ก ๆ ครั้งสองครั้งก่อนไปเมืองนอก นานมากเลยนะ
โตขึ้นนี่เหมือนแม่มากกว่าพ่ออีกนะ คุณหญิงรัชนีทักทายรับไหว้เหมือนคนคุ้นเคยตามปกติ วัศนิค่อนข้างประหลาดใจในความคุ้นเคยนั้น แต่คุณย่าของเธอก็ไม่ได้ทำท่าสนใจอธิศมากมาย เหมือนให้ความสำคัญออกนอกหน้าเหมือนพันเอกบดินทร์ หรือแม้แต่เทพธาดา ลูกชายเจ้าสัววงศ์คฑา แน่ล่ะ อธิศคงไม่ใช่เป้าหมายของคูณหญิงรัชนี หนูวัศนิ คุณหญิงเล่าเรื่องงานการกุศลให้ฟังแล้ว คงไม่มีขั้นตอนอะไรมากมาย...นี่คงคุ้นเคยกับอธิศแล้วสินะ ยังไงประสานงานกับเขาได้เลย......อ่ะ ดื่มน้ำชาก่อน ค่ะ ขอบคุณค่ะ วัศนิพึมพำเสียงแผ่ว สายตาคุณคำรณที่ส่งผ่านมายังเธอ เหมือนผู้ใหญ่คราวพ่อที่เอ็นดูเด็ก ๆ มากกว่าจะมีความคิดในทางชู้สาว นี่คุณย่าของเธอจะให้คุณคำรณอยู่ในลิสต์หนุ่ม ๆ สำหรับเธอเช่นนั้นหรือ เธอนึกสภาพตัวเองไม่ออก เจ้าหญิงคงไม่มีวันคู่กับพระราชา ... อธิศยังไงให้เธอดูแลกิจกรรมนี่แล้วกัน รับรองช่วยให้เต็มที่เลยนะ ผมยังไม่ทราบรายละเอียดอะไร... แต่ก็...ครับ ผมจะดูแลกิจกรรมนี้ด้วยตัวเอง อธิศยืนอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้นั่งร่วมวงด้วย เพราะรู้สึกการพบปะครั้งนี้เหมือนการคุยกันแบบคนสนิทคุ้นเคยมากกว่าจะประชุมเป็นงานเป็นการ มีอะไรเธอก็ตัดสินใจเองได้เลยนะ คำรณกล่าวย้ำ พร้อมกับพยักหน้าให้อธิศ ต้องขอโทษด้วยค่ะ คงซักอาทิตย์ หนูจะเอารายละเอียดมาให้ท่านนะคะ พอดีวันนี้คุณย่าว่าจะมาคุยเกริ่นกับท่านปากเปล่า เลยไม่ได้เตรียมเอกสารอะไรมา จริง ๆ โครงการก็เพิ่งร่าง ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย ไม่เป็นไร ๆ ไม่ต้องพิธีรีตอง คนกันเอง... นี่คุณหญิงให้เกียรติมาคุยเอง แค่ยกหูโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ผมก็ตระเตรียมงานได้แล้ว หนูวัศนิจะมาวันไหนก็ได้เลย เอาตามสะดวกแล้วกัน ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะรีบจัดการทันทีโครงการออกมาเรียบร้อยนะคะ วัศนิยังคงตอบอย่างเป็นทางการ ดูสร้อยมรกตชิ้นนี้สิ สวยมั้ย... คุณคำรณเลือกเป็นพิเศษให้หล่อนใส่ไปงานเลี้ยงวันศุกร์นี้ คุณหญิงรัชนีเปิดกล่องบนโต๊ะส่งให้เธอ แล้วคุณย่าก็เริ่มเข้าแผนในทันที เรื่องการขอสปอนเซอร์ดูจะเรียบร้อยไปอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ใช่ธุระในครั้งนี้ เหมาะกับเด็กสาว ๆ เพชร มรกตไม่หรูหรามากไป ยิ่งใส่กับชุดไทยสีอ่อน ๆ จะเหมาะกับหนูมากทีเดียว
ชอบมั้ยล่ะ คำรณแนะนำเพิ่มเติมให้ แต่ความหวาดระแวงของวัศนิเริ่มตีความไปไกล เอ่อ...สวยดีค่ะ...แต่หนูไม่มีความรู้เรื่องนี้ ให้คุณย่าจัดการแล้วกันนะคะ หญิงสาวรับกล่องมาด้วยความรู้สึกอึดอัด เธอมองปราดเพียงแวบเดียว แล้วรีบส่งคืนกลับไปให้คุณย่าอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมส่วนของผมแล้ว ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เสียงอธิศจากด้านหลัง ทำเอาวัศนิใจหายวูบ สมองเธอวิ่งจี๋ในทันที คุณอธิศยังพาชมไม่ทั่วเลยค่ะ... งั้นคุณย่าเลือกเพชรไปก่อนนะคะ อีกอย่างหนูกับคุณอธิศมีงานต้องคุยปรึกษากันอีกเยอะเลย และก็อาจต้องไปคุยกับพี่รินยาต่อด้วย คุณย่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้หนูกลับกับพี่รินยา... หญิงสาวกลั้นใจเสียมรรยาท แต่เธอจะทิ้งโอกาสที่อธิศเปิดช่องว่างขึ้นมาไปได้อย่างไร ขืนยิ่งนั่งนานไปกว่านี้เธอคงจะปลีกตัวไปไม่ได้ง่าย ๆ แม้มันจะไม่ใช่ทางหนีที่ดีนัก แต่เธอก็ไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ ทั้งคุณย่า ทั้งแผนการ อะไรต่ออะไรดูผิดที่ผิดทาง ไม่ใช่ มันไม่ใช่ที่ ๆ เธอจะนั่งให้ใครดูตัว... งั้นหนูลากลับเลยนะคะ วัศนิรีบยกมือไหว้ลาเจ้าของห้อง พยายามไม่หันไปสบตาเขียว ๆ ของคุณย่า ท่าทางเหมือนลมคงจะออกหูมาเรียบร้อยแล้วข้างหนึ่ง อธิศยกมือไหว้ลาคุณหญิงด้วยความงุนงงกับท่าทีและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว คุณอธิศจะไปทำงานที่ตึกโน้นเมื่อไหร่ ยังไงขอติดรถตามไปด้วยนะคะ วัศนิรีบกระซิบทันที เมื่ออธิศเดินออกมาจากห้อง สายตาส่งแววราวกับผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญของหญิงสาว ทำให้อธิศรู้สึกประหลาดใจ ดูเธอแปลก ๆ ตั้งแต่แรกเข้ามาที่นี่ จนเข้าไปในห้องพ่อเลี้ยงของเขา การประชุมดูเหมือนไม่เป็นทางการ ผิดกับที่เขาตั้งใจไว้ ไม่มีเขาเสียก็ได้ เขาจึงเลี่ยงขอตัวออกมา แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะไม่อยากอยู่ในห้อง ราวกับถูกบังคับให้มาอย่างไรอย่างนั้น เดี๋ยวครับ... คุยกันก่อน เหตุผลประหลาด ๆ ที่เธอเลือกมาปดผู้ใหญ่ในห้องนั้น เหมือนเด็กตั้งใจหนีเที่ยว แล้วเอาเขากับรินยามาอ้าง โดยที่เขาไม่รู้เรื่อง แต่ผมไม่ได้นัดคุณรินยา หรือคุณ เรื่องงานการกุศลก็ยังไม่เห็นมีอะไร ทำไมคุณถึงโกหกคุณหญิงแบบนั้น เสียงแข็ง ๆ ของอธิศ ทำให้วัศนิต้องสารภาพเสียงอ่อย ต้องขอโทษเรื่องงานค่ะ ยังไม่เรียบร้อยจริง ๆ แต่คุณย่าก็บอกให้ฉันมาด้วย ทั้ง ๆ ที่ท่านคงมาธุระของท่านเอง
ฉันไม่อยากมาเลย ต้องขอโทษที่โกหก แล้วเอาคุณไปอ้าง วูบหนึ่งในสายตาที่ประสานกัน วัศนิรู้สึกอยากละลายลงกองกับพื้น นี่เธอทำให้เขาโกรธได้ง่าย ๆ แบบนี้ คงไม่ต่างจากเมื่อคืน แต่ในสมองก็มึนตื้อ เธอนึกไม่ออกว่าเขาโกรธแซ็กโซโฟนด้วยเรื่องอะไร ความเงียบชั่วอึดใจ สายตาเว้าวอน น้ำเสียงสารภาพผิด ทำให้อธิศหายหงุดหงิดไปในทันที งั้นเดี๋ยวตามผมไปรอที่ห้อง ขอผมดูงานอีกนิด แล้วผมไปส่งให้ ยังไงมันก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว วัศนิยิ้มตอบ เดินตามเขาไปเงียบ ๆ อีกฟากตึก แอร์เย็นฉ่ำทันทีที่เข้าเปิดประตูห้องทำงาน ห้องว่าง ๆ โล่ง ๆ ไม่มีสิ่งของตกแต่งมากมาย ทำให้เธอรู้สึกสบาย ๆ นั่งรอก่อนนะครับ ขอเวลาผมแป๊บเดียว ไม่เกินครึ่งชั่วโมง วัศนินั่งลงบนโซฟา ห่างจากโต๊ะทำงานของเขา เธอเปิดนิตยสารบนชั้นหนังสือดูไปเรื่อยเปื่อยเงียบ ๆ ฆ่าเวลารอเขาทำงาน อย่างน้อยในห้องนี้ เธอรู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องราวต่าง ๆ ได้เยอะทีเดียว เสียงเพลงเบา ๆ ที่ลอดมาจากลำโพงที่โต๊ะทำงานของเขาต่างหาก ที่ทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ดี ลืมความสับสนวุ่นวายในใจไปได้... ถึงเขาไม่สนใจวัศนิ แต่เขาก็คงใส่ใจแซ็กโซโฟนอยู่ไม่น้อย เธอจำบทเพลงที่เธอขอทุกเพลงได้ดี... นี่เขาเปิดเพลงที่เธอขอทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... หญิงสาวอมยิ้ม รู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย คุณรินยาเพิ่งบินไปงานที่เชียงใหม่ จะกลับวันศุกร์ค่ะ...คุณอธิศมีอะไรด่วน นัดไว้หรือเปล่าคะ เจ้าหน้าที่ต้อนรับด้านหน้าบอกกล่าวทันทีเมื่อเห็นอธิศเข้ามาในสำนักงานของนิตยสาร เปล่าครับ...ผมมาส่งคุณวัศนิ ไม่มีธุระอะไรครับ อธิศตอบกลับ หันมามองหญิงสาวคนข้าง ๆ ที่ทำหน้ามุ่ย เหมือนเด็กโดนทิ้งเสียอย่างนั้น เอาไงดีละครับ คุณรินยาไม่อยู่ซะแล้ว อธิศตั้งคำถาม ขยับนาฬิกาข้อมือตัวเองมาดูเวลา ก็คงต้องกลับบ้านล่ะค่ะ คุณอธิศขึ้นไปทำงานเถอะค่ะ วัศนิรู้สึกกร่อยขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่นั่งรถมาด้วยกันเธอก็อารมณ์ดีขึ้นมามากมาย แม้จะไม่ได้คุยอะไรกับเขามากนักก็ตาม แต่ความตื่นเต้นที่ได้นั่งรถมากับเขา แค่นี้หัวใจเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะ สมองมึนชา ปากหนักจนไม่รู้จะคุยอะไรกับเขามากกว่า ผมมีเวลาเหลือเฟือเยอะแยะ กว่าจะจัดรายการ เอางี้ดีมั้ย ผมไปส่งคุณที่บ้าน คุณบอกทางแล้วกัน อธิศบอกกล่าวอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยการได้ทำอะไรอย่างอื่น แตกต่างจากชีวิตประจำวันเดิม ๆ ทำให้เขาไม่ต้องวุ่นวายใจ นึกถึงเด็กผู้หญิงในคอมพิวเตอร์ได้มาเกือบชั่วโมง และยิ่งเขาออกได้ไกลออกมาจากเดลิน่าจิเวลลี่มากเท่าใด เขาก็ยิ่งรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น... หญิงสาวยิ้มบาง ๆ อธิศในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ๆ ไม่มีสูทดูเธอจะคุ้นเคยกับเขามากกว่า พระอาทิตย์ส่องแสงอย่างอ่อนโยนใกล้จะลับขอบฟ้า ยิ่งตกเย็นใกล้กลางคืน เขาก็ยิ่งเหมือนคนละคนขึ้นทุกที รบกวนคุณอธิศหรือเปล่าคะ ไม่เลยครับ คุณวัศนิเป็นลูกค้าโดยตรง แถมเป็นน้องสาวคุณรินยา ขืนผมรับรองคุณไม่ดี ผมโดนทั้งขึ้นทึ้งร่อง อธิศหัวเราะเบา ๆ ความรู้สึกดี ๆ ของหญิงสาวหม่นลงทันที เวลาเขาพูดถึงรินยา ดูจะสดชื่นสดใสออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอเริ่มมั่นใจ... หรือคุณจะมีโปรแกรมอื่นจะเปลี่ยนไปไหน หรือให้ใครอื่นมารับ ก็แล้วแต่นะครับ ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นลอย ๆ วัศนิขมวดคิ้ว หรือเขาจะหมายถึงผู้พันจ๊ะจ๋า คนอื่น ใครหรือคะ ถ้าหมายถึงผู้พัน เธอไม่อยู่หรอกค่ะ...แล้วจริง ๆ โน้ตกับผู้พันก็ไม่ได้สนิทอะไรเป็นพิเศษ นอกจากเรื่องงาน วัศนิพยายามบอก หากเขาจะทึกทักสรุปว่าเธอกับผู้พันเป็นแฟนกัน อ้อครับ ขอโทษที ผมคงเข้าใจผิด อธิศตอบแบบเก้อ ๆ ก็เขาเข้าใจว่าทั้งสองเป็นแฟนกันจริง ๆ กลับบ้านก็ได้ค่ะ ถ้าไม่รบกวนเกินไป ต้องขอโทษที่ทำให้วุ่นวาย วัศนิเริ่มจะหมดหวังกับการที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับเขาแบบนี้ เธอรอเวลาเป็นแซ็กโซโฟน แล้วเจอเขาผ่านเครื่องมือสื่อสารน่าจะดีกว่า... ท่าทางการเป็นวัศนิจะเข้าถึงผู้ชายคนนี้ยากเสียจริง ๆ หญิงสาวเริ่มรู้สึก ไม่มีปฏิกิริยาเคมีใด ๆ ที่เขาจะสปาร์คกับเธอเลยสักนิด เธอเองต่างหากที่เป็นเอามากอยู่คนเดียว บางทีความสงสัยของเธอคงไม่ผิดจากความจริง ระหว่างเขากับรินยา หรือเขามีแฟนคนอื่นใดเป็นตัวเป็นตนอีก... แล้วนี่เธอจะร้อนรนไปทำไม... จริง ๆ แล้วเธอกับเขาก็แค่เพิ่งรู้จักกัน เขาอาจเป็นพวกต่อมเคมีในร่างกายช้า... หรือไม่เขาก็คงรู้สึกกับเธอเป็นแค่คนรู้จักธรรมดา ๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษมากมาย เธอเริ่มมั่นใจอีกว่า การเป็นแซ็กโซโฟนคงจะเข้าถึงเขาได้ง่ายกว่า เธอไม่รู้จะทำตัวให้สนิทกับเขาได้อย่างไรในสภาพอย่างนี้ เธอไม่รู้จะพูดจะคุยอะไรกับเขา ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสอยู่กันตามลำพังในรถทั้งขามาและขากลับบ้านอย่างนี้ จนร่ำ ๆ อยากจะบอกความจริงให้รู้เรื่องรู้ราวไป ไม่ต้องนั่งอึดอัดหลบซ่อนอยู่แบบนี้... บางที...ถ้าเขารู้ว่าเธอคือแซ็กโซโฟน เธอกับเขาอาจมีเรื่องที่คุยกันถูกคอได้มากมาย แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เธอกับเขาคงอาจมองหน้าไม่ติดอีกเลย.... หญิงสาวเริ่มหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ตัวเอง แม้เพลงในรถจะเพราะมากแค่ไหนก็ตาม...ดูเหมือนมีอะไรบางอย่าง ที่เธอไม่เข้าใจจะขวางกั้นระหว่างความเป็นวัศนิกับเขาอยู่จริง ๆ หิวมั้ยครับ ข้างหน้าเลยแยกนี้ไป มีราดหน้า ผัดซีอิ้วเจ้าอร่อยชื่อดัง ทานง่าย ๆ บางทีคุณจะได้สบายใจขึ้น ก่อนกลับบ้านไปเจอคุณย่า อธิศเอ่ยลอย ๆ แต่วัศนิก็หันไปมองเขาทันที ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอประหลาดใจ ยากจะคาดเดาอารมณ์เสียจริง ๆ
ตอนลงมาที่จอดรถ ผมได้ยินเสียงท้องคุณร้องน่ะ คงจะหิว แล้วเดาว่าคุณคงไม่อยากกลับบ้านเร็วแน่ ๆ เผื่อผมจะคุยเรื่องงาน มีอะไรให้คุณไปตอบคุณย่าจริง ๆ โดยไม่ต้องโกหกอีก... น่าจะดีกว่านะครับ... ชายหนุ่มหันมายิ้ม ก่อนหันกลับไปมองถนน พร้อมกับพูดต่อที่เล่นเอาวัศนิอยากกลั้นใจสลายตัวไปทันที...โตแล้ว...โกหกหลอกผู้ใหญ่ไม่ดีหรอกครับ...ไม่ใช่เด็ก ๆ ...โปรดติดตามตอนต่อไป... **"What Can I Do (To Make You Love Me)" ดนตรีเพราะ ๆ น่ารัก เก๋ ๆ เสียงหวานใสของ Andrea Coors แห่งวงดนตรีพี่น้องไอริชชื่อดัง The Corrs ที่เรียกตัวเองว่า Celtic Folk rock เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นแรกจากอัลบั้ม Talk on Cornor เมื่อปี 1997 มี David Foster เจ้าพ่อคีย์บอร์ด เปียโนเสียงหวานร่วม produced ให้อัลบั้มนี้ด้วย ส่วนใหญ่เพลงของ The Corrs จะใส ๆ ฟังสบาย ๆ เหมือนเพลงนี้ คนเขียนชอบมากมาย ความหมายดี ๆ จนมาเป็นเพลงรักอันดับหนึ่งชั่วนิรันดร์... (มีไว้สองแบบ แต่เพลงเดียวกันนะคะ สำหรับคนใช้ Firefox ที่ฟังแบบปกติไม่ได้ค่ะ หวังว่าคราวนี้เพื่อน ๆ Firefox จะได้ฟังเพลงได้นะคะ)
Create Date : 25 มกราคม 2552
48 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 23:11:45 น.
Counter : 1394 Pageviews.
โดย: พรายทราย 25 มกราคม 2552 22:08:23 น.
โดย: พรายทราย 25 มกราคม 2552 22:16:05 น.
โดย: พรายทราย 25 มกราคม 2552 23:00:14 น.
โดย: teansri 25 มกราคม 2552 23:08:53 น.
โดย: พรายทราย 25 มกราคม 2552 23:16:10 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 12:58:13 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 13:37:44 น.
โดย: วรบรรณ 26 มกราคม 2552 14:22:49 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 16:58:55 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 17:06:08 น.
โดย: พรายน้ำฟ้า IP: 61.90.70.220 26 มกราคม 2552 17:57:54 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 19:01:23 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 26 มกราคม 2552 19:50:45 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 26 มกราคม 2552 19:53:03 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 21:58:06 น.
โดย: พรายทราย 26 มกราคม 2552 22:00:49 น.
โดย: พรายทราย 28 มกราคม 2552 10:14:01 น.
โดย: GTW IP: 58.8.156.222 28 มกราคม 2552 18:32:16 น.
โดย: ปณาลี 28 มกราคม 2552 19:31:18 น.
โดย: พรายทราย 29 มกราคม 2552 17:25:35 น.
โดย: พรายทราย 29 มกราคม 2552 17:27:39 น.
โดย: พรายทราย 30 มกราคม 2552 17:23:23 น.
โดย: พรายทราย 30 มกราคม 2552 21:43:09 น.
โดย: พรายทราย 31 มกราคม 2552 11:29:01 น.
โดย: GTW IP: 58.8.235.30 31 มกราคม 2552 13:53:49 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 31 มกราคม 2552 19:14:06 น.
โดย: วรบรรณ 1 กุมภาพันธ์ 2552 20:41:46 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 1 กุมภาพันธ์ 2552 21:34:03 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:09:42 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:11:55 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:17:26 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:20:35 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:22:46 น.
โดย: พรายทราย 2 กุมภาพันธ์ 2552 0:25:51 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา... ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ... **สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ** คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ... ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้ แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว.. ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร... **และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย ****************************** Friends' Blogs นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก
I haven't slept at all in days
It's been so long since we've talked
And I have been here many times
I just don't know what I'm doing wrong
What can I do to make you love me
What can I do to make you care
What can I say to make you feel this
What can I do to get you there
There's only so much I can take
And I just got to let it go
And who knows I might feel better, yeah
If I don't try and I don't hope
What can I do to make you love me
What can I do to make you care
What can I say to make you feel this
What can I do to get you there
No more waiting, no more, aching
No more fighting, no more, trying...
Maybe there's nothing more to say
And in a funny way I'm calm
Because the power is not mine
I'm just going to let it fly...
What can I do to make you love me
What can I do to make you care
What can I say to make you feel this
What can I do to get you there
What can I do to make you love me
What can I do to make you care
What can I say to make you feel this
What can I do to get you there
And love me...love me....love me..
Love me...love me...love me..
Love me...love me...love me..
Love me...love me...love me..