1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
บทที่ 11. "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย...ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ "ช่อคราม"
ทุกวันอาทิตย์ - อังคาร และ วันเสาร์ พบกับนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ขม ๆ ของช่อคราม เจ้าหญิง...องก์สุดท้าย ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ และ ทุกวัน พุธ ศุกร์ พบกันนิยายตื่นเต้น ระทึก ๆ ของ... ริมหาด เงาเพลิง ********************************* เรื่องยาวจบบริบูรณ์...ของ "ช่อคราม" ณ ปลายฟ้า...คือเธอ ********************************* เรื่องสั้น...ของ "ช่อคราม (นักเขียนรับเชิญ บล็อกลายปากกา)" ถนนพระจันทร์...ทางเดินแห่งหัวใจ ********************************* คอลัมน์พูดคุย ตอบปัญหาเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ของ "พรายทราย" คุย คิด ถาม เขียน ********************************* "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย... ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ (Last Act of Princess...Love songs forever) "ช่อคราม" บทที่ 11 ครั้งแรกในรอบหลาย ๆ ปีที่อธิศกลับมาบ้านหลังเลิกงานแล้วอย่างมีความสุข... และเป็นความสุขที่ต่อเนื่องอย่างยาวนาน ไม่หาย หรือแห้งเหี่ยว ฝ่อไปง่าย ๆ ... เขาตัดสินใจไม่เข้าที่เดลิน่าจิเวลลี่ เพราะช่วงบ่ายต้องไปโรงแรม เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยสำหรับงานเลี้ยงของคุณคำรณ อธิศอยากพักให้เต็มที่ก่อนรับมือกับงานโหดคืนนี้... ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งคืน ทำให้เขาตัดสินใจเซฟหน้าจอการ์ดนั้น แล้วแวะที่ร้านรูป อัดขยายเป็นภาพขนาด 6 x 8 และไซด์เล็กขนาดเท่านามบัตร และตอนนี้ภาพนั้นอยู่ในกรอบเงินแวววาว วางอยู่ข้างเตียงให้เขานั่งมองอยู่ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของห้อง ส่วนอีกขนาด รวมทั้งอีเมลที่ปรินท์ย่อเท่าขนาดไพ่ เขาเลือกเคลือบพลาสติกไว้ทั้งสองใบ เจาะรูตรงมุมร้อยเชือกผูกติดกับกุญแจรถพกติดตัว ไม่แค่ทำให้เขาอุ่นใจ แต่เขาคงจำพิรุธใครสักคนใกล้ตัวได้ หากใครคนไหนจำแลงมาเป็นแซ็กโซโฟนแค่เล่นตลก สนุก ๆ กับเขา ถึงยายแซ็กจะเป็นใครก็ตาม อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนคนพิเศษที่เข้าถึงความรู้สึกโหวงเหวงของเขาได้ แม้จะดูว่าไร้สาระ แต่อย่างน้อยให้เขาได้มีการกระทำอะไรที่เป็นพิเศษ กับสิ่งที่เธอให้เขามา... หากเจ้าของรู้เข้า ว่าทำอะไรกับสิ่งที่เธอส่งมา อาจนั่งหัวร่อเยาะตลกเขาก็เป็นได้...แต่มันมีความหมายสำหรับเขามากมาย...เขาไม่รู้สึกเดียวดายอีกต่อไป เขาจะเก็บมันไว้เป็นความรู้สึก มากกว่าความทรงจำ และสักวันเขาเชื่อว่าเธอจะได้เห็นมัน... และหาเจ้าของตัวจริงเจอ... ถึงแม้เธออาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่สำหรับอธิศ เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยได้รับของขวัญที่รู้สึกดี รู้สึกประทับใจมานานแสนนาน จนเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ คริสต์มาสเมื่อสมัยตั้งแต่ห้าขวบ เมื่อไปถึงอเมริกาใหม่ ๆ
ของที่แลกเปลี่ยนให้แม่กลับไปเมืองไทยได้ เหมือนเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความหมายจากแม่...แซ็กโซโฟนพลาสติกเด็กเล่นอันเล็ก ๆ ... ของเล่นที่คอยเป็นเพื่อนไม่ให้เขาเหงาและโดดเดี่ยว แม้มันจะเป็นของเด็กเล่น แต่ก็สามารถเป่าได้จริง แม้เสียงจะไม่ไพเราะเท่าใดนัก แต่นั่นคือจุดที่เขาเริ่มหลงใหลในเครื่องดนตรีชนิดนี้ และใฝ่ฝันจะได้เล่นเมื่อโตขึ้น และวันนี้เขาได้รับของขวัญอีกชิ้นที่พิเศษไม่แพ้กัน... โดยเฉพาะจดหมายที่เขาอ่านแล้วอ่านอีกอยู่หลายรอบ จนเขาแทบจะท่องได้ทุกตัวอักษร... คุณดีเจ...คืนนี้คงไม่ได้ขอเพลงอยู่เป็นเพื่อน หรือชวนเล่นเกม วันนี้อะไรต่ออะไรเยอะแยะไปหมด ตำราที่จะต้องอ่านก็อยู่เต็มโต๊ะ ตาก็จะปิด เหนื่อยจัง... อีกอย่างไม่อยากให้คุณเล่นจนไม่ได้ทำงาน งั้นส่งการ์ดมาเป็นเพื่อนแทนแล้วกัน แล้วอย่าลืมนอน ฝันดีนะ
แซ็กโซโฟน อธิศอมยิ้ม บางทีเธอจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่าเขาเสียอีก... ชายหนุ่มหันกลับไปหาโน้ตบุ้คที่เปิดทิ้งไว้บนโต๊ะ เขาเลือกตอบเมลสั้น ๆ ส่งกลับไป ทั้งที่ใจจริงเขาอยากเขียนคุยอะไรกับเธออีกมากมาย แต่เขาไม่อยากเร่งรีบจนเกินไป อรุณสวัสดิ์สำหรับคุณ ส่วนผมกำลังจะเข้านอน ป่านนี้คุณคงไปเรียนแล้ว ขอให้เรียนหนังสืออย่างมีความสุขครับ และขอบคุณมากสำหรับการ์ดที่ส่งมา...อธิศ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ชีวิตเขามีความสุขขึ้นมาอีกมากมาย และพร้อมจะรับสถานการณ์วันนี้กับงานเลี้ยงที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย... สวยทั้งสองคนจริง ๆ ...รับรองต้องเด่นที่สุดในงาน คุณคำรณต้องชอบแน่ ๆ เวลาเป็นข่าว ภาพออกมาจะได้ดูสวย สง่า มีราศี คุณย่าต้องเป็นซุปเปอร์คุณหญิงย่าเลยนะคะ เห็นการณ์ไกลเผื่อพีอาร์อีกต่างหาก หนูเองก็ไม่ได้ใส่ชุดไทยออกงานมานานแล้ว เขิน ๆ เหมือนกันนะคะนี่
" รินยาทำท่าเขิน ๆ แต่ยังหยอดประจบคุณหญิงรัชนีเหมือนเคย "ชุดของคุณย่าผ้าไหมสีเลือดหมูปักดิ้นทอง ดูสวยเสง่ากลับเป็นสาว ๆ เครื่องเพชรเครื่องทองบาดใจหนูจริง ๆ... อึมม์! ไว้ต้องมาขอถ่ายของรักของหวงของสะสม ของเก่าทั้งนั้นแหละ ใส่ก็เฉพาะออกงานกับท่านนายพล หลัง ๆ ไม่ได้เอาออกมาใช้เลย รินยาพยายามคุยเอาใจคุณหญิงรัชนีมาตลอดทั้งวันจนมาถึงโรงแรม ขณะที่วัศนิได้แต่ทำหน้าบู้ ๆ และบ่น ๆ มาตลอดวันเช่นกัน วัศนิยังคงถอนใจ วันนี้ดูอะไรต่ออะไรจะไม่สบใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเรื่องแต่งตัว แต่งหน้าทำผม แม้ภาพสะท้อนในกระจกของเธอจะดูราวกับคนละคนก็ตาม ผมเกล้าที่ใช้ผมต่อ ทำให้เธอนึกเสียดายผมยาวของตัวเองอย่างยิ่ง แม้จะมีเทียร่าเพชรเม็ดเล็ก ๆ คาดปิดไว้ก็ตาม หรือแม้แต่การเดินอยู่ในโรงแรมแบบนี้ ทำให้เธอหวนถึงวันคืนเก่า ๆ เมื่อครั้งอยู่โรงแรม เธอพยายามลบภาพความรู้สึกเก่า ๆ ให้หมดไป.... อย่างน้อยคิดให้ขำ ๆ คราวนี้เธอมีโอกาสได้มาเป็นผู้ใช้บริการในโรงแรม ไม่ต้องเป็นผู้ให้บริการอีกต่อไป สิ่งเดียวสำหรับวันนี้ที่พอให้รู้สึกดีคือได้เห็นงานของตัวเองในหน้าหนังสือ ที่รินยาเอามาให้เมื่อบ่าย แต่มันก็ไม่มากพอให้เธอเข้มแข็งออกมาเผชิญตามงานเลี้ยงแบบนี้... คุณย่า...พี่รินยาเข้างานไปก่อนนะคะ โน้ตอยากเข้าห้องน้ำ วัศนิหาโอกาสเลี่ยง เมื่อเห็นคนและกลุ่มนักข่าวที่หน้าห้องจัดเลี้ยง หล่อนนี่ไปหาหมอดีมั้ย กระเพาะเบารั่วหรือไงกัน นั่งรถแป๊บ ๆ เพิ่งออกมาจากบ้านแท้ ๆ ...เสียเวลาจริง ๆ แล้วอย่าให้ช้าล่ะ งั้นพี่ไปส่งคุณย่าข้างในก่อนนะ วัศนิมองคุณย่าและรินยาเดินต่อเข้าไปในงาน หญิงสาวเบ้หน้า หรือเธอจะไปนั่งรออยู่ในห้องอาหาร ล็อบบี้ บาร์ ในสวน...ที่ไหนหนี ในสมองเริ่มครุ่นคิดวุ่นวาย แต่สองขาก็เหทิศทางไปทางห้องน้ำ วัศนิเดินถอดน่องให้ช้าลง แทบจะเรียกได้ว่านับก้าวบนพื้นหินอ่อนเลยก็ได้ อย่างน้อยเธอก็พยายามถ่วงเวลาให้ได้นานที่สุด... อีกครั้งที่เธอไม่รู้จะหนีไปไหน แม้ช่วงบ่ายรินยาจะช่วยกันคุณย่าไปได้ ไม่เช่นนั้นเธอคงต้องเครียดหนักมากกว่านี้หากคุณย่าจะลงมาเป็นผู้กำกับเวทีการแสดงครั้งนี้แทนรินยา เธอไม่อยากมาร่วมงาน ไม่อยากปั้นหน้าแสดงสิ่งที่ไม่ตรงกับใจ ยิ่งนึกถึงนักข่าว ฝูงชน และคุณคำรณแล้ว ไม่มีอะไรใส่นิดในตัวเองที่จะทำให้เธอรู้สึกมั่นใจกับความเป็นวัศนิคืนนี้ ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าอธิศคงจะอยู่ในงาน แต่เธอก็ประสาทเกินจะไปพบหน้าเขาในสภาพแบบนี้ ใช่ว่าอธิศจะปลื้มวัศนิเสียที่ไหน ท่าทางเขาจะปลื้มแซ็กโซโฟนเสียมากกว่า วัศนิอมยิ้มเมื่อนึกไปถึงจดหมายอิเล็กโทรนิคของเขา อย่างน้อยเขาก็ตอบกลับมา เธออยากให้มีเพียงแต่ค่ำคืนที่เธอจะได้เป็นแซ็กโซโฟนเพียงอย่างเดียว... แต่ยิ่งเป็นแซ็กโซโฟนนานแค่ไหน เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ๆ คำพูดในรถเมื่อวันวานยังคงวนเวียนก้องอยู่ในหัว หากเขารู้ความจริงว่าเธอคือแซ็กโซโฟน เธอไม่อยากนึกเลยว่า ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นดี ๆ แบบนี้จะกลายเป็นอย่างไร เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้โกหก...ไม่ได้ตั้งใจหลอกลวง ที่มาของความคิดมันต่างกัน มันเป็นแค่สถานการณ์อำพรางตัวที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ให้เธอมีอะไรทำมากขึ้น เธอตั้งใจแล้วที่จะไม่ให้ใครรู้ถึงกิจกรรมในตอนกลางคืน มันโยงใยต่อเนื่องหลายเรื่องเหมือนจะยุ่งยากเข้าไปทุกที ข้อสำคัญเธอไม่อยากให้สุขเล็ก ๆ ที่เธอมีต้องหายไป หญิงสาวมองตัวเองในกระจกห้องน้ำ หากเป็นแค่แซ็กโซโฟน หรือเจ้าหญิงได้คงดี...ไม่ต้องเป็นอะไรอย่างวัศนิ หญิงสาวเดินวนไปวนมาก่อนนั่งหน้าคว่ำจมความคิดอยู่ในเก้าอี้รับรองในห้องน้ำนั่นเองนี่เธอจะหลบซ่อนตัวเองอยู่แบบนี้ ไปทำไม... แล้วมันจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน... ยายโน้ต!!..เล่นหลบอยู่แบบนี้ได้ไง ชุดไทยอย่างนี้...เดี๋ยวใครก็ได้เข้าใจว่าเธอเป็นแม่ย่านางโรงแรม หรือเจ้าสาวหนีเจ้าบ่าวเล่นซ่อนแอบ เสียงแหว ๆ ของรินยาปลุกห้วงความคิดของเธอกลับมาอีกครั้ง แค่งานเลี้ยง ไม่ใช่คุณย่าจับเธอไปแต่งงานกับใคร รินยาเท้าเอวเริ่มบ่นเป็นฉาก ๆ พี่รู้นะว่าเธอไม่อยากเข้าไป แต่มาถึงนี่แล้ว เธอจะไปซ่อนตัว แอบเป็นพนักงานดูแลห้องน้ำโรงแรมได้ยังไง..." ยังรินยาแค่หายใจเฮือกที่ 1 "พี่เองก็ช่วยเธอมาเยอะแล้ว เธอเองก็ปรับตัวดีขึ้นมาก...เธออยู่แบบนี้ สภาพนี้ เธอจะหนีคุณย่าไปไหนอีก..." เฮือกที่สองของรินยา "คิดสะว่าแค่ทำให้ท่านพอใจ...กับคนแก่คนหนึ่งที่ไม่เหลือใครแล้ว นอกจากเธอ... คราวนี้รินยาหยุดหายใจยาว เทศนาโน้ตอีกแล้ว วัศนิได้แต่พึมพำในลำคอ ก็เธอทำตัวแบบนี้นี่นา ลองเนียน ๆ เออออไปกับคุณย่า อย่าไปคิดอะไรแต่ด้านตรงข้ามแบบเป็นปรปักษ์สิ เธอโตแล้วนะ คุณย่าก็ทำทุกอย่างให้เธอ แม้มันจะคนละวิธีกับที่เธอคิดก็เถอะ... แต่คุณย่าน่ะรักเธอมากนะโน้ต ไม่โตได้คงดีนะคะ ปัญหาไม่เยอะดี วัศนิทำหน้ากร่อย ๆ หาเรื่องตะแบงไปตามนิสัยที่จะยอมรับความจริง จนรินยาต้องส่ายหน้า นั่นสินะทำตัวเนียน ๆ เออออไปกับคุณย่า หลาย ๆ ครั้งที่เธอรู้สึกว่าคุณย่ากับรินยาจะจูนช่องสื่อสารเข้ากันได้ดี... บางครั้งเธอก็อยากเป็นอย่างนั้นบ้างจริง ๆ... พี่ช่วยเธอมาแล้วค่อนวัน เธอต้องช่วยตัวเองบ้าง... ลองคิดสิ หากนักข่าว หรือใครก็ตามมาเจอหลบอยู่ในห้องน้ำไม่ยอมเข้างานอยู่แบบนี้ คุณย่าเธอจะเอาหน้าไว้ตรงไหน...แล้วคุณคำรณเจ้าภาพงานอีก โอ้พี่รินร่ายยาว...โน้ตขอแค่เวลาตั้งตัว
ก็อย่างที่บอก ถ้าไม่ใช่ชุดไทย เครื่องประดับหรูหราอลังการ โน้ตคงมั่นใจมากกว่านี้ อย่างอแงเป็นเด็กสิ พี่ลงทุนใส่ชุดเป็นเพื่อนแล้วนะ เกิดมาก็ไม่ค่อยจะได้ใส่อะไรหรูเฟร่ขนาดนี้...หากเพราะสร้อยเส้นนี้มา... ถอดมาเดี๋ยวพี่ใส่เอง วัศนิเริ่มมั่นใจอย่างน้อยมันก็มีส่วน สร้อยมรกตเส้นนี้มีความลับอะไรแอบซ่อนอยู่ ถึงได้เพิ่มความถ่วงหนักให้อกเธอเข้าไปอีก...แค่เสื้อก็แย่พอแล้ว ... หงะ ถ้าคุณย่าไม่กิโยติน โน้ตถอดให้พี่รินเลย สีหน้าของวัศนิกร่อยลงทุกที ๆ จนรินยาต้องทรุดตัวลงนั่งบนเท้าแขนเก้าอี้ เปลี่ยนน้ำสี และท่าที เรายังอยู่ตรงนี้ สังคมแบบนี้ เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไป ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว... เราต้องฝืน จำยอมทำอะไรที่ไม่อยากทำเพื่อคนใกล้ตัว เพื่อคนรอบข้าง บางทีความสุขมันอยู่ที่การให้มากกว่าการได้รับนะ วัศนิเงียบกริบ ฟังคำแนะนำของรินยาอย่างตั้งใจ สมองจอมวางแผนเริ่มหยุดชั่วขณะเพื่อบูทระบบใหม่จริงสินะ...กับคุณย่าเธอยังไม่ได้ให้อะไรกลับคืนไปเลย แม้แต่ใจของตัวเอง... อย่างที่ซ้อม ๆ กันมาเมื่อตอนบ่ายไง เธอก็คิดซะว่ามาแสดงละคร เดินแฟชั่น งานเลี้ยงแฟนซี อาหารอร่อย ๆ อะไรก็ได้ ก็แค่อะไร ๆ ให้มันผ่านไป
แค่นี้เอง เธอผ่านมาร้อยแปดพันล้านเรื่องแล้วนะ
เฮ้อออ!! ทำอย่างกับเด็กไม่เคยออกงาน...ไปเข้าไปเร็ว พอพูดจบรินยาก็ลากแขนวัศนิออกจากห้องน้ำตรงเข้างานไปทันที งานเลี้ยงส่วนตัวของคุณคำรณ ค่อนข้างเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวจริง ๆ ห้องจัดเลี้ยงขนาดกลางไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย จนไม่ต้องคาดเดาว่าเป็นงานอย่างอื่น แม้จะมีนักข่าวมาบ้าง ก็ล้วนแต่เป็นสื่อนิตยสารที่ลงโฆษณา และได้รับเชิญมาเท่านั้น ไม่มีนักข่าวที่ชอบขุดคุ้ยมาให้หวาดระแวง อีกอย่างการมีรินยาอยู่ใกล้ ๆ คอยเป็นกำแพงกั้น บรรดานักข่าวดูจะไม่ค่อยมีใครวุ่นวายกับวัศนิมากนัก นอกจากถ่ายภาพทั่วไปธรรมดา หญิงสาวสูดลมหายใจ ก่อนเดินเข้าร่วมงาน จะประสาอะไรก็แค่งานเลี้ยงอีกงาน... วัศนิกวาดตาไปรอบ ๆ ห้อง งานเลี้ยงจัดแบบค็อกเทล แต่ไลน์อาหารมีให้เลือกยาวเหยียด ทั้งของว่าง กับแกล้ม และแม้แต่อาหารกึ่งอิ่ม บาร์เครื่องดื่มอยู่อีกฟาก ดูเหมือนจะมีคนยืนอยู่สองบริเวณนี้มากเป็นพิเศษ มีโต๊ะให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ วงดนตรีแชมเบอร์ 8 ชิ้น เล่นเพลงบรรเลงหวาน ๆ อยู่ด้านหน้า บรรยากาศทำให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก แขกในห้องเดินไปมาให้งุนงงเล่น หลายคนเป็นไฮโซที่พอคุ้นหน้า แต่เธอก็นึกชื่อไม่ออก เธอเห็นคุณหญิงย่านั่งโต๊ะวีไอพีกับแขกผู้ใหญ่สามคน รวมทั้งคุณคำรณด้วย ดูจะคุยกันอย่างสนุกสนาน จนคุณย่าไม่สนใจมองมาทางเธอด้วยซ้ำ หญิงสาวพยายามสอดส่ายสายตาหาอธิศ แต่ดูไปมุมไหน ๆ ก็ไม่เห็นมี หรือว่าเขาไม่มา... ความรู้สึกหงอยวูบลงทันที ไฟในห้องสลัว ๆ ไม่ได้สว่างมากเกินไป พอใช้อำพรางตัวได้อยู่บ้าง แสงไฟสีส้มในห้องจัดเลี้ยงล้อดิ้นทองของผ้านุ่ง และสไบฉลุชายยาวกรอบพื้นเป้นประกาย ยิ่งเป็นแพ็คคู่กับรินยาแบบนี้ จุดสนใจดูน่าจะกลายเป็นรินยามากกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ ชุดของรินยาเป็นชุดไทยศิวาลัยเช่นเดียวกับเธอ หากแต่เป็นสีน้ำทะเลเข้ม ดูสวยสว่างกระจ่างตา ต่างไปจากชุดเขียวเย็นสบายตา แลอ่อนหวานของเธอ วัศนิยังคงเก้ ๆ กัง ๆ พยายามปั้นหน้ายิ้มให้ใครต่อใคร เจ๊!! จ๊ากก เจ๊ใส่ชุดไทย สุด ๆ เลยงานนี้ มะเท่มาก เสียงหนุ่มผมยาวที่ติดบัตรช่างภาพประจำนิตยสาร LT ของรินยา ตรงเข้ามาแซวพร้อมถ่ายรูป เปลี่ยนบรรยากาศวุ้ย นาน ๆ จะสวยเป็นผู้หญิงกับเขาบ้าง
เดี๋ยวคนจะลืม คนพอคุ้นหน้าทำให้วัศนิไม่รู้สึกโหวงเหวงมากเกินไป เธอได้แต่ยิ้ม ขณะที่รินยาจะโวยวายกลับอย่างคนคุ้นเคย ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดในชุดไทยอลังการลดน้อยลง เธอควรจะไปหาเจ้าภาพก่อนนะ จะได้ไม่เสียมรรยาท คุณคำรณเขาจะได้ชื่นชมกับสร้อยมรกตนี่ด้วย ว่าใส่กับชุดไทยแล้วงามขนาดไหน...ไปเอาใจคุณย่าหน่อยไป...พี่จะไปเดินโชว์ชุดทักทายชาวบ้านเขาบ้าง รินยาพูดจบก็เดินสยายกางสไบร่อนจากไปพร้อมกับช่างภาพ เธออยากทำตัวให้สนุกสนานเหมือนรินยารุ่นพี่ของเธอจริง ๆ หรือแบบนี้ที่อธิศจะสนใจ ผู้หญิงที่ร่าเริง สดใส คุยสนุก ไม่ใช่ผู้หญิงที่หน้าบูดหน้าบึ้ง เอาแต่แอบหลบซ่อนตัวอย่างเธอ... หายไปเสียนานเชียว... คุณหญิงรัชนีเอ็ดเธอเบา ๆ วัศนิยกมือไหว้คุณคำรณ และแขกผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะ สวย โตขึ้นเยอะ จนป้าจำไม่ได้เลยนะนี่...มรกตล้อมเพชรนี่สวยสมที่คุณหญิงบอกเลยนะคะ น้ำงามขึ้นไฟจริง ๆ ละ ยิ่งอยู่บนชุดไทยด้วยแบบนี้ สมกับเป็นงานประณีตของคุณคำรณ คุณหญิงรัชนียิ้มรับอย่างปลาบปลื้มกับคนรอบโต๊ะ ผมว่าหนูวัศนิเธอสวยอยู่แล้วน่ะครับ ไม่ว่าชุดหรือเครื่องประดับก็แค่เสริม ๆ ไปเท่านั้นเอง คำรณหัวเราะเบา ๆ ต่อท้ายด้วยความเอ็นดู มานั่งสิ หนูทานอะไรหรือยัง มานั่งทานด้วยกันเลย มามา
คุณคำรณเรียกเหมือนผู้ใหญ่ใจดี ไม่มีอาการเป็นผู้เฒ่าหัวงูให้เธอต้องอึดอัดแต่อย่างใด วัศนิยิ้มค่อย ๆ นั่งลงข้างคุณย่าที่ว่างอยู่ ดื่มอะไรดี แชมเปญ ไวน์ขาว หรือไวน์แดง คุณคำรณหันมาถาม เมื่อบริกรยกถาดเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ อะไรก็ได้ค่ะ อย่างหนูดื่มสปาร์คกลิ้งโรเซ่แล้วกันนะ ความเอ็นดูที่ปราศจากสิ่งใดเคลือบแคลงในรอยยิ้มของคุณคำรณ ทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น คุณหญิงรัชนียังคงสนทนากับคุณหญิงข้าง ๆ กับสามีที่เธอจำชื่อไม่ได้เหมือนเคย คงจะมีเพียงเพลงบรรเลงที่ทำให้เธอรู้สึกเพลินนั่งอยู่ตรงนี้ได้ หากไม่อึดอัดใจกับความระแวงในแผนการของคุณย่า แต่ว่าไปแล้ว อย่างน้อยเธอก็คิดว่าคุณคำรณดูดีที่สุดในบรรดาผู้ชายที่คุณย่าจัดไว้ ความสุภาพ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเอื้อเอ็นดู ไม่เหมือนผู้พันจ๊ะจ๋า หรือนายเทพเทวดาเมืองโคราช ที่ล้วนแล้วไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย... แต่เจ้าภาพหนุ่มใหญ่ไม่ได้นั่งติดที่ให้เธอพินิจวิเคราะห์สักเท่าไร คงเดินไปรับแขก ทักทายผู้คน แต่ก็แวะกลับมานั่งราวกับพระราชาเป็นระยะ ๆ เธอไม่ชอบเดินลอยไปลอยมาในงานเลี้ยงแบบนี้ ให้เป็นจุดเด่น สู้นั่งเฉย ๆ ฉีกยิ้มเป็นเจ้าหญิงอยู่ตรงนี้จะดีกว่า เธอยังคงจับตามองหาอธิศ ไปพร้อม ๆ กับรินยา... บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยง ค่อนข้างเป็นกันเอง มีคนมาทักทายพูดคุยกับคำรณเป็นระยะ ๆ ไม่ตัวเขาก็เดินออกไป เป็นอีกช่วงเวลาที่เธอหายใจได้มากขึ้น แต่ดูเหมือนไม่นานจริง ๆ ... คุณหญิงครับ เชิญเต้นรำสักเพลง จะได้ไม่เซ็ง คำรณค้อมตัวเมื่อเดินกลับมารอบใหม่ ไม่ล่ะคุณคำรณ แก่เฒ่าแล้ว ขาแข้งเห็นจะเต้นไม่ไหว... คราวนี้ขอผ่านแล้วกัน ธรรมเนียมเปิดฟลอร์กับคุณคำรณส่งหลานสาวไปแทนดีกว่า คำตอบของคุณหญิงรัชนี ทำเอาวัศนิสะดุ้งเฮือกจากห้วงความคิด อย่างนี้นี่เอง จนได้สินะ...คุณย่าเริ่มส่งเธอเข้าแผนการ วัศนิรู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ ที่มีผู้ใหญ่ราวพ่อมาโค้งขอเธอเต้นรำ เธอจำไม่ได้แล้วกับงานเต้นรำแบบนี้ แล้วชุดไทยแบบนี้... เธอยังนึกภาพตัวเองบนฟลอร์กับคุณคำรณไม่ออก แต่เมื่อหันหน้าไปทางคุณย่าที่เริ่มตาดุใส่ เธอก็ต้องรีบลุกขึ้นโดยอัตโนมัติส่งมือไปให้คำรณกึ่งมึน ๆ ทันที เอาเถอะคิดเสียว่า เต้นรำกับพระราชา หรือเต้นกับพ่อ ดีกว่าต้องเต้นรำกับคนอื่นเป็นไหน ๆ คุณคำรณในทักซิโด้ดูงามสง่า สูงใหญ่ ผมแซมสีเงินดูแสนอบอุ่น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเมตตาสมเป็นพระราชาใจดีจริง ๆ จนเธอกลายเป็นเหมือนเจ้าหญิงน้อยตัวเล็ก ๆ ไปทันตา เสียงปรบมืออื้ออึง จังหวะวอลซ์สบาย ๆ ที่ไม่ช้า ไม่เร็วจนทำให้ต้องเธอเครียดมาก เธอพยายามนับเสต็ป และยิ้มให้คุณคำรณ... แม้ชุดไทยเข้ารูป ทำให้เธอก้าวย่างไม่คล่องตัวนัก แต่สไบชายยาวที่เหวี่ยงไปมาตามจังหวะก็ช่วยถ่วงน้ำหนักตัวไว้ได้เป็นอย่างดี ยังไม่ทันจบเพลง เธอเริ่มเห็นอีกหลายคู่ตามเข้ามายังฟลอร์ แล้วไม่ถึงอึดใจใบหน้าของผู้ชายอีกคนก็ซ้อนเข้ามาแทน
. ขอโทษครับ ท่านนายพลชาตรีมาถึงแล้ว ท่านบอกมีเวลานิดเดียว อยากขอคุยด้วยสักนิดครับ เสียงนุ่ม ๆ ที่เคยคุ้นหูดังก้องเข้ามาแทนเสียงเพลง คุณคำรณกระซิบขอโทษอย่างสุภาพ ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว อาการตัวเย็นวูบกลับเข้ามาแทนอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนภาพตรงหน้า รอบ ๆ ตัวเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ถูกเหวี่ยง หรือหมุนไปมากมาย และทันทีที่คุณคำรณส่งปลายมือของเธอไปให้กับคนที่มาแจ้งข่าว... มือไม้ของเธอเย็นเชียบ วัศนิช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างเต็มตา สายตารอยยิ้มที่ส่งมาแม้จะเย็นชาเหมือนเคย แต่ก็ทำให้ใบหน้าของเธอร้าวผ่าวได้อย่างรวดเร็ว... ลมหายใจของเธอเริ่มกระตุกเป็นห้วง ๆ เมื่อมือที่แตะอยู่ข้างตัวเบา ๆ ค่อยขยับแน่นขึ้นตามจังหวะดนตรี โทษทีครับ ผมลืมสวัสดี ลืมชมคุณวัศนิเลย คืนนี้สวยมากเลยครับ คำพูดรอยยิ้มนั้นดูเป็นกันเองมากขึ้น วัศนิแอบกรี้ดลิงโลดเบา ๆ อยู่ในใจ ก่อนยิ้มตอบแทนคำขอบคุณ เธอเที่ยวเฝ้ามองหาเขา แต่จู่ ๆ อธิศก็มาอยู่ในอ้อมแขนเธออยากมหัศจรรย์ เขาใกล้เธอ...ชิดเข้ามาอีก ใกล้อยู่ตรงนี้ ในอ้อมแขนของเขา เธอได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจาง ๆ เสียงเพลงชวนฝัน บรรยากาศชวนฝัน ความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ... ไม่สิ!! มันล่องลอยอยู่ในจักรวาล แต่ไม่ใช้เพียงคนเดียว เธอมีเขาประคองอยู่ในวงแขนอยู่อย่างนี้ต่างหากเป็นอีกหนึ่งความสุขเพียงชั่วขณะที่เธอบันทึกเก็บไว้ในความรู้สึก... แล้วเจ้าหญิงอย่างเธอก็ได้เต้นรำกับอัศวินในเกราะสีเงินแวววาว... ไม่สิ!! อธิศไม่น่าเป็นอัศวิน ที่แค่ช่วยเธอผ่านวิกฤติ ความรู้สึกแย่ ๆ ได้อย่างมหัศจรรย์ เขาน่าจะเป็นเจ้าชายคนที่เธอที่เฝ้ารอคอย.... เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นแล้ว... หญิงสาวไม่สนใจเสียงเพลง และเหตุการณ์รอบข้างอีกแล้ว นอกจากคนตรงหน้า สายตานี้ ใบหน้า และรอยยิ้มนี้ หากทำได้ เธอจะแอบปิดมิติ ให้หลงหายลอยล่องไปในจักรวาลสองคนแบบนี้คงดี... ว่าไปแล้วบางทีโลกเหมือนเล่นตลก จังหวะชีวิตเหมือนแปลก ๆ ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ระยะนี้เขาจะต้องบังเอิญมีกิจกรรมผู้หญิงคนนี่อยู่เรื่อยเสียจริง แม้ว่าเขาไม่อยากเต้นรำ แต่มรรยาทก็ไม่อาจทิ้งหน้าที่ไปได้ เขาอยากจะแค่ดูงานดำเนินผ่านไปอย่างดีอยู่ฟากด้านโน้น หรือเดินไปเดินมาคอยดูความเรียบร้อย ประสานงานกับทางโรงแรมมากกว่า อธิศพยายามใส่ใจกับผู้หญิงตรงหน้า วันนี้เธอดูเด่นเป็นสง่ากว่าแขกคนไหน ๆ แม้แต่รินยาในชุดไทยที่คล้ายกัน แต่ก็แค่คล้าย... รินยายังเต็มไปด้วยความห้าวหลุดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ แตกต่างจากน้องสาวคนนี้มากมาย เธอเหมือนนางฟ้าที่ล่องลอยลงมาจากสรวงสรรค์... เหมือนภาพวาดอัดงดงามแห่งอดีต ที่มีอยู่เพียงในตำนาน หรือบทวรรณคดี... ดูเธอเป็นคนเรียบร้อย หวาน ๆ เงียบ ๆ ไม่ช่างคุยนัก สมองคงเต็มไปด้วยความคิดอยู่ตลอดเวลา น่าจะคล้าย ๆ กับตัวเขา เขาเองก็เป็นคนเงียบ ๆ อยู่แล้ว นอกจากเฉพาะงานดีเจที่ทำอยู่เท่านั้น แต่นั่นเหมือนคุยกับไมโครโฟนมากกว่าสนทนากับคนอื่น ๆ อธิศไม่รู้ว่าจะเลือกเรื่องอะไรมาคุยให้บรรยากาศเพลิดเพลินมากไปกว่านี้... น่าแปลกที่วันนี้พ่อเลี้ยงของเขาเลือกเต้นรำกับผู้หญิงคราวลูก ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงเต้นรำแบบนี้ คุณคำรณมักจะเต้นกับแขกผู้ใหญ่ในงานเท่านั้น... หรือว่าคุณคำรณกำลังให้ความสนใจกับหลานสาวคุณหญิงรัชนีกันแน่ อธิศพยายามสลัดความคิด เขาจะไปสนใจทำไม หากพ่อเลี้ยงเขาจะคิดจริงจัง แต่งงานใหม่กับใครสักคน เขาไม่ใส่ใจ ไม่ห่วงทรัพย์สมบัติเหมือนแม่... ต่อให้เดลิน่าจิเวลลี่จะต้องเปลี่ยนมือไปก็ตาม... ความจริงมันก็เปลี่ยนมือไปนานแล้วด้วยซ้ำ นั่นคือความจริง... ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นจริงจัง และไม่ได้ผลาญสมบัติในส่วนที่พ่อกับแม่เขาสร้างมาให้หมดไปก็พอ...แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี ... นั่นมันเรื่องของคุณคำรณ ทรัพย์สมบัติส่วนที่ไม่ใช่ของเขา... อธิศเริ่มรู้สึกตัว เขาคงเครียดขรึมไปอีกแล้ว ปล่อยตัวให้เบาสบายไปกับเสียงเพลง ทำตัวให้งดงามตามหน้าที่ของผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ แล้วก็เต้นรำกับลูกค้าคนสำคัญของบริษัท
ก็แค่งานอีกคืนที่ผ่านไป อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เขาพยายามไล่โน้ตดนตรีที่ได้ยินอยู่ในขณะนี้ คืนนี้เขาจะเลือกเพลงพิเศษให้เด็กสาวคนนั้นเป็นเพลงอะไรดี... เธอคงชอบเสียงดนตรีมากมาย ว่าไปเธอจะเต้นรำได้พลิ้วแบบนี้หรือไม่นะ... ...โปรดติดตามตอนต่อไป... **" Dance with the Balamb Fish และ Waltz for the Moon สองเพลงจังหวะวอลซ์เพราะหวาน จังหวะสนุกเพลิน ๆ จากเกม Final Fantasy VIII ผลงานของ Nobuo Uematsu เจ้าของเพลง Eyes on Me ที่กลายเป็นเพลงประจำตัววัศนิไปแล้ว เพราะทำนอง เสียงดนตรีบรรเลง ที่เต็มไปด้วยความสุข สองเพลงนี้จึงเพลงรักอมตะชั่วนิรันดร์กาลอีกหนึ่งเพลงของคนเขียน...
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552
83 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 23:12:28 น.
Counter : 630 Pageviews.
โดย: พรายทราย 9 กุมภาพันธ์ 2552 14:18:34 น.
โดย: พรายทราย 9 กุมภาพันธ์ 2552 14:23:28 น.
โดย: อมิธีสท์ 9 กุมภาพันธ์ 2552 21:38:12 น.
โดย: วรบรรณ 10 กุมภาพันธ์ 2552 15:00:04 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 10 กุมภาพันธ์ 2552 18:39:20 น.
โดย: พรายทราย 10 กุมภาพันธ์ 2552 20:24:03 น.
โดย: พรายทราย 10 กุมภาพันธ์ 2552 20:29:59 น.
โดย: พรายทราย 10 กุมภาพันธ์ 2552 20:54:28 น.
โดย: karinas 10 กุมภาพันธ์ 2552 23:09:26 น.
โดย: karinas 10 กุมภาพันธ์ 2552 23:14:15 น.
โดย: karinas 10 กุมภาพันธ์ 2552 23:15:02 น.
โดย: พรายทราย 11 กุมภาพันธ์ 2552 12:20:27 น.
โดย: พรายทราย 12 กุมภาพันธ์ 2552 21:10:38 น.
โดย: พรายทราย 12 กุมภาพันธ์ 2552 21:13:27 น.
โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) 13 กุมภาพันธ์ 2552 2:23:30 น.
โดย: karinas 13 กุมภาพันธ์ 2552 20:05:04 น.
โดย: ปณาลี 13 กุมภาพันธ์ 2552 20:11:16 น.
โดย: อมิธีสท์ 13 กุมภาพันธ์ 2552 20:18:31 น.
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 12:40:32 น.
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 13:47:13 น.
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 13:49:24 น.
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 13:51:13 น.
โดย: พรายทราย 14 กุมภาพันธ์ 2552 13:53:40 น.
โดย: teansri 15 กุมภาพันธ์ 2552 18:39:09 น.
โดย: GTW IP: 58.8.233.134 15 กุมภาพันธ์ 2552 19:08:10 น.
โดย: พรายทราย 15 กุมภาพันธ์ 2552 20:19:20 น.
โดย: พรายทราย 15 กุมภาพันธ์ 2552 20:21:40 น.
โดย: พรายทราย 15 กุมภาพันธ์ 2552 20:28:07 น.
โดย: อมิธีสท์ 15 กุมภาพันธ์ 2552 20:40:00 น.
โดย: หนูตูน IP: 118.173.250.244 16 กุมภาพันธ์ 2552 13:24:38 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 16 กุมภาพันธ์ 2552 21:29:35 น.
โดย: วรบรรณ 18 กุมภาพันธ์ 2552 9:18:55 น.
โดย: นาท-วริน 18 กุมภาพันธ์ 2552 13:11:41 น.
โดย: พรายทราย 19 กุมภาพันธ์ 2552 7:38:40 น.
โดย: อมิธีสท์ 19 กุมภาพันธ์ 2552 21:33:56 น.
โดย: teansri 20 กุมภาพันธ์ 2552 8:14:18 น.
โดย: GTW IP: 58.8.164.14 20 กุมภาพันธ์ 2552 17:35:16 น.
โดย: ปณาลี 20 กุมภาพันธ์ 2552 19:10:58 น.
โดย: GTW IP: 58.8.156.48 21 กุมภาพันธ์ 2552 7:38:55 น.
โดย: ปณาลี 23 กุมภาพันธ์ 2552 23:17:33 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:36:48 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:38:49 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:44:20 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:46:09 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:48:12 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:56:17 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:58:33 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:08:04 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:09:58 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:11:55 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:15:07 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:20:12 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:22:32 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:25:11 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:30:22 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:37:18 น.
โดย: รักดี (PSlovebird ) 24 กุมภาพันธ์ 2552 20:15:11 น.
โดย: อมิธีสท์ 24 กุมภาพันธ์ 2552 20:32:37 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 21:08:19 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 21:12:44 น.
โดย: พรายทราย 24 กุมภาพันธ์ 2552 21:16:59 น.
โดย: ปณาลี 24 กุมภาพันธ์ 2552 22:06:19 น.
โดย: GTW IP: 58.8.233.104 25 กุมภาพันธ์ 2552 14:55:35 น.
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2552 2:01:51 น.
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2552 2:03:51 น.
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2552 2:05:07 น.
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2552 2:07:36 น.
โดย: GTW IP: 58.8.153.68 26 กุมภาพันธ์ 2552 4:35:58 น.
โดย: วรบรรณ 26 กุมภาพันธ์ 2552 12:39:00 น.
โดย: montolluk (montolluk ) 28 กุมภาพันธ์ 2552 10:21:28 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา... ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ... **สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ** คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ... ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้ แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว.. ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร... **และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย ****************************** Friends' Blogs นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก
ตอนที่แล้วด้วย
เครื่องคอมพ์เข้าโรงซ่อมเพิ่งกลับมาทำงาน
ได้ตามปรกติ
เดี๋ยวมานะคะ