ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 17.. "ช่อคราม"









บทที่ 17

หากความรักถูกกำหนด ถูกกระทำให้เป็นราวกับสิ่งของ
จึงไม่แปลกที่จะมีคนอยากจะเป็นเจ้าของ
และแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์แห่งการครอบครอง


ทันทีที่เภตราลงมายังชั้นสอง เธอก็ต้องประหลาดใจที่เห็นไฟในห้องทำงานปิดมืด เมื่อเข้าไปในห้อง มองเลยผ่านผ้าม่านออกไปนอกระเบียงก็มืดสนิท
ไม่เห็นวี่แววของคนชวนแต่อย่างใด

เอ! นี่เธออ่านข้อความอะไรผิดไปหรือเปล่า เธอหันมาที่โต๊ะ คอมพิวเตอร์ของธันวาก็ปิดไปแล้ว

หรือว่าเธอมัวแต่เขียนจดหมายส่งเมลให้อันย่า ใช้เวลานานเกินไปเธอหันไปมองนาฬิกาข้างฝา แค่ยี่สิบนาทีไม่ได้นานอะไรมากมาย

หรือเธออ่านไม่ละเอียด เขาชวนออกไปข้างนอก ดูดาว อาจเป็นชื่อผับ และชื่อร้านที่ไหนที่เธอไม่รู้จัก เภตราขมวดคิ้วก้มลงมองดูชุดนอนของตัวเอง หากเป็นข้างนอกเขาควรจะบอกให้แต่งตัวสิ หญิงสาวเม้มปาก ครุ่นคิดอย่างงง ๆ

ก่อนเดินออกไปจากห้องทำงาน เธอกวาดตามองเลยไปยังห้องนั่งเล่นฝั่งตรงข้ามก็ปิดไฟมืด บันไดข้างล่างก็ไม่ได้เปิดไฟ

หญิงสาวตัดสินใจเดินลงไปชั้นล่าง เดินวนหาทั่วทั้งห้องรับแขก ห้องครัว เดินออกด้านหลัง ลองเดินขึ้นบันไดจากด้านหลังไประเบียงชั้นสองอีกครั้งก็ไม่มีใคร แทบไม่มีร่องรอยการมาของธันวาแต่อย่างใด

เภตราเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ความรู้สึกตื่นเต้นเริ่มจางลง หญิงสาวแหงนหน้ามองท้องฟ้า ฟ้าก็สีแดง ๆ มืดสนิท ท้องฟ้าปิด ไม่มีวี่แววของกลุ่มดาว ฝนคงตกที่ไหนสักที่หนึ่ง เธอเห็นฟ้าแลบแต่ไกล ๆ

เภตราตัดสินใจเดินย้อนกลับออกไปดูหน้าบ้าน เผื่อธันวาอาจจะยืนคอยอยู่ แต่ก็ไม่มีวี่แวว ร่องรอยอีกเช่นกัน

คราวนี้เธอกลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนโดนแกล้ง เอาไว้เถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะคิดบัญชี…

หรือเขาพูดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร และคงจะเข้านอนไปเรียบร้อย

บางทีคนแก่อย่างธันวาก็เอาแน่เอานอนในอารมณ์ไม่ได้ เธออุตส่าห์อยากจะช่วยอยู่เป็นเพื่อน คุยเล่นเพลิน ๆ ให้หายเครียด อีกอย่างเขาเป็นคนชวน เป็นคนยื่นข้อเสนอ อยู่ ๆ ก็มาเปลี่ยนใจเสียอย่างนั้น มันน่าแกล้งกลับนักจริง ๆ

เภตราย่นจมูก ยังคงบ่นพึมพำในใจ ปิดไฟข้างล่าง พยายามระแวดระวัง มองซ้ายมองขวา เขาคงไม่ได้นึกครึ้มเล่นซ่อนแอบขึ้นมากลางดึก แก้เครียดหรอกนะ

และก็คงไม่ได้โดนมนุษย์ต่างดาวไหนลักพาตัวไปก่อนแล้ว แต่ก็นั่นแหละ หากแกล้งชวนเธอเล่น ๆ แบบนี้ โดนมนุษย์ต่างดาวอุ้มตัวไปก็คงดี…

หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนบันได นึกถึงใบหน้าเครียด ๆ ของธันวาเมื่อวันที่อยู่ด้วยกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้อารมณ์แปลก ๆ ที่เกิดเมื่อครู่หายไป เธอก็ไม่ชอบหน้าเครียด เอาจริงเอาจังมากมายจนน่ากลัวขนาดนั้น มันช่างทำให้โลกนี้หม่น เหมือนถล่มทลาย ยิ่งเสียกว่าเธอร้องไห้ลั่นห้อง ลั่นบ้านเสียอีก

เสียงหัวเราะ อารมณ์ดี หรืออารมณ์ดุ ๆ หาเรื่องของเขา น่าดูน่าฟังกว่าเป็นไหน แต่นั่นแหละหากเขาหลับลงได้ก็คงเป็นการดี บางทีเธอควรจะกลับไปนอนด้วยเช่นกัน

เวลาร่ำเบียร์กับเขายังมีอีกมากมาย…


ตั้งใจว่าจะเคาะประตูห้องนอนของธันวา แต่หากเขาหลับไปแล้ว คงไม่เป็นการดีแน่ และก่อนที่เธอจะหมุนตัวหันมาเปิดประตูห้องตัวเอง เภตรารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกุกกักมาจากข้างหลัง จากประตูไม้บานสวิงที่เปิดขึ้นไปยังห้องใต้หลังคา

หรือจะเป็นธันวา…

ทันทีที่เธอกำลังจะผลักบานประตูสวิงเข้าไปก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธันวาเปิดออกมา หญิงสาวเลยผงะถลาเข้าไปในอ้อมกอด ของชายหนุ่มเข้าเต็มแรง …

อีกแล้วนะนี่ ทำไมเธอเหมือนจะซุ่มซ่ามอยู่เรื่อย มันจะเป็นความบังเอิญ หรืออุบัติเหตุอย่างไรที่เธอต้องไปอยู่ใน อ้อมกอดแบบไม่ได้ตั้งใจของเขาอย่างนี้

ตาคู่นั้นที่กำลังมองลงมายังเธอ เล่นเอาเธอทำอะไรไม่ถูก มันยิ่งกว่าต้องมนต์ ความรู้สึกเหมือนใครตีผงฟู เนย ครีม น้ำตาลใส่เข้าไปในหัวใจเธอ

มันเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันคือความรู้สึกอะไรกันนะ แต่น่าแปลกที่มันทำให้เธอรู้สึกดี รู้สึกเหมือนเป็นปิติ อิ่มเอม มันเป็นเหมือนความยินดี อึมม์ คงจะยินดีที่ได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง

มันช่างแตกต่างกับความรู้สึกกับเมษาโดยสิ้นเชิง …

แต่ว่าไปแล้ว เธอยังไม่เคยอยู่ในอ้อมกอดเมษาจริง ๆ เลยสักครั้ง เพียงแค่จุมพิตกล่าวลา แค่สองครั้ง เขาก็ไม่ได้กอดเธอจริงจังสักหน่อย

และมันก็ไม่เหมือนความรู้สึกที่ได้กอดพ่อ แม่ ปู่ ย่า หรือแม้แต่เพื่อน ๆ อย่างอันย่า หรือสเตฟาน

ไม่เหมือนเลย มันไม่เหมือนเลยสักนิด...

อาจเป็นอีกความรู้สึกที่ต่างออกไป กับเพื่อน พี่ชายที่แสนดีอย่างธันวา แต่เจ้ากรรมทำไมเธอถึงไม่รู้สึกอยากออกไปจากวงแขนนี้เสียอย่างนั้น....


สำหรับธันวา เขาอยากกอดเธอไว้แบบนี้ แม้แรงปะทะที่เขารับไว้นั้น มันจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างก็ตาม แต่ดวงตาคู่สวยนั้น ก็เกลื่อนความเจ็บปวดให้หายไปจนหมดสิ้น…

อีกทั้งกลิ่นหอมละมุนจากเรือนผม กลิ่นที่คุ้นเคย อบอวลอยู่ในโสตประสาท มันช่างทำให้เขาเคลิบเคลิ้ม ล่องลอยไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด...

หากเขาทำได้ เขาไม่อยากปล่อยเธอไปเลย อยากกระชับวงแขนให้แน่นกว่านี้ และคงจะโอบรับ กอดเธอแนบแน่น ไว้เช่นนี้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หน แม้จะชั่วชีวิตนี้ก็ตาม…

ธันวาถอนหายใจเบา ๆ นี่เขาเริ่มคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปไกลได้เช่นนี้นะ

“เจ็บหรือเปล่า” ชายหนุ่มกระซิบเบา ๆ เขาคลายวงแขนเล็กน้อย แม้มันจะชั่วแว่บ เขาก็แทบไม่อยากคลาย หรือปล่อยออก

“เออ..ไม่ค่ะ…ขอโทษค่ะ ฉันซุ่มซ่ามอีกแล้ว” เภตราก้มหน้าเก้อ ๆ เสียงกระซิบแผ่วหวานนั้นทำให้ เธอเริ่มไม่อยากสบตาคู่นั้นเสียดื้อ ๆ
ความรู้สึกอบอุ่น สบายเมื่อครู่ ค่อย ๆ เริ่มกลายเป็นความเขินอาย และเหมือนจะให้ความรู้สึกที่รุ่มร้อนขึ้นมาแบบผ่าว ๆ ไปทั้งหน้าและตัว

“คุณไม่ได้นัดข้างล่างหรือคะ ฉันนึกว่าคุณล้อเล่น และกลับไปนอนแล้ว” หญิงสาวขยับตัวให้ยืนได้เอง โดยไม่ถ่ายน้ำหนักไปยังธันวาเหมือนเมื่อครู่ รู้สึกเหมือนอ้อมแขนนั้นไม่ได้คลายลงสักเท่าไร

“อ่อ!…เอ่อ!…ตอนแรกนัดที่ระเบียงนั่นแหละ แต่ฟ้าปิด ไม่เห็นอะไร ผมเลยพิมพ์เปลี่ยนเป็นห้องใต้หลังคา คุณคงไม่เห็นล่ะสิ ผมขึ้นไปหากล้องดูดาว เผื่อคุณอยากดู”

ดวงหน้านั้น จมูกนั้น รอยยิ้มนั้น… ทำเขาปั่นป่วนจนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ บางสติกำลังเตือนว่า เขากำลังกอดผู้หญิงของน้องชาย ซาตานและเทวดากำลังอยู่ที่แขนข้างซ้าย และข้างขวา พร้อมที่จะรบกันเต็มที่

แน่ละระเบียงชั้นล่าง กับห้องใต้หลังคาแบบนี้ ความส่วนตัวมันต่างกันอย่างมากมาย

“ฉันตามหาให้ทั่วบ้านเลย ไม่คิดว่าคุณขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา…ฉันอ่านไม่หมดจริง ๆ แหละ” หญิงสาวพูดราวกับพึมพำ ส่ายหน้าช้า ๆ รู้สึกแปลก ๆ เมื่อวงแขนด้านหลังเริ่มเหมือนจะค่อย ๆ คลายออก

“ขอโทษทีครับ ผมนึกว่าจะแป๊บเดียว แต่กว่าจะหากล้องเจอ ผมไม่ได้ใช้นานแล้ว กว่าจะตั้งกล้องใหม่ คงเสียเวลานาน เลยจะลงมาบอกว่าไว้คราวหน้าแล้วกัน”

ในที่สุดคราวนี้ เทวดาข้างซ้าย ก็เตะซาตานตัวจ้อยไปได้อีกวูบ เขาค่อย ๆ คลายวงแขนทั้งสองลงอย่างช้า ๆ

“คุณมีกล้องดูดาวด้วย ไม่เคยขึ้นไปบนห้องใต้หลังคาเลย” เธอมองเลยไปตามขั้นบันได น่าแปลกที่เธอไม่เคยคิดไปตามหาเขาข้างบนนั้น เธอไม่ได้สนใจงประตูบานนี้เลย

แล้วจู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาเสียงดังซู่ใหญ่ ก่อนผ่อนเสียงเบาลง

“ฝนตกจนได้...” ธันวาเสเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความรู้สึกของตัวเอง...

“งั้นก็เปลี่ยนมาดื่มกันริมระเบียง ดูสายฝนดีกว่านะ” เภตรายิ้มใส ดวงตาเป็นประกาย เธอกำลังมีความสุข อย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน

“อึมม์ ผมมีที่ ที่ดีกว่านั้น...คิดว่าคุณต้องชอบแน่ “ ธันวาพูดจบถือวิสาสะดึงแขน เธอขึ้นมาบันไดทางขึ้นห้องใต้หลังคา

คราวนี้ซาตานเหมือนจะได้ใจ สิงเขาไปเป็นที่เรียบร้อย


ห้องโล่ง ๆ มันว่างโล่งเป็นห้องเก็บของที่เป็นระเบียบ ดูดี มันกว้างเสียจนเนรมิตให้มันเป็นอะไรก็ได้ กลางห้องเป็นพรมหนานุ่มผืนใหญ่ มีหมอนอิงสามสี่ใบ

เธอเห็นกล่องกล้องวางกระจัดกระจายอยู่ตามที่เขาว่า หลังคากระจก ใส เภตราเดาว่ามันสามารถเปิดได้ แต่ถึงจะเปิดไม่ได้ เธอก็มองเห็นท้องฟ้ามืด ๆ ได้อย่างชัดเจน จนนึกอยากปีนขึ้นไปยืนบนหลังคาเสียอย่างนั้น

“เสียดาย ผมยังประกอบใหม่ไม่เสร็จเลย”

มันช่างเป็นห้องดูดาวที่แสนวิเศษ หรือเป็นห้องดื่มเบียร์ยามฝนตก เธอเห็นตู้เย็นเล็ก ๆ ที่ข้างห้อง เธอเริ่มชอบห้องนี้ขึ้นมาแล้วเสียจริง ๆ

ธันวาดึงมือเธอไปที่ประตูอีกด้าน มันเปิดออกไปเป็นระเบียงเล็ก ๆ ไม่กว้างมากนัก มีชายคายื่นออกไป จนเห็นสายฝนไหลมาราวกับผ้าม่าน

อีกด้านเป็นบันไดลงไปชั้นล่าง คล้าย ๆ บันไดหนีไฟนอกอาคาร เพียงแต่มันไม่ได้เป็นบันไดราวเหล็กที่น่ากลัวกับการขึ้นลง และมันก็ถูกบังไว้อย่างดีจนเธอไม่เคยสังเกตเห็นจากหน้าบ้านเลย

“โอ้… เหมือนอยู่บนหลังคาเลยนะคะนี่”

“ผมชอบระเบียงนี้ มันให้อารมณ์ ปลีกวิเวกดีเหมือนกัน คุณนั่งตรงนี้นะ ผมจะไปเอาเบียร์”

ธันวาเดินกลับไปข้างใน ซาตานและเทวดายังต่อสู้กัน คราวนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ

มันก็แค่เป็นความสุขในอีกช่วงเวลาหนึ่งที่เขาสัมผัสได้ และเขาจะเก็บมันไว้อย่างมีค่าที่สุด ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากนกไนติงเกลยอมให้หนามกุหลาบทิ่มแทงที่ขั้วหัวใจ อย่างน้อยกุหลาบดอกนั้นก็ได้กลายเป็นสีแดง…




แม้ระเบียงจะไม่กว้างนัก แต่ก็ให้ผู้หญิงขายาว ๆ อย่างเธอนั่งเหยียดขา หรือชันเข่าได้สบาย ราวระเบียงเป็นแสตนเลสเหมือนประตูรั้วหน้าบ้าน

แม้วิวตรงนี้จะไม่สวยนัก เพราะอีกฝั่งเป็นหลังคาบ้านในละแวกเดียวกัน แต่เธอก็เห็นท้องฟ้า และแพรสายฝนได้อย่างชัดเจน ลมเย็น ๆ พัดโชยมา ให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นอีกครั้ง

หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มส่งเบียร์มาให้ เสียงขวดกระทบกันคลอกับเสียงฝนอย่างได้บรรยากาศเป็นอย่างดี

ธันวาเลือกนั่งบนราวระเบียง ซึ่งเธอไม่มั่นใจว่า หากเขาหงายหลังตกไป เธอจะคว้าเขาได้ทันหรือไม่…

แต่เพื่อความเท่าเทียม หญิงสาวหัวเราะร่า เหมือนเริ่มรู้จักนิสัยผู้ชายคนนี้ดี เภตราลุกขึ้นมายืนพิงระเบียงบ้าง และมันก็ได้ผลอย่างน้อยเขาก็ยอมไล่เธอลงมานั่งที่พื้นระเบียงเช่นเดียวกับตัวเขา

แล้วเรื่องคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ก็พรั่งพรูออกมามากมาย ราวกับค่ำคืนนี้ไม่มีวันสิ้นสุด

มันช่างเป็นคืนดื่มเบียร์กับบรรยากาศอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยจริง ๆ …




วันนี้เภตรานั่งหาวอยู่หลายตลบ เมื่อคืนกว่าทั้งเธอและเขาจะจบการสนทนา ร่ำเบียร์ ชมม่านฝนก็ปาเข้าไปเกือบตีสาม ฝนยังคงตกบาง ๆ ไม่ยอมหยุด

แต่มันก็ทำให้เธอหลับสบาย จนมาถึงที่ทำงานเก้าโมงกว่า สายกว่าวันก่อน ๆ ที่เธอมักจะมาถึงที่ทำงานแต่เช้า แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นพร้อมจะเผชิญกับวันใหม่ได้เป็นอย่างดี

ไม่มีเมลของอันย่าตอบกลับมา ไม่มีเมลของเมษา แต่ยังมีเมลของผู้ปรารถนาดี รวมทั้งเมลของคนเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเมษาอยู่เหมือนเดิม จนเธอเลิกสนใจเปิดอ่าน มันกลายเป็น เรื่องขำ ๆ ไปแล้วสำหรับเธอ

อดรู้สึกไม่ได้ว่าทำไมมีคนแสดงตัวกับเธอมากขนาดนี้ บางทีเธอควรจะเลิกใช้เมลนี้ การที่มีอีเมลแอดเดรสของที่ทำงานโชว์อยู่ในหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานที่แฟรงก์เฟิร์ตก็ไม่ได้มีประโยชน์สักเท่าไร

เธอตัดสินใจส่งเมลไปบอกแฮร์โรแบร์ ปิดกล่องเมลของเธอชั่วคราว วิธีนี้คงจะไม่ทำให้เธอต้องมาเจอสภาพแบบนี้อีก ใช้เพียงเมลของสำนักงานกรุงเทพฯ และเธอก็ทำงานต่อไปอย่างสบายใจมากกว่าเดิม

“คุณเภตราคะ คุณวรรณิศามาขอพบค่ะ เธอบอกว่าไม่ได้นัด แต่คิดว่าคุณจะให้พบ จะให้บอกว่าอย่างไรดีคะ” พัชรีโทรศัพท์เข้ามาถาม ทำอย่างไร เธอจะพ้นจากเรื่องวุ่นวายตรงนี้ แต่ละคนนี่ช่างว่าง ไม่มีอะไรทำกันหรืออย่างไรนะ

“เดี๋ยวดิฉันออกไปพบสักแป๊บก็ได้ค่ะ” เภตราไม่แน่ใจว่าความคิดของตัวเองถูกต้องดีหรือไม่ ธันวาก็ไม่อยู่ให้ปรึกษาเหมือนอย่างเคย แต่การหลบหน้า ก็ไม่ใช่วิสัยของเธอเช่นกัน


“แวะผ่านมาค่ะ เลยจะมาชวนคุณเภตราไปทานข้าว พี่ธันว์ไม่อยู่สิคะ” ผู้หญิงตรงหน้า ยังคงสวย เปรี้ยวจี้ด ในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ลายจุดขาว แว่นตาอันโต ผมยาวเป็นลอนตามสมัยนิยม อดไม่ได้จะคิดว่า หากเธอมีหมวกขาวอีกสักใบ คงทำให้เธอยิ่งน่าสนใจมากกว่านี้

“รู้สึกจะมีประชุมข้างนอกค่ะ คุณวรรณิศาจะรอคุณธันวาด้วยหรือคะ”

“โอ๊ะ ไม่หรอกค่ะ คุณเภตราออกไปทานข้าวเลยได้มั้ยคะ นี่สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว” วรรณิศาเงียบไปชั่วขณะ ราวกับจะรอให้เภตราตอบตกลง แต่เธอก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

หญิงสาวหันไปมองนาฬิกาด้านหลังรีเซฟชั่นที่กำลังยิ้มให้กับเธอ ราวกับกำลังฟังบทสนทนาของเธอกับวรรณิศาอยู่อย่างตั้งใจ

“พอดีมีเรื่องคุยนิดหน่อยไม่กวนเวลาคุณเภตรานานหรอกค่ะ พอดีศามีงานเดินแบบตอนบ่ายสอง…”

“งั้นไปหาอะไรทานแถว ๆ นี้นะคะ ดิฉันไม่ทราบว่าตอนบ่ายจะมีงานด่วนอะไรจากเยอรมันหรือเปล่า” บางทีเธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอคิดผิดหรือถูกกันแน่



การนั่งทานมื้อกลางวันกับวรรณิศา ทำให้เภตรากลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งตึก แม้ในร้านอาหารชั้นล่างของตึกแห่งนี้จะมีคนน้อย เนื่องจากเป็นร้านอาหารฝรั่ง ตกแต่งอย่างหรู และราคาค่อนข้างแพง แต่การนั่งอยู่ที่โต๊ะติดริมบานกระจกใส คนที่เดินผ่านไปมา ต่างก็แอบชี้ หรือทำท่าบุ้ยใบ้ให้มองเข้ามา เหมือนเป็นของแปลกในกระจก อย่างในตู้กระจกของสวนสัตว์อย่างไรอย่างนั้น

และมันเริ่มทำให้เภตรารู้สึกอึดอัดมากมาย ดีหน่อยที่แอร์เย็น เพลง
คลาสสิคเบา ๆ ทำให้เธอผ่อนคลายลง จนเลิกสนใจคนข้างนอกอีกต่อไป

เภตราเลือกสั่งเพนเน่ซอสครีมกุ้งล็อบเสตอร์ อย่างง่าย ๆ กับน้ำแตงโมปั่น ขณะที่วรรณิศาสั่งเพียงสมูธตี้แครนเบอร์รี่แทน

“อาหารกลางวันหรือคะ” เภตราถามไปเพราะอดประหลาดใจไม่ได้ เธอดีใจที่ไม่เคยมีความคิดของการเป็นนางแบบ ดาราอยู่ในสมอง แล้วต้องมาอดอาหารแบบนี้

“ค่ะ ทานแบบนี้ล่ะค่ะ ทานอย่างคุณเภตราไม่ได้หรอก อ้วนแล้วไม่มีงาน แย่เลย” ขนาดทำหน้ารังเกียจความอ้วนอย่างนั้น เภตราก็ยังรู้สึกว่าวรรณิศาเป็นคนสวย แม้จะแต่งหน้าจัดก็ตามที

เธอได้แต่ยิ้ม ๆ พลางลอบสังเกตท่าทีของหญิงสาวตรงหน้า วรรณิศาจะมาไม้ไหนกัน ช่างมีความพยายามเสียจริง ๆ เมื่อคราวที่แล้วยังไม่สำเร็จ เพราะมีธันวา และอรัญเป็นคนขวาง คราวนี้เธอคงปล่อยระเบิดได้อย่างเต็มที่

“เมษไปญี่ปุ่นกับยายบุษ คุณเภตราทราบหรือเปล่าคะ” เสียงใสเจื้อย ๆ พูดเหมือนไม่เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็ทำให้เภตราแทบสำลักน้ำในแก้วที่กำลังดื่มอยู่พอดี ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัวรับมือว่าพร้อมอยู่แล้ว

“เขาไปเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ ไปกันสองคน อยู่กันตั้งสองอาทิตย์…ว่าแล้ว ว่าคุณเภตรายังไม่รู้ ศาเลยรีบมาบอกนะคะ” ดวงหน้าคนเล่านั้นเรียบเฉย ส่วนเภตราได้แต่เม้มปากแน่น รู้สึกถ่วง ๆ ในหัวใจ เริ่มเข้าใจว่าทำไม
เมษาหายหน้า หายเสียงไป เขาไม่บอกเธอเลย

“เด็กในร้านเสื้อของยายบุษบอกกับศาเองเลยนะคะ น่าโกรธจริง ๆ เมษนี่ไม่ค่อยบอกอะไรเลย ต้องให้รู้เอง” วรรณิศายังคงเล่าไปได้เรื่อย ๆ ด้วย
สปีดเสียงที่กันยาได้ยินคงกรี้ดใส่

แต่สำหรับเภตราเธอหูอื้อ มึนหัวใจไปเรียบร้อยแล้ว ดีที่เพลงในร้านเป็นเพลงบรรเลงเบา ๆ ไม่เช่นนั้นคงแสบหูไม่แพ้กับเสียงของวรรณิศา

“เมษไม่ได้บอกคุณเหมือนกันละสิ” น้ำเสียงนั้นจะทับถมก็ไม่เชิง จะเยาะเย้ยก็ไม่ใช่ เภตราไม่แน่ใจ ความคิดของผู้หญิงตรงหน้า เธอมาเป็นคนแจ้งข่าวสารธรรมดาเฉกเช่นผู้ปรารถนาดี หรือจะตั้งใจเล่นตลก หรือมาระเบิดพลีชีพกับเธออีก

“เขาว่าลุงพิศาลจัดการ เพราะไอ้ข่าวซุบซิบเกี่ยวกับคุณนั่นแหละ ลุงแกไม่ค่อยชอบใจ ไม่รู้ใครไปให้ข่าว แต่ก็ดี มีคนติดต่องานมาหาศาอีกจมเลย”

“ข่าวซุบซิบ !? ของฉัน? “ เภตราขมวดคิ้ว

“อ้าว! ไม่มีใครบอกคุณเภตราหรือคะ ข่าวซุบซิบไฮโซลงในหนังสือพิมพ์ ว่าตอนนี้คุณเป็นม้ามืดติดอันดับมาแรง” คนพูดตาโต รีบบอกทันทีอย่างตื่นเต้นมากมาย

“ม้ามืดติดอันดับมาแรง?” เภตราทวนคำอย่างง ๆ กับสำนวนของวรรณิศา แม้เธอจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่อง แต่เธอก็ไม่ค่อยจะเข้าใจในความหมายลึก ๆ จริง ๆ สักเท่าไร

“ก็กับเมษา” วรรณิศาบอกหน้าตาเฉย ตามสไตล์ที่เภตราเริ่มคุ้น ข่าวใหม่ที่เธอได้ยิน ทำให้เธอพอเข้าใจ กับท่าทีสนใจเธอเป็นพิเศษของคนในที่ทำงาน แต่ก็ไม่มีใครพูด หรืออธิบายให้เธอเข้าใจ

“คุณลุงชอบถือท้ายเชียร์ยายบุษนัก ศาล่ะไม่ชอบเลย…ดูเหมือนคุณไม่โกรธ หรือคะ” วรรณิศาเอียงคอ ถาม นัยน์ตาใส ราวกับกำลังโพสต์ท่าถ่ายแบบ

“ทำไมฉันต้องโกรธล่ะ คุณวรรณิศาก็ไม่เห็นโกรธเลย” เภตรารีบย้อนกลับ เธอเริ่มรู้วิธีสื่อสาร และโต้กลับกับผู้หญิงคนนี้แล้ว

“โกรธค่ะ โกรธมาก โกรธจริง ๆ นะ แบบนี้มันไม่แฟร์ ที่ยายบุษชอบเข้าทางคุณลุง แล้วเมษก็ปฏิเสธคุณลุงไม่ได้อยู่แล้วด้วย” น้ำเสียงที่บอกว่าโกรธ เหมือนเธอโกรธจริง ๆ เหมือนใครกำลังบอกว่าถึงอารมณ์โกรธ แล้วต้องโกรธในทันที

“แน่ละ พ่อยายบุษเขาคนใหญ่คนโตในวงการส่งของ เอ้ย! ส่งออก มีหรือ
ตาลุงพิศาลจะยอมให้เสียสัมพันธ์ไปได้ง่าย ๆ” วรรณิศายังคงพูดด้วยอารมณ์โกรธติดตลกของเธอ พร้อมกับดูดสมูธตี้ ที่บริการเอามาเสิร์ฟ พร้อมกับน้ำแตงโมปั่นของเภตรา

“เป็นศาไม่นะ ไม่ต้องใช้ตัวช่วย ต่อให้คะแนนตก ศาก็มีวิธีตีกลับคืน ศารู้วิธีเอาใจเมษ” คนพูดพูดหน้าตาเฉย ราวกับภูมิใจมากมาย จนเภตรารู้สึกขบขันในท่าทีของเธอ

“ยังไงเมษก็ต้องกลับมาหาศา” หญิงสาวยักไหล่ มั่นใจเหมือนไม่แคร์ ราวกับมีท่าไม้ตายประจำตัว

เภตราอยากหัวเราะ นี่เมษา หรือธันวาจะรู้สึกอย่างไร หากรู้ว่าเธอมานั่งคุยกับวรรณิศาอยู่แบบนี้ เอาละคัมภีร์แห่งการศึก บอกเสมอว่ารู้เขารู้เรา รู้เขาร้อยครั้ง รบชนะร้อยครั้งนี่นา

“ถ้าศาแพ้ แพ้ให้คุณเภตรา ศาว่ายังดีกว่า ที่จะแพ้ให้ยายตุ๊กตาหิน
ฟอสซิลตายซากอย่างยายบุษ” วรรณิศายังคงพูดอีกเรื่องเจื้อย เภตราเริ่มขำมากขึ้น

เธอเริ่มมั่นใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันวรรณิศายังคงเป็นพันธมิตรกับบุษมาส ร่วมมือกันสังหาร ไล่ล่าเธออยู่เลย

“ยายนั่นก็ดีแต่อาศัยตัวช่วย เชื่อเหอะค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะลุงพิศาล ไม่ใช่ตระกูลของหล่อน เมษาก็ไม่มีวันแลยายบุษ” วรรณิศาคงความเป็นนางแบบได้อย่างดี ใครที่เดินผ่านกระจกไป เธอก็พร้อมจะยิ้มรับ สะบัดนิ้วทักทายได้อยู่ตลอดเวลา ราวกับมีปุ่มอัตโนมัติ แม้เธอจะพูดถึงบุษมาสอย่างไม่พอใจอยู่ก็ตาม

อาหารของเภตรามาวางอยู่ตรงหน้า เธอเริ่มจะกินไม่ค่อยลง ยอมรับว่าข่าวสารที่ได้จากวรรณิศา เป็นข้อมูลใหม่ แม้มันจะไม่กระเทือนความรู้สึกของเธอสักเท่าไร แต่มันก็ทำให้เธออิ่มไปแล้วค่อนท้อง

“แล้วกับคนอื่น ๆ “ เภตรานึกไปถึงอีเมลปริศนาหลายต่อหลายฉบับ ที่ล้วนแล้วแต่ยืนยันความเป็นเจ้าของเมษา

“คนอื่น ๆ ? ใครหรือคะ เดี๋ยวนี้ยังมีอีกหรือ…ไม่น่ามีแล้วนะ”

“เด็ก ๆ บางคนยังเหมือนเป็นเด็กนักเรียน บางคนก็เหมือนผู้ใหญ่แล้ว บางคนก็เป็นชาวต่างชาติ” เภตราพยายามรวบรวมคนที่เธอสงสัย ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอถึงเลือกถามกับวรรณิศา

“อ่อ! โอ๊ย! เบี้ยใบ้รายทางของเมษา พวกนั้นผ่านชั่วแว่บน่ะ เวลาศายุ่ง ๆ บินไปเดินแบบ ถ่ายแบบเมืองนอก หรือไปต่างจังหวัด หรือเวลาเมษเดินทาง เขาไม่มีใคร เมษก็เปะปะไปเรื่อยตามนิสัยค่ะ” วรรณิศาจิบน้ำเย็น ก่อนพูดต่ออย่างปกติ

“เหมือนที่เขาจีบคุณนั่นแหละคุณเภตรา เมษเป็นอย่างนี้ ขาดผู้หญิงข้างตัวไม่ได้” น้ำเสียงเรื่อย ๆ ก็พาดกระทบมาถึงเภตราจนได้ เธอวอนถามเองแท้ ๆ

“ศาถึงไม่เชื่อไงคะ ว่าเมษกับคุณไม่มีอะไรกัน” วรรณิศาหัวเราะคิกคัก ราวกับถูกแจ็คพอตรางวัลใหญ่

“ดิฉันกับเมษาไม่มีอะไรกันจริง ๆ เขาก็แค่มาจีบฉัน…ก็คงเหมือนเบี้ยใบ้รายทางอย่างที่คุณว่า” เหมือนว่าตัวเองกำลังแก้ตัว

“แต่คุณก็ชอบเขาแหละ ไม่มีใครที่ใกล้ชิดเมษแล้วจะไม่ชอบ เมษเป็นคนมีเสน่ห์ ปากหวาน เจ้าคารม เอาใจเก่ง และเมษก็ชอบผู้หญิงทุกคนที่เขาเลือกจริง ๆ เมษเลือกนะคะ ไม่ได้สะเปะสะปะ ถึงจะเปะปะไปบ้าง แต่เขาก็เลือกผู้หญิง” คำพูดแบบวงแตกของวรรณิศายังคงมีออกมาเรื่อย ๆ

หากเธอเป็นคนขึ้หึง หรือความอดทนน้อยอย่างกันยา เธอก็คงได้ลุกกลับขึ้นข้างบน หรือทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราวไปแล้ว

น่าแปลกที่เภตรากลับไม่รู้สึกโกรธผู้หญิงตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่เธอเข้าใจดีว่าสิ่งที่วรรณิศากำลังทำอยู่ ขณะนี้ ก็คือการให้เธอถอยทัพเลิกลาไปเอง

“เมษเหมือนคำสาป เข้าไปแล้วก็เหมือนติดกับ คุณมาอยู่ในอันดับ จะเข้าจะออก จะไปไหน จะมีใครใหม่ก็ไม่ได้ เมษไม่มีวันยอม แต่หลายคนก็ยังอยากดิ้นรนอยู่ในกรง มาอยู่บนชั้นของสะสมของ เมษ… เมษาชอบสะสม…” วรรณิศายังคงพูดอะไรอีก แต่เภตราไม่นึกอยากจะฟังต่ออีกแล้ว เพราะมันเหมือนความคิดของผู้หญิงคนนี้ด้านเดียว

ต่อให้วรรณิศาจะปั่นหัวของเธอแค่ไหนก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่เธอได้รู้จัก ได้เรียนรู้เมษา เธอเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นความจริง เมษาเป็นอย่างนั้นจริง ๆ และการกระทำของเขาก็เป็นความจริง มันถูกต้องอย่างที่วรรณิศาพูดทั้งหมด

นี่ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ ที่พร้อมด้วยพยานบุคคล และหลักฐานมากมาย

เภตราสะท้อนในอก เธอเริ่มระบมกับบาดแผล แม้แผลตรงนั้นจะยังคงความเจ็บอยู่ก็ตาม โชคดีที่มันยังไม่เจ็บบาด ปวดลึกไปมากกว่านี้

“แต่คุณเองก็รักเมษา” เภตราแปลกใจที่ตัวเอง เลือกคำพูดนี้มาโต้กลับ หญิงสาวเห็นดวงตาคู่สวยภายใต้แผงขนตางอนยาว สลดวูบไปชั่วแว่บ แต่มันก็แว่บเดียวจริง ๆ ก่อนหัวเราะเสียงใสราวกับกำลังกลบเกลื่อนหลักฐาน

“มีใครบ้างจะไม่รัก ไม่ชอบผู้ชายอย่างเมษา หึหึ… ศาก็แค่ยังไม่เบื่อเมษเท่านั้น ศาถึงไม่แคร์ บอกแล้วไงคะ”

“ไม่สิคะ รักน่ะค่ะ รักที่พร้อมจะเป็นครอบครัว เป็นคู่ชีวิต” พูดออกไปแล้วก็ให้รู้สึก ว่าตัวเองไม่น่าถามไปแบบนั้นเลย

“ผิดไปล่ะค่ะคุณเภตรา มันคนละเรื่องเลย เมษาไม่ใช่แฟมิลี่แมน โอ๊ย! ไม่ใช่เลยค่ะ เมษาไม่เคยรักใครมากถึงขนาดจะกล้าแต่งงานหรอกค่ะ เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้แน่ ๆ เชื่อได้เลยค่ะ ไม่มีทาง เมษาไม่มีวันขอใครแต่งงานแน่ ๆ …ศาขอยืนยัน!! “


...โปรดติดตามตอนต่อไป...





***
เพลงหวาน ๆ ได้อารมณ์คนเขียนแบบนี้ “Let’s get together" ของนักแต่งเพลง และนักร้องอย่าง Al Green อีกหนึ่งตำนานของเพลงโซล และ R&B แม้จะเป็นเพลงเก่ามาตั้งแต่ปี ’71 แต่เชื่อว่าเพลงนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเพลงรักในใจของนักฟังเพลงอยู่ดี

เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 Top U.S. Pop Hit Singles อันดับ 8 ประเภทอัลบั้ม และอันดับ 7 ใน UK Chart ในปี '72

ความจริงบทนี้มีเพลงเข้าคิว และเข้าอันดับอยู่หลายเพลง ประมาณคนเขียนหลายอารมณ์มาก แต่ในที่สุด ทนความค่อย ๆ ร้อนของคุณปู่ Al Green ไม่ได้

อิอิ เพลงเก่าแต่ก็เป้นตำนานนะ

รู้สึกกับเพลงนี้ แบบนี้จริง ๆ จากเย็น เป็นอุ่น จากอุ่นเป็นร้อน โอ้ เย้ อารมณ์นี้ใช้สำหรับบทนี้ได้เลย






Create Date : 31 สิงหาคม 2551
Last Update : 31 สิงหาคม 2551 22:54:44 น. 43 comments
Counter : 519 Pageviews.

 
วันนี้มืดอีกตามเคย เตรียมขออภัยไว้เลย หากมีตัวอักษรผิด ทั้งภาพ ทั้งเพลงที่ดังมาก เสียงดีเกินเหตุ
หรี่เอาหน่อยแล้วกันนะคะ ไม่รู้จะดังจนรบกวนคนอ่านมากกว่าเพราะหรือเปล่านี้ ยังไงก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ

พรายทรายไม่คุ้นเลยกับโน้ตบุ้คเครื่องนี้ ทั้งคีย์บอร์ด ทั้งเมาส์ ทั้งหน้าจอ ทั้งโปรแกรมที่ลงใหม่ก็ไม่เหมือนเดิมที่เคยใช้อยู่

แต่ก็โชคดีที่ไม่ปะจนดึกมากมาย

พรุ่งนี้เพื่อนมาซ่อมเครื่องใหญ่แล้ว พรายทรายจะจัดการให้เข้าที่เข้าทางนะคะ





โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:19:16:24 น.  

 
ขอพรายทรายไปหม่ำ ๆ ก่อนนะคะ

เดี่ยวมาปะเนื้อเพลง และแก้บรรทัดอีกที

อ่านอย่างมีความสุขนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:19:49:21 น.  

 
Let's stay together: Al Green

I, I'm so in love with you,
whatever you want to do,
is alright with me,
'cause you make me feel
so brand-new,

I want to spend my life with you,
they say it seems, baby,
since we've been together,
loving you forever,
is what I need.
Let me be the one you come runnin' to,
I'll never be, ah, untrue,

Ooo baby,
Let's... Let's stay together,
loving you whether, whether,
times are good or bad,
happy or sad,
whether time are good or bad,
happy or sad.

Why, somebody?,
Why do people break up,
and turn around and make up?
I just can't see.
You'd never do that to me
(would you baby)?
Being around you,
is all I see.

Here's what I want to do:
Let's... Let's stay together,
loving you whether, whether,
times are good or bad,
happy or sad.

(come on)
Let's... Let's stay together,
loving you whether, whether,
times are good or bad,
happy or sad...


โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:20:05:41 น.  

 
พอปะเสร็จ ลองเปิดเครื่องใหญ่ตั้งโต๊ะ
เมาส์ก็ใช้ได้เฉย เอาใจไม่ถูกจริง ๆ

สองวันกับการเป็นปลาทูหน้างอ คอหัก หือ หือ

นี่ยังไม่หายปวดคอเลยนะคะนี่

หวังว่าเพลง และ พื้นหลัง พรายทรายปรับให้หมดแล้ว

ต้องขออภัยให้เพลงที่หวานดังสะจนแสบหู นี่ปรับเยอะแล้ว แต่ก็ยังดังอยู่เล็กน้อย

สรุปว่าต้องโทษเจ้าตัวเล็กตั้งตักนั่น เสียงดีเกินเหตุ แหะ แหะ



โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:21:43:20 น.  

 
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ หอบเอาหัวใจอ่อนแรง มาเที่ยวบ้านคุณพรายค่ะ...สบายดีนะคะ


โดย: teansri วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:21:54:41 น.  

 
คุณเทียนสี

สวัสดีค่ะคุณเทียนสี มาวันนี้หัวใจเลยตีฟูใส่ครีม ลอยฟ่องเลยนะคะ

หวังว่าจะทำให้คุณเทียนสีสดชื่น สดใสขึ้นนะคะ

ตอนนี้พรายทรายได้กลับมาอยู่เครื่องตั้งโต๊ะแล้ว
สบายคอขึ้นเยอะเลยค่ะ

ตุณเทียนสีพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ ด้วยความคิดถึงค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:22:01:14 น.  

 
ท่าทางคุณศาคงกะจะน็อคดาวน์เภตราเต็มที่สินะ =''=

แต่เท่าที่ดู เหมือนจะเป็นสอนหนังสือให้สังฆราขเสียมากกว่า


โดย: waidhaya วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:22:17:29 น.  

 
หากใครอ่านไปแล้ว ต้องขออภัยอย่างที่แจ้งไว้
คำผิดตกหล่นอื้อซ่า หือ หือ เข็ดแล้วเจ้าตั้งตัก

มึนค่ะ แต่จะมาตรวจซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ หวังว่าคงมีตกหล่นน้อยหล่น

ไม่รู้ว่าเครื่องใหญ่นี้จะงอแงอีกหรือเปล่า
แต่เซ็งจริง ๆ เหมือนรู้ตัวว่าจะโดนฟอร์แมทก็ใช้ได้ดี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มีความสุขกับค่ำคืนวันอาทิตย์สิ้นเดือนสิงหาคมนะคะ

เวลามันช่างติดปีกไวเสียจริง ๆ


โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:22:58:15 น.  

 
คุณ waidhaya

สวัสดีค่ะคุณ waidhaya

วรรณิศาเธอติดตามผลงานการทำลายล้าง
เวลาเธอว่างมากอย่างที่ยายหนูเภตราคิดนั่นแหละ

สภาพจิต สภาพสติ หลักฐานเหตุผลมากพอที่เธอจะไม่โดนปั่นหัว หรือเสียใจอีกง่าย ๆ แล้ว

ช่วยกันลุ้น แคะแงะนายเมษออกจากใจยายหนูเภไปสะทีเนอะ


โดย: พรายทราย วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:23:35:10 น.  

 
เปิดมาก็หวานกำลังเพลินๆให้เเฟนคลับลุงธันว์ได้อมยิ้ม
ด้วยความปลื้มว่าอย่างน้อยก็ไม่ทำให้ลุงเเกต้องรอเก้อ
หรือมีเเต่ฉาก(ใจ)บาดเจ็บอยู่เรื่อย ประมาณโดนเรียก
ให้เล่นเป็นเเต่บทพระรองเพียงสถานเดียว หุๆๆ

กำลังอมยิ้มอิ่มเอมใจ ก็โดนยัยนางเเบบเล่นบทนางร้าย
เเม้จะร้ายพอเบาะๆ เเต่ก็เล่นเอาหนูเสียมู้ด กรี๊ดดด
ไม่รู้จักโผล่มาให้ถูกจังหวะถูกที่ทางนะยะ
อิๆๆๆ หนูอินค่า...


ปล พี่พรายหายเจ็บหายไข้หรือยังคะ หนูเป็นห่วงน้า
ขนาดไม่เสบยยังต้องเข็นเรือสำเภาออกมาลอยลำ
ให้ได้ตรงตามเวลา

พอดีเห็นเเว่บๆ ว่ามีผู้อ่านท่านนึงเรียกเเม่สำเภา
หนูเลยขออนุญาตยืมมาใช้บ้าง อิๆๆๆ


โดย: ใยบัว.. มาดึกเลย IP: 203.132.66.19 วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:1:36:23 น.  

 
คุณพรายขากลับมาขอบคุณสำหรับหนุ่มที่เอาไปฝาก แต่ว่า รักเดียวใจเดียวจริงๆค่ะ อิอิอิอิ


โดย: teansri วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:2:43:02 น.  

 
อ้าว คุณใยบัว สบายดีนะคะ ไม่รู้ว่าจะไปบ้านคุณใยบัวทางไหนไปเยี่ยมไม่ถูกค่ะ


โดย: teansri วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:2:44:04 น.  

 
สวัสดีเดือนกันยาค่ะ

วันนี้พรายทรายยุ่งมากมาย ขอแอบปะโป้งทดไว้กลับมาคุยนะคะ

แอบขอบคุณคร่าว ๆ น้องใยบัว และคุณเทียนสีนะคะ

เดี๋ยวกลับมาคุยอีกทีค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:17:00:57 น.  

 
ตอนที่ 17 แล้วหรือคะพี่อ้อ

ตูนขออนุญาตยึดพี่อ้อ(ประธานชมรม)เป็นกำลังใจ

นิยายแรกของตูนต้องจบให้ได้

สาธุ


โดย: ปณาลี วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:17:28:14 น.  

 
วันนี้งานยุ่งๆค่ะ ไว้มาอ่านนะคะ


โดย: Chulapinan วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:17:42:26 น.  

 
บางทีคนแก่อย่างธันวาก็เอาแน่เอานอนในอารมณ์ไม่ได้

จ๊ากกกก หนูเภ (สำเภา?) คิดอะไรอย่างง้าน ลุงธันว์ไม่แก่ซะหน่อย ไม่แก่จริงจริ๊ง ไงล่า อุ่นใช่ม้า อิๆๆ (โอ้ อ่านแล้วแอบอิจฉามากมาย งึ่มๆๆ)

ฉากห้องใต้หลังคา เคลิบเคลิ้มมากครับ เคลิ้มตั้งแต่หน้าประตู ดูเหมือนนายซาตานทำงานดีมากๆ นายเทวดาทานไม่ค่อยอยู่เลย อิๆๆ แต่เอาน่า ถ้าไม่จับไว้แน่นๆ เดี๋ยวสาวน้อยขาขวิดลงไปกองอยู่กับพื้นล่ะแย่เลย ลุงจับไว้ดีๆ นะคร้าบ (ทำไมเขียนถึงตรงนี้ แล้วนึกนายบาสนายบอลก็ไม่รู้ ลืมอีกแล้วว่าคนไหนชื่ออไร ฮ่าๆ)

หนูเภก็ชักจะเริ่มรู้สึกอะไรบ้างแล้วสินะครับ ความรู้สึกตอนนั้น ตอนลุงธันว์คลายอ้อมแขน มันเป็นลางบอกเหตุนะ ลั้นลา

วรรณิศาคราวนี้มาแบบทีเล่นทีจริง มิตรไม่ใช่ ศัตรูไม่เชิง เหมือนที่เขาบอก การเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวรรึเปล่าครับ คราวที่แล้วยังรุมถล่มอยู่เลย คราวนี้โมโหฝ่ายนู้น เลยมาจับมือ เอ๊ย เป่าหูฝ่ายนี้ซะ ขอให้เป่าดีๆ เลย หนูเภจะได้พ้นบ่วงซะที อิๆ

ส่วนนายเมษา เอ่อ คราวนี้คะแนนตกพรวดพราดลงไปอีก หายไปไม่บอกกล่าว จะมีโอกาสให้แก้ตัวบ้างมั้ยน้อ...


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:19:10:40 น.  

 

ก่อนอื่น ขอ copy ข้อความทั้งหมดของ
คุณพีทคุงในความเห็นข้างบนก่อนค่ะ
ขออนุญาตกินแรงหน่อยนะคะ

ลุงธันว์กับหนูเภฯ มีอารมณ์หวามไหว
คนอ่านก็พลอยอินไปด้วยเลยนะคะเนี่ย

ยังไงก็ตาม ดีใจที่ภูเขาน้ำแข็งในหัวใจของลุงธันว์
ผู้แสนดี กำลังละลายอย่างต่อเนื่อง
เป็นกำลังใจให้ลุงธันว์ได้พบกับความสุขเสียที
และขอให้ "กรรมเวรที่ต่อเนื่อง" วิ่งหลงทางหายไป
จากชีวิตลุงธันว์เสียที


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:6:38:44 น.  

 
น้องใยบัวจ๋า

จริง ๆ ก็อยากให้หวานมากกว่านี้นะคะ
แต่ก็อย่างที่ว่าไว้แล้วว่า ลุงธันว์ก็ยังเล่นบทพระเอกไม่ได้
เป็นเพื่อนผู้ช่วยนางเอกไปพลาง ๆ มันเลยได้แค่นี้
หวานมากไปเดี๋ยวรีบเลี่ยนแย่ จะหายเศร้ามากไปก็ไม่ใช่นิสัยลุงธันว์
เอาพอปากหอม ๆ แล้วกันนะคะ

มีหลายคนบอกเหมือนกัน เริ่มชอบวรรณิศา แบบเธอร้ายเหมือนคนหน่อย
ไม่ค่อยเหมือนร้ายเหมือนในละครทีวี ที่ร้ายมาตั้งแต่เกิดจนตาย เหอะ เหอะ
ว่าไปเวลาเธอออกมาก็ได้ซีน (แบบไม่ต้องแย่งซีน) ได้ใจคนอ่านอยู่ไม่น้อย
เริ่มชอบบุคลิกเอาตัวรอด ไหลไปได้ตามน้ำของเธอจริง ๆ

ช่วงนี้แปลก ๆ ค่ะ เจ็บข้อเท้ามาเฉยเลย จริง ๆ มันก็เจ็บบ่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่คราวนี้อยู่ ๆ ก็เจ็บ พอทานยาเยอะ ๆ ก็นอน นอน เพลียมากมาย
เห็นยาที่กินตอนนี้แล้วมึนสมองอยู่เหมือนกัน

รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ ความไม่มีโรคแสนจะสบายกายสบายใจ
เป็นลาภอันประเสริฐอย่างแท้จริง

อิอิ แม่สำเภา ว่าไปเข้าท่าเหมือนกัน เดี๋ยวเก็บไว้ให้ลุงธันว์เรียกด้วยความเอ็นดู
น่ารักดี


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:20:49:06 น.  

 
คุณเทียนสี

ดีจังค่ะ ที่ปลื้มใจเดียวรักเดียว พรายทรายปลื้มใจเดียวรักเดียวเป็นระยะ ๆ ค่ะ

เอิ๊กกกกก เค้าเก็บไว้เป็นพล็อตนิยายน่ะค่ะ ไม่ได้หลายใจเลยน้า จริง ๆ


แอบขอ นุญาตน้องใยบัวตอบคุณเทียนสีนะคะ
น้องใยบัวไม่มีบล็อกค่ะ เธอเลยมาแบบไม่มีล็อกอิน
ยุให้เปิดบล็อกเท่าไรก็ไม่ขึ้น งานเธอเยอะค่ะกว่าจะเข้าเน็ต

พรายทายรอลุ้นงานเขียนของเธอ เธอว่าจะมาฝากปะแถว ๆ นี้เหมือนกัน

คุณเทียนสีทักทายฝากข้อความไว้ที่นี้ได้เลยค่ะ
สตูดิโอริมหาด ยินดีเป็นที่พบปะพูดคุยอยู่แล้วค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:20:53:54 น.  

 
คุณปณาลี
ยังอีกไกลพอสมควรค่ะคุณตูน ยังไล่ตามพี่อ้อทัน
พี่อ้อเขียนแต่ละบทสั้น ไม่ยาวมาก
ไป ๆ มา ๆ มันเลยจะเหมือนแค่ 8 บท ทั่ว ๆ ไปละมั้งคะ 2 บททีถึงจะเคลื่อนไหว
นี่ก็เพิ่งจะขึ้นองก์ที่สองเองค่ะ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ ช่วย ๆ กันเนอะ
มาบ่นมาคุยได้ตลอดเวลานะคะ เอาใจช่วยค่ะ สู้ ๆ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:20:55:47 น.  

 
คุณ Chulapinan

ไม่เป็นไรค่ะ ว่าง ๆ เมื่อไหร่ค่อยอ่านก็ได้นะคะ ทดไว้อ่านพร้อม ๆ กันหลายบทก็ได้
ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ยุ่ง ๆ ก็อุตส่าห์แวะมาบอกกล่าวแบบนี้
ทำให้มีกำลังใจเขียนเพิ่มมากขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:34:46 น.  

 
คุณพีท

เหอะ เหอะ พี่อ้อโดนต่อว่านอกบล็อกเหมือนกันว่า ทำไมชอบย้ำให้ลุงธันว์แก่ แหะ แหะ

ความคิดเด็ก ๆ นะคะ คิดแทนยายหนูเภ สมัยก่อนตอนอายุยี่สิบหน่อย ๆ ก็รู้สึกว่าผู้ชาย 35 อัพ นี่แก่มากมาย เหอะ เหอะ

แต่เดี๋ยวนี้กลับยิ่งชอบคนแก่ ๆ อิอิ

คุณคูป Cupid นี่ก็ช่างแกล้งเนอะ ถ้าไม่ชน ไม่ล้ม คุณธันว์ (เปลี่ยนเป็นคุณดีก่าเนอะ) ก็คงไม่ได้สุขใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ได้เคลิ้ม ๆ เป็นพระเอกแบบบังเอิญบ้างเนอะ

เอาใจ เอาใจ คุณธันว์ (ฟังแล้วไม่สนิทเลย)

นายบอลคนโตค่ะ คนเล็กนายบาส อิอิ บางทีพี่อ้อก็ลืม ๆ เหมือนกัน อิอิ

เมล็ดพันธุ์แห่งความรักเริ่มงอกแล้วล่ะ ยายหนูเภเริ่มรู้สึกบ้างแล้ว แต่ยังประมวลผลไม่ชัดเจน ต้องให้ซาตานเขี่ยนายเมษให้ออกไปก่องเนอะ


วรรณิศาได้คะแนนไปเพียบ อย่างคุณพีทว่าแหละค่ะ เรื่องของศึกความรัก มันก็ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวรเหมือนกัน แหะ แหะ อย่าไปยุ่งกับเรื่องการเมืองเขาเลย
คนเราบางทีก็ทำอะไรได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ

เมษาพยายามแล้วนะคะ อุตส่าห์ตั้งใจโทรหาแล้ว เหอะ เหอะ แต่สงสัยฟ้าไม่เห็นด้วย เลยคลาดกันแบบนี้ คนเราบางทีถ้าไม่ใช่เนื้อคู่กัน มันก็มีเหตุให้ต้องห่างกันแบบนี้

อึมม์ โอกาสแก้ตัวหรือคะ เมษาทิ้งโอกาสเหล่านั้นไปเองนะว่าไปแล้ว ถ้าเมษาทำอะไรให้เภตรามั่นใจมากกว่านี้ คงลบล้างหลักฐานได้หนักแน่นพอ

คงต้องตามลุ้นกันต่อว่า ซาตานจะเตะนายเมษไปได้ไกลแค่ไหน อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:56:53 น.  

 
ธุค่ะ ป้าติ๋ว

อิอิ งั้นแสดงว่าป้าติ๋วคิดเหมือนคุณพีทเลยสิคะ
ขอบคุณค่ะ ที่คนอ่านเคลิ้มอินตามไปด้วย

ตาฤาษีอย่างลุงธันว์คงค่อย ๆ ร้อนขึ้นแล้ว
คนเขียนยังอยากให้น้ำแข็งละลายมากกว่านี้อีกสักหน่อย
พรายทรายว่ายังหวานไม่ได้ทีนะคะ หลายคนว่าเหมือนน้อยไปหน่อย
แต่ก็นั่นแหละเดี๋ยวให้หวานมากจะเว่อ หนูเภช็อคตั้งตัวไม่ทันพอดี
ให้ค่อยเป็นค่อยไปแบบสโลว์บัทชัวร์ ตามสไตล์ลุงธันว์

แต่ศึกหนักระหว่างเทวดา ซาตาน คงเล่นเกมไปอีกพักใหญ่
กรรมเวรที่สร้างกันมาต่อเนื่องแบบนี้ คงต้องใช้เวลาสักหน่อยนะคะ กว่าจะหมดเวรหมดกรรมต่อกัน
ว่าแต่ว่าใครจะอโหสิให้ใครกันหนอ
ลุงธันว์จะได้จัดชีวิตเข้ารูปเข้ารอยสักที เนอะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:23:04:10 น.  

 
ช่วงนี้พรายทรายมาตอบล่าช้าจริง ๆ
แถมยังไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมบ้านคนอื่น
ขอทดไว้สักเล็กน้อยนะคะ
แต่ยังไงก็ต้องแวะไปแน่นอนค่ะ

คืนนี้หลับฝันดี มีความสุข ตื่นมาสดชื่นสดใสรับกับวันใหม่นะคะ

เหนื่อยหนักกับสถานการณ์รอบ ๆ ตัว ก็พักผ่อนนอนบ้างแบบพรายทรายก็ดีนะคะ แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:23:08:29 น.  

 
โรคเจ็บเท้านี่มันติดต่อกันได้ป่าวคะ หนูถึงได้รับมาเต็มๆ
หุหุหุหุ พอดีใช้เท้าทำงานหนักไปหน่อย เพราะเด็กลาออก
กะทันหัน เด็กอีกคนก็โดนไข้หวัดใหญ่เล่นงานไม่จบสิ้น
มาทำงานไม่ได้ซะที (คนเดียวกะที่เอาเชื้อไวรัสวายร้าย
มาส่งมอบต่อให้หนูนั่นละค่ะ เอิ๊กกก)

หนูเลยต้องวิ่งวุ่นลุยเดี่ยวมันคนเดียวเนี่ย เห้ออออ
โชคยังดีอยู่นิดตรงที่รับเด็กใหม่เข้ามาทันเวลา
เลยพอบรรเทาเวิร์คโหลดจากอาการจะปางตาย
กลายเป็นเหลือเเค่พอสาหัสเเทน 55555

เอาว่าตอนนี่พี่พรายมีเพื่อนร่วมเจ็บเท้าเข้าก๊วนคนขายฝัน
เพิ่มขึ้นมาอีกคนละค่ะ อย่างน้อยก็ไม่เจ็บคนเดียวละนะ
เหะๆๆๆ



จริงๆเเล้วหนูว่ายัยนางเเบบก็ไม่ได้เเย่นัก เพียงเเต่หนูขัดใจ
ตรงที่กำลังอินกะฉากหวานของน้ำผึ้ง ยังไม่ทันเอมใจดี
ก็โดนความเปรี้ยวจี๊ดของมะนาวบีบราดลงมาฉับพลัน
อู้ยยย มันเลยเซ็งเพราะเข็ดฟันอะ

เเม้จะพอเข้าใจว่าตอนนี้ลุงธันว์ของหนูจะยังหวาน
ออกหน้าออกตาได้ไม่ถนัดนัก เเต่หนูก็ยังอยากจะได้
ความหวานให้ออกมาโผล่เป็นระยะๆ อิอิอิอิ
เเบบว่ามันทำให้หนูอิ่มใจอมยิ้มเเก้มปรินี่นา



โดย: ใยบัว IP: 122.110.78.67 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:0:59:36 น.  

 
คุณเทียนสีขา...


ใยบัวไม่สบายโน่นนี่ไปตามเรื่อง เป็นคนขี้เจ็บป่วย
เหะๆๆ พี่พรายรู้ดี เเต่ไม่เป็นไรค่ะ ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้น
กันต่อไปเนาะ คุณเทียนสีเองก็สู้ สู้ นะคะ
ใยบัวเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนึงค่ะ ^_^


เเล้วก็เป็นปลื้มที่คุณเทียนสีอยากเเวะมาเยี่ยมเยียน
เเต่อย่างที่พี่พรายบอก ใยบัวกลัวจะไม่มีเวลาดูเเล
จะกลายเป็นทิ้งบล๊อกร้างเอาไว้ให้หยากไย่ขึ้น 5555
อีกอย่างก็คือเกรงจะไม่มีใครมาเคาะประตู เอิ๊กกก
เเบบว่ากลัวต้องนั่งปัดยุงอยู่คนเดียว อิๆๆ


เอาไว้ให้ใยบัวสร้างเเฟนตาซีเวิร์ลเสร็จเรียบร้อย
เผื่อจะฝากฝังเอาไว้ในสตูฯของพี่พราย
เเล้วก็อาจพอมีโอกาสหาฤกษ์งามยามดีลงเสาเอก
หาเคหะสถานเป็นของตัวเอง 55555 หากมีวันนั้น
ใยบัวจะเเวะไปเชิญคุณเทียนสีถึงบ้านสวนเลยค่ะ ^_^



ปล.. ขอบพระคุณพี่พรายด้วยนะคะ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่
หนูยินดีเเละเต็มใจอย่างยิ่งที่เจ้าของสตูฯช่วยรับรองเเขก
เพราะชีวิตหนูมันลักปิดลักเปิด ด้วยการงานเเละสุขภาพ
ที่ไม่ค่อยจะอำนวย เหะๆๆๆ ไม่เห็นหนูโผล่หัวมา
พี่พรายโซโล่ไปได้เลยค่ะ :D


โดย: ใยบัว.. รอบ 2 IP: 122.110.78.67 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:1:27:35 น.  

 
หนูใยบัว

เอ ไม่แน่ใจ ติดจากพี่อ้อหรือเปล่าคะ
แง๊ว พี่อ้อยังไม่รู้สาเหตุเลยค่ะ สงกาสัยน้ำหนักเริ่มโอเวอร์โหลด แหะ แหะ
ของน้องใยบัวน่าจะมาจากทำงานหนัก เวิร์คโหลด
ต้องเดินไปเดินมา หรือยืน นั่ง ตลอดทั้งวัน อุอุ โหลดกันคนละอย่าง

แช่น้ำอุ่น นวดยา น่าจะช่วยได้เยอะค่ะ
และข้อสำคัญ ต้องนอนพักค่ะ วิธีนี้ดีที่สุดค่ะ
แต่ก็ดีใจได้เพื่อนร่วมก๊วนค่ะ อย่างน้อยก็ไม่เหงาแต่หายเปื่อยเร็ว ๆ ดีกว่านะ
จะได้รีบสร้างฝัน ออกมาให้โลกชื่นชม

ตอนนี้หวานพอปะแล่ม ๆ หลายรสขาติก่อนนะคะ
บทต่อ ๆ ไป ก็คงหวานผสมผสาน หวาน ๆ ขม ๆ แต่ก็ไม่ขำตลกสะที
จากนั้นแล้วค่อยหวานเจี๊ยบตามสไตล์ช่อคราม
อิอิ เดี๋ยวคงต้องมีคนบ่นว่ามันเลี่ยน หรือฟันผุอีกหรือเปล่าหนอ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:9:16:47 น.  

 
หนูใยบัว (ต่อ)

ขอบพระคุณอะไรขนาดนั้น ต้องขอบคุณพันทิปบล็อกแก๊งที่เอื้อเฟื้อสถานที่ต่างหาก
ให้พื้นที่ทดลองเป็นสตูดิโอริมหาด อิอิ เขาไม่ไล่ก็ดีแย้ว
เอาไว้พี่อ้อมีเกาะส่วนตัวเป็นของตัวเองเน้อ อิอิ
แค่ดีก็ขอบคุณหนูใยบัวที่ช่วยรับรองแขกแทน
ไม่งั้น เจ้าของสตูฯ คงเหงาแย่เลย

หากไม่สบาย งานเยอะ ก็พักผ่อนก่อนนะคะ
สตูดิโอริมหาด มาเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ ถึงเจ้าของสตูฯ ไม่อยู่ก็ยินดีเสมอค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:9:24:13 น.  

 
มารับข้อความจากคุณใยบัว และก็เอาความคิดถึงมาฝาก จขบค่ะ


โดย: teansri วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:4:30:11 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้งานเลยครับ สงสัยเป็นโรคขี้เกียจ แหะๆ แวะมาเยี่ยมก่อนไปล้างจาน ลั้นลา


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:16:27:25 น.  

 
สงกาสัยว่าตัวขี้เกียจมันคงโดดข้ามไปมาได้
เพราะคงโดดข้ามทวีปมาไกลถึงเเถวนี้
ใยบัวถึงได้รับเอาไว้เต็มที่
เหะๆๆ โทษพีทคุงอีกตะหาก


ช่วงนี้งานหลวงหนักหนา เลยทำให้หมดกะใจ
เเละหมดพลังในการทำงานราษฎร์
เเฟนตาซีเวิร์ลของหนูถึงถูกหยุดเอาไว้
เหมือนโดนกดปุ่มพอร์ซกลางอากาศ


เข้ามาบ่นเหมือนเคยค่ะ เอิ๊ก เอิ๊ก


โดย: ใยบัว... มั่วซะงั้น IP: 58.111.27.29 วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:0:39:04 น.  

 
มาสวัสดีพีอ้อค่ะ

เช้านี้สดชื่นมากเลยค่ะ
ไม่ง่วงหาวอยากนอนเหมือนกับสองเสาร์ที่ผ่านมา

คุณพีทเอา "นายโต๊ะ" มาลงแต่เช้าเชียวคะ



โดย: ปณาลี วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:9:17:03 น.  

 
วันนี้ขอทักทายคร่าว ๆ ก่อนนะคะ
พรายทรายตะลอนข้างนอกจนลานหมด
ขอปะโป้งทดไว้พรุ่งนี้เช้าแทนนะคะ
ตาจะปิดแร้ว

ขอบคุณ คุณเทียนสี น้องใยบัว คุณพีท คุณปณาลี
ที่มาแวะทัก แต่วันนี้ขออภัย นิ้วคุยไม่ออกจริง ๆ

นายโต๊ะขอทดปะโป้งตรงนี้แย้วกันนะ

หลับฝันดีกับคืนวันเสาร์ พรุ่งนี้มาลุยกันเต็มที่ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:21:03:54 น.  

 
แวะมาทักทายครับ


โดย: coffeetalk วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:8:17:05 น.  

 
คุณเทียนสี

เจ้าของบล็อกก็คิดถึงคุณเทียนสีเข่นกันค่ะ
แต่ภารกิจรุมล้อมรุมเร้า จนลานเปื่อย ช่วงนี้ถ้าแวะไปทักทายที่บล็อกช้าหน่อยอย่าน้อยใจนะคะ

ยังคิดถึงสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:29:08 น.  

 
คุณพีท

สลับกันนิ ช่วงนี้พี่อ้องานเข้าอีกแล้ว อยากขี้เกียจก็ไม่ขี้เกียจสะอย่างนั้น

มื้อเย็นค่ำคืนนี้ยังไม่ได้ล้างจานเลย เฮ้ออ ตาจะปิดให้ได้งั้นแหละ

ลั้นลา ไม่ออกจริง ๆ ได้แต่หาวแล้วหาวอีก
ปะโป้งนายโต๊ะอย่าโกรธนา

จัดคิวชีวิตได้ใหม่จะรีบไปหานายโต๊ะทันที ๆ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:32:13 น.  

 
น้องใยบัว

โอ้ ตัวขี้เกียจโดดข้ามทวีปคิดได้ไงนี่
5555
แต่งานรุมเร้าเต็มตัวพี่อ้อตอนนี้ ตัวขี้เกียจเลยหาที่เกาะไม่ได้

ทั้งงานหลวงงานราษฏร์ งานส่วนตัวจะยังไม่ราบรื่น
แต่ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ
ให้มีเวลาได้เขียนเรื่องของน้องใยบัว
อิอิ อยากบอกว่าอยากอ่าน แต่ตอนนี้หากส่งมา
คงหาเวลาอ่านไม่ได้จริง ๆ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:36:26 น.  

 
คุณปณาลี

น่าดีใจที่ฟื้นตัวมีแรงกระฉับกระเฉง
ทั้ง ๆ ที่วันเสาร์อาทิตย์น่าจะพักผ่อนได้เต็มที่

อิจฉาเสียจริง ๆ

เพราะตอนนี้พี่อ้อหาวไม่หยุดเลย เริ่มหาวแบบนับไม่ถ้วนแล้ว

ขมองอิ่มเริ่มจะล่องลอย อีกเดี๋ยวคงตาปิดได้ที่

เหอะ เหอะ ใครหลับยากจะอิจฉามั้ยนี่ แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:39:28 น.  

 
คุณ coffeetalk

ว๊าว! สวัสดีค่ะคุณ coffeetalk ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมถึงสตูดิโอฯ

อยากได้กาแฟสักสิบถ้วยกรอกปากตอนนี้
แต่พรายทรายกับกาแฟ ต่อให้ดื่มอย่างไร บทตาจะปิด
ลานแผ่ว ก็หลับได้อย่างสบาย ๆ

เหอะ เหอะ สิบถ้วยจะเอาอยู่มั้ยละนั่น

เห็นตอนใหม่แล้วจะแวะไปนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:43:01 น.  

 
ศามั่นใจมั่กๆ...
อืม... นะ....

หุหุ... อ่านต่อดีก่า อิอิ...

++++++++++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:58:29 น.  

 
ศามั่นใจมั่กๆ...
อืม... นะ....

หุหุ... อ่าต่อดีก่า อิอิ...

++++++++++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:58:29 น.  

 
คุณรักดี

แอบปลื้ม หนูวรรณิศาแล้วจิ อิอิ


เอ จะมีใครไม่ชอบเธอบ้างนะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:06:59 น.  

 
It's truly very complicated in this full of activity life to listen news on Television, thus I simply use world wide web for that purpose, and get the hottest news.
uggs sko bergen //gomperspta.org/images/no-ugg/CZsu9PXHTx/


โดย: uggs sko bergen IP: 192.99.14.34 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:11:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.