1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
บทที่ 5. "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย...ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ "ช่อคราม"
ทุกวันอาทิตย์ - อังคาร และ วันเสาร์ พบกับนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ขม ๆ ของช่อคราม เจ้าหญิง...องก์สุดท้าย ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ และ ทุกวัน พุธ ศุกร์ พบกันนิยายตื่นเต้น ระทึก ๆ ของ... ริมหาด เงาเพลิง ********************************* เรื่องยาวจบบริบูรณ์...ของ "ช่อคราม" ณ ปลายฟ้า...คือเธอ ********************************* "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย... ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ (Last Act of Princess...Love songs forever) "ช่อคราม" บทที่ 5 เป็นอีกวันที่วัศนิรู้สึกสดใสร่าเริง แม้จะมีช่วงเวลานอนน้อย และต้องออกงานร่วมกับคุณย่า กลางคืนนอนไม่หลับหรืออย่างไร มานั่งหาวเอาหาวเอาแบบนี้ เดี๋ยวเข้าไปในห้องประชุมแล้ว ไม่ใช่มานั่งหาวให้คนอื่นเขานั่งมอง คุณหญิงย่าเริ่มบทอบรมอีกแล้ว วัศนิเริ่มสงสัยเธอจะควบคุมการหาวได้อย่างไร หญิงสาวถอนหายใจ พยายามปล่อยให้คำพูดของคุณย่าลอยออกหูอีกข้างหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังเพลงจากรายการวิทยุแทน อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เธอไม่ต้องรู้สึกย่ำแย่ ไม่สบายใจในเรื่องไร้สาระเหล่านี้ เธอเริ่มนึกอยากจะเขียนจดหมายส่งไปให้ Dear Princess เสียเอง อยากรู้เหมือนกัน เจ้าหญิงจะจัดการกับปัญหาแบบนี้อย่างไรกันนะ... บางทีเธอจะเริ่มต้นคอลัมน์ในนิตยสารที่ปัญหานี้... วัศนิครุ่นคิด นี่เธอคงกลับเป็นเด็กเล็ก ๆ เสมอในสายตาของคุณย่า แต่ก็นั่นแหละ... ในสายตาผู้ใหญ่ ไม่ว่าลูกหรือหลาน ต่างก็เป็นแก้วตาดวงใจ เป็นเจ้าหญิง เจ้าชายตัวน้อย ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะโตเพียงไหน เติบใหญ่แค่ไหนก็ตาม... สังคมบ้านเรา ความผูกพัน สายใยในครอบครัวแบบคนไทยเป็นอย่างนี้เอง อย่างน้อยมันก็มีสองด้าน ให้เห็นทางด้านดี และไม่ดี เธอร่างแนวทางต้นฉบับลงสมุดโน้ตไว้คร่าว ๆ ... พยายามต่อสู้กับความรู้น้อยใจ พยายามหาเหตุผลต่าง ๆ ปลอบโยนตัวเอง หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ข้อมูลที่ค้นหาหลักสูตรโปรแกรมจิตวิทยาเด็กมากองไว้ในเครื่องคอมพ์ คงจะต้องเลือกหาที่เรียนเป็นจริงเป็นจังเสียแล้ว ทำงานเยอะ ๆ เรียนเยอะ ๆ ช่วยให้เวลาที่จะต้องมารู้สึกน้อยใจคุณย่าจะได้ลดน้อยลง ๆ ตามไปด้วย... แล้วไอ้หูฟังอะไรนี่ ถอดออกซะด้วยนะ ฉันไม่ต้องมีบอดี้การ์ดคุ้มกันขนาดนี้ แล้วบทเรียนทดสอบที่สองก็ตามมา วัศนิยื้มปลอม ๆ แล้วเสหันออกหน้าต่างรถอีกตามเคย ทันทีที่ลงจากรถ เธอถูกตรวจสอบความเรียบร้อยของเสื้อผ้า กระเป๋า เส้นผม โดยเฉพาะเจ้าหูฟังมือถือ ที่คุณหญิงย่าตาเขียวใส่ ก่อนที่เธอจะเก็บมันกลับเข้าไปในกระเป๋าถือของตัวเอง วัศนิเกือบลืมเลือนไปแล้ว การประชุมสมาคมภริยานายทหารเป็นอย่างไร ทั้ง ๆ ที่สมัยวัยรุ่นเธอมักจะต้องมาขลุกอยู่ที่สมาคมฯ เกาะติดคุณย่า ถูกให้ทำกิจกรรมรายการโน้นรายการนี้อยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าแสดงละคร ร้องเพลง เดินแฟชั่น ทั้งหมดเพื่อหาเงินเข้าสมาคมฯ ตั้งแต่สมัยคุณหญิงรัขนีเป็นอุปนายกฯ เป็นนายกฯ และล่าสุดในตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับสมาคมฯ ไหน ๆ หนูวัศนิก็เข้ามาเป็นคณะกรรมการพิเศษของสมาคมฯ แล้ว กิจกรรมครั้งนี้หนูมาช่วยป้ารับผิดชอบงานดีมั้ยคะ คิดว่าคุณพี่หญิงรัชนีคงไม่ขัดนะคะ หญิงสาววัยกลางคนทำหน้าที่เลขาธิการสมาคมฯ ที่วัศนิยังจำชื่อไม่ได้เอ่ยปากราวกับแผนการนี้เตรียมตัวกันมานาน ไม่เลยค่ะ อะไรกันยินดีค่ะ ยินดี ที่พี่เสนอญัตติเรื่องกิจกรรมนี้ก็เพราะตั้งใจให้หลานสาวมาช่วยงานอยู่แล้วล่ะค่ะ คุณหญิงรัชนีตอบรับอย่างไม่ขัดเขิน วัศนิหายง่วงไปปลิดทิ้ง ทั้ง ๆ ที่เคลิ้ม ฟังอย่างไม่สนใจมาตลอดการประชุม ถึงเวลานี้เธอเริ่มเข้าใจสถานการณ์ตัวเองกับคำสั่งที่ให้มาเข้าประชุมสมาคมฯ ในทันที งั้นขอโหวตเสียงเลยแล้วกันนะคะ คุณหญิงประภาศรีนายกสมาคมฯ คนปัจจุบันอมยิ้มก่อนเสนอความเห็น บรรดาเหล่าคุณหญิง คุณนายทหาร คณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาในโต๊ะประชุมทั้ง 15 คนต่างก็ยกมือกันอย่างพร้อมเพรียง โดยที่เธอไม่ได้อ้าปาก พูดอะไรเลยสักคำเดียว งั้นก็ถือมติตามนี้นะคะ ตามที่พันเอกบดินทร์เสนอกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานปฎิบัติการกองกำลังพิเศษ ฯ จัดละครการกุศล รายได้ส่วนหนึ่งถวายพระเทพฯ แบ่งเงินอีกส่วนหนึ่งเข้ากิจการของสมาคมฯ ... ให้คุณอาทิตยาในฐานะเลขาธิการสมาคมฯ และหนูวัศนิกรรมการแต่งตั้งพิเศษรับผิดชอบเริ่มต้นกิจกรรมครั้งนี้ได้เลย...ดิฉันขอปิดประชุม พบกันเดือนหน้านะคะ สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว ทำไมไม่ประมวลผลให้เร็วกว่านี้นะ ไม่ผิดเลยทั้งหมดนี่คงเป็นแผนการของท่านที่ปรึกษา เลขาธิการ และคณะกรรมการอีกหลายท่าน ซึ่งมีการคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่จู่ ๆ หาใครไม่ได้แล้วมาเลือกเธอ นี่เธอต้องไปทำงานร่วมกับอีตาพันเอกบดินทร์อีกด้วยหรือนี่ แค่คิดเธอก็สยองขวัญแล้ว... ทำไมนะเธอต้องกลับสู่วงโคจรเดิมเสียแทบทุกเรื่องจริง ๆ วัศนิรำพึงรำพันในใจกับตัวเอง เธอพยายามมองตามคุณย่า แต่ดูเหมือนจะรู้ทันไม่ยอมสมตาเธอเลย บรรดาเหล่าคุณหญิงและคุณนายที่มาร่วมประชุมยังจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็ยังทานของว่างต่อ ไม่ได้แยกย้ายกันกลับในทันที หญิงสาวเลยเดินเลี่ยงออกไปนั่งที่ม้าเหล็กดัดในสวนด้านข้าง เสียบหูฟัง ฟังวิทยุจากมือถือ เสียงเพลงทำให้เธอหลุดจากอารมณ์เซ็ง ๆ กับโลกของคุณย่าเธอได้อีกครั้ง บรรยากาศรอบตัวดูเบาสบาย จนเธออยากจะหลับตา แล้ววิ่งไปให้ไกลจากโลกของคุณย่า หล่อนมานั่งอยู่นี่เอง ใครต่อใครตามหาให้ทั่ว นี่พ่อบดินทร์เขาจะพาไปกินข้าวเย็น แต่ฉันจะต้องไปธุระกับคุณอทิตยา คุณแขไข เธอไปกับพ่อบดินทร์แทนแล้วกัน เสียงคุณย่าตามเข้ามาในโลกส่วนตัวของเธอ พร้อมด้วยหน้ายิ้มระรื่นของนายทหารหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พอดีบังเอิญพี่แวะมาฟังข่าวเรื่องกิจกรรม เลยว่าจะมาชวนคุณย่าไปทานข้าว แต่ท่านไม่ว่างซะแล้ว เลยให้พี่ไปส่งน้องโน้ต แล้วแวะทานมื้อเย็นก่อน เสียงทุ้มนุ่มของนายทหารหนุ่ม ทำให้เธอกร่อยลงไปอีก ไม่เห็นต้องรายงานคำสั่งคุณย่ารับแบบนี้เลย มันช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน วัศนิขบขันอยู่ในใจ งั้นผมรับน้องโน้ตไปเลยนะครับ คุณย่าวางใจ คุยธุระอย่างไม่ต้องเป็นกังวล หัวค่ำผมส่งน้องถึงบ้านแน่นอน พันเอกบดินทร์รับคำ ก่อนยกมือไหว้คุณหญิงรัชนีที่เดินจากไป พร้อมกับสายตาตรวจสอบความเรียบร้อยของเธออีกครั้ง พรุ่งนี้ตอนเบ่ายเจอกันนะคะหนูโน้ต เสียงคุณอาทิตยาแทรกผ่านเข้ามา วัศนิยกมือไหว้ลากลุ่มบรรดาภริยานายทหาร ความหงุดหงิดเข้ามาเกาะกุมความรู้สึก เธอจะเลี่ยงการไปกินข้าวมื้อเย็นนี้อย่างไรดี น้องโน้ตตัดผมสั้นแล้วดูน่ารัก เหมือนเด็ก ๆ ดี แต่ก็แปลกตาไม่เหมือนน้องโน้ตสมัยเด็ก ๆ เลย ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอเดินเป็นหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกมาขึ้นรถ ความรู้สึกเบื่อหน่ายเกิดขึ้นมาแทนที่ ตอนนี้เพิ่งแค่สี่โมงเย็น เธอจะหาวิธีการอย่างไรที่ไม่ต้องเบื่อหน่ายไปอีกหลายชั่วโมงข้างหน้านี้ แต่ก็นั่นแหละ พรุ่งนี้เธอคงต้องเจอหน้าเขาในที่ประชุมคณะทำงานจัดงานด้วยอยู่ดี น้องโน้ตมีไอเดียอะไรวันพรุ่งนี้บ้างหรือยังครับ ดีใจที่จะได้ทำงานด้วยกัน งั้นเราไปหาอะไรทานที่ไหนดี น้ำเสียงและสีหน้าของคนขับรถดูจะลิงโลดใจมากกว่าแค่ดีใจธรรมดา วัศนิส่ายหน้า ปากปิดสนิทขึ้นมาดื้อ ๆ นึกตัวออกเองไม่ออกจะเอาไอเดียอะไรไปเข้าประชุมต่อพรุ่งนี้ เรื่องร้านอาหาร หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงเลือกห้องอาหารในโรงแรมของเธอ ที่พบปะกับเพื่อนฝูง แต่ ณ เวลานี้ กับคนชวนคนนี้ เธอหมดความรู้สึกอยากทานอะไรในทันที ตอนเด็ก ๆ เหมือนน้องโน้ตชอบทานอาหารไทย พี่ยังจำได้อยู่เลย วัศนิขมวดคิ้ว เธอไม่เห็นจำอะไรได้เลยในความทรงจำครั้งวัยเยาว์ หญิงสาวผ่อนลมหายใจ คิดสิคิด คิดให้ออกซักที... รู้จักตึกออลเน็ตเวิรค์มั้ยคะ แถวสาธรน่ะ ในตึกนั้น หรือแถวนั้นมีร้านอร่อย ๆ เยอะ วัศนิไม่แน่ใจหรอกเรื่องร้านอาหาร แต่ที่โพล่งไปอย่างนั้น เพราะตึกนั้นเป็นที่ทำงานของรินยาต่างหาก อย่างน้อยแค่นั่งในรถเธอก็ใช้เวลากับผู้พันคนนี้มากไปแล้ว เวลาที่อยู่ต่อไปแตกออกเป็นสาม น่าจะดีกว่าเป็นสองเป็นไหน ๆ รู้จักครับ ดีด้วยไม่ไกลกับฝั่งธน กลับจะได้ไม่ดึกมากนัก พันเอกบดินทร์กล่าวสั้น ๆ โดยไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อย วัศนิหามุขใหม่ เพราะดูเหมือนนายทหารกองทัพบกจะหาเรื่องมาคุยกับเธอได้ไม่หยุดปาก แอร์เย็น ๆ เสียงเพลงเบา ๆ ในรถทำให้เธอผ่อนคลายลง ยิ่งหาทางออกได้แล้ว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเลือกหลับตาตัดตัวเองออกจากโลกของคนข้าง ๆ และดูเหมือนเธอจะหลับไปจริง ๆ ท่ามกลางจราจรบนท้องถนนยามเย็นของกรุงเทพฯ ... วัศนิไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน ความรู้สึกเหมือนเพียงแค่วูบเดียวจริง เธอเหลือบดูนาฬิกาบนคอนโซลหน้ารถ ภาวนาให้รินยายังไม่กลับบ้าน หรือมีธุระออกไปไหนเสียก่อน ทันทีที่รถจอด และเข้ามาในตึก พันเอกบดินทร์ทำหน้าค่อนข้างงง ๆ เหลียวซ้ายแลขวา เมื่อหญิงสาวเดินผ่านร้านอาหารสองสามร้านไป วัศนิไม่พูดกล่าวอะไรมากเดินตรงไปที่ลิฟต์แทน ชั้นสิบค่ะ เมื่อลิฟต์เปิดออกมาไม่ใช่ห้องอาหาร แต่กลับเป็นสำนักงาน และทันทีหญิงสาวผลักกระจกฝ้าเข้าไป... ใครอีกคนก็สวนออกมา... เหมือนผู้ชายคนหน้าลิฟต์เมื่อวันวาน ที่เธอเห็นเขาเพียงแวบเดียว... เธอไม่ได้ชนกับเขา แต่คราวนี้เธอเห็นหน้าของผู้ชายคนนี้ถนัดถนี่ เต็มตา ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าออกสีแทนเข้ม ๆ แบบไทย ๆ คิวเข้ม ผมซอยไล่อย่างชายหนุ่มคนทำงาน ไม่ใช่ทันสมัยเป็นเด็กวัยรุ่นหน้าขาวใสแบบเด็กเกาหลี อย่างที่เธอเห็นบ่อย ๆ ในสำนักงานนิตยสารแห่งนี้ เธอกับเขาสบตากันชั่วลมหายใจจะล่องลอยผ่านออกไป ตัวเย็นวาบขึ้นมาทันที เสียงของรินยาดังขึ้นใกล้ ๆ เรียกสติให้กับวัศนิอีกครั้ง อ้าว ยายโน้ต ผู้พัน เอ๋อ...เกิดอะไรขึ้นมาไม่บอกไม่กล่าว รินยาเอ่ยปากถาม สีหน้าประหลาดใจ กำลังจะไปทานข้าวพอดีเลย...อ่า... คุณอธิศคะ นี่ยายโน้ตค่ะเพื่อนรุ่นน้อง แล้วนี่ก็เอ่อ...พันเอกบดินทร์ อธิศทักทายหญิงสาวและชายหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มตามนิสัย วัศนิกลั้นลมหายใจ เรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณอธิศ สวัสดีค่ะ เอ่อ...มาชวนพี่รินไปทานข้าวเหมือนกันค่ะ
แต่ว่า... หาก... ไม่เป็นไรครับ ไปทานกันหมดเลยก็ได้ ผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงได้อยู่แล้วตามสัญญากับคุณรินยา และทันทีที่ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยขึ้น เสียงทุ้มนุ่ม เสียงนั้นทำให้วัศนิรู้สึกเหมือนตัวร้อนวูบ และหนาวเย็นขึ้นมาพร้อม ๆ กันราวกับจะจับไข้ และหากมีใครได้ยินเสียงของหัวใจของเธอระรัวสั่นไหวตามเสียงนั้นไปทันที เธอมองหน้านั้น เขาเองก็มองกลับมาที่เธอ รอยยิ้มบาง ๆ จุดให้ความรู้สึกของเธอสว่างไสว เสียงนั้นเสียงของคนคุ้นเคย ผูกพัน ราวกับรู้จักกันมาเนิ่นนาน เธอได้เห็นตัวเขาเสียที ผู้ชายที่ส่งผ่านกำลังใจให้เธอลุกขึ้น ฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิต ปรับความรู้สึกให้เธอเข้มแข็ง กลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง...ผู้ชายคนนี้ ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใกล้แค่นี้เหมือนเสียงที่ได้ยินในตอนกลางคืนอย่างเคย... อธิศเองก็รู้สึกแปลก ๆ บอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะเพื่อนของรินยา เพื่อนร่วมงานที่เขาคุ้นเคยมาเนิ่นนาน ทำให้เขาตอบออกไปอย่างนั้น รู้สึกอย่างนั้น ทั้ง ๆ เขาเองไม่ใช่คนที่สนิทกับใครง่ายดายโดยเนื้อแท้ แม้ว่างานที่ทำอยู่ในตอนกลางวันต้องให้สนิทสนมกับคนแปลกหน้าก็ตาม งั้นก็ไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ขั้นแปดแล้วกันนะ เดี๋ยวคุณอธิศจะได้รีบกลับไปพักผ่อน ไม่เสียเวลามาก ทำไมไม่โทรมาก่อน รินยาปลีกตัวมากระซิบกระซาบกับวัศนิทันทีหลังจากออกมาจากลิฟต์ ปล่อยให้ชายหนุ่มสองคนเดินนำหน้าเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นไปก่อน โน้ตขอโทษค่ะพี่รินที่ไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้า แต่มันฉุกละหุกจริง ๆ คุณย่าเล่นส่งโน้ตให้ไปกินข้าวเย็นกันสองคน โน้ตเลยเลือกมาหาพี่แทน ไม่คิดว่าพี่มีนัดแล้ว เอาเถอะไม่ได้นัดอะไรสำคัญ พี่ก็กินข้าวกับคุณอธิศอยู่บ่อย ๆ คำพูดธรรมดาสามัญ แต่เล่นเอาวัศนิใจหายไปวูบหนึ่งอยู่ไม่น้อย ก่อนสาวเท้าเดินตามเข้าไปในร้าน เมื่อกี้ได้ยินว่ามีการเลี้ยงฉลองอะไรกันหรือครับ พันเอกบดินทร์เอ่ยปากทำลายความเงียบ ฉลองแอดเสร็จเรียบร้อยครับ หน้านั้นหันไปยิ้มกับรินยา จนวัศนิรู้สึกแปลก ๆ หรือผู้ชายคนนี้จะสนใจในตัวรินยา เธอไม่เคยได้ยินรินยาเอ่ยถึงผู้ชายคนนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ทำโฆษณาหรือครับ นายทหารกองทัพบกเอ่ยปากถามคนนั่งตรงข้ามเมื่ออาหารเริ่มทยอยมาวาง ครับผมดูแลฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัทเดลิน่าจิเวลลี่ น้ำเสียงเรียบ ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก วัศนิเผลอขมวดคิ้วอย่างลืมตัว หรือว่าเธอจะเข้าใจผิด ผู้ชายคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวกับกับรายการคลื่นแห่งความรัก เธอเหยียดขาออกอย่างเริ่มเซ็ง ความรู้สึกเมื่อครู่เริ่มสลดวูบ ไม่ใช่แค่คนโฆษณา แต่ยังเป็นดีเจด้วย รินยารีบแทรกพูดเหมือนเกทับ เมื่อเห็นพันเอกบดินทร์ทำหน้าแปลก ๆ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ครับเป็นดีเจด้วย แต่จัดรายการช่วงดึก... เวลาที่ไม่ค่อยมีใครฟัง อธิศนึกขำอยู่เสมอเวลาที่เขาต้องแนะนำตัวเองในสภาพแบบนั้น วัศนิแทบสำลักเนื้อปลาในปาก เหลือบตาชำเลืองมองไปทางเขา แต่ดูชายหนุ่มจะสนใจคุยอยู่กับผู้พัน และก็ยิ้มเก๋ให้ ๆ รินยามากกว่า อย่างนั้นเหมาะเลย ผมกำลังเตรียมงานละครการกุศลหาเงินถวายพระเทพฯ คงต้องขอความร่วมมือกับคุณอธิศ กับคุณรินยา
.นี่น้องโน้ตทำงานเร็วกว่าแผนโครงการอีกนะ ผู้พันบดินทร์เอียงมาถามวัศนิข้าง ๆ เธอแทบจะขยับหลบไปชิดหน้าต่าง ทำอะไรคะ ละครอะไร ไม่เห็นโน้ตเล่าเลย รินยาเริ่มเสียงเขียวตามนิสัย พลางมองท่าทีของคนฝั่งตรงข้าม งานของสมาคมคุณย่าอ่ะค่ะ เขาเพิ่งประชุมกันเอง...โครงการของผู้พัน วัศนิเริ่มชิงตอบ แต่เปลี่ยนเรื่องไม่ออก ได้แต่ยิ้มจืด ๆ ตลกจังโครงการของผู้พัน ทำไมไปอิงอยู่กับสมาคมคุณหญิงละคะ ไม่มีคนทำงานหรือไง รินยาเหมือนล่วงรู้ความคิดของนายทหารหนุ่ม แต่เขาก็ลื่นตัวเองไปได้รอด ทั้ง ๆ ที่เธอกัดเขาคำใหญ่ขนาดนั้น มันเป็นโครงการร่วมน่ะครับ พอดีผมต้องทำกิจกรรมในหน่วยงานของผมพอดี ก็เลยไปอิงสมาคมฯ คราวนี้คงจะต้องมาอิงสื่อ ให้เข้ามาร่วม...น้องโน้ตขอความร่วมมือให้คุณรินยา กับ คุณอธิศมารวมงานดีมั้ยจ๊ะ เอ่อ...โน้ตไม่ใช่แม่งาน คงต้องรอคุณอาทิตยา เธอตอบสั้น ๆ ห้วน ๆ ไม่ได้มองหน้าคนข้าง ๆ แม้แต่น้อย เธอไม่ชอบวิธีการรวบรัดรวบยอดของผู้พัน แถมไม่ชอบคำว่าจ๊ะ เมื่อครู่นี้ด้วย เธอเริ่มไม่แปลกใจ ทำไมคุณย่าของเธอกับผู้พันทหารบกรายนี้จะเข้าใจกันได้อย่างดีเยี่ยม น้องโน้ตเสนอชื่อแนะนำได้นี่จ๊ะ ให้คุณรินยากับคุณอธิศมาร่วมงานด้วย นายทหารหนุ่มพูดราวกับรู้เรื่องราวจากที่ประชุมสมาคมฯ มาเป็นอย่างดี งานยังไม่เริ่มต้นอะไรเลย และตามมติที่ประชุมโน้ตก็เป็นแค่ผู้ช่วยคุณอาทิตยาแม่งาน แต่แม่งานยังไม่ร่างอะไรลงมือ จะให้โน้ตไปเสนอใครต่อใครได้ยังไง วัศนิพยายามรักษาระดับน้ำเสียงของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่สีหน้า และความรู้สึกของตัวเองไม่ไปด้วยกันอย่างแรง ถ้าเป็นงานของโน้ตเอง มีอะไรก็บอกได้ พี่กับคุณอธิศช่วยได้อยู่แล้ว...เนอะ จะฐานะสื่อ หรือพี่ แล้วจะไม่ช่วยเธอได้ไง ยิ่งงานการกุศลแบบนี้ นั่นสิครับ คุณรินยาพูดถูก มีอะไรให้ช่วยอะไรบอกได้เลย คุณคำรณไม่ปฏิเสธเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานการกุศลอยู่แล้วหรอกครับ อธิศส่งนามบัตรของตัวเองให้กับวัศนิ รอยยิ้มอบอุ่นส่งผ่านมาอีกครั้ง ก่อนการสนทนาจะเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป และการทานอาหาร เสียดายที่จะไม่ได้ไปฟังเพลงต่อด้วย แต่ยินดีมากครับที่ได้รู้จักกัน มีอะไรติดต่อไปนะครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน โอกาสหน้าคงได้เจอกันอีก อธิศปลีกตัวกล่าวลาอีกครั้งเมื่อออกมาหน้าลิฟต์ การทานอาหารที่ใช้เวลาเนิ่นนานถึงสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว โอกาสหน้าคงได้เจอกัน
น้ำเสียงที่แสนคุ้นเคย เริ่มรู้สึกหงอยโหวงขึ้นมาทันที วัศนิรู้สึกตัวเองแปลก ๆ อีกครั้ง ก่อนมองตามส่งเขาเข้าลิฟต์ สายตาที่มองกลับมา รอยยิ้มนั้น ความรู้สึกอยากกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เธออยากกลับไปสู่โลกจินตนาการอีกครั้ง เพียงเพราะความรู้สึกของตัวเองบอกว่าในโลกความเป็นจริง อธิศไม่เห็นมีท่าทางจะรู้สึกพิเศษอย่างเธอ ให้รู้สึกผ่านวิทยุ เธอยังรู้สึกจะดีกว่าแบบนี้.... คงเพราะผู้ชายข้างตัวที่ตลอดเวลาเฝ้าทำหน้าจ๊ะ ๆจ๋า ๆ ราวกับเธอเป็นเด็กเล็ก ๆ คอยซักถาม คอยตักอาหารโน้นนี่ให้เธออยู่ตลอดเวลา แม้รินยาจะช่วยแทรกออก ก็ทำได้ไม่สนิทใจเหมือนครั้งที่บ้าน อาจจะเป็นเพราะอธิศเองหรือเปล่า หรือรินยาเองจะมีความสนใจผู้ชายคนนี้อยู่ด้วย วัศนิถอนใจอีกครั้ง ความอ่อนล้าห่อเหี่ยวเข้ามาครอบงำ พี่รินไปต่อกับผู้พันกันสองคนดีมั้ยคะ โน้ตชักอยากกลับบ้านล่ะ เหนื่อยจัง พรุ่งนี้มีงานที่สมาคมฯ ต่ออีกด้วย โน้ตเรียกแท็กซี่กลับเองได้นะคะ อ้าว! เห่ย! ไงทิ้งกันซะอย่างนั้น งั้นไว้คราวหน้าแล้วกัน รินยาทำตาเขียวใส่ ๆ วัศนิ ก่อนหันไปยิ้มกับผู้พันที่หันกลับมาพอดี อย่างนั้นผมแวะส่งคุณโน้ตแล้วส่งคุณรินยา ดูท่าคุณจะดื่มสาเกไปหลายถ้วย จอดรถไว้ที่นี่คงไม่เป็นไรนะครับ กลับพร้อมกันเลยดีมั้ยครับ "เอ่อ..." สีหน้าของรินยา สายตาที่สบกลับมา วัศนิรู้ดีว่ารินยาอ่านความในใจของเธอออก ความเป็นสุภาพบุรุษของนายทหารหนุ่ม ไม่ได้เสริมคะแนนบวกให้กับวัศนิแม้แต่น้อย เธอกลับรู้สึกสร้างความรำคาญ เบื่อความเจ้ากี้เจ้าการของเขายิ่งนัก นามบัตรของอธิศอยู่ในกระเป๋า วัศนิเอาขึ้นมาดู โบกไปมา ก่อนเก็บคืนที่เดิม ทำไมหนอถึงเธอรู้สึกแปลก ๆ กับเขา ท่าทางเขาไม่เห็นจะเหมือนเจ้าชาย หรืออัศวิน อย่างที่เธอฝันหาแม้แต่น้อย ตลอดทั้งคืนเขาดูเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดมากนัก มีเพียงเสียงหัวเราะอย่างมีมรรยาท เสียงของนายทหาร และเสียงเบรกของรินยา ส่วนเธอนั้นเงียบตลอดรายการ กับหน้าเซ็ง ๆ ที่คิดว่าพรุ่งนี้เธอมีสิทธิ์ต้องเจอพันเอกบดินทร์อีก วัศนิเปิดสเตอริโอ หลังจากอาบน้ำเสร็จ คืนนี้เธอจะไม่ยอมเผลอหลับเป็นอันขาด เธอเปิดโน้ตบุ้คนั่งชั่งใจหาที่เรียนทางไกล สลับกับพูดคุยกับดาวในโปรแกรมสนทนา ดาวกับเธอเริ่มคุยกันผ่านโปรแกรมสนทนา Windows Live Messenger ไม่ได้คุยกันในโปรแกรมสนทนาในเว็บไซต์ของนิตยสาร เพื่อสะดวกในการทำงาน วัศนิรู้สึกดีใจที่เธอตัดสินใจสารภาพความจริงกับดาว ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ บอกดาวว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ทำสิ่งดี ๆ กับเพื่อนของคนอื่น ก่อนหน้าที่เธอจะเริ่มทำเว็บไซต์อย่างเป็นจริงเป็นจัง ไม่โกรธหรอกค่ะ ดาวรู้ความจริงแล้ว ดาวก็สบายใจที่มีพี่สาวใจดีขึ้นมาอีกคนจริง ๆ สัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ ดาวกลับเป็นฐานชวนเพื่อนให้เข้ามาในเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น แต่ดาวก็ยังคงเรียกเธอว่าพี่หญิง มากกว่าจะเรียกว่าโน้ต ราวกับว่าโลกของเธอกับดาวเชื่อมสัมผัสกันได้ตรงนั้น คำถามเข้ามาให้เธอตอบทั้งผ่านกระทู้ และตอบคุยกันสด ๆ มากขึ้น จนเธอง่วงสัปหงกไปหลายครั้ง พยายามตั้งสติอยู่ให้ถึงช่วงของอธิศจัดให้ได้ มันเพิ่งห้าทุ่มเอง อีกเกือบชั่วโมงที่รายการของอธิศจะมา วัศนิไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น คราวนี้เธอตั้งใจจริงจังมากขึ้น เธอตัดสินใจกล่าวลากับน้อง ๆ ปิดใบสมัครเรียน ที่เธอยังตัดสินใจไม่ได้ เธอเรียกสติรีบเปิดเว็บไซต์รายการของอธิศเหลือเพียงหน้าต่างเดียวทันที น่าแปลกที่กล่องขอเพลงคราวนี้เปลี่ยนหน้าตาไป จากของเดิมที่ส่งข้อความแล้วหาย คราวนี้มันคล้าย ๆ กระดานสนทนาเล็ก ๆ อยู่ในกรอบเมนูเฉพาะของดีเจแต่ละคน มีการส่งข้อความพูดคุยได้ไม่ต่างกับหน้าต่างของโปรแกรมสนทนา คราวนี้เธอเลื่อนอ่านข้อความเหมือนรายการกลับมาใช้โปรแกรมนี้อีกครั้ง เธอสังเกตเวลาคนที่ขอเพลงเริ่มซาลงตั้งแต่หลังห้าทุ่ม แทบไม่มีข้อความพูดคุย หรือส่งขอเพลงเข้ามาอีก มีข้อความบ่นของแฟนเพลงช่วงเวลาอื่นว่า หน้าต่างขอเพลงแบบนี้เคยพังอยู่บ่อย ๆ จนต้องไปใช้แบบกล่องเล็ก ๆ อยู่หลายเดือน ช่วงเวลาของอธิศ ยังว่างเปล่า ไม่มีใครเข้ามาคุยหรือขอเพลงเหมือนช่วงเวลาของคนอื่น เธอเดาว่าอาจยังไม่ถึงเวลา หรือรายการเขาไม่มีใครฟังจริง ๆ ก็ดึกเสียขนาดนี้ บางทีเธออาจหาอะไรสนุก ๆ ให้เขาทำ อย่างน้อยเธอก็รู้สึกอยากอยู่เป็นเพื่อนเขาจนจบรายการ คราวนี้เธอเลือกเพลง จากตัว F ต่อไปจน Z อย่างละเพลงเก็บไว้ และตั้งใจทยอยขอไปเรื่อย ๆ จนครบหมด เป็นเพลงรักอมตะยอดนิยมเหมือนเคย วัศนิส่งเพลงขอไปก่อน 5 เพลงติด ๆ กัน จาก F J อาจเพราะเธอไม่ได้ล็อกอินเป็นสมาชิกของเว็บ ทันที่เธอส่งข้อความ มันก็ตีกลับให้เธอใส่ชื่อ วัศนิไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้คิดอะไร เคาะจุดไปสองสามจุดบ้าง ข้อความก็ส่งไปเรียบร้อย เธอทำแบบนี้สองสามครั้ง สลับชื่อโน้นชื่อนี้ Guest บ้าง Me ชื่อสั้น ๆ เท่าที่เธอนึกได้ไปเรื่อยเปื่อย สลับขอเพลงเดียวบ้าง ไล่ไปจนครบหมดทุกตัวอักษร ให้ดูราวกับมีคนเข้ามาขอเพลงเยอะแยะมากมาย และทันทีที่เปิดรายการอธิศก็เล่นเพลงของเธอ จนหญิงสาวรู้สึกหัวใจตัวเองโดดออกมาเต้นไปกับจังหวะเพลงที่สนุกสนานนึกขำว่าเขาจะรู้หรือไม่ว่า ทั้งหมดมาจากคนขอคนเดียวกัน คืนนี้เหมือนมีคนขอเพลงรอไว้มากเป็นพิเศษ ผมคงทยอยเปิดเท่าที่ทำได้นะครับ ไหนจะมีเพลงตกค้างจากช่วงพี่แก้วอีก รอฟังหน่อยแล้วกัน...ใกล้ตีหนึ่งแล้ว ใครเป็นเด็กดี ต้องไปเรียน ไปทำงานตอนเช้าเข้านอนได้แล้วนะ อธิศเลือกเปิดเป็นบางเพลง วัศนิทำหน้าเมื่อย ๆ บางทีเขาอาจไม่ใช่คนที่เล่นเพลงสิบเพลงรวดให้กับเธอก็ได้ บางช่วงอธิศก็คุยเล่น บางช่วงก็คุยเรื่องต่าง ๆ ที่มาที่ไปของเพลง เหตุการณ์ประจำวัน วัศนิรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ รู้สึกเพลิดเพลินไปกับเสียงพูด และบทเพลงมันกลายเป็นความสุขของวันอันเหนื่อยล้า จนใกล้ตีสาม เธอเริ่มหาวหลายหวอด ร่ำ ๆ อยากคลานขึ้นเตียง อธิศ: เดี๋ยวผมเลือกเพลง เดาว่าเป็นเพลงโปรดของคุณ ให้เป็นเพลงพิเศษเพลงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ แล้วอย่านอนดึกอีกนะ คุณ A Z วันนี้เพลงเยอะเก็บไว้ขอวันหลังบ้างแล้วกัน
.ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่เลือกเพลงให้ผมได้ทำงาน มีข้อความขึ้นมา วัศนิปรือตาขึ้นอ่านอย่างง่วงงุนเต็มที่ เขาเขียนบอกเธอหรือเปล่านะ เธอตอบไปอย่างกึ่งหลับกึ่งมีสติ เพลงบรรเลงแซ็กโซโฟนเพิ่งลากเสียงจบไป ขอทดไว้ในส่วนเพลงที่เหลือ แต่ง่วงนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์
วัศนิพิมพ์ข้อความ กดส่งไปอย่างง่วงสุดขีด ไม่ทันเห็นว่าข้อความขอให้ใส่ชื่อคืนกลับเข้ามา เธอพิมพ์อะไรลงไปด้วยสมองมึนชา ครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนลุกจากเก้าอี้ไปที่เตียงราวกับคนละเมอ เธอเหมือนแว่วได้ยินเสียงเพลงนั้น เพลงที่คุ้นเคย เสียงที่คุ้นเคย ก่อนหลับไปในห้วงนิทรา.... เพลงนี้ Eyes on Me ของ Faye Wong เพลงสุดท้าย เพลงพิเศษของค่ำคืนนี้ ไม่ว่าคุณจะตื่น หรือยังหลับอยู่ ขอให้รู้ว่าผมรับรู้ถึงทุกสิ่งที่คุณแบ่งปันมา ความรัก ความห่วงใย และเชื่อว่าอีกไม่ช้าเราคงได้พบกัน.... ทุกอย่างเป็นความจริง...ไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน แล้วเราคงได้พบกันอีกในคืนแห่งพรุ่งนี้ .... อธิศรู้สึกหัวใจตัวเองกระตุกวูบ เมื่อข้อความนั้นปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ข้างตัว หรือใครบางคนกำลังเล่นตลกอยู่กับเขาจริง ๆ Saxophone: ขอทดไว้ในส่วนที่เหลือ แต่ง่วงนอนแล้ว... ราตรีสวัสดิ์ ...โปรดติดตามตอนต่อไป... **"Eyes on Me เสียงร้องของ Faye Wong จากเกม RPG อันเป็นตำนาน Final Fantasy 8 เมื่อปี 1999 ผลงานการประพันธ์ของ Nobuo Uematsu สุดยอดปรมาจารย์ของเพลงประกอบตำนาน Final Fantasy และเกมอื่น ๆ อีกหลากหลาย Scores และเพลงแทบทุกเพลง หวาน ซึ้ง ละลาย และหากตื่นเต้น ก็ตื่นเต้น ผจญภัยอย่างแท้จริง สุดยอด!! เพลงโปรดอันดับหนึ่งในหัวใจของคนเขียน โดยเฉพาะเสียงอินโทรขึ้นต้น และความหมายของเพลง รวมทั้งที่มาที่ไปแห่งความประทับใจ เพลงนี้คงเป็นเพลงรักอมตะชั่วนิรันดร์ไปตลอดกาล (โค้ดชุดที่สองสำหรับคนใช้ Firefox จะได้ฟังเพลงได้ด้วยนะคะ)
Create Date : 28 ธันวาคม 2551
52 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 23:09:00 น.
Counter : 615 Pageviews.
โดย: พรายทราย 28 ธันวาคม 2551 20:58:47 น.
โดย: teansri 28 ธันวาคม 2551 21:57:10 น.
โดย: พรายทราย 28 ธันวาคม 2551 23:23:50 น.
โดย: ธาร นาวา 29 ธันวาคม 2551 10:22:21 น.
โดย: อมิธีสท์ 29 ธันวาคม 2551 14:18:17 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 29 ธันวาคม 2551 16:55:41 น.
โดย: พรายทราย 29 ธันวาคม 2551 20:35:49 น.
โดย: พรายทราย 29 ธันวาคม 2551 20:46:20 น.
โดย: พรายทราย 29 ธันวาคม 2551 21:22:03 น.
โดย: พรายทราย 29 ธันวาคม 2551 22:09:04 น.
โดย: ปณาลี 30 ธันวาคม 2551 13:24:11 น.
โดย: อมิธีสท์ 30 ธันวาคม 2551 23:46:50 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 9:24:58 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 9:26:16 น.
โดย: อมิธีสท์ 31 ธันวาคม 2551 10:34:41 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 10:47:24 น.
โดย: วรบรรณ 31 ธันวาคม 2551 12:12:10 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 12:22:06 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 12:24:38 น.
โดย: พรายทราย 31 ธันวาคม 2551 12:28:31 น.
โดย: ปณาลี 1 มกราคม 2552 20:43:15 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 2 มกราคม 2552 17:14:04 น.
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 3 มกราคม 2552 21:04:07 น.
โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) 3 มกราคม 2552 21:23:42 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา... ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ... **สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ** คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ... ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้ แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว.. ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร... **และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย ****************************** Friends' Blogs นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก
(in FF World: w. & p. by Julia Heartily)
(in Real Life: m. Nobuo Uematsu; l. Kako Someya; Faye Wong)
I never sang my songs
On the stage, on my own
I never said my words
Wishing they would be heard
I saw you smiling at me
Was it real or just my fantasy?
You'd always be there in the corner
Of this tiny little bar
My last night here for you
Same old songs, just once more
My last night here with you?
Maybe yes, maybe no
I kind of liked it your way
How you shyly placed your eyes on me
Oh, did you ever know
That I had mine on you?
Darling, so there you are
With that look on your face
As if you're never hurt
As if you're never down
Shall I be the one for you
Who pinches you softly but sure
If frown is shown then
I will know that you are no dreamer
So let me come to you
Close as I wanna be
Close enough for me
To feel your heart beating fast
And stay there as I whisper
How I loved your peaceful eyes on me
Did you ever know
That I had mine on you?
Darling, so share with me
Your love if you have enough
Your tears if you're holding back
Or pain if that's what it is
How can I let you know
I'm more than the dress and the voice?
Just reach me out then
You will know that you are not dreaming
Darling, so there you are
With that look on your face
As if you're never hurt
As if you're never down
Shall I be the one for you
Who pinches you softly but sure
If frown is shown then
I will know that you are no dreamer