เค้กฝอยทอง...เค้กสวัสดีปีใหม่ให้เพื่อนที่ทำงาน
เค้กสวัสดีปีใหม่ที่ตั้งใจทำให้กับเพื่อนที่บริษัท ต้องใช้ถาดใหญ่ขนาด 10 x 10 นิ้วเลย ตัดแบ่งเป็นชิ้นได้แถวละ 6 จะได้ทั้งหมด 36 ชิ้น ไม่ได้ทำเค้กฝอยทองนานมากเลย แต่คราวนี้เพื่อน ๆ เรียกร้องเลย ตัดสินใจทำเป็นเค้กสวัสดีปีใหม่ให้เลย... คราวนี้เราอบแบบไม่ได้รองน้ำ เนื่องจากว่าหาถาดที่มีขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ที่ใช้อบไม่ได้ เลยต้องใช้วิธีอบเค้กให้สุกก่อนแล้วค่อยโรยฝอยทองบนหน้าเค้ก เราใช้สปองจ์เค้กในการทำเค้กฝอยทองนะคะ ส่วนผสมเค้กฝอยทอง (3 ปอนด์) 1 | แป้งเค้ก (ตราพัดโบก หรือ บัวแดง) | 100 กรัม | 2 | ผงฟู | 3/4 ช้อนชา | 3 | น้ำตาลทราย | 120 กรัม | 4 | เกลือ | 1/2 ช้อนชา | 5 | น้ำเปล่า | 40 กรัม | 6 | นมข้นจืด | 30 กรัม | 7 | ไข่ไก่ (เบอร์ 0) | 3 ฟอง | 8 | เนยสดละลาย รสเค็ม | 70 กรัม | 9 | สารเสริม SP | 10 กรัม | 10 | กลิ่นวานิลา | 1 ช้อนชา | ***ฝอยทอง ตามปริมาณที่ต้องการ ต้องการหนา ๆ ก็ใส่เยอะ ๆ หน่อย*** เราใส่ทั้งหมด 20 แพ เป็นแพขนาดเล็ก แพละ 10 บาท ถ้าใครซื้อแพใหญ่ก็อาจจะลดปริมาณลงได้ หมายเหตุ เนื่องจากว่าเราใช้ถาดสี่เหลี่ยมขนาด 10x10 นิ้ว ขนาดประมาณ 6 ปอนด์ ดังนั้นต้องเพิ่มสูตรเป็นสองเท่าตัว (ผงฟูสองเท่าจะเท่ากับ 1 + 1/2 ช้อนชา) วิธีทำ ตัดกระดาษไขรองก้นพิมพ์ ไม่ต้องทาไขมันใด ๆ ทั้งสิ้น... หลังจากนั้นให้วอร์มเตาอบใช้ไฟบน-ล่าง 180 องศาเซลเซียส (ของเราเลือกอบแบบไม่ใช้พัดลม เป็นไฟบน-ล่างธรรมดา) หมายเหตุ ไม่ต้องตัดกระดาษไขรองด้านข้างพิมพ์ก็ได้นะคะ พอดีเราไม่แน่ใจว่าประมาณเค้กที่ได้จะล้นสูงกว่าถาดหรือไม่ เลยใช้กระดาษสูงเพื่อกันตัวเค้ก แต่พอลองเอาไปอบแล้ว ปริมาณเนื้อเค้กพอดีกับพิมพ์เลยค่ะ เลยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษไขรอง ร่อนแป้งและผงฟู 2 ครั้ง แล้วพักไว้ ใส่กลิ่นวานิลาลงไปผสมกับนมข้นจืด แล้วพักไว้ ละลายเนยสด ทิ้งไว้ให้พออุ่น ไม่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป เพราะจะมีผลต่อตัวเค้ก หมายเหตุ เวลาเราละลายเราจะไม่ละลายให้ก้อนเนยละลายทั้งหมด จะเหลือให้เป็นก้อนบ้างบางส่วน (อย่างในรูป) แล้วค่อยใช้ช้อนละลายข้างนอกโดยใช้ความร้อนของเนยที่ยังมีอยู่ในการละลายแทนการใช้ไฟ พอถึงเวลาที่จะต้องเทลงในเนื้อเค้ก ส่วนใหญ่จะมีความร้อนพอดี แต่ก่อนที่จะเทควรจะตรวจสอบความร้อนก้อนก็ดี เพราะถ้าความร้อนมากเกินไป จะทำให้ไข่ที่เราตีไว้ยุบตัว หรือถ้าเนยเย็นไปจะทำให้เนื้อเค้กเป็นไต ไม่ฟู ใส่ไข่ + น้ำตาล + น้ำเปล่า + เกลือ ลงไปในโถผสม แล้วเอาสารเสริม SP ปาดที่หัวตะกร้อ ตีให้น้ำตาลละลาย โดยใช้ความเร็วปานกลาง ใช้เวลาในการตีขั้นตอนนี้ประมาณ 5 นาที ลืมถ่ายรูปไข่ที่ตีหลังจากครบ 5 นาทีไว้ ตัวเนื้อไข่ที่ตีได้จะขึ้นฟู แต่ไม่ข้นนะคะ เพราะเราใส่น้ำลงไปด้วย ทำให้ตัวเนื้อไข่ที่ตีได้จะฟูแต่เหลว จะไม่เหมือนกับการตีไข่กับน้ำตาลอย่างเดียว ให้เปลี่ยนความเร็วเป็นต่ำ แล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วทั้งหมดทีเดียวเลย แล้วตีด้วยความเร็วต่ำไปประมาณ 1 นาที แล้วให้ใช้พายพลาสติกปาดตามขอบอ่างผสม หลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นความเร็วปานกลาง ตีต่ออีก 6 นาที เพื่อให้ส่วนผสมข้นฟู และเหนียว (เหมือนในภาพ) ปาดขอบอ่างผสมอีกครั้ง แล้วตีเค้กด้วยความเร็วต่ำอีก 1 นาที แล้วให้ใส่นมข้นจืดผสมกลิ่นวานิลาลงไป แล้วตามด้วยเนยสดละลาย (อย่าลืมตรวจสอบความร้อนก่อนเท) โดยใช้วิธีการเทให้เป็นสายลงไป แต่ถ้าใช้ที่ตีแบบมือถือให้ทะยอยใส่เนยสดละลายโดยการตักใส่ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นให้ปาดขอบอ่างอีกครั้ง แล้วตีด้วยความเร็วต่ำต่อจนกระทั้งเนื้อเค้กเนียน ไม่มีฟองอากาศ หลังจากนั้นให้ใช้พายพลาสติกค่อย ๆ ปาดจนถึงก้นอ่างผสม จนกระทั่งมั่นใจว่าส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้ากันดีแล้ว เนื่องจากบางครั้งอาจจะยังมีส่วนผสมของเนยละลายที่ยังไม่ผสมจนเข้ากันดีกับเนื้อเค็ก เทส่วนผสมลงในพิมพ์ แล้วค่อย ๆ ใช้พายพลาสติกเกลี่ยตัวเนื้อเค้กให้ทั่ว อย่าลืมใช้พายพลาสติกค่อย ๆ ไล่อากาศของเนื้อเค้กออก โดยการยกพายพลายติกขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ทั่วพิมพ์ ให้เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่อากาศออกอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเค้กเข้าอบ ด้วยไฟบน-ล่าง 180 องศาเซลเซียส (เรื่องความร้อนในการอบ ให้ตรวจสอบเตาของแต่ละท่านด้วย เพราะอาจจะได้ผลไม่เหมือนกัน) ใช้เวลาในการอบ 35 นาที หลังจากนั้นให้ลดไปลงเหลือ 150 องศาเซลเซียส เปลี่ยนเป็นไฟบนอย่างเดียว (ไม่ใช้พัดลม) แล้วอบต่ออีก 10 นาที (เวลาที่ใช้ในการอบทั้งสิ้น 45 นาที) ปกติแล้ววิธีการอบเค้กฝอยทองนั้นจะใช้วิธีการอบโดยใช้น้ำ แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าพิมพ์ของเราค่อนข้างใหญ่ ทำให้หาถาดที่ใหญ่กว่ามาใส่น้ำเพื่อใช้ในการอบไม่ได้ เลยต้องอบด้วยวิธีปกติ แต่ถ้าใครต้องการอบด้วยน้ำให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ การอบด้วยน้ำ - ก่อนที่จะเทเค้กที่ผสมได้ลงไปในพิมพ์ให้เอาฝอยทองที่ยีจนขึ้นฟูดีแล้วใส่ลงไปที่ก้นพิมพ์ แล้วกดให้ฝอยทองแน่น เรียบเท่ากันทั้งพิมพ์ ปริมาณของฝอยทองขึ้นอยู่กับราว่าต้องการหนาขนาดไหนนะคะ
- เทเค้กที่ผสมลงไปบนฝอยทอง เกลี่ยเค้กให้ทั่ว เรียบเท่ากันทั้งพิมพ์ ใช้พายพลาสติกค่อย ๆ ไล่อากาศให้ทั่วพิมพ์ด้วย
- ให้เอาถาดที่มีขนาดใหญ่กว่า พิมพ์ที่จะอบ แล้วเทน้ำร้อนลงไปในถาดรองประมาณ 1 ซ.ม. แล้วค่อยวางพิมพ์ที่ใส่เค้กลงไปในถาดที่รองด้วยน้ำร้อน (ถ้าใครใช้ถาดที่น้ำสามารถเข้าไปในเค้กได้ แนะนำให้ใช้กระดาษฟอยด์ ห่อที่ก้นของถาดเค้กก่อนที่จะวางลงบนถาดที่รองน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเค้กได้)
- เอาเข้าอบด้วยไฟบน-ล่าง 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที แล้วลดไฟลงเหลือ 150 องศาเซลเซียส เปลี่ยนเป็นไฟบนอย่างเดียว อบต่ออีก 10 นาที
หมายเหตุ ตอนที่อบไป 35 นาทีแรกที่อบ ตัวเค้กตรงกลางจะนูนสูงขึ้น แต่พออีก แต่พอเราลดไฟลง แล้วอบอีก 10 นาที ตรงกลางที่นูนจะค่อย ๆ ยุบตัวลงเอง เมื่อเค้กสุกดีแล้วให้เอาเค้กออกมาจากเตาอบ แล้วให้กระแทกบนโต๊ะ 1 ครั้ง เพื่อให้ตัวเค้กอยู่ตัว แล้ววางเค้กบนตะแกรง ทิ้งไว้จนกระทั้งเค้กเย็นตัวดี ปกติแล้วใช้เวลา 45 นาที เค้กก็จะสุกดีทั้งหมด แต่ถ้าไม่มั่นใจให้ตรวจสอบว่าเค้กสุกดีหรือยังโดยการใช้ไม้ปลายแหลมแทงลงไปตรงกลางเค้ก แล้วยกขึ้นมา ถ้าไม่มีเศษเค้กติดมาก็แสดงว่าเค้กสุกดีแล้ว หรือ อาจจะสังเกตุได้จากขอบของตัวเค้ก ถ้าขอบเค้กร่อนออกจากขอบพิมพ์แสดงว่าเค้กสุกแล้ว เนื่องจากเราไม่ได้ใช้วิธีอบแบบใช้น้ำ เลยต้องมีขั้นตอนถัดมาคือการโรยฝอยทองบนหน้าเค้ก เราใช้ฝอยทองทั้งหมด 20 แพ และเพื่อให้ตัวฝอยทองเกาะดีกับตัวเค้ก ไม่หลุดง่าย เลยต้องใช้ตัวช่วย นั่นคือน้ำเชื่อม (เราขอมาจากร้านขายฝอยทองมาเล็กน้อย) เราเอาน้ำเชื่อมค่อย ๆ ผสมรวมกับฝอยทองที่ยีไว้ เพื่อให้ตัวฝอยทองมีความชุ่มชื่นมากขึ้น หลังจากผสมฝอยทองที่ยีกับน้ำเชื่อมแล้ว ก็นำมาโรยให้ทั่วเค้ก หลังจากนั้นให้ใช้ถาด หรือ ภาชนะอื่นใดก็ได้ มาทับลงบนเค้ก เพื่อให้ฝอยทองเกาะกันแน่นขึ้นและเรียบขึ้น ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งแน่นสวยค่ะ แต่อย่าลืมหล่อน้ำทิ้งไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มดเข้ามารบกวนขนมเค้กของเรา เราใช้ถาดที่มีขนาดเดียวกัน เพราะหาใหญ่กว่าไม่ได้แล้วมาทำถาดลองโดย เอาถาดที่เล้กว่า ถาดรองและถาดเค้กมาวางลงตรงกลางถาดรองที่ใส่น้ำไว้ แล้วค่อยวางถาดเค้กลงไป ก็ทำให้มดเข้าขนมไม่ได้แล้ว ตัวฝอยทองยังไม่แน่นดีเลย แต่มันดึกแล้ว เลยต้องเอาออกมาตัดก่อน เพราะถ้ารอตัดพรุ่งนี้เช้าไม่ทันไปทำงานแน่ เราเริ่มทำเค้กฝอยทองตอน 6 โมงเย็น เลยไม่สามารถรอได้ ต้องเอามาตัดก่อน เลยทำให้ตัวฝอยทองดูไม่ค่อยแน่นเลย แต่พอเราแก้ไขโดยเมื่อเอาออกมาตัดแล้ว เราก็เรียงกลับเข้าไปที่ถาดที่ใช้อบ แล้วเอาอีกถาดที่เล็กกว่ามาทับอีกครั้ง แล้วทิ้งค้างคืนไว้เลย พอตอนเช้าก็ยกไปให้เพื่อน ๆ ทานได้เลย เพราะตัดไว้หมดแล้ว ส่วนฝอยทองความหนามันน้อยไป เนื่องจากปกติที่เราซื้อฝอยทองจากร้านประจำ ใช้แค่ 10 แพ สำหรับ 3 ปอนด์ ก็จได้ฝอยทองหนามาก แต่ไม่ได้ซื้อฝอยทองของที่ร้านนี้นานพอสมควร เลยไม่ได้ดูว่าแพมันเล็กลงเยอะมาก เกือบเท่าตัวเลย เสียดายไม่สามารถกลับไปซื้อเพิ่มได้เพราะมืดแล้ว
Create Date : 24 ธันวาคม 2555 |
|
17 comments |
Last Update : 25 ธันวาคม 2555 0:18:09 น. |
Counter : 24177 Pageviews. |
|
|
|
Merry X'Mas ครับ
ขอให้มีความสุขนะครับ