ขนมปุยฝ้าย...หน้าแตกกระจาย....ทำได้ซะทีจ้า
ในที่สุดก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ทำได้ซะที พยายามทำมาหลายรอบ แต่หน้าขนมแตกบ้างไม่แตกบ้าง ทำจนท้อจริง ๆ เป็นเมนูหนึ่งที่ใช้ปราบเซียนทำขนมจริง ๆ เราต้องหาข้อมูล เทคนิค เคล็ดลับในการทำขนมชนิดนี้จากหลายแหล่งเลย ทั้งในเว็บไซด์ ในหนังสือหลายเล่ม และลองผิดลองถูกจากความคิดของตัวเอง จนในที่สุดก็ทำได้ซักที หน้าแตกบานแฉ่งทุกอันเลยค่ะ....ดีใจสุด ๆ จริง ๆ แล้วเราซื้อผลไม้รวมแห้ง และลูกเกดมาประดับหน้าขนมด้วย แต่เป็นการทดลองทำครั้งแรกหลังจากรวบรวมเทคนิคการทำมา เลยไม่อยากใส่ แค่ลุ้นให้ขนมหน้าแตกก็แทบแย่แล้ว ไม่อยากลุ้นความสวยงามของขนมมากนัก กลัวใส่แล้วไม่สวย คราวหน้าค่อยใส่แล้วกัน คราวนี้ลืมจริง ๆ ว่าถ้วยกระดาษไซด์เล็กจะหมด วันนี้เลยได้หลายขนาดมาเลย ทั้งเล็กและใหญ่ ขนมที่ได้นุ่มมาก นุ่มจนเหมือนจะละลายในปาก รสชาติอร่อย ไม่หวานไป กำลังดี หลานชายชิมแล้ว ยกนิ้วโป้งให้เลย... สูตรที่เราใช้ทำปุยฝ้ายเป็นของคุณแพม ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้เซฟลิงค์ไว้ เมื่อก่อนเราเคยใช้สูตรนี้ทำหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จเลย ขนมหน้าแตกบ้างไม่แตกบ้าง ขนมไม่ค่อยนุ่ม เนื้อจะแน่น แต่คราวนี้หลังจากใช้เทคนิคที่รวบรวมมา ก็สามารถทำให้สูตรนี้หน้าแตกได้เลย ส่วนผสมขนมปุยฝ้าย (60 ถ้วย ถ้าใช้ถ้วยกระดาษไซด์เล็ก) 1. | แป้งสาลีตราบัวแดง | 200 กรัม | 2. | ผงฟู | 1 ช้อนชา | 3. | น้ำตาลทราย | 180 กรัม | 4. | ไข่ไก่ เบอร์ 0 | 2 ฟอง | 5. | น้ำเปล่า | 1/2 ถ้วยตวง | 6. | เอสพี (SP) | 2 ช้อนชา | 7. | นมข้นจืด | 50 กรัม | 8. | น้ำมะนาว | 1+1/2 ช้อนชา | 9. | กลิ่มมะลิ | 1/2 ช้อนชา | 10. | สีผสมอาหาร | | วิธีทำ ส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในการทำขนมปุยฝ้าย ตวงแป้ง + ผงฟู แล้วร่อน 1 ครั้ง หลังจากนั้นให้ใส่แป้งในภาชนะทนความร้อน แล้วเอาเข้าอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบ 5 นาที แล้วเอาออกมาพึ่งให้หายร้อน หลังจากนั้นให้ร่อนแป้งกับผงฟูอีก 2 ครั้ง แล้วพักไว้ก่อน หมายเหตุ ถ้าไม่อยากอบ ให้เอาแป้งไปตากแดดประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงก็ได้นะคะ แต่วันนี้แดดไม่ค่อยแรง เราก็เลยใช้วิธีอบแป้งด้วยเตาอบแทน การนำแป้งไปตากแดดหรืออบให้แห้งก่อนเป็นการไล่ความชื้นของแป้ง จะทำให้ขนมขึ้นฟูง่ายขึ้น ให้ใส่ไข่ + น้ำตาลทราย + น้ำเปล่า ลงไปในโถปั่นพร้อมกันเลย แล้วให้ป้ายเอสพีที่หัวตีรูปตะกร้อ (ลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ) หลังจากนั้นให้ตีส่วนผสมด้วยความเร็วสูงสุด (Max) เป็นเวลา 5-6 นาที (เครื่องตีไข่ของเรากำลังวัตน์ค่อนข้างสูงเลยใช้เวลาแค่ประมาณ 3-4 นาทีก็ขึ้นฟูพอ) หรือจนกระทั่งขนมขึ้นเป็น 3 เท่าตัว ส่วนผสมที่ได้หลังจะค่อนข้างข้นฟูมากค่ะ เปลี่ยนความเร็วเป็นความเร็วต่ำสุด (Min) แล้วค่อย ๆ ทะยอยใส่แป้งลงไปจนหมด อย่าลืมปาดส่วนผสมให้เข้ากันด้วย ส่วนผสมที่ได้หลังจากที่ใส่แป้งลงไปจะข้นเหนียวมากกว่าเดิม ยังใช้ความเร็วต่ำสุดอยู่นะคะ ให้ค่อย ๆ เติมนมข้นจืดลงไปเป็นสาย ต่อด้วยน้ำมะนาวลงไปโดยที่ยังใช้ความเร็วต่ำสุดอยู่ ต่อด้วยกลิ่นมะลิ ยังเป็นความเร็วต่ำสุดอยู่ ตีต่อจนกระทั่งส่วนผสมเข้กันจนเนียนดีเป็นครีมข้น อย่าลืมปาดส่วนผสมเป็นระยะ ๆ เราใช้เวลาตีต่อประมาณ 1 นาทีหลังจากที่ใส่ส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ส่วนผสมที่ได้หลังจากที่ตีจนเนียนเป็นครีมข้นแล้ว หลังจากนั้นให้ทิ้งส่วนผสมไว้ประมาณ 1/2 ชั่วโมง เพื่อให้ผงฟูได้ทำงาน จะทำให้ขนมหน้าแตกง่ายขึ้น ตั้งน้ำใส่ลังถึง โดยให้ระดับน้ำในลังถึงเมื่อวัดจากขอบหม้อต้องไม่ต่ำกว่า 1 นิ้ว ต้มน้ำให้เดือดจัด ๆ หมายเหตุ ดังนั้นทุกครั้งที่นึ่งขนมแต่ละชุดเสร็จแล้ว จะต้องตรวจดูระดับน้ำทุกครั้ง ถ้าระดับน้ำต่ำจะต้องเติมน้ำให้ได้ระดับก่อนทุกครั้งที่จะนึ่งขนมชุดใหม่ มิฉะนั้นขนมที่ได้หน้าจะไม่แตก ระหว่างที่รอให้น้ำเดือด ถ้าต้องการให้ขนมมีสีที่แตกต่างกัน จะต้องแบ่งส่วนผสมออกมาใส่ชามผสม แล้วใส่สีลงไปเล็กน้อยสีของขนมจะเข้มขึ้นหลังจากที่นึ่งขนมจนสุกแล้ว ดังนั้น ถ้าอยากได้ขนมที่สีอ่อน ๆ ให้ใส่สีเพียงเล็กน้อยพอ อย่างรูปด้านบน สีของส่วนผสมหลังจากที่ผสมสีแล้ว จะอ่อนมาก แต่พอขนมสุกแล้วสีจะออกเป็นสีส้มชัดขึ้น ในการผสมสี อย่ากวนส่วนผสมแรง ควรจะตะล่อมอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ส่วนผสมยุบตัว จะทำให้ขนมเนื้อแน่น ให้ตักส่วนผสมใส่ในถ้วยกระดาษที่ลองด้วยถ้วยอะลูมิเนียม โดยให้ใส่ส่วนผสมให้พูน ๆ และให้วางถ้วยขนมให้ห่างกันประมาณ 2 ซ.ม. เพื่อให้ขนมได้รับความร้อนจากไอน้ำอย่างเต็มที่และทั่วถึง หรือ ถ้าใครอยากให้ขนมแตกเป็นสี่แฉกอย่างชัดเจน จะใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจุ่มน้ำมะนาว แล้วกรีดลงบนขนมเป็นรูปเครื่องหมายบวก โดยจุ่มน้ำมะนาวครั้งละหนึ่งเส้น จะช่วยทำให้หน้าขนมแตกเป็นสี่ส่วนได้ (เราไม่ได้ใช้น้ำมะนาวกรีดหน้าขนม แต่ขนมของเราหน้าก็แตกดี บางอันจะแตกทั้ง 3 บางอัน 4 แฉก แต่ขนมหน้าแตกทุกอันค่ะ) หมายเหตุ เราลองใส่ขนมแบบไม่นูน ขนมหน้าแตก แต่จะบานน้อยกว่าใส่หน้านูน ๆ หลังจากนั้นให้ เมื่อน้ำเดือดพล่านจัดแล้วให้ลดความร้อนลงเป็นอ่อน แล้วค่อยวางขนมลงนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ขณะที่นึ่งอย่าเปิดฝาลังถึงโดยเด็ดขาด (ลืมถ่ายภาพมา มัวแต่ลุ้นขนมค่ะ) เมื่อนึ่งครบ 15 นาทีแล้วให้ยกขนมออก เอาขนมออกจากถ้วยอะลูมิเนียม แล้วพักไว้บนตะแกรงพัก ทิ้งไว้จนกระทั่งขนมเย็นตัวลง หมายเหตุ - ตอนที่ต้มให้น้ำเดือดจัด เราเปิดไฟเต็มอัตราที่เตาเราเปิดได้เลย (Max สุด), หลังจากนั้นก่อนที่จะนำขนมขึ้นนึ่ง เราก็ลดความร้อนลง โดยการปรับไฟให้ไปต่ำสุดเลย (Min) แค่เพียงให้น้ำเดือดปุด ๆ เท่านั้น
- ให้ใช้ผ้าผืนใหญ่พอหุ้มฝาลังถึง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหยดลงบนขนม หรือ จะใช้กระดาษไขแผ่นใหญ่กว่าความกว้างของฝาลังถึง วางพาดบนลังถึงชั้นบนสุดแล้วเอาฝาลังถึงวางทับลงไปก็ได้
Create Date : 26 มกราคม 2557 |
Last Update : 27 มกราคม 2557 8:12:33 น. |
|
101 comments
|
Counter : 186423 Pageviews. |
|
|