Renaissance แอนิเมชั่นแบบนัวร์ๆ



Renaissance
แอนิเมชั่นแบบนัวร์ๆ

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 18 กุมภาพันธ์ 2550


*Renaissance คือหนังแอนิเมชั่นพูดฝรั่งเศสที่สร้างความฮือฮาพอสมควรเมื่อปีที่แล้วเมื่อไปตระเวนฉายยังเทศกาลภาพยนตร์ในหลายประเทศ รวมทั้งทำให้วงการแอนิเมชั่นของฝรั่งเศสเองที่เคยจำกัดอยู่ในสื่อโทรทัศน์กลับตื่นตัวขึ้นมาขนานใหญ่

คริสตียอง วอลค์มอง ศิลปินหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่เคยมีผลงานเพียงหนังสั้นแนวเซอร์เรียลเรื่อง Maaz(1999) คิดการใหญ่ด้วยการทำ Renaissance แอนิเมชั่นความยาว 105 นาที กระทั่งได้ผลลัพธ์เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และเป็นงานที่แสดงให้เห็นว่าศิลปะการสร้างสรรค์ในแขนงนี้ยังไร้ขีดจำกัด

หนังใช้เทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ 3 มิติ คล้ายการถ่ายหนังที่มีคนแสดง ต่างไปตรงที่ไม่ต้องถ่ายในโลเคชั่น โดยนักแสดงต้องใส่ชุดสีดำที่ติดเครื่องส่งสัญญาณตามส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้วแสดงไปตามบทบาทที่วางเอาไว้ จากนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จะสร้างภาพ 3 มิติ โดยถอดแบบมาจากการแสดงของนักแสดงที่บันทึกไว้ดังกล่าว ทั้งสีหน้าท่าทางและการเคลื่อนไหว ทำให้ตัวละครมีความเป็นธรรมชาติเหมือนมีชีวิตจริง

ตัวอย่างหนังที่ใช้เทคนิคนี้เช่น กอลลัม ใน The Lord of the Rings ลิงยักษ์ใน King Kong เวอร์ชั่น 2005 ส่วนแอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ใช้เทคนิคนี้ล้วนๆ คือ The Polar Express ของ โรเบิร์ต เซเมคคิส

หากจะระบุแนวหรือรูปแบบของ Renaissance คงได้คำตอบที่หลากหลาย อารมณ์ของหนังเป็นแนวลึกลับ-ระทึกขวัญที่สอดแทรกแอ๊คชั่นปนดราม่า เนื้อหาเป็นหนังวิทยาศาสตร์ผสมกับหนังสืบสวน ทั้งยังมีกลิ่นอายของฟิล์มนัวร์ ขณะเดียวกันก็เรียกได้ว่าเป็นแอนิเมชั่นไซเบอร์พังค์เพราะมีฉากหลังว่าด้วยชีวิตผู้คนในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีเป็นใหญ่ เช่นที่เห็นในหนังอย่าง The Matrix(1999) หรือแอนิเมชั่นสัญชาติญี่ปุ่นเรื่อง Akira (1988) และ Ghost in the Shell(1995)

หนังเล่าถึงปารีส ปี 2054 เกิดคดีลักพาตัว อิโลน่า หญิงสาววัย 22 ปี นักวิจัยขององค์กรด้านสุขภาพที่ชื่อว่า อเวลอน ตำรวจมอบหมายให้ คาราส มือดีที่มีนิสัยมุทะลุทำคดีนี้โดยย้ำว่าต้องพาอิโลน่ากลับมาให้ได้

การสืบสวนนำพาคาราสไปพบกับบิสเลน พี่สาวที่ดูแลอิโลน่าตามลำพังตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตในสงคราม ก่อนที่ทั้งสองจะถูกอเวลอนนำไปเลี้ยงดู ได้พบกับดอกเตอร์มุลเลอร์ หัวหน้าของอิโลน่าที่ดูเหมือนปิดบังอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโครงการวิจัยล่าสุดของหญิงสาว

ยิ่งสืบสาวลึกลงไปความซับซ้อนของคดียิ่งเพิ่มมากขึ้น คนที่เกี่ยวข้องถูกจัดการไปทีละคน กระทั่งคาราสเชื่อว่าการหายตัวไปของหญิงสาวต้องเชื่อมโยงไปถึงอเวลอน...เป็นความเลวร้ายที่ถูกซุกไว้ใต้ฉากหน้าอันสวยงาม

*จากพล็อตและการดำเนินเรื่องราวต้องถือว่าไม่มีอะไรน่าสนใจนัก บทถูกเขียนขึ้นโดยเดินตามหนังแนวนี้หลายต่อหลายเรื่องแล้วนำมาผสมรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น Strange Days(1995) Blade Runner(1982) Minority Report (2002) และ Paycheck (2003) ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลขององค์กรยักษ์ในโลกอนาคต (3 เรื่องหลังดัดแปลงจากงานเขียนแนววิทยาศาสตร์ของ ฟิลิป เค.ดิค)

ขณะที่ตัวละครคาราสซึ่งมีปมฝังใจก็เป็นคาแร็กเตอร์มาตรฐานของพระเอกยุคใหม่ที่ต้องมีความขัดแย้งในตัวเอง ดังที่เห็นในหนังแอ๊คชั่นส่วนใหญ่ หรือถ้าเป็นหนังแนวไซเบอร์พังค์ก็เช่น I, Robot(2004) รวมไปถึง Blade Runner กับ Minority Report

สรุปคือเนื้อหาเรื่องราวของ Renaissance ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องหยิบมาพูดถึง(แต่ไม่ได้หมายความว่าหนังไม่สนุก) แก่นสารว่าด้วยผลร้ายของการทำตัวเป็นพระเจ้าที่สามารถกำหนดความเป็นไปของชีวิตมนุษย์นั้นถูกกล่าวซ้ำบ่อยครั้งแล้วเช่นกัน หากบอกว่าเป็นจุดด้อยของหนังก็ได้ แม้จะพอเข้าใจว่าเนื้อหาดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ที่สำคัญกว่า นั่นคือนำมารองรับความคิดสร้างสรรค์อันทะเยอทะยานของผู้สร้างผ่านเทคนิควิธีการทั้งด้วยเทคโนโลยีของนักคอมพิวเตอร์กราฟิกและฝีไม้ลายมือของนักออกแบบ-นักวาดการ์ตูน แต่ถึงกระนั้น หากใส่ความแปลกใหม่ในเนื้อหาเรื่องราวลงไปมากกว่านี้ หนังก็จะน่าจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ในวิดีโอเบื้องหลัง ผู้สร้างบอกว่าได้รับอิทธิพลจากนิยายอาชญากรรมของ เจมส์ เอลล์รอย ซึ่งเหมาะกับการสร้างเป็นหนังฟิล์มนัวร์ อาทิ L.A. Confidential(1997) และ The Black Dahlia(2006) ขณะที่หนังหรือนิยายไซเบอร์พังค์ส่วนใหญ่มักจะทำเป็นแนวสืบสวนโดยสร้างบรรยากาศแบบนัวร์อยู่แล้ว ดังนั้น การใช้สีเพียงสีขาวและสีดำตัดกันอย่างรุนแรงตลอดทั้งเรื่อง นอกจากจะให้ภาพดูแปลกตาและงดงามแล้ว ยังสอดคล้องโดยตรงกับทิศทางความเป็นนัวร์ที่ผู้สร้างต้องการ

สภาพบรรยากาศของเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงและสิ่งปลูกสร้างห้อมล้อม ตัวละครหญิงผู้ทะยานอยาก การจัดแสงแบบโลว์-คีย์เน้นความมืดมน เล่นกับการตัดกันของแสงเงา ท่ามกลางความผิดปกติบิดเบี้ยวที่ครอบคลุมอยู่ทุกขณะ เหล่านี้คือองค์ประกอบพื้นฐานของฟิล์มนัวร์ที่ Renaissance นำมาดัดแปลงด้วยวิธีการของแอนิเมชั่นอย่างได้ผล จนเรียกว่าเป็นหนัง “แอนิเมชั่น-นัวร์” ก็คงไม่ผิดนัก

หลายฉากหลายตอนทำได้อย่างน่าทึ่งด้วยความงดงามและเต็มไปด้วยรายละเอียด โดยเฉพาะภาพเพอร์สเปคถีฟกรุงปารีสในอนาคตที่ถูกลำดับจัดวางมานำเสนอเป็นองค์ประกอบสำคัญ สมแล้วที่หนังใช้เวลาถึง 6 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์

เสียดายที่ผู้เขียนดูหนังเรื่องนี้จากดีวีดี ถ้าได้ดูในโรงภาพยนตร์คงตื่นตาเต็มอารมณ์มากกว่านี้



Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 พฤษภาคม 2550 18:20:39 น. 15 comments
Counter : 1375 Pageviews.

 
ฮ่ะ ฮ่ะ...พึ่งได้แผ่นมาเมื่อสองวันก่อนนี่เองค่ะ ยังไม่ได้ดูเลย...งั้นอ่านเสร็จแล้วเดี๋ยวไปดูเลย รวมทั้ง Ghost in the Shell ด้วยอ่ะ ดองมาเป็นทศวรรษแล้ววววววว


โดย: renton_renton วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:11:24 น.  

 
ภาพน่าดูมากครับ
วันนี้เพิ่งดู Ghost in the Shell + Innocence และ Appleseed มา...
ผมชอบ Innocence มากๆ
(คงเพราะว่า Ghost in the Shell มันหนักกบาลไปนิด 555+)


โดย: nanoguy วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:57:48 น.  

 
ดูแล้วนึกถึง Minority Report อ่ะค่ะ
ภาพแปลกตามาก เพราะมันขาวจัดกับดำจัด ต้องใช้เวลานิดนึงในช่วงแรกเพื่อปรับสายตากะสมอง แต่หนังก็หนุกดีค่ะ


โดย: renton_renton วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:54:47 น.  

 
ชอบภาพคะ

มาเยี่ยม

ว่าง ๆ เชิญที่ blog goodpeople na ka


โดย: goodpeople วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:17:03 น.  

 

กะลังจะบอกเลยว่า
แค่เทคนิควิธีกับเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์กราฟิกรวมถึงฝีมือของนักออกแบบและวาดการ์ตูนมันก็แจ่มมั่กๆแล้วล่ะ
แหม ... แล้วถ้าว่าเกิดได้พล๊อตเรื่องที่เราสนใจหรือเป็นแนวที่เราชอบ
มันคงจะยิ่งเริ่ดดดมากๆๆๆๆๆเนอะบอสเนอะ
( เพราะดูภาพแล้วชอบอย่างแรงเลย
แถมเห็นด้วยกะบอสเลยว่า ถ้าดูในโรงคงสวยได้เต็มตาดี )

ปล.
บอสๆ หนูไปอ่านหนังสือเรื่อง Me .. Myself มาแล้วชอบบบบง่ะ
แต่คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูหนังอ่ะค่ะ เลยจะมาถามบอสว่า บอสดูยังคะ
( แหะๆ แล้วบอสจะดูไหมเนี่ย อิอิ แต่คือว่าถ้าบอสดูแล้ว ช่วยไปเล่าแอนด์วิจารณ์ให้หนูฟังหน่อยจิ นะๆ )



โดย: LunarLilies* วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:22:40 น.  

 
อ๋อๆๆ ใช้คนจริงๆมาแสดงก่อนถอดแบบนี่เอง สีหน้าท่าทางการเคลื่อนไหวถึงได้สมจริงนัก

ต้องดูแค่สีขาวกับสีดำตลอดความยาว 105 นาที
ถ้าภาพไม่งาม เนื้อหาไม่ดี สงสัยจะมีง่วงนะเนี่ย
(ว่าไปตามนิสัยส่วนตัวนะค้าบบบ )

ปล.ชอบบทความล่าสุดเรื่องฮีโร่จอมกร่างนะคะ
เพราะความอ่อนด้อยรู้น้อยเรื่องประวัติศาสตร์และสังคม
ก้อเลยเผลอชมหนังฮอลลีวู้ดเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว


โดย: G IP: 203.113.76.7 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:17:46 น.  

 
--- อยากดูครับ


โดย: เหมียวหล่อ (myth ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:19:52 น.  

 
อะเหอ...ผมเองยังจะหาดูได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย

แต่ภาพเจ๋งมากจริง ๆ ครับ
นัวร์สุด ๆ


โดย: ShadowServant วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:34:13 น.  

 
มาบล็อกนี้ทีไร

เกิดกิเลสอยากดูหนังทุกทีไปสิน่า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:56:17 น.  

 
บอสสส ได้ข่าวว่าไม่ซึ้ง ไม่ประทับใจ Me...Myself
คือออชักอยากจะรู้ซะแล้วซิว่า หนังรักโรแมนติคในดวงใจบอสอ่ะ เรื่องอะไรเหรอ???
ขอซักเรื่องได้มั๊ย นะนะนะ อยากรู้จริงๆนิ


โดย: G IP: 203.113.76.7 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:20:53 น.  

 
จีถามในนี้ แต่บอสไปตอบให้ที่บล็อกเป้โน่นแล้วจ้ะ

ไอ้เราก็งง ว่าจีถามไว้ตรงไหน หาแทบตาย แล้วบล็อกเป้ ชีก็เขียนสั้นๆไม่เป็น.. อ่านทีต้องมีเวลาจริงๆ


โดย: เดน่า IP: 203.130.150.85 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:23:07 น.  

 
อุ๊ย...ลืมไป เด๋วบอสน้อยใจ หาว่าไม่ทักไม่ทาย

หวัดดีจ้า.... ซำบายดีนะ แวะมาเยี่ยมชม เพราะแต่ขอไม่ออกความเห็น เดี๋ยวจะหน้าแตก


โดย: เดน่า IP: 203.130.150.85 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:26:43 น.  

 
^
^
หวัดดีครับพี่


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:00:27 น.  

 
ถ้ามีเวลา...

T T


โดย: ม่วนน้อย วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:46:15 น.  

 
ได้อ่านคำตอบพี่เอ้ที่บล็อคพี่เป้แล้วค่ะ ขอบคุณพี่เดน่าค้าบบบ

อ๊ะ...ขอบคุณบอสสสด้วยยยที่ช่วยไปตอบ ขอบคุณนะคะ


โดย: G IP: 203.113.76.7 วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:07:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.