เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แนะนำแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดเร้าใจ อุปกรณ์ตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมดึงดาราหนุ่ม เสน่ห์แรง “อนันดา” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เมืองไทย ช่วยสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตั้งราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท เริ่มขาย 19 มีนาคมนี้ที่โชว์รูม รถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 1

สำหรับมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ใหม่ มาพร้อมความโดดเด่นของนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่นำสมัยของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้ง ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่ช่วยให้สามารถล็อกหรือปลดล็อกประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึงสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม “อิมโมบิไลเซอร์”

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 2

นอกจากนี้ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ยังมาพร้อมอุปกรณ์และการตกแต่งภายในที่ลงตัว ความสะดวกสบายในการใช้งาน และประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เช่น มาตรวัดแบบ Hi-Contrast กระจกมองข้างที่พับและปรับได้ด้วยไฟฟ้า กระจกไฟฟ้าแบบอัตโนมัติพร้อมระบบความปลอดภัย และระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อกรวมไปถึงระบบไฟนำทางหลังดับเครื่อง ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 1.8 GLS Ltd ขึ้นไป ส่วนในรุ่น GT นอกจากจะมาพร้อมจอระบบสัมผัสแล้ว ยังมีการติดตั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายและระบบนำทางอัตโนมัติอีก ด้วย

โดย ส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการตกแต่งให้เร้าใจมากขึ้น ด้วยการติดตั้งกระจังหน้าแบบใหม่ สเกิร์ตข้าง คิ้วตกแต่งชายฝากระโปรงท้าย พร้อมแนะนำตัวถังสีใหม่ “แดงเมทัลลิก” และอื่นๆ อีกมากมาย

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 3

เครื่องยนต์ของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มีทั้งเครื่อง ขนาด 1.8 ลิตร FFV ซึ่งรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทุกประเภท ตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 รุ่น 2.0 ลิตร รองรับได้ถึงแก๊สโซฮอล์ อี 20 โดยมีราคาขายอยู่ที่ 794,000 บาท ถึง 1,051,000 บาท พร้อมถือโอกาสนี้แนะนำ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ดารา นักแสดงชั้นนำมากความสามารถของเมืองไทย และตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่จะมาช่วยถ่ายทอดความมีเสน่ห์ และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รวมไปถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของผู้ขับขี่

จากความมีเสน่ห์และ บุคลิกที่โดดเด่นของ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ทางบริษัทฯ จึงตัดสินใจเลือกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ถือเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของรถรุ่นดังกล่าวในเมืองไทย เพราะเชื่อว่าจะสามารถสะท้อนตัวตน และความมีเสน่ห์ที่เร้าใจได้ชัดเจน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเป็นพรีเซ็นเตอร์ นอกเหนือจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สำหรับภาพยนตร์โฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แล้ว อนันดาจะได้ร่วมทำกิจกรรมของทางบริษัทฯ ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 4

ลูกค้าที่ซื้ออรถยนต์ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ จะได้รับประกันภัยชั้นหนึ่ง ไดมอนด์ อินชัวรันซ์ ฟรี เอกสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซ่อมแซมรถจากช่างผู้เชี่ยวชาญ และมั่นใจกับอะไหล่แท้ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองพิเศษต่างๆ เช่น ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ.อัตราเบี้ยประกันภัยพิเศษ การคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อครั้ง (เงื่อนไขความคุ้มครองตามรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัย) พร้อมบริการรับแจ้งอุบัติเหตุและช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถต่ออายุประกันภัยชั้นหนึ่ง (ซ่อมห้าง) ได้นานสูงสุด 5 ปี

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 5

นอกเหนือจากการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตรแล้ว ล่าสุดมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ประกาศขยายรายการฟรีค่าแรงการเช็คระยะ สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ไทรทัน และ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2554 เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยลูกค้าสามารถนำรถเข้าเช็คระยะ 1,000 กิโลเมตรแรก และทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อสร้างความสะดวกสบายสำหรับลูกค้าในการบำรุงรักษารถ รวมไปถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้านการบริการหลังการขายให้กับลูกค้ามิ ตซูบิชิทุกท่าน

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 6

ด้วยนโยบายขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานให้ครอบคลุม ทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น เน้นคุณภาพสูงสุดของศูนย์บริการทั้ง 138 แห่ง ให้มีความพร้อมทั้งด้านการบริการ การขาย และอะไหล่ ด้วยการสร้างบุคลากรให้มีทักษะ เชี่ยวชาญในทุกด้าน นอกจากนี้ยังจัดสำรองอะไหล่สิ้นเปลืองไว้ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการได้ทันท่วงที พร้อมการกำหนดราคาของอะไหล่ ให้สามารถแข่งขันได้

เป็นเจ้าของได้ ง่ายๆ ด้วยราคาโดนใจ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มี 4 รุ่นให้เลือก เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยมี 6 สี คือ แดงเมทัลลิก, บรอนซ์เงิน, บรอนซ์ทอง, เทาดำ ดำ และสีขาว “ไวท์เพิร์ล” พร้อมราคาขายโดนใจ

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 7

Lancer EX 1.8 MIVEC GLX ราคา 794,000 บาท *
Lancer EX 1.8 MIVEC GLS-Limited ราคา 879,000 บาท* (ภายในสีดำ)
Lancer EX 1.8 MIVEC GLS-Limited ราคา 879,000 บาท* (ภายในสีเบจ)
Lancer EX 2.0 MIVEC GT ราคา 1,051,000 บาท *
* รุ่นสีขาว “ไวท์เพิร์ล” ราคาเพิ่มอีก 10,000 บาท


กิจกรรม ก่อนการเปิดตัว ณ ห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด 12-13 มีนาคม 2554 เปิดขายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 138 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ 19 มีนาคมเป็นต้นไป กิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่ 13 มีนาคมเป็นต้นไป

Mitsubishi Lancer EX ไมเนอร์เชนจ์ปี 2011 เปิดราคาโดนใจเริ่มต้นที่ 794,000 บาท รูปที่ 8

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถชมและทดลองขับมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ ตั้งแต่ 19 มีนาคมนี้เป็นต้นไป หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือประสานงานลูกค้ามิ ตซูบิชิ Customer Consulting Center โทร. 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS หรือ โทร 02-529-9500 ในวันและเวลาทำการ




 

Create Date : 03 มีนาคม 2554   
Last Update : 3 มีนาคม 2554 22:16:14 น.   
Counter : 3415 Pageviews.  

เผยโฉม Mitsubishi Ecocar ต้นแบบ พร้อมชมคลิปวิดีโอที่เจนีวา เริ่มผลิตในไทยต้นปี 2012

Mitsubishi-Ecocar-Geneva

การเปิดตัวในวันนี้ของ Mitsubishi Concept Global Small Vehicle หรือขอเรียกว่า Mitsubishi Ecocar ที่งาน Geneva Motor Show ครั้งที่ 81 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทันทีต่อตลาดรถอีโคคาร์ “ไม่มากก็น้อย ไม่ช้าก็เร็ว” เนื่องจาก Mitsubishi ออกมาประกาศชัดเจนอีกครั้งว่ารถรุ่นนี้จะเริ่มมีการผลิตขึ้นที่โรงงานแห่ง ที่ 3 ของบริษัทฯที่เมืองไทยในต้นปี 2012 ด้วยเครื่องยนต์ทางเลือกขนาด 1.0 และ 1.2 ลิตร ตามสเปคของแต่ละตลาดโดยมาพร้อมระบบพลังงานหมุนเวียนจากการเบรคและเทคโนโลยี Start-Stop รวมถึงเกียร์ CVT รุ่นใหม่ล่าสุด วิ่งบนยางต้านการหมุนต่ำ ซึ่ง Mitsubishi ตั้งใจที่จะผลิตรถรุ่นนี้มาป้อนตลาดเกิดใหม่เพื่อเจาะตลาดระดับ B-Segment ที่ประหยัดน้ำมันตามสมัยนิยม สวยแบบนี้คงแย่งกันซื้อไม่แพ้น้ำมันปาล์ม!!





 

Create Date : 02 มีนาคม 2554   
Last Update : 2 มีนาคม 2554 15:12:44 น.   
Counter : 1373 Pageviews.  

เคาะแล้ว! BMW X1 sDrive18i รุ่นประกอบในประเทศ Entry-Level เริ่มต้นที่ 2.149 ล้านบาท

BMW X1 sDrive18i 2011

สืบเนื่องจากวันก่อนที่ BMW ได้เผยรายละเอียดของ X1 sDrive18i รุ่นประกอบในประเทศไปแล้ว ล่าสุด นายราล์ฟ บิสซิงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้รถรุ่นดังกล่าวพร้อมที่จะเปิดตลาดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยกำหนดราคาจำหน่ายไว้ 2,149,000 บาท ซึ่งเป็นระดับ Entry Level ที่มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริหารยุคใหม่ที่ชื่นชอบคาแรกเตอร์แนวสปอร์ต

BMW X1 sDrive18i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ยกตัวอย่างเช่น ระบบเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-demand ทำให้มันสามารถเร่งจาก 0 ถึง100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 10.4 วินาที BMW X1 sDrive18i มีค่าเฉลี่ยอัตราการประหยัดน้ำมัน 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร และค่าเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 195 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU Cycle นอกจากนั้น เครื่องยนต์ของ BMW X1 sDrive18i ยังสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ด้วย

รายละเอียดอื่นๆของรถรุ่นนี้อ่านได้จากข่าวก่อนหน้านี้ครับ click

ภาพด้านล่างคือ ชุดแต่ง BMW X1 M Sport




 

Create Date : 01 มีนาคม 2554   
Last Update : 1 มีนาคม 2554 16:56:10 น.   
Counter : 1602 Pageviews.  

โตโยต้าทุบราคารถไฮบริด เบรกภาษีใหม่พีพีวี

เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์หรู “เลกซัส” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญของเลกซัสในประเทศไทย เพราะได้มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ “เลกซัส ซีที200เอช” (Lexus CT200h) สู่ตลาดไทย ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฮบริดแฮทช์แบกคันแรกของโลก และยังเป็นรถขนาดคอมแพกต์ 5 ประตูของเลกซัสด้วย

“เลก ซัส ซีที200เอช เป็นรถยนต์ไฮบริดนำเข้าจากญี่ปุ่น ที่มีราคาต่ำเพียง 2.19 ล้านบาทและสูงสุด 2.69 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นตัวผลักดันให้ยอดขายของเลกซัสบรรลุ 650 คัน ซึ่งถือเป็นยอดขายมากที่สุดของเลกซัสในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวทำตลาดเมื่อปี 1994 โดยตั้งเป้ายอดขายรถรุ่นใหม่นี้ไว้ถึง 330 คัน หรือเทียบเท่ากับยอดขายของเลกซัสทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา 336 คัน”

ส่วน สาเหตุที่มั่นใจรถรุ่นใหม่จะผลักดันยอดขายได้สูงเป็นสถิติของเลกซัสในไทย เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฮบริดทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร สมรรถนะการขับขี่สนุก แต่มีความนุ่มนวลสบาย รูปลักษณ์ทันสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แม้จะไม่มีคู่แข่งโดยตรงในตลาดแต่เทียบกับรถหรูใกล้เคียงอย่างบีเอ็มดับเบิล ยู ซีรี่ส์1, ออดี้ เอ3 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสแล้ว นับว่ามีราคาต่ำกว่า หรือใกล้เคียง

“เลกซัสเชื่อมั่น จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภค และคาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มยอดขายเป็น 1,000 คัน และหากสามารถทำให้ตัวเลขยอดขายปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เป็นไปได้ที่จะมองถึงการขึ้นไลน์ประกอบในไทย เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกด้วย แต่นั่นต้องมีปริมาณมากกว่า 10,000 คันขึ้นไป” นายทานาดะกล่าวและว่า

ทั้งนี้เลกซัส ซีที200เอช ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ แบบ Atkinson Cycle ขนาด 1.8 ลิตร 99 แรงม้า โดยทำงานผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 650 โวลต์ ให้กำลัง 60 กิโลวัตต์ ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนสูงสุดรวมกัน 136 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 10.3 วินาที และเพื่อความมั่นใจของลูกค้า ได้รับประกันแบตเตอรี่เป็นเวลา 5 ปี และรับประกันตัวรถยนต์ 4 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

สำ หรับเลกซัส ซีที200เอช มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Luxury ราคา 2.19 ล้านบาท, รุ่น F-Sport ราคา 2.39 ล้านบาท, รุ่น Premium พร้อมระบบนำทางจราจร ราคา 2.59 ล้านบาท และรุ่น Premium พร้อมระบบนำทางจราจร และมูนรูฟ ราคา 2.69 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีสต็อกพร้อมส่งมอบรถให้กับลูกค้ากว่า 40 คัน

นายทานาดะกล่าวว่า ส่วนการที่รัฐบาลกำลังจะปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบ หากเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โตโยต้าพร้อมที่จะสนับสนุนแน่นอน แต่ที่มีข่าวว่าจะปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก หรือพีพีวี(PPV) ขึ้นนั้น โตโยต้าไม่เห็นด้วยที่จะไปแตะต้องภาษีดังกล่าว

“พี พีวีเป็นรถที่ใช้พื้นฐานมาจากปิกอัพ ซึ่งถือเป็นโปรดักซ์แชมเปี้ยนของไทย หากทำให้ยอดขายพีพีวีลดลงอย่อมส่งผลกระทบต่อการผลิตด้วย ไม่ใช้มีเพียงโตโยต้าแต่ยังมียี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อีซูซุ มิตซูบิชิ หรือฟอร์ด และที่สำคัญตลาดกำลังต้องการรถพีพีวีมาก จนโตโยต้าผลิตรถรุ่นฟอร์จูนเนอร์ไม่เพียงพอรองรับต้องโยกกำลังการผลิตบาง ส่วนไปให้อินโดนีเซีย ซึ่งเราหวังว่าอนาคตจะปรับไลน์ผลิต เพื่อดึงกำลังการผลิตจากอินโดนีเซียกลับมา แต่หากปรับภาษีทำให้ความต้องการลดลง ย่อมทำให้ไทยสูญเสียการผลิตให้อินโดนีเซียไป รวมถึงการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ๆ ด้วย”

สำหรับ ปัจจุบันโตโยต้ามีกำลังการผลิตรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รองรับตลาดในประเทศปีละกว่า 2 หมื่นคัน และส่งออกอีกประมาณ 2.9 หมื่นคัน รวมแล้วมียอดการผลิตปีละกว่า 5 หมื่นคัน ถือเป็นปริมาณการผลิตที่มาก หากปรับภาษีสรรพสามิตพีพีวีขึ้น และส่งผลกระทบต่อตลาดภายในประเทศ ย่อมทำให้โอการในการผลิตและการลงทุนเพิ่มในอนาคตของไทยต้องสูญเสียไปอย่าง น่าเสียดาย

Car Pictures, รถยนต์ Images




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2554   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2554 9:07:08 น.   
Counter : 1149 Pageviews.  

นิสสันยันไม่เลิกกระบะตอนเดียว รับประเมินตลาดผิด ปล่อยลูกค้าเคว้ง เร่งอัดฉีดโรงงาน

Car Pictures, รถยนต์ Images
"นิสสัน" แก้ขาดทุนจ้องเบรกไลน์ นาวาราแบบตอนเดียว ระบุราคาขายไม่คัฟเวอร์ต้นทุน ด้านบริษัทเสียงแข็งยืนยันยังทำอยู่ แต่ยอมรับประเมินตลาดผิดพลาด

แหล่งข่าวตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ นิสสัน เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทแม่มีความพยายามที่จะลดสัดส่วนการทำตลาดรถปิกอัพนาวารา ขนาด 1 ตัน แบบซิงเกิลแค็บ หรือกระบะตอนเดียวลง เนื่องจากประเมินแล้วพบว่ารถรุ่นดังกล่าวมีปริมาณขายน้อยเมื่อเทียบกับต้น ทุนการผลิตต่อคันแล้วนั้นไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบเทียบกับรถปิกอัพรุ่นอื่น ๆ ต้นทุนต่างกันมาก

สาเหตุของความไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตนั้น แหล่งข่าวให้เหตุผลว่า การผลิตรถปิกอัพของนิสสันนั้นจะใช้วิธีคำนวณต้นทุนที่แตกต่างจากผู้ผลิตรถ ยนต์ค่ายอื่น ๆ เช่น นิสสัน จะคำนวณต่อรุ่นเทียบกับราคาขาย ขณะที่ค่ายรถยนต์ อื่น ๆ จะใช้วิธีเหมารวมเป็นประเภท ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันให้มากที่สุด และมาคำนวณความคุ้มค่าทั้งเซ็กเมนต์

"รถซิงเกิลแค็บถือเป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้กับนิสสัน โดยเฉพาะการใช้สำหรับงานบรรทุก แต่จากข้อมูลล่าสุดนิสสันกลับมองว่าการทำตลาดปิกอัพตอนเดียวไม่คุ้ม จนนำไปสู่การตัดสินใจลดสัดส่วนการทำตลาดและการผลิตลงไป ซึ่งน่าเสียดาย" แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามเรื่องนี้ไปยังผู้บริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้รับคำยืนยันว่า บริษัทยังคงทำตลาดรถปิกอัพนิสสัน นาวารา รุ่นซิงเกิลแค็บอยู่ แต่สาเหตุที่ทำให้มีผู้เข้าใจผิดนั้น คาดว่าน่าจะมาจากสถานการณ์ตลาดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทไม่มีรถออกสู่ตลาด ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า

สาเหตุหลักมาจากการคาดการณ์ตลาดผิด เพราะตามปกติในช่วงต้นปีนี้ไซเคิลตลาดรถยนต์มักจะชะงัก แล้วจะกลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงพฤษภาคม แต่วันนี้ทุกอย่างตรงข้ามตลาดรถยนต์ยังคงดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี ทำให้นิสสันรวมทั้งค่ายรถยนต์อื่น ๆ เดาตลาดผิด ยิ่งระยะหลังสินค้าเกษตรรวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมยังคงดีต่อเนื่อง ทำให้ความ ต้องการซื้อรถมีค่อนข้างมากไม่เฉพาะแต่รถปิกอัพ

"เรายอมรับว่าผลิตรถป้อนให้กับตลาดไม่ทันนั้น ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน และทำให้ต้องตัดสินใจไปเลือกใช้ นาวารารุ่นอื่น ๆ แทน แต่ก็มีบางส่วนที่จำต้องตัดสินใจไปเลือกใช้รถประเภทเดียวกันจากยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งเราก็เข้าใจ ลูกค้าเพราะเป็นกลุ่มที่ต้องการรถเพื่อการใช้งานจริง ๆ" แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าสาเหตุที่รถไม่พอกับความต้องการนั้นเนื่องจากบริษัทเองก็มี กำลังการผลิตที่จำกัด และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาการปรับเปลี่ยนเพิ่มความสดใหม่ให้กับนิสสัน นาวารา ทำให้รุ่นซิงเกิลแค็บได้รับการตอบรับจากตลาดดีเป็นพิเศษ

ปัจจุบันนิสสันนาวารา ซิงเกิลแค็บมีสัดส่วน 10% ของปิกอัพนิสสัน โดยปีที่ผ่านมาเซ็กเมนต์ปิกอัพทำตลาดได้มากถึง 23,744 คัน

ส่วนรูปแบบการตลาดจากนี้ไป บริษัทคงเน้นทำโปรโมชั่นควบคู่ไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ให้มากขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ งบประมาณตรงนี้เพิ่มเติมระยะเวลาการใช้งบฯผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์ได้ยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม

ขณะที่โปรโมชั่นส่งเสริมการขายก็สามารถทำได้ยาวต่อเนื่องจากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปมาจนเดือนมีนาคม จากเดิมที่จะมีให้แค่เดือนธันวาคมเท่านั้น




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2554   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 8:53:07 น.   
Counter : 2722 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]