Bugatti ได้เผยโฉม Veyron คันใหม่ ที่มีพละกำลังมาถึง 1,200 แรงม้า
Bugatti ได้เผยโฉม Veyron คันใหม่ ที่มีพละกำลังมาถึง 1,200 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 8 ลิตร Turbocharger 4 ตัว ภายนอกยังตกแต่งใหม่ ให้ดูสปอร์ตมากขึ้นไปอีก โดย Supercar คันนี้มีกำหนดโชว์ตัวพร้อมรายละเอียดอย่างเป้นทางการอีกทีในงาน Geneva Motor Show
-------------------------------------
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555 |
| |
|
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 21:54:05 น. |
| |
Counter : 1248 Pageviews. |
| |
|
|
|
"ซูซูกิ"คลอดแล้ว!!"อีโคคาร์สวิฟท์" 1.2ลิตร4สูบ
ดีลเลอร์ "ซูซูกิ" คึกรับจองคิวอีโคคาร์กันยาว หลังบริษัทแม่เตรียมเปิดตัว "ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่" ดีเดย์ 21 มี.ค.นี้ หลังเปิดให้สื่อมวลชนได้สัมผัสก่อนปลายเดือนนี้ เชื่อดันยอดขายทั้งปีขายทะลุ 1.5 หมื่นคัน เผยกำลังผลิต ช่วงแรกผลผลิตมีรองรับแค่ตลาดในประเทศครึ่งปีหลังเล็งส่งออกตลาดอาเซียน
|
แหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากบริษัทได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในโครงการโปรดักต์ แชมเปี้ยนตัวที่ 2 หรืออีโคคาร์ของรัฐบาลไทย เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ระยอง ด้วยกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี และตั้งเป้าผลิตขายในประเทศ 50% และส่งออก 50%
ตอนนี้บริษัทพร้อมจะเปิดตัวอีโคคาร์ภายใต้ชื่อซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ที่จะมาปลุกเร้าทุกสัมผัส ทั้งดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่โรงแรมดุสิตธานี และจะมีรถยนต์โชว์พร้อมกันทุกโชว์รูมทั่วประเทศไทยในวันที่ 22 มีนาคม 2555
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าจะมีการเปิดตัว "สวิฟท์ ใหม่" อย่างเป็นทางการนั้น บริษัทได้ตัดสินใจจัด ทริปเพื่อบรรดาสื่อมวลชนได้มีโอกาสทดสอบและสัมผัสอีโคคาร์ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ เส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี-กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การควบคุมการขับขี่ การทรงตัว และมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ นายทาคายูคิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซูซูกิเชื่อว่าความต้องการและยอดขายอีโคคาร์น่าจะอยู่ในระดับสูงถึง 100,000 คันอย่างแน่นอน เนื่องจากมี 2 ค่ายรถยนต์ที่ส่งรถทำตลาดประกอบกับอีโคคาร์ที่มีอยู่ในตลาดก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประธานซูซูกิกล่าวว่า กลุ่มผู้ที่ใช้รถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาเลือกใช้อีโคคาร์เพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นคุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่า โดยปีนี้ซูซูกิจะเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ทั้งสิ้น 10,000 คัน ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศไทยเป็นหลัก และมีแผนผลิตเพื่อการส่งออกบางส่วนไปยังประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก โดยคาดว่าจะเริ่มส่งออกได้ราวช่วงเดือนกรกฎาคม
"เรายังไม่มีแผนส่งอีโคคาร์กลับไปขายที่ญี่ปุ่นนั้น เพราะอยากทำตลาดในประเทศไทยให้ดีที่สุดก่อน" นายทาคายูคิกล่าว
สำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมามานั้น ทำได้ 9,600 คัน โตขึ้นถึง 165% จาก ปี 2553 ที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 5,400 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้ามียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 คัน โดยยอดขายหลัก ๆ จะมาจากอีโคคาร์สูงถึง 66% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนยอดขายที่เหลือมาจากรถรุ่นต่าง ๆ ขอบริษัท ทั้งสวิฟท์, เอสเอ็กซ์ 4, แคร์รี่, ฯลฯ
ปัจจุบัน ซูซูกิมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 37 แห่ง และปีนี้จะมีการเปิดเพิ่มอีก 27 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จครบเป็น 60 แห่งทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ หรือก่อนการเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าให้ความสนใจและสอบถามข้อมูลของซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บางโชว์รูมได้เปิดให้ลูกค้าจองคิว เพื่อยื่นความจำนงว่าต้องการจองอีโคคาร์สวิฟท์ ใหม่แล้ว โดยเปิดให้ลงชื่อและแจ้งข้อมูล รายละเอียด รวมทั้งความประสงค์ เพื่อรับจองคิวกันมาเป็นระยะ
สำหรับรถยนต์อีโคคาร์อย่างซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่ายคาดว่าจะใกล้เคียงกับคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด
ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ถือเป็นอีโคคาร์คันที่ 4 ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากนิสสันคลอดมาร์ช ฮอนด้าคลอดบริโอ้ และล่าสุด นิสสันกลับมาคลอดอัลเมร่า แบบซีดาน
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555 |
| |
|
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 18:08:28 น. |
| |
Counter : 1761 Pageviews. |
| |
|
|
|
โตโยต้า อแวนซาปรับใหม่...ขับดีขึ้นนะ
ขาย แบบเรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่เน้นไม่รุกตลาดมากมาย ยิ่งดูยอดขายสะสม7 ปีที่ผ่านมาทำได้เพียง 24,133 คัน ถือว่าน้อยครับถ้าเทียบกับชื่อชั้นของโตโยต้า
สำหรับอแวนซา เป็นมินิเอ็มพีวีราคาประหยัดที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย โดยโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เดินตามนโยบายบริษัทแม่ที่ต้องการแลกเปลี่ยนรถ ส่งออกขายกระจายทั่วภูมิภาค
|
โมเดลแรกเปิดตัวในไทยเดือน กรกฎาคม 2547 และอย่างที่รู้กันว่าอแวนซา ไม่ค่อยได้การตอบรับมากนัก ด้วยลักษณะ-คุณภาพการประกอบ ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ ยิ่งวางเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร บนช่วงล่างกระด้าง แถมโยนเด้งเหมือนควบม้า จึงตอกย้ำภาพชัดเจนว่า คนไทยไม่เอาเอ็มพีวีจากอินโดนีเซีย แม้ราคาจะน่าคบหาก็ตาม
วันเปลี่ยนเวลาผ่าน โตโยต้าพยายามลบจุดด้อยที่ไม่โดนใจเรื่อยมา และเปิดรุ่นไมเนอร์เชนจ์ วางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 109 แรงม้า พร้อมปรับปรุงช่วงล่างใหม่ให้นุ่มนวลขึ้น ซึ่งผู้เขียนมีโอกาสได้ลองขับรุ่นดังกล่าวเช่นกัน
ล่าสุดกับรุ่นโมเดลเชนจ์ เพิ่งเปิดตัวช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา น่าสนใจว่า อแวนซา เจเนอเรชันที่สอง จะพัฒนาขึ้นไปขนาดไหน?
สำหรับ อแวนซา ใหม่ แบ่งการขายเป็น 3 รุ่นย่อย คือ 1.5 E เกียร์ธรรมดา ราคา 569,000 บาท 1.5 G เกียร์อัตโนมัติ 659,000 บาท และรุ่นท็อปที่ผู้เขียนได้ลอง1.5 S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 699,000 บาท
|
ด้านตัวถังแม้ดูไม่ใหญ่กว่าเดิม แต่ก็หล่อคมขึ้นทุกมิติ ทั้งโคมไฟหน้า-หลัง กระจัง กันชน ลายล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมสปอยเลอร์หลังคาฝังไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ขณะที่รุ่นท็อป 1.5S จะมีสเกิร์ตข้างติดมาให้
ในรุ่น 1.5S ยังได้ออปชันอย่าง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงฝังที่พวงมาลัย เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เหนือกว่าในรุ่น 1.5G มีลูกเดียวฝั่งคนขับ ขณะที่รุ่นล่าง 1.5E เกียร์ธรรมดา ไม่มีทั้งถุงลม และระบบเบรก ABS และ กระจายแรงเบรกEBD
เมื่อเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับ กับเบาะผ้าที่ปรับระยะเลื่อนหน้า-ถอยหลัง แต่ปรับระดับสูงต่ำไม่ได้ ที่สำคัญขนาดเบาะค่อนข้างเล็ก แถมหมอนรองหัวสั้น คือผู้เขียนลองดันขึ้นมาสุดแล้ว แต่ระดับยังถึงแเค่ท้ายทอย รองรับได้ไม่เต็มหัว
มุมมองด้านหน้าโปร่งชัด แต่กระจกมองข้างบานเล็กไปนิด แผงคอนโซลหน้า ตลอดจนพวงมาลัย คันเกียร์ดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมวัสดุและการประกอบตามจุดต่างๆ ดูเนียนตากว่ารุ่นเก่า ขณะเดียวกันยังมีช่องเก็บของรวม 20 จุด และวางแก้วน้ำอีก 14 จุด
|
|
|
ด้านชุดเครื่องเสียงเล่น วิทยุ ซีดี เอ็มพี3 ได้ 1 แผ่น มีช่องต่อ AUX และ USB รอให้เสียบอยู่ใกล้ๆคันเกียร์ โดยคุณภาพเสียงที่ขับผ่านลำโพง 4ตัวค่อนข้างดี แต่ดันซวยที่ต้องมาแบกภาระกับรถที่เก็บเสียงค่อนข้างแย่ ทั้งเสียงการจราจรภายนอก เสียงลมปะทะ และเสียงเครื่องยนต์
ส่วนเบาะนั่งที่ว่าเล็กๆรองรับไม่เต็มสรีระ(คนตัวใหญ่) พอขับจริงๆก็ไม่อึดอัด หรือขับทางไกลไม่ปวดหลัง ขณะที่เบาะแถวสองกว้างนั่งสบาย เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ 60 มิลลิเมตร พร้อมช่องแอร์บนแผงหลังคา ซึ่งผู้โดยสารสามารถปรับความแรงลมเองได้
สำหรับเบาะนั่งแถว 3 อาจเล็กแคบตามสไตล์ ดูแล้วคุณผู้หญิงตัวเล็กหรือเด็กน้อย น่าจะพอไหวกับตำแหน่งนี้ แต่กระนั้นถ้าไม่มีผู้โดยสาร ก็สามารถพับเก็บและดันให้ขึ้นไปชนกับเบาะนั่งแถวสอง เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บสำภาระได้
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร VVT-i ปรับกำลังลงมาเหลือ 101 แรงม้า เพื่อผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ ยูโร4 ของเมืองไทย ซึ่งการขับจริงพร้อมผู้โดยสารอีก 2 คน และสัมภาระเต็มลำ การออกตัวยังทำได้ทันใจ มีแรงพุ่งเดินหน้า ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 12 วินาที ถือว่าไม่ขี้เหร่กับการเป็นรถอเนกประสงค์
การขับในเมืองคล่องตัวอย่างยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งต้องชมพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (เดิมไฮดรอลิก) สั่งงานแม่นยำ น้ำหนักไม่เบามือจนหวิวเหมือนพวก ยาริส วีออส ขณะเดียวกันการขับความเร็วสูง พวงมาลัยยังนิ่ง ช่วยให้การขับขี่มั่นใจ
|
|
อย่างไรก็ตามเมื่อออกนอกเมืองใช้ความเร็วสูง เครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมติ 4 สปีด ดูจะทำงานหนักมากขึ้น โดยการเร่งแซงในย่านความเร็ว 60-100 กม./ชม. ต้องอาศัยจังหวะคิกดาวน์บ่อยครั้ง หรือเร่งรอบขึ้นไป 4,000 -5,000 รอบโน้นละครับ ถึงจะมีพละกำลังฉุดดึง
ทั้งนี้การเซ็ตอัตราทดเฟืองท้ายไว้จัดถึง 5.125 หวังให้การออกตัวคล่องแคล่ว แต่การขับทางยาวๆ จะเห็นว่าอแวนซา ใหม่ มีรอบเครื่องยนต์สูง ซึ่งความเร็ว 100 กม./ชม. ที่เกียร์สูงสุดก็ทะลุ 3,000 รอบเข้าไปแล้ว
...ต้องเลือกครับม้า 101 ตัว จะให้ลงตอนไหนเพื่อตอบสองการขับขี่สูงสุดและคำนึงถึงอัตราบริโภคน้ำมันไว้ด้วย
อย่างการขับในทริปนี้ที่ฝ่ารถติดใน เมือง มุ่งออกไปอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยทางยาวๆผู้เขียนใช้ความเร็วเฉลี่ย 120-130 กม./ชม. สุดท้ายหน้าจอดิจิตอลยังแสดงผล13.2 กม./ลิตร ขณะที่โตโยต้าเคลมตัวเลขเฉลี่ยไว้ 12.6 กม./ลิตร
ในส่วนช่วงล่างยึดโครงสร้างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นคานแข็ง พร้อมโช้กอัพและคอยสปริง ยังมีอาการสะเทือนแข็งอยู่นิดๆ แต่ก็ถือว่าน้อยกว่ารุ่นเดิมเยอะ เช่นเดียวกับอาการโคลงตัวเมื่อใช้ความเร็วสูง และการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
โดยวิศวกรโตโยต้าเปลี่ยนมาใช้สปริงที่สั้นลง ส่งผลให้ตัวรถมีระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) ลดเป็น 185 มิลลิเมตร ขณะเดียวกันยังปรับค่าความหนืดของโช้กอัพ โดยยืดระยะการคืนตัวให้ช้าลง ทั้งหลายทั้งปวงส่งผลให้โครงสร้างกันสะเทือนของ อแวนซา ใหม่ ประนีประนอมกับทางแย่ๆมากขึ้น ขณะที่การโยนตัวในโค้งแม้จะมีบ้างตามลักษณะกายภาพของรถ แต่รวมๆแล้วทรงตัวดีกว่ารุ่นเก่า
|
|
ด้านประสิทธิภาพของเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ปรับให้การตอบสนองดีขึ้น กล่าวคือระยะเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม.ลงมาถึงจุดหยุดนิ่ง 47.50 เมตร สั้นกว่าโมเดลเดิมที่ทำได้ 57.27 เมตร อย่างไรก็ตามความรู้สึกของการกดแป้นเบรกยังออกแนวแข็งทื่อไปนิด และต้องปรับความรู้สึกกับระยะเบรกพอสมควร
รวบรัดตัดความ...ใคร กำลังมองหารถอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี (MPV - Multi Purpose Vehicle) ดูเหมือนอแวนซา จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว โดยให้อรรถประโยชน์หลากหลาย ราคาเอื้อมถึงได้ พร้อมความทนทานสไตล์รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง ประกอบกับรุ่นใหม่นี้ยังปรับช่วงล่างให้ขับขี่สบายและเสถียรภาพการทรงตัวดี ขึ้นอีกด้วย
|
|
|
|
|
|
|
|
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555 |
| |
|
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 21:21:21 น. |
| |
Counter : 1859 Pageviews. |
| |
|
|
|
Peugeot 208 XY Concept Turbodiesel
Peugeot ได้เผยโฉม 208 XY Concept Turbodiesel ที่เตรียมไปโชว์ตัวในงาน Geneva Motor Show ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ใช้ขุมพลัง e-HDi 1.6 ลิตร 115 แรงม้า Turbodiesel พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ความพิเศษอยู่ตรงที่ สีของตัวรถ ที่มีการลงเคลือสีถึง 16 ชั้น ทำให้โทนสีของตัวรถเปลี่ยนไปตามระยะการมองเห็น ทำให้ดีไซน์ดูสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2555 |
| |
|
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2555 21:21:25 น. |
| |
Counter : 1562 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |