เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่! ...ที่สุดกระบะพันธุ์แกร่งจากประสบการณ์กว่า 100 ปี หากพูดถึงตลาดกระบะในเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุอยู่ในตอนนี้นั้นค่ายรถยนต์ที่ได้รับการกล่าวถึงและจับตามองมากที่สุดเห็นทีจะไม่พ้นค่ายรถยนต์ Chevrolet ที่วันนนี้ค่ายรถยนต์รายนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่ ทีกำลังจะมากุมหัวใจคนไทยอีกครั้ง เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่ เป็นรถที่ทาง General Motor ทุ่มทุนในการถ่ายทอดประสบการณ์ของการผลิตรถยนต์กระบะที่มีตำนานอย่างยาวนานและการกลับมาครั้งใหม่นี้ก็ทุ่มทุนกว่า 6,000 ล้านบาทในการสร้างรถกระบะที่สามารถตอบสนองได้ทุกโจทยืความต้องการใช้งาน ที่นอกจากแข็งแกร่ง บึกยึนแล้ว ยังคำนึงถึงความหลากหลายในสภาวะการใช้งานจริงของรถ บึกบึน สมบุกสมบัน โดดเด่นด้วย "ดูอัลพอร์ท" ดีเอ็นเอ เชฟโรเลต ภายนอก เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่ ถ่ายทอดความงามสง่าที่ดุดันแต่โฉบเฉี่ยวตั้งแต่ ด้านหน้า ที่เน้นความบึกบึนของฝากระโปรง การเพิ่มสันขอบทำให้โคโลราโด ดูแข็งแกร่ง พร้อมลุยทุกเส้นทาง โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้นเหนือฝากระโปรงหน้า ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความสมบุกสมบัน ที่ควบมากับเอกลักษณของค่าย กระจังหน้าดูอัลพอร์ท นอกจากนี้ ยังใช้โครเมียมตกแต่งทั้งก้านจับเปิดประตู ที่เปิดฝาท้าย ฝาครอบกระจกมองข้าง กรอบไฟหน้า และไฟตัดหมอก เพิ่มความหรูหราเต็มพิกัดสำหรับรุ่นท็อป บั้นท้าย Chevrolet ให้ความทันสมัยที่ลงตัวกับ ไฟท้ายแบบแอลอีดี ที่จัดมาให้เฉพาะในรุ่นท๊อป (LTZ) ส่องสว่างเห็นชัดเจน โยยังมาพร้อมล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 รับกับโป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ทั้งหน้าและหลังในรุ่น LTZ และล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 245/70 R16 ในรุ่น LT พร้อมรองรับทุกการขับขี่ โดย ชฟวี่ โคโลราโด ใหม่ มีให้เลือกตัวถัง 3รูปแบบ ได้แก่ Crew Cab - รถปิกอัพสไตล์เอนกประสงค์ 4 ประตู Extended Cab - รถปิกอัพ 2 ประตูตอนครึ่ง พร้อม Cab Flex สามารถเปิดได้ 90 องศา และท้ายสุด Single Cab - รถปิกอัพ 2 ประตู รองรับทุกการบรรทุกหนัก ภายในกว้างขวางเอนกประสงค์สะดวกสบาย ดังรถยนต์นั่งสุดหรู ภายในห้องโดยสารของโคโลราโด ใหม่ ออกแบบด้วยแนวคิด "ดูอัล ค็อกพิท"สร้างความสมดุลภายในห้องโดยสาร ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสัมผัสประสบการณ์แห่งการขับขี่ร่วมกัน การตกแต่งมอบความรู้สึกหรูหรา สะดวกสบาย และตอบสนองทุกการใช้งานอย่างแท้จริง พื้นที่ช่วงไหล่ของเบาะตอนหน้าและแถวที่สอง ไปจนถึงช่วงศีรษะ และความสูงเบาะที่นั่งให้มากที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกันที่ยัง ถ่ายทอดรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตาสู่ภายในห้องโดยสาร ด้วยการใช้โครเมียมตกแต่งหลายจุด ทั้งคันเกียร์และหัวเกียร์ พวงมาลัย ระบบปรับอากาศ ที่เปิดประตู และสวิทช์เครื่องเสียง แผงคอนโซลใช้สีทูโทน สีเบจและสีดำในรุ่น LTZ และ LT เสริมด้วยเมทัลลิกเพิ่มความโฉบเฉี่ยว มาตรวัดเรืองแสงสปอร์ตเต็ม ขณะเดียวกัน มาตรวัดเรืองแสง และระบบปรับอากาศติดตั้งไฟแอลอีดี สีฟ้าไอซ์บลู (Ice Blue) ที่ทำให้โคโลราโด ใหม่ยิ่งดูเหนือระดับ สวิทช์ทรงกลมควบคุมระบบขับเคลื่อน เพียงหมุนปรับเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD Hi/ 4WD Lo ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับการบุกตะลุยในทุกเส้นทาง ที่ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการเดินทาง Data Information Center (DIC) และยังให้ควเหรือชั้นกับ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรลอยู่คู่กับพวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นขนาดกระชับมือ เครื่องเสียงแบบ 2 DIN เชื่อมต่อด้วยระบบบลูธูท MP3/USB และ AUX ผ่านลำโพง 6 ตัวในรุ่น LTZ นอกจากความหรูหราสะดวกสบายและทันสมัยแล้ว ภายในห้องโดยสารของโคโลราโด ใหม่ ยังมีช่องเก็บของมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยเรกูลาร์ แค็บ มีทั้งหมด 16 ช่องเก็บของ เอ็กซ์เทนเดดแค็บ มีทั้งหมด 19 ช่อง และครูว์แค็บ มีทั้งหมดถึง 30 ช่อง ที่ยังมาพร้อมเบาะที่นั่งหุ้มผ้า หรือเบาะหนังเสริมด้วยวัสดุโทนเดียวกับวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางในรุ่นท็อป มีการออกแบบที่เน้นขอบสันให้คมชัด ใช้วัสดุโฟมความหนาแน่นสองชั้นเพื่อความสบายในทุกการเดินทาง ขณะที่รุ่นเริ่มต้นใช้เบาะหนังแบบไวนิล ซึ่งนอกจากนี้ ยังมี อุปกรณ์อำนวยความสะดวก อย่างช่องชาร์จไฟและช่องเชื่อมต่อ Auxiliary พร้อมพอร์ทยูเอสบีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของโคโลราโด รุ่นใหม่ ขุมพลัง "ดูราแมกซ์" ขีดสุดแห่งเทคโนโลยีดีเซล ใต้ฝากระโปรง เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่! ขุมพลังขับเคลื่อนอันร้อนแรงของเชฟวี่ โคโลราโด ใหม่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลดูราแมกซ์ มีขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ประหยัดน้ำมัน และเปี่ยมด้วยพละกำลัง โดยผ่านการทดสอบอย่างถึงขีดสุดในทุกสภาวะการขับขี่ เครื่องยนต์ Duramax ขนาด 2.5 ลิตร เป็น ขุมพลัง แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว คอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ดยให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ด้านรุ่นใหญ่ เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เป็นบล็อก 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว คอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น พร้อมเทอร์โบ แปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ เช่นกัน แต่ให้พละกำลัง ตอบสนองสุงสุด 180 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตรที่รอบต่ำเพียง 2,000 นาที สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ตามใจผู้ขับ Active Select ส่วนในระบบเกียร์ ธรรมดา 5 สปีด ให้ แรงบิด 440 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ความปลอดภัยเต็มพิกัด พร้อมให้ความมั่นคงทุกการขับขี่ รูปลักษณ์ที่งดงาม ภายในที่ดูโอ่อ่า และขุมพลังกำลังแรงนั้น ยังต้องการความปลอดภัยที่เหนือชั้น และ chevrolet ก็ให้ความมั่นใจ ด้วยความปลอดภัยที่ครบทุกความต้องการ ตั้งแต่ ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายอากาศขนาด 300 มม. พร้อมระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ที่พัฒนาระบบช่วงล่างให้พร้อมลุยทุกสภาวะการขับขี่กับ ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์และโช้กอัพแก็ส ขณะที่ด้านหลังใช้แบบลีฟสปริงแป้นรูปครื่งวงรีใช้วัสดุทำด้วยเหล็กกล้า พร้อมโช้กอัพแก็ส ความน่าประทับใจในระบบความเริ่มจาก TCS (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS และแรงบิดของเครื่องยนต์ในทุกรอบความเร็วทั้งขณะออกตัว เข้าโค้ง หรือเบรกกะทันหันปลอดภัยโคโลราโด ใหม่ ยังถูกจัดมาให้อย่างเต็มที่อีกมากมาย ESP (Electronic Stability Program) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว เป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ในรถยนต์กระบะในเมือง โดยระบบจะทำงานร่วมกับ TCS โดยทำการประเมินการเคลื่อนที่ของรถกับองศาการหมุนของพวงมาลัย หากเกิดการเสียสมดุล โดยระบบจะเพิ่มแรงเบรกในแต่ละล้อ รวมทั้งลดกำลังของเครื่องยนต์ เพื่อให้รถกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลและควบคุมได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะพบในรุ่น LTZ PBA (Panic Brake Assist) ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน โดยระบบจะตรวจจับจากน้ำหนักการกดเท้าลงที่แป้นเบรกและจะช่วยเพิ่มกำลังและ สั่งการให้ระบบ ABS ทำงานเร็วขึ้น อันจะช่วยลดระยะในการหยุดรถให้สั้นลงเมื่อเปรียบเทียบกับรถที่มีระบบเบรก ABS แต่ไม่มีระบบ PBA นี้ (ยกเว้นรุ่น LS) นอกจากนี้ ยัง มี CBC (Cornering Brake Control) ระบบสร้างสมดุลขณะเบรกในโค้ง โดยระบบจะควบคุมแรงดันเบรกและลงน้ำหนักในการเบรกไปยังล้อทั้งสี่อย่างอิสระ จากกันอย่างเหมาะสม ซึ่งแรงดันและน้ำหนักในการเบรกในแต่ละล้ออาจแตกต่างกัน เพื่อช่วยสร้างสมดุลและการทรงตัว และลดอาการท้ายปัด (Oversteer) หรือดื้อโค้ง (Understeer) (เฉพาะรุ่น LTZ) HBA (Hydraulic Brake Assist) ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ทำงานเมื่อผู้ขับขี่ลงน้ำหนักเท้าไปที่แป้นเบรกอย่างรุนแรงขณะเบรกกะทันหัน (ยกเว้นรุ่น LS) และBFA (Hydraulic Brake Fade Assist) ระบบชดเชยแรงดันน้ำมันเบรก ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่ทำการย้ำเบรกขณะเบรกกะทันหัน อย่างไก็ดี หากทุกอย่างที่กล่าวมานั้น ยังไม่สามารถช่วยได้ ก็ยังมั่นใจได้ ในการปกป้องผู้โดยสารใน กับ ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าในรุ่น LTZ แชสซีส์ขนาดใหญ่ทนแรงบิดตัวได้สูง พร้อมคานขวางเสริมแรง โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก พร้อมคานเสริมนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัยนิรภัยยุบตัวอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระแทกช่วงอกจากการชนด้านหน้า และกระจกหน้าอัดซ้อนนิรภัย โคโลราโด ใหม่ มาพร้อมสีสันถึง 7 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White สีเงิน Switchblade Silver สีดำBlack Sapphire สีเทา Royal Gray สีแดง Sizzle Red สีน้ำตาล Auburn Brown และสีน้ำเงินOceanic Blue โดยราคาจำหน่าย ในขณะนี้นั้น ยังมีข้อมูลเพียงรุ่น 2.5 ลิตร เท่านั้น สามารถดูรายละเอียดได้ข้างล่างเลย ราคาจำหน่าย เชฟโรเลต โคโลราโด (Chevrolet Colorado )ใหม่ Chevrolet Colorado Single Cab Duramax 2.5 M/T 537,000 บาท Chevrolet Colorado Extended Cab Duramax 2.5 M/T 584,000 บาท Chevrolet Colorado Extended Cab Duramax 2.5 Z71 ยกสูง M/T 688,000 บาท Chevrolet Colorado Extended Cab Duramax 2.5 Z71 4X4 M/T 737,000 บาท Chevrolet Colorado Crew Cab Duramax 2.5 M/T 659,000 บาท Chevrolet Colorado Crew Cab Duramax 2.5 Z71 ยกสูง M/T 765,000 บาท Chevrolet Colorado Crew Cab Duramax 2.5 Z71 4X4 M/T 808,000 บาท *หมายเหตุ Chevrolet ยังไม่เปิดเผยราคารุ่น 2.8 ลิตร ซึ่ง รุ่น 2.8 ลิตร จะเป็นรุ่นที่มีเกียร์อัตโนมัติด้วย   Create Date : 05 ตุลาคม 2554     0 comment Last Update : 5 ตุลาคม 2554 21:36:36 น.     Counter : 3840 Pageviews.   Share Tweet

เล็งเติมสารพิเศษใส่ แอลพีจีครัวเรือน สกัดลักไก่เติมรถ เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม กระทรวงพลังงาน ยืนยันลอยตัวก๊าซแอลพีจี (LPG) ภาคขนส่ง โดยจะเริ่มวันนี้ 16 มกราคม 2555 ลั่น ไม่เอื้อประโยชน์แก่ภาคเอกชนอย่างแน่นอน พร้อมเติมสารพิเศษใส่ก๊าซครัวเรือน ป้องกันการใช้ในภาคขนส่ง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมฟ้องศาลปกครอง ถ้าหากรัฐบาลยืนยันจะลอยตัวราคาแอลพีจีภาคขนส่งในต้นปีหน้า โดยอ้างว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคเอกชนอย่างเดียว ว่า ถ้าหากจะฟ้องก็สามารถดำเนินการได้ แต่ตนก็อยากจะชี้แจงว่า สิ่งที่พลังงานดำเนินการได้ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ซึ่งแต่เดิมกองทุนน้ำมันเชื้องเพลงมีหน้าที่หลักในการรักษาเสถียรภาพราคา แต่ถูกนำมาใช้อย่างบิดเบือนในการอุดหนุนราคาพลังงาน แล้วถ้าหากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่สามารถเดินหน้านโยบายพลังงานได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกระทรวงกำลังมีแผนเพื่อลดภาระแก่รถสาธารณะชน โดยขณะออกบัตรเครดิตพลังงาน และเปลี่ยนเชื้อเพลิงแท็กซี่ จากแอลพีจี (LPG) เป็นเอ็นจีวี (NGV) ในช่วงก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน โดยจะออกให้กลุ่มรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถตู้สาธารณะที่ใช้เอ็นจีวี (NGV) เป็นลำดับแรก ซึ่งผ่านคณะกรรมการคัดกรองผู้มีสิทธิรับบัตรเครดิตที่จะมีการจัดตั้งต่อไป นายพิชัย ยังกล่าวอีกว่า ได้เตรียมมาตรการป้องกันปัญหาการถ่ายเทก๊าซแอลพีจี (LPG) จากภาคครัวเรือนไปยังภาคขนส่ง โดยทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เสนอว่าควรเติมสารบางชนิดลงไปใน แอลพีจี (LPG) ที่ใช้สำหรับภาคครัวเรือน เพื่อทำให้ไม่สามารถนำไปเติมในรถยนต์ได้ ซึ่งคาดว่า นโยบายลอยตัว แอลพีจี (LPG) ดังกล่าวน่าจะทำให้การนำเข้าแอลพีจีลดลง แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขได้ เพราะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ของประชาชน ขณะที่ในภาคอุคสาหกรรมนั้น ถ้าพบว่ามียอดขายสูงขึ้นผิดปกติ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในทันทีว่า มีการลักลอบนำเข้าขาย แอลพีจี (LPG) หรือไม่ ท้ายนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ทางรัฐจะยังคงตรึงราคาก๊าซแอลพีจี (LPG) ภาคครัวเรือนไว้เท่าเดิม จนถึงปลายปี 2555 เพราะต้องบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมให้ประชาชนไปก่อน แต่ก็จะมีการลอยตัวราคาทั้งหมดก่อนปี 2558 เพราะได้ตกลงไว้กับ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก   Create Date : 04 ตุลาคม 2554     1 comment Last Update : 4 ตุลาคม 2554 21:20:54 น.     Counter : 1081 Pageviews.   Share Tweet

เปิดตัว รถกะบะ Toyota Tacoma TRD T|X Baja ความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายของรุ่นพิเศษในตระกูล F-Series จากค่าย ฟอร์ด อย่าง Ford F-150 SVT Raptor ที่เผยโฉมออกมาในปี 2008 ทำให้ตลาดปิคอัพถึงกับต้องมีการปรับตัวขนานใหญ่ โดยไครสเลอร์ ต้องเปิดตัวเวอร์ชั่นฮาร์ดคอร์ของ Dodge Ram ในชื่อ Ram Runner ที่ SEMA 2010 ส่วน GM หยั่งเสียงลูกค้าด้วยการเปิดตัว GMC Sierra All Terrain HD Concept ในดีทรอยท์ ออโต้ โชว์ Toyota Tacoma TRD TX Baja Series ล่าสุดในงาน Texas State Fair 2011 โตโยต้า ไวสุดๆ ด้วยการเผยโฉมตัวโมฯ ของ Toyota Tacoma TRD T|X Baja Series โดยชื่อ T|X หมายถึง Tacoma Extreme โดยโตโยต้ามีแผนเตรียมผลิตจำหน่ายแบบจำกัดจำนวน โดยได้แรงบันดาลใจจากตัวแข่ง บาฮา เรซซิ่ง เสริมอุปกรณ์สำหรับขาลุยอย่างล๊อคดิฟฯ แบบอิเลคทรอนิคส์ และปรับโฉมภายนอก – ภายในเพิ่มให้หลายจุด ด้านข้าง Toyota Tacoma TRD TX Baja Series ชุดออฟโรดแพคเกจ แน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือของทีม Toyota Racing Development หรือ TRD เริ่มด้วยการใช้คอยล์สปริงจาก TRD เอง ทำงานร่วมกับช๊อคฯ Bilstein รุ่นสำหรับแข่งขันโดยเฉพาะ เพื่อรองรับความสูงของชุดยกที่เพิ่มขึ้น 2 นิ้ว ล้อ bead-lock ขนาด 16 นิ้ว สีเทา Gun-Metal Gray จับคู่ยาง All-Terrain T/A KO ของ BF Goodrich ขนาด 265/70R16 มองจากด้านข้างใช้ยางใหญ่กว่านี้ก็ยังไหว ด้านหน้า Toyota Tacoma TRD TX Baja Series เจ้า บาฮา ซีรี่ส์ ใช้พื้นฐานของ Tacoma รุ่นปี 2012 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ความจุ 4.0 ลิตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 5 จังหวะ โตโยต้า ทาโคม่า ใหม่นี้ เตรียมผลิตที่โรงงาน TMMTX หรือ Toyota Motor Manufacturing Texas ในซาน อันโตนิโอ โดยมีจำกัดจำนวนไว้ที่กี่คันไม่มีข้อมูลบอก แต่ลูกค้าขาลุย คอออฟโรดพันธุ์แท้จะได้สัมผัสกันในช่วงต้นปี 2012 แม้ภาพที่เห็นนี้จะเป็นตัว pre-production ทว่าคันจำหน่ายจริงคงไม่มีอะไรผิดไปจากนี้แล้ว อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ได้ใหม่ครับ   Create Date : 03 ตุลาคม 2554     0 comment Last Update : 3 ตุลาคม 2554 20:57:03 น.     Counter : 4248 Pageviews.   Share Tweet

Chevy ฉลอง 100 ปี กับ Chevloret Colorado ใหม่ หลังจากที่ค่ายกระบะเบอร์หนึ่งของประเทศไทยได้เปิดตัวรถกระบะ Isuzu D-Max 2011 ใหม่ ล่าสุด เชฟโรเลต ได้เปิดแคมเปญ เจอร์นีย์ ออฟ เชฟวี่ (Journey of Chevy) ฉลองครบรอบ 100 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเตรียมพลิกประวัติศาสตร์กับ Chevy Colorado รุ่นใหม่ รถกระบะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ 100 ปี 100 ปีกับเชฟโรเลต บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Chevrolet Sale (Thailand) Co. Ltd.) เปิดตัวแคมเปญ เจอร์นีย์ ออฟ เชฟวี่ เฉลิมฉลองการดำเนินธุรกิจมาครบศตวรรษ และบอกเล่าความเชี่ยวชาญตลอด 100 ปีของ เชฟโรเลต ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเทคโนโลยีสุดล้ำออกมาประดับโลกยานยนต์ อีกทั้งยังถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดสู่รถกระบะ เชฟวี่ โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวสู่สื่อมวลชน และสาธาณชนอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 5 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ทางเชฟโรเลตก็ได้เผยภาพยนตร์โฆษณาของแคมเปญ เจอร์นีย์ ออฟ เชฟวี่ ซึ่งเริ่มออกอากาศครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการของรถกระบะสายพันธุ์แกร่งของ เชฟโรเลต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 ซึ่งเป็นปีแรกที่ เชฟโรเลต ผลิตรถออกจำหน่ายในตลาด ปี ค.ศ.1940 เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของรถกระบะเชฟวี่ ปี ค.ศ.1960 ช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติการออกแบบ ค.ศ.1980 ที่มีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด Chevrolet Colorado ใหม่ จนถึงปี 2004 ซึ่งเป็นปีที่ เชฟโรเลต ประเทศไทย เปิดตัวรถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม กระทั่งมาถึง เชฟวี่ โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ 100 ซึ่งทีมวิศวกรของ จีเอ็ม มุ่งมั่นทดสอบและพัฒนา โคโลราโด รุ่นใหม่อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า จะตอบสนองต่อทุกความต้องการของลูกค้าชาวไทย และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างเต็มที่ นอกจากภาพยนตร์โฆษณาแล้ว เชฟโรเลต ยังชูแคมเปญดังกล่าว ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด และวิทยุ โดยจะดำเนินแคมเปญนี้ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่รถ เชฟวี่ โคโลราโด ใหม่จะถึงผู้แทนจำหน่าย เชฟโรเลต ทั่วประเทศในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ Journey of Chevy Campaign Ads สำหรับแฟนๆ Chevloret Colorado ใหม่นี้ ในบ้านเราคงอาจจะต้องเก็บตังค์รอไปลุ้นโปรโมชั่น และส่วนลดเด็ดๆ ของรถยนต์รุ่นนี้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้กันครับ อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ได้ใหม่ครับ ชมภาพยนตร์โฆษณาของแคมเปญ เจอร์นีย์ ออฟ เชฟวี่ ได้ที่นี่ครับ   Create Date : 02 ตุลาคม 2554     0 comment Last Update : 2 ตุลาคม 2554 20:56:00 น.     Counter : 1978 Pageviews.   Share Tweet

ALL-NEW ISUZU D-MAX อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด! ปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก ALL-NEW ISUZU D-MAX PICKUP FOR THE WHOLE WORLD ALL-NEW ISUZU D-MAX DESIGN FOR THE WHOLE WORLD รูปทรงที่ดุดัน ทรงพลัง (Aggressive Form) ตัวรถมีรูปทรงลิ่ม ลู่ลม แบบ Wedge-shape Design ให้อารมณ์สปอร์ต เปี่ยมพลัง พร้อมทะยานไปข้างหน้าแม้ยามหยุดนิ่ง ดุดันด้วย Muscular Fender โป่งล้อขึ้นรูปขนาดใหญ่ ดุจกล้ามเนื้อของนักกีฬา รูปลักษณ์แบบ 3 มิติ (3-Dimensional Structure) ด้านหน้า 3 มิติ ดีไซน์ให้มีความชัดลึกในการมองเห็นทุกระยะ พิถีพิถันด้วยเส้นสายต่อเนื่องรอบคัน สุดยอดความสมบูรณ์แบบแห่งดีไซน์ที่ให้ความลู่ลมสุด เงียบสุด ด้วยเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ดุจรถไฟหัวกระสุน เพื่อให้ได้ยานยนต์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศดีที่สุด ประหยัดน้ำมันที่สุด เงียบที่สุด โดยการทดสอบกับอุโมงค์ลมหลากหลายทั่วโลก โดยเฉพาะที่อุโมงค์ลม “Japan Railway Technical Research Institute” หรือ JR ซึ่งเป็นอุโมงค์ลมที่ใช้ทดสอบรถไฟหัวกระสุน หรือ “ชินคันเซ็น” (Shinkansen) อันโด่งดัง ที่มาพร้อมความสวยหยุดโลก เท่ทุกมุมมอง • Striking Front View ด้านหน้าสุดสปอร์ต ลู่ลมสมบูรณ์แบบ โลโก้ขนาดใหญ่สะดุดตา ตอกย้ำความหรูหรา มีระดับ กลมกลืนกับกระจังหน้าและกันชนที่โค้งเว้าเสริมรูปทรงลิ่มให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดดเด่นต่อเนื่องด้วยไฟหน้าใหม่ FREEFORM PROJECTOR สวยงามได้สัดส่วนในทุกมิติแห่งมุมมอง • Sporty Side View ด้านข้างอารมณ์สปอร์ต โดดเด่นด้วยเส้น Katana Line ดุจคมดาบซามูไรที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ พร้อมเส้นสายที่ยาวต่อเนื่องตลอดคัน ให้ความรู้สึกทะยานไปข้างหน้าแม้ยามหยุดนิ่ง เสริมความแข็งแกร่งด้วย Muscular Fender โป่งล้อแบบขึ้นรูปขนาดใหญ่ให้ตัวรถแข็งแกร่ง บึกบึนแบบเดียวกันกับกล้ามเนื้อทรงพลังของนักกีฬา • Stunning Rear View ด้านท้ายแกร่ง โดดเด่นด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องจากด้านข้าง บรรจบลงสู่ฝาท้าย ให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม สะท้อนความเป็นผู้นำแห่งปิกอัพอนาคต พร้อมไฟท้ายขนาดใหญ่แบบ LED ครั้งแรกในวงการปิกอัพเมืองไทย • Cutting Edge Top View ให้มุมมองด้านบนที่สวยเฉียบขาดบาดใจ สะท้อนสไตล์รถสปอร์ต อย่างชัดเจน ALL-NEW ISUZU D-MAX COMFORT FOR THE WHOLE WORLD เปิดมิติใหม่แห่งดีไซน์ด้วยเส้นสายที่โอบล้อมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถ่ายทอดสัมผัสแห่งความหรูหรา อบอุ่น ปลอดภัย พร้อมผสานแนวคิดใหม่แห่งการดีไซน์ มอบความสบาย ใช้งานง่าย ได้อรรถประโยชน์ในการใช้สอยสูงสุด UNIVERSAL DESIGN ศิลปะและศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีความเป็นสากลร่วมสมัย โดยมีแนวคิดการออกแบบที่มองผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง และตอบสนองผู้ใช้ทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในแบบที่ใครๆ ก็ใช้ได้ แม้ว่าจะมีสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน เพื่อให้ใช้งานง่าย เป็นธรรมชาติ ผ่อนแรง พร้อมฟังก์ชั่นของการใช้งานที่มีความอเนกประสงค์ ทีมออกแบบของอีซูซุได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้รถชาวไทยอย่างละเอียด จากนั้นนำแนวคิด UNIVERSAL DESIGN มาปรับใช้ โดยให้ผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลางอันเป็นแนวคิดการออกแบบสำหรับคนทั้งโลก ด้วยการจัดวางตำแหน่งที่นั่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถให้เข้ากับทุกสรีระ เพื่อให้ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และหลากหลายรูปแบบ จึงให้ความลงตัวกับทุกรูปแบบชีวิต แนวทางการพัฒนาที่อีซูซุเน้นเป็นพิเศษ ประกอบด้วย ห้องโดยสารใหม่ FIRST-CLASS COCKPIT INTERIOR ที่สุดแห่งมิติความกว้างขวางในวงการรถปิกอัพ โอ่อ่า นั่งสบายทุกจุด ทั้งพื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่วางเท้า พื้นที่หัวเข่า และระยะห่างระหว่างไหล่ของผู้โดยสาร เติมเต็มความสุขสบายทุกๆ การเดินทาง ห้องโดยสารเงียบเพียง 48.2 เดซิเบล ด้วยการออกแบบภายในตัวรถใหม่หมด รวมทั้งวัสดุบุผนังและการประกอบที่พิถีพิถัน เครื่องยนต์พร้อมช่วงล่างใหม่หมด จึงให้ความลู่ลม ลดเสียงรบกวน และลดการสั่นสะเทือนในห้องโดยสาร พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่ออิสรภาพใหม่แห่งการเดินทางบนโลกส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ • ใหม่! Multi-Information Display (MID) จอข้อมูลอัจฉริยะขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ โดดเด่นกว่าด้วยเมนู 2 ภาษา (ไทยและอังกฤษ) หนึ่งเดียวในวงการรถยนต์เมืองไทย โดยการค้นหาโหมดต่างๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สามารถแสดงข้อมูลปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิของเครื่องยนต์ อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร ระยะทาง (trip A) เวลา ตำแหน่งเกียร์ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบค่าเฉลี่ยหรือแบบขณะขับขี่ พิเศษ! สามารถคำนวณระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้เมื่อวัดจากปริมาณน้ำมันในถังที่เหลืออยู่ เทียบกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ณ ปัจจุบัน จึงเดินทางได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น และเหนือกว่าด้วยหน้าจอปรับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงภายนอก สามารถตั้งค่าเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ นอกจากนี้ยังมีข้อความต้อนรับปรากฏขึ้นเมื่อสตาร์ทรถ พร้อมข้อความและเสียงเตือนเมื่อลืมปิดไฟหน้า ลืมปลดเบรกมือ เป็นต้น • ระบบแอร์ออกแบบใหม่ พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Cooler)ออกแบบการกระจายความเย็นใหม่ ช่องแอร์ขนาดใหญ่ เย็นเร็วสบายได้ดั่งใจ พร้อมระบบปรับความเย็นอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Z-Prestige 4 ประตู) ที่จะปรับอุณหูมิให้ตามที่ตั้งไว้โดยเร็วที่สุดในทันทีที่เปิดแอร์ • เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ สุดยอดความพิถีพิถัน ทั้งดีไซน์ โทนสี และใช้วัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ออกแบบเบาะนั่งแบบ Bolster Seat โอบกระชับรับกับสรีระ เว้าเข้ารูปพอดีทั้งแผ่นหลังและสะโพก นั่งสบายตลอดการเดินทาง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น Z-Prestige 4 ประตู เครื่องยนต์ 3.0 VGS) แผงข้างประตูที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว วัสดุเบาะและโทนสีมีหลายรูปแบบ ให้เอกลักษณะเฉพาะตัว เบาะนั่งด้านหลังในรุ่น 4 ประตู กว้างขวางนั่งสบายด้วยพนักพิงเอนรับกับทุกสรีระ ออกแบบให้มีที่วางแขนในตัว ออกแบบใหม่ให้แยกปรับพับได้แบบ 60:40 เก็บสัมภาระหลากชนิดได้จุใจ ระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ISUZU ALL-NEW ENTERTAINMENT SYSTEM ครั้งแรกในวงการรถปิกอัพกับสุดยอดระบบเสียง Surround รอบทิศทาง เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางอย่างเหนือระดับด้วยการจัดวางระบบเสียงแบบ Surround Sound System รอบทิศทางจากลำโพงสูงสุดถึง 8 ตัว พิเศษ! ครั้งแรกกับลำโพงคู่หน้าขนาด 6x9 นิ้ว ขับพลังเสียงกระหึ่ม พร้อมลำโพงพิเศษบนเพดาน “Exciter” ครั้งแรกในวงการรถปิกอัพเมืองไทย สร้างมิติแห่งเสียงที่หนักแน่น คมชัด ถ่ายทอดทุกท่วงทำนองและความรื่นรมย์ ให้มิติเสียงสมจริงทุกรายละเอียด และใหม่! สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย สั่งการทำงานได้อย่างสะดวก สามารถกดรับโทรศัพท์ได้เมื่อเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น ระบบความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีมากรุ่นสุด ครบครันทุกความต้องการ • ชุดเครื่องเล่นดีวีดี Kenwood ขนาด 7 นิ้ว (2 Din) ควบคุมการทำงานได้จากหน้าจอด้วยระบบสัมผัส ความละเอียดสูงระดับ 1.15 ล้านพิกเซล เล่นได้ทั้ง DVD/VCD/MP3/WMA และ DivX เชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิงได้ทั้ง iPod, iPhone และเครื่องเล่น MP3 อื่นๆ ผ่านทางช่องเสียบ USB สามารถแสดงเส้นทางด้วย I-GENii ระบบเพื่อนนำทางอัจฉริยะ พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษรองรับการแสดงข้อมูลสภาพการจราจร (Traffic Information System) เพื่อช่วยวางแผนในการเดินทางให้สะดวกสบาย ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น • ชุดเครื่องเล่นดีวีดี ขนาด 7 นิ้ว (2 Din) ควบคุมการทำงานได้จากหน้าจอด้วยระบบสัมผัส เล่นได้ทั้ง DVD/VCD/MP3/WMA และ DivX และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ ไร้สาย Built-in Bluetooth • เครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี ขนาด 2 Din สามารถเล่นได้ทั้งแผ่นซีดี MP3 และ WMA พร้อมพอร์ท Mini USB และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบไร้สาย Built-in Bluetooth • เครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี ขนาด 1 Din สามารถเล่นได้ทั้งแผนซีดี MP3 และ WMA ALL-NEW ISUZU D-MAX POWER FOR THE WHOLE WORLD ปรากฎการณ์แห่งพลังขับเคลื่อนครั้งใหม่ของโลกดีเซล ล้ำหน้าไปกับเครื่องยนต์ “อีซูซุ ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล” (ISUZU Ddi SUPER COMMONRAIL) เจนเนอเรชั่น 3.5 พัฒนาการครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “เครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต” ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital R&D Technology ที่สามารถทดสอบและประมวลผลแบบดิจิตอล Real Time เพิ่มการจำลองรูปแบบขับขี่บนสภาพการใช้งานในเมืองไทยกว่า 10 รูปแบบ พร้อมออกแบบระบบส่งกำลังให้รับกับตัวรถตั้งแต่แรก ต่อยอดสู่ความสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุดในทุกด้าน เหนือชั้นกว่าทั้งสมรรถนะอันทรงพลัง ความประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น ความทนทานเป็นเยี่ยม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้การเผาไหม้หมดจดยิ่งขึ้น สะอาด ลดมลพิษ พร้อมรองรับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดที่สุดในโลก Euro 5 ล่าสุดแห่งเทคโนโลยี ที่สุดแห่งความประหยัดน้ำมัน • เหนือระดับด้วยระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แรงดันสูง 180 MPa. และหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่! แบบ 8 รู ซึ่งมีขนาดรูเล็กลงถึง 10% ให้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดียิ่งขึ้น • เทอร์โบแปรผันใหม่ ALL-NEW VGS TURBO ขนาดกะทัดรัด ตอบสนองได้แรงและเร็วกว่าในทุกรอบความเร็วเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรอบต่ำ สร้างปริมาณการไหลเวียนของอากาศสูงสุด และลดการสูญเสียพลังงานในระบบ • ห้องเผาไหม้แบบ Hi-swirl ออกแบบใหม่เพิ่มอัตราส่วนของการหมุนวนอากาศให้มากขึ้น ทำให้น้ำมันผสมกับอากาศได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพการเผาไหม้ดีเยี่ยม • Intelligent EGR Valve เทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของวงการปิกอัพ ชุดควบคุม EGR ที่มี IC ประมวลผล ทำงานด้วยไฟฟ้า ควบคุมไอเสียจากเครื่องยนต์เพื่อนำกลับไปยังห้องเผาไหม้อีกครั้งได้อย่างแม่นยำ สามารถคำนวณหาจุดสมดุลสูงสุดระหว่างความประหยัดน้ำมันและลดมลพิษอย่างมีประสิทธิภาพ • อินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ ขนาดใหญ่และออกแบบติดตั้งในตำแหน่งด้านหน้ารถ ได้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม เหนือระดับเต็มพิกัดกับ 3 เครื่องยนต์ใหม่ ร้อนแรงด้วยแรงม้าฝูงใหม่ เพิ่มพลังแรงจัด แรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง • ISUZU Ddi 2.5 VGS TURBO ขุมพลังใหม่ล่าสุด ที่สุดแห่งพลัง ขนาด 2,500 ซีซี ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน มาพร้อมความประหยัดเหนือระดับ พร้อมให้พลังเหลือเฟือถึง 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) สูงถึง 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที แรงจัดต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว • ISUZU Ddi 3.0 VGS TURBO ขุมพลังสมบูรณ์แบบ ที่สุดแห่งความแรง ขนาด 3,000 ซีซี ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน ให้พลังสูงถึง 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) สูงถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที สำหรับชีวิตเหนือขีดจำกัดอย่างแท้จริง • ISUZU Ddi 2.5 TURBO ขุมพลังสมบูรณ์แบบ ที่สุดแห่งความประหยัด ขนาด 2,500 ซีซี ให้พลัง 116 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (Flat-torque) สูงถึง 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,200 รอบ/นาที เกียร์ใหม่ ล้ำยุคยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ผสานกับเครื่องยนต์ใหม่อย่างลงตัวที่สุด ตอบสนองการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต ให้พลังที่เร้าใจ ตอบสนองฉับไว • เกียร์ออโตเมติก 5 สปีด ใหม่ พร้อม REV TRONIC สปอร์ตสะใจ เหนือชั้นด้วยการออกแบบให้ความต่อเนื่องของอัตราทดเกียร์ และจังหวะการเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ราบรื่น ออกตัวดี ไหลลื่นตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงเกียร์ 5 พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต REV TRONIC สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดา เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว ฉับไว เร่งแซงทันใจ และมั่นใจเหนือระดับด้วยระบบป้องกันเครื่องยนต์ หรือระบบส่งกำลังเสียหายจากการ เข้าเกียร์ผิด เพื่อให้การเข้าเกียร์เหมาะสมกับทุกรอบความเร็วเครื่องยนต์ • เกียร์ธรรมดา 5 สปีดใหม่ แบบ SPORT-SHIFT ชุดเกียร์ใหม่ ออกแบบอัตราทดเกียร์ใหม่ ผสานลงตัวกับกำลังเครื่องยนต์ พร้อมออกแบบคันเกียร์ใหม่ ให้มีช่วงชักสั้นลง เข้าเกียร์ง่าย กระชับ ให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลตลอดทุกช่วงความเร็ว ALL-NEW ISUZU D-MAX PERFORMANCE FOR THE WHOLE WORLD การปฏิวัติโครงสร้างของแชสซีส์และช่วงล่างใหม่หมด พร้อมตอบรับทุกการใช้งานได้ตราบนานเท่านาน ด้วยชื่อชั้นระดับโลกในด้านความทนทาน จากผู้นำรถเพื่อการพาณิชย์ระดับโลก พร้อมสืบสานความสำเร็จสู่อนาคต แชสซีส์แบบ Multi-piece Rip Rail ขนาดใหญ่สุด แข็งแรงขึ้น 42% เทคโนโลยีระดับโลก ออกแบบใหม่หมด ด้วยพื้นที่หน้าตัดของแชสซีส์ขนาด 90x173.6 มม. ใหญ่ที่สุดในวงการ รถปิกอัพเมืองไทย เพิ่มความแข็งแรงทนทานสูงสุด ออกแบบโดยคำนึงถึงการกระจายแรงกดจากการบรรทุกไปสู่ส่วนต่างๆ ของแชสซีส์อย่างสม่ำเสมอ จึงทนทานต่อการใช้งานหนักทุกรูปแบบ ตอบสนองรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ชาวไทยที่ใช้งานรถปิกอัพอย่างหนัก และสมบุกสมบันกว่าชาติใดในโลก แพลทฟอร์มออกแบบใหม่หมด i-GRIP PLATFORM (ISUZU Gravity Responsive Intelligent Platform) พัฒนาการล่าสุด เหนือระดับไปอีกขั้นด้วยโครงสร้างช่วงล่างใหม่ เพื่อถ่ายทอดสายพันธุ์ของการเกาะถนน ทรงตัวเยี่ยมในทุกสภาวะ แต่คงความนุ่มนวลในการขับขี่ แบบฉบับรถปิกอัพอีซูซุโดยเฉพาะ • ออกแบบช่วงล่างใหม่หมดทุกรุ่น • ขยายขนาดฐานล้อ ความกว้างช่วงล้อ • จัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์ให้เข้าใกล้จุดศูนย์กลางของตัวรถ ช่วยการกระจายน้ำหนักให้สมดุลยิ่งขึ้น • ให้การทรงตัวเป็นเยี่ยม ค่าสัมประสิทธิ์ทรงตัว SSF (Static Stability Factor) ที่ดีที่สุด ออกแบบใหม่! ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง ผสานกับช่วงล่างหลังแบบแหนบขนาดยาวพิเศษ Long Span เสริมโช้กอัพแก๊สทั้ง 4 ล้อ ให้ช่วงล่างทั้งระบบเปี่ยมประสิทธิภาพสูงสุด ดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม โดดเด่นเหนือกว่าด้วยการเกาะถนน ทรงตัวเยี่ยม พร้อมความนุ่มนวล และรองรับน้ำหนักได้ดี ทั้งในแบบรถเปล่าหรือบรรทุกหนัก มั่นใจเหนือกว่าทุกสภาพถนน โดยเฉพาะทางโค้ง ช่วงล่างแบบแหนบเหนือเพลา (Over Slung) เสริมสมรรถนะออฟโรด ยกระดับความสูง ใต้ท้องให้เพิ่มขึ้น พร้อมจังหวะการยืดตัวระหว่างล้อและตัวถังที่มากขึ้น ให้ความสมดุลสูงสุดใน การเกาะถนนที่เป็นเลิศ และความนุ่มหนึบที่ลงตัว ทำให้การขับขี่นุ่มนวล แม้ขณะลุยทางวิบาก ขับสบาย ไม่เมื่อยล้า สมบุกสมบันได้อย่างมั่นใจตามสไตล์ออฟโรดแท้ๆ แต่ให้ความนุ่มนวลกว่า Over Slung ทั่วไป (ในรุ่นอีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส และรุ่นอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์) ALL-NEW ISUZU D-MAX SAFETY FOR THE WHOLE WORLD สู่มาตรฐานใหม่แห่งความปลอดภัยอีกระดับ ออกแบบใหม่หมดเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ใช้รถและคนเดินถนน ด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวรถและห้องโดยสารใหม่หมด เสริมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ครบครันที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อผ่านมาตรฐานการทดสอบความปลอดภัยระดับโลก เช่น EURO NCAP (European New Car Assessment Program) หรือ NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) ซึ่งเป็นสถาบันทดสอบที่เข้มงวดที่สุด มอบความมั่นใจยิ่งขึ้น สู่ความสมบูรณ์แบบเพื่อความปลอดภัยสำหรับคนทั้งโลก ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ออกแบบใหม่หมด! เพื่อให้เป็นยอดรถปิกอัพที่เกาะถนน ทรงตัวดีสุด เหนือชั้นสุดในด้านความปลอดภัย • เพิ่มฐานล้อและระยะห่างระหว่างล้อหน้า-หลัง สมดุลใหม่แห่งการเกาะถนน ทรงตัวเป็นเลิศ ตามสไตล์รถปิกอัพอีซูซุที่มีชื่อเสียงไว้วางใจได้ • ค่าเสถียรภาพแห่งการทรงตัวดีเยี่ยม (SSF-Static Stability Factor) ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ดีที่สุด (Center of Gravity) ลดโอกาสการเสียหลักพลิกคว่ำ ด้วยค่า SSF 1.31 หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวของสถาบัน NHTSA สหรัฐอเมริกา • ออกแบบให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ให้มุมมองและทัศนวิสัยที่ดีที่สุด ขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น ควบคุมรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ • ใหม่! ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวในขณะขับขี่ โดยมีเซ็นเซอร์จับสัญญาณการทรงตัวของรถ และองศาการหมุนของพวงมาลัย ซึ่งจะสั่งงานโดยอัตโนมัติทันทีที่เซ็นเซอร์จับสัญญาณได้ว่าตัวรถมี การลื่นไถล และสั่งการเพื่อให้เกิดแรงดึงตัวรถกลับมาอยู่ในทิศทางที่ต้องการ โดยทำงานร่วมกับ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System) ควบคุมและป้องกันการลื่นไถลของล้อขณะออกตัว ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียการทรงตัวของรถในสภาพที่ลื่นหรือเป็นหล่มโคลน • ระบบเบรกพื้นฐานออกแบบใหม่หมด ผสานเทคโนโลยีใหม่สุด ให้รับกับตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และขุมพลังแห่งสมรรถนะใหม่ตั้งแต่ต้น -เหนือกว่าด้วยหม้อลมเบรกขนาดใหญ่สุดถึง 10.5 นิ้ว พร้อม Tied-bar ถ่ายทอดแรงเหยียบจากแป้นเบรกสู่หม้อลมเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองฉับไว เบรกหยุดได้ทันใจ -ระบบเบรก ABS ชนิด 4-channel 4-sensor ในรุ่นที่มีระบบ ESC และชนิด 3-channel 4-sensor ในรุ่นที่ไม่มีระบบ ESC ให้ความแม่นยำ รวดเร็ว พร้อมระบบควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake-force Distribution) เสริมด้วยระบบ Dual G-Sensor (ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) ควบคุมการทำงานของระบบเบรก ABS อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในทางวิบาก -ใหม่ล่าสุด! เสริมเทคโนโลยีระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist (BA) ช่วยเพิ่ม แรงดันน้ำมันเบรกโดยอัตโนมัติในกรณีเบรกฉุกเฉิน เพื่อลดระยะทางเบรกให้สั้นลง เพิ่มความมั่นใจ ปลอดภัยยิ่งขึ้น (ในรุ่น Z และ Z-Prestige) • ไฟหน้าแบบ Projector ส่องสว่าง ให้ลำแสงคมชัดและไกลว่า มองเห็นทัศนวิสัยยามค่ำคืนได้จากระยะไกล ไม่รบกวนสายตาของผู้ขับขี่ที่วิ่งสวนทางมา และในขณะที่เปิดไฟสูง ไฟต่ำก็ยังทำงานควบคู่ไปด้วย เพิ่มความชัดเจนในมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น และไฟท้ายขนาดใหญ่แบบ LED ครั้งแรกในวงการปิกอัพเมืองไทย และไฟเลี้ยวแบบ LED ที่กระจกมองข้าง เพื่อรถยนต์ที่ขับร่วมทางสามารถมองเห็นได้ชัดเจน พร้อมไฟตัดหมอกขนาดใหญ่ ไฟเบรกดวงที่ 3 ขนาดใหญ่ PASSIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ ด้วยโครงสร้าง ห้องโดยสารนิรภัยออกแบบใหม่ เพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพสูงสุดในการดูดซับและกระจายแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร • โครงสร้างตัวถังแบบเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel ความแข็งแกร่งสูง ผลิตด้วยเทคโนโลยี Tailor Welded Blank โดยใช้เหล็กหนาพิเศษมาประกอบอย่างชาญฉลาด เสริมความแข็งแกร่งให้ห้องโดยสารในจุดที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดีที่สุด • เพิ่มระยะห่างระหว่างแชสซีส์ส่วนหน้าถึงโครงสร้างห้องโดยสาร เพิ่มความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้น • SUPER SPACECAB ออกแบบใหม่ตั้งแต่แรกให้เป็นห้องโดยสารแบบปิกอัพแค็บเปิดได้โดยเฉพาะ โครงสร้างเสาประตูเสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษด้วยเหล็กกล้าขึ้นรูปชิ้นเดียว SINGLE-PIECE REINFORCEMENT และน็อตยึดบานแค็บแบบ 3 จุด จึงให้ความปลอดภัยที่เหนือระดับกว่า และเพิ่มความสะดวกสบายสมบูรณ์แบบ • แอร์แบคคู่ (Dual SRS Airbags) ช่วยลดแรงกระแทกต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งเกิดจากการชนด้านหน้า โดยทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Safety Belts) ปรับระดับได้ ปกป้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ • แกนพวงมาลัย และแป้นเบรกแบบยุบตัวได้ ช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บ กรณีเกิดแรงกระแทกจากการชนในส่วนหน้าอกและเท้า อีกขั้นของเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย Advance Safety Control System เสริมระบบควบคุมไฟฟ้าอัจฉริยะ และเทคโนโลยีครบครัน เพิ่มระบบความปลอดภัย มั่นใจเหนือระดับ • กระจกไฟฟ้า พร้อมระบบ Window Jam Protection (เฉพาะด้านคนขับ) ป้องกันอันตรายจากการถูกกระจกหนีบ นอกจากนี้ระบบเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าด้านคนขับ หลังบิดสวิตช์กุญแจในตำแหน่ง Off แล้ว กระจกไฟฟ้าด้านผู้ขับขี่ยังสามารถเปิด-ปิดได้ภายใน 45 วินาที • ระบบ Auto Door Lock ประตูจะล็อกเองโดยอัตโนมัติ เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 20-25 กม./ชม.ขึ้นไป พร้อมระบบปลดล็อกประตูอัตโนมัติ ในกรณีแอร์แบคทำงาน เพื่อให้สามารถเปิดประตูได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน • ระบบปิดไฟเก๋งอัตโนมัติ ในกรณีลืมปิดไฟในเก๋ง ระบบจะปิดให้ด้วยตัวเองภายใน 20 นาที เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมด • หน้าปัด MID สามารถปรับความสว่างได้โดยอัตโนมัติตามความสว่างจากภายนอก เสริมทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดี • สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ในรุ่น Z-Prestige สามารถสั่งการทำงานของเครื่องเสียงได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ในรุ่นเครื่องเสียง DVD อีซูซุ มีฟังก์ชั่นปรับระดับความดังเสียงโดยอัตโนมัติตามความเร็วของรถ ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย เพื่อสมาธิที่ดีในการขับขี่ • กุญแจระบบ Immobilizer พร้อมรีโมทในตัว มีระบบตรวจสอบรหัสของกุญแจและเครื่องยนต์ให้ตรงกัน ป้องกันการใช้กุญแจปลอมเพื่อสตาร์ทรถ ช่วยให้ปลอดภัยอุ่นใจยิ่งขึ้น • ระบบป้องกันการโจรกรรม Anti-theft System ด้วยการส่งสัญญาณเตือนภัย เมื่อมีการเปิดประตูรถ หรือฝากระโปรงหน้าผิดวิธี พร้อมสีรถสวยที่สะท้อนความงดงามของแต่ละพื้นที่ทั่วโลกให้เลือกถึง 8 สี •ดำออสเตรเลียนโคล - Australian Coal Black •เงินเม็กซิกัน - Mexican Silver •ทองซาวันน่า - Savanna Gold •เงินอาร์กติก - Arctic Silver •ขาวมุกเอเวอเรสต์ - Everest Pearl White •ขาวไซบีเรียน - Siberian White •แดงทัสคานี - Tuscany Red •น้ำเงินบอลติก – Baltic Blue ราคา All-New Isuzu D-Max 2012 V-Cross Isuzu D-MAX V-Cross 4 ประตู ราคา 808,000 – 994,000 บาท Isuzu D-MAX V-Cross 2 ประตู ราคา 732,000 – 813,000 บาท Hi-Lander Isuzu D-MAX Hi-Lander 4 ประตู ราคา 738,000 – 922,000 บาท Isuzu D-MAX Hi-Lander 2 ประตู ราคา 658,000 – 778,000 บาท Cab4 Isuzu D-MAX Cab 4 ราคา 635,000 – 707,000 บาท Spacecab Isuzu D-MAX Space Cab ราคา 562,000 – 671,000 บาท Spark Isuzu D-MAX Spark ราคา 465,000 – 535,000 บาท   Create Date : 01 ตุลาคม 2554     4 comment Last Update : 1 ตุลาคม 2554 20:10:09 น.     Counter : 6565 Pageviews.   Share Tweet