สาว ๆ ลองดีกับรถ Drift เลยโดนเข้าให้แบบนี้... หากพูดดถึงกีฬายานยนต์แล้ว หลายคนที่เทิร์นโปร เพื่อลงฟาดความเร็วในสนามแข่งนั้นต่างต้องหาชุดแข่งมาสวมใส่ทั้งเพื่อความปลอดภัย และความดูเป็นมืออาชีพ แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเราไม่ใส่เสื้อธรรมดาๆลงขับกัน โดยเฉพาะเสื้อเชิต เมื่อพูดถึงกีฬายานยนต์ยุคใหม่แล้ว การวาดลีลาสาดดค้งอย่าง Drifting ที่เน้นการโบกสะบัดด้านท้ายรถนั้น ดูเหมือนจะเป็นเกมที่ฮิตมากทั้งในไทย ญี่ปุ่น และทั่วโลก และในหลายคนโดยเฉาพะสาวๆ ก็ชอบอยากที่จะลิ้มลองว่า อารมณ์ขับขี่นั้นเป้นอย่างไรกันในสภาวะจริง ในวีดีโอคลิปที่กำลังจะได้ชมต่อนี้นั้น เป้นการท้าลองของสาวรัสเซีย ที่เธอไม่นึกว่าชุดของเธอจะมีปัญหาระหว่างทาง แต่ใครจะคิดว่าแรงเหวี่ยงในรถดริฟท์ นั้นมันมากพอที่จะฉีกกระดุมเสื้อเชิร์ตของสาวเจ้า ที่ดันโนบราจนหนองโพเกือบโผล่มาสูดลมหายใจ แน่นอน นี่เป็นเรื่องขำขันสำหรับนักแข่ง แต่สำหรับเธอคนนี้เราว่า คงเข็ดไปอีกนาน   Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554     0 comment Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 19:54:14 น.     Counter : 1413 Pageviews.   Share Tweet

เปิดตัว Mini Roadster 2013 ตัวเปิดประทุนรุ่นแรก กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงการยานยนต์ วันนี้ทาง Thaicarlover.com มีข่าวจากค่ายรถยนต์ Mini มาฝากเพื่อนๆ กันครับ โดยล่าสุด มินิ ได้เผยโฉมเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงของ Roadster รถเปิดประทุน 2 ที่นั่งรุ่นแรก และเป็นรุ่นย่อยที่ 6 ของ มินิ หวังแชร์ส่วนแบ่งตลาดจากโรดสเตอร์รุ่นยอดฮิตอย่าง Mazda MX-5 โดยข้อดีของเบาะหลังที่หายไปคือ มีพื้นที่บรรจุสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 240 ลิตร ทุกรุ่นเครื่องยนต์จะใช้พื้นฐานเดียวกันแบบเบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน Mini Roadster ส่วนรุ่นแรงสุด JCW Roadster จะมาพร้อมเทคโนโลยี TwinPower เทอร์โบ 211 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 1,850-5,600 รอบต่อนาที Overboost 28.5 กก.-ม. ที่ 2,000-5,1000 รอบต่อนาที 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กินน้ำมันเฉลี่ย 13.7 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 169 กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนรุ่น Cooper S Roadster ลดระดับความแรงลงมานิดหน่อย เหลือ 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 24.45 กก.-ม. ที่ 1,600-5,000 รอบต่อนาที Overboost 26.5 กก.-ม. ที่ 1,730-4,5000 รอบต่อนาที 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7 วินาที ความเร็วสูงสุด 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กินน้ำมันเฉลี่ย 16.6 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 139 กรัมต่อกิโลเมตร ด้านหลัง Mini Roadster รุ่นมาตรฐาน Cooper Roadster ไม่มีเทอร์โบ 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กินน้ำมันเฉลี่ย 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 133 กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนรุ่นดีเซล Cooper SD Roadster จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ TwinPower กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 31 กก.-ม. ที่ 1,750-2,700 รอบต่อนาที 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กินน้ำมันเฉลี่ย 22.22 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 118 กรัมต่อกิโลเมตร ภายใน Mini Roadster สำหรับมิติตัวถัง มีความยาว 3,734 มิลลิเมตร (MINI Cooper Roadster 3,728 มิลลิเมตร, MINI John Cooper Works Roadster 3,758 มิลลิเมตร) กว้าง 1,683 มิลลิเมตร สูง 1,390 มิลลิเมตร (MINI Cooper Roadster 1,384 มิลลิเมตร, MINI John Cooper Works Roadster 1,391 มิลลิเมตร) และฐานล้อ 2,467 มิลลิเมตร สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ Mini Cooper สำหรับแฟนๆ มินิ ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาเปิดตัวที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Mini ต้องติดตามกันต่อไปครับ   Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554     0 comment Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 19:31:04 น.     Counter : 2182 Pageviews.   Share Tweet

ต่อเนื่อง! กระบะ Long Beach Racers Tacoma จาก toyota กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงกรยานยนต์ วันนี้ทาง Thaicarlover.com มีข่าวจากค่ายรถยนต์ Toyota มาฝากเพื่อนๆ กันครับ โดยล่าสุด Toyota ได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นเด่นใน SEMA Show 2011 เดือนนี้ ต่อจากการเปิดตัว 2 รุ่นพิเศษ Ultimate Motocross และ Oakley Surf Tacoma นั่นคือตัวแข่งของ LBR หรือ Long Beach Racers ทีมแข่งที่ผูกพันกับ โตโยต้า มาอย่างยาวนาน โดยตัวแข่งรุ่นใหม่นี้จะลงชิงชัยในรายการ 2011 Tecate SCORE Baja 1000 ขับโดยอดีตนักขับฟรีสไตล์โมโตครอส Andy Bell Long Beach Racers Tacoma LBR Tacoma ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tacoma รุ่นพิเศษ TRD T|X TRD Baja Series โดยยังคงเอกลักษณ์เฉพาะของ Long Beach Racers ที่เรียกว่า ‘low profile’ อย่าง Rear Cage ขนาดเล็ก ออกแบบติดตั้งเอาไว้ในระดับที่ต่ำกว่าแนวกระจกหลัง เพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัยเวลาขับ ผ่านกฏของ SCORE International Off-Road Racing ภายนอกมากับแผ่นกันกระแทก (Skid Plate) คาร์บอนไฟเบอร์ สปอตไลท์ Hella ช๊อคฯ สำหรับแข่งโดยเฉพาะจาก Bilstein ขนาด 60 มม. ชุดเบรค TRD ล้อแม็ก 16 นิ้ว บีดล็อคของ TRD รุ่น Baja Series จับคู่ยาง BF Goodrich ขนาด 35 นิ้ว กรองอากาศ K&N ชุดท่อไอเสีย MBRP Inc. ส่วนภายในใช้ชุดเซฟตี้ของ Mastercraft ประกอบด้วย เบาะนั่ง, เข็มขัดนิรภัย และหน้าต่างตาข่าย ปิดท้ายชุดอุปกรณ์สื่อสารจาก PCI Race Radios ด้านหลัง Long Beach Racers Tacoma Long Beach Racers Tacoma เตรียมลงแข่งในคลาส Stock Mini เครื่องยนต์ไม่เกิน 4,300 ซีซี บอดี้ต้องยังคงรูปของตัวโปรดัคชั่น โดยการแข่งขันรายการ 2011 Tecate SCORE Baja 1000 จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 17 – 20 พฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศเม็กซิโก สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ ภายใน Long Beach Racers Tacoma สำหรับแฟนๆ โตโยต้า ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาเปิดตัวที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Toyota ต้องติดตามกันต่อไปครับ   Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554     0 comment Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 18:38:20 น.     Counter : 1736 Pageviews.   Share Tweet

2012 Mini Roadster อีกหนึ่งสปอร์ตจากเจ้าตัวเล็ก ถ้าพูดถึงรถยนต์มากมายหลายรุ่นที่ต่างจำหน่ายอยู่ทั่วทั้งโลกในขณะนี้นั้น หาถ่ามสาวๆว่ารถอะไรที่พวกเธอชอบที่สุดนั้น ใน 3 อันดับแรกที่คุรจะได้ยินนั้นก็คงต้องมีรถยนต์ Mini หลงเข้ามาบ้าง กับบุคลิกเล็กน่ารัก ที่ล่าสุดก็ขยายไลน์ในความสปอร์ตเวอร์ชั้นคูเป้ มาสุ่รุ่น Roadster ความจริงแล้ว 2012 Mini Roadsterd ก็มีข่าวคราวออกมาสักพักใหญ่และได้รับการติดตามจากสื่อยานยนต์มากมายทั่วโลกตั้งแต่ภาพแอบถ่าย ข้อมุลต่างๆที่น่าสนใจ และวันนี้ที่มันกลายมาเป็นจริงพร้อมจำหน่ายในอีกไม่ช้านั้น เราได้เห็นถึงความตั้งจริงของค่ายรถยนต์รายนี้ที่ต้องการพัฒนาเจ้าตัวเล็กให้ตอบสนองตลาดรถสปอร์ตได้ Mini Roadster เกิดขึ้นมาภายใต้ความต้องการค่าย Mini ที่ต้องการขยายไลน์เจ้าตัวเล็กตอบโจทย์ทางด้านความสปอร์ตได้หลากรูปแบบและครั้งนี้นั้นเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่รวมเอาความสปอร์ตกับเวอร์ชั่นไร้หลังคามาผนวกเข้าได้กัน ภายนอก 2012 Mini Roadster ถ่ายทอดจิตวิญญาณจากพี่น้องตระกูลเดียวกัน ที่ถูกขลับให้มันมีความสปอร์ตลงตัวกว่าหลายๆ รุ่น และออกแนวคล้ายๆกับรุ่น Mini Coupe ที่มีการเปิดตัวออกมาแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา 2012 Mini Roadster เน้นเส้นสายที่ให้ความเป็นสปอร์ต ทันสมัย และยังดูคลาสสิค เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดรอบคัน ด้วยเรือนร่างที่ยาว 3,734 ม.ม. กว้าง 1,683 ม.ม. และสูงเพียง 1390 ม.ม. ตอบสนองในความสปอร์ตกว่ารุ่นเปิดประทุนธรรมดาด้วย กระจกหน้าบานใหญ่ที่ถูกออกแบบให้ลดเอียงเดิมกว่า 13 องศา ที่ให้ความโดดเด่นที่แตกต่างด้วยหลังคาผ้าใบเปิด-ปิดด้วยมือ จะเปิดหรือพับเก็บก็ง่ายและสะดวก ให้อารมณ์คล้ายรถโรดสเตอร์โบราณได้อย่างลงตัว และยังมีล้ออัลลอยให้เลือกซิ่งตั้งแต่ขอบ 15 ยัน 17 นิ้ว ในห้องโดยสาร 2012 Mini Roadster ตอบโจทย์ด้วยความเป็นรถสปอร์ตเต็มพิกัดด้วยการออกแบบในลักษณะสปอร์ต 2 ที่นั่ง ตอบโจทย์เพียงผู้ขับขี่และตุ๊กตาหน้า ที่ยังให้ความหรูหราผสานเข้ามาพร้อมกัน ตั้งแต่เบาะนั่งที่สามารถเลือกใช้หนังชนิดพิเศษได้ตามต้องการ แต่ก็ยังให้อารมณ์สปอร์ต ด้วยชุดมาตรวัดขนาดใหญ่ ที่ตรงหน้าคนขับ มีวัดรอบที่ถูกวางไว้ด้านหลังพวงมาลัยให้ความมั่นใจได้ยิ่งขึ้นในการขับขี่ และนอกจากนี้ยังเติมความสุนทรีย์ในการเดินทางผ่านระบบเครื่องเสียง Mini Audo CD มาเป็นมาตรฐานใน2012 Mini Roadster ทุกรุ่น ใต้ฝากระโปรง Mini แนะนำหลากขุมพลังหัวใจขับเคลื่อนใน 2012 Mini Roadster รุ่นใหม่ ที่เน้นหนักในสมรรถนะการขับขี่และความลงตัวทางด้านประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือกเพียงเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เริ่มต้นในรุ่นมาตรฐานให้กำลัง 122 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที่ตอบโจทย์แรงบิดที่ 160 นิวตันเมตร ที่4250 รอบต่อนาที แต่สามารถตอบสนอง อัตราเร่งได้ใกล้เคียงรถสปอร์ตที่ 0- 100 กม./ชม. ในเวลา เพียง 9.2 วินาที ความเร็วปลายได้เฉียด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอัตราประหยัดที่ทำได้ดีถึง 5.7 ลิตร / 100 กิโลเมตร ในรุ่นใหญ่ขึ้นมา 2012 Mini Roadster ยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิม แต่ปรับให้ขับสนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น กับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ควบระบบอัดอากาศ Mini Twin Turbo Technology สามารถตอบสนองด้วยความทรงพลังถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดดีกว่า 240 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1600 รอบต่อนาที ที่นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มแรงบิดได้ด้วยฟังชั่น Over Boost ให้ได้ถึง 260 นิวตันเมตร และสามารถทำความเร็วปลายได้ 227 กิดโลเมตรต่อชั่วโมง 0-100 กม/ชม. ใช้เวลาเพียง 7 วินาที แต่ยังประหยัดเหมือนเคยด้วยอัตรากินน้ำมัน 6 ลิตร /100 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี นอกจาก 2 รุ่นมาตรฐานแล้ว 2012 Mini Roadster ยังมีเวอร์ชั่นตัวแต่งเต็มจากโรงงานภายใต้ชื่อ Mini Roadster John Cooper Work ที่พร้อมให้สัมผัสความเป็นสปอร์ตเต็มอารมณ์ จากขุมพลัง 1.6 ลิตร เทอร์โบเช่นกัน แต่สามารถทำแรงม้าได้ดีกว่าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ให้แรงบิดมาตรฐาน 260 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Overboost ที่พาทะยานเป็น 280 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 6.5 วินาที ความเร็วปลายไม่แพ้รถสปอร์ตสูงสุดที่ 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังประหยัดในอัตรา 7 ลิตร /100 กิโลเมตร ไม่เพียงแค่เครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น แต่ 2012 Mini Roadster ยังมีเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ดีเซลให้ได้สัมผัสกันอีกด้วยกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร ตอบสนองได้ 143 แรงม้า ตอบสนองสูงสุดที่ 4000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตรที่ 1750 รอบต่อนาที จนถึง2700 รอบต่อนาที แต่ก็ไม่ได้ย่อหย่อนในเรื่องสมรรถนะด้วยอัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 8.1 วินาที และความเร็วปลายนั้นสามารถทำได้ 212 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะทางด้านเครื่องยนต์ไม่ใช่อย่างเดียว ที่ทำให้ 2012 Mini Roadster นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ในความสปอร์ตแต่ Mini นั้น ยังมองถึงสมรรถนะในการขับขี่ ที่แม้จะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ก็ยังสามารถให้ความสนุกสนานได้ด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ มาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson ด้านหลังเลือกใช้แบบ Multilink และระบบเบรคที่หยุดสั่งได้ดั่งใจ 2012 Mini Roadsterยังมาพร้อมหลากตัวช่วยทางด้านการขับขี่ ไม่ว่า DSC (Dynamic Stability Control) ที่ช่วยการทรงตัว ด้วยการเบรคในแต่ละล้อแล้วลดการทำงานของเครื่องยนต์ ที่ยังมาพร้อมระบบเบรคป้องกันล้อล็อค ABS anti-lock braking เสริฟคู่กับ ระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brakeforce Distribution) ที่ยังมีระบบเบรคในโค้ง CBC (Cornering Brake Control) และระบบช่วยเบรค Brake Assist ที่ยังมีระบบป้องกันการลื่นไถล DTC (Dynamic Traction Control) พร้อมด้วย EDLC (Electronic Differential Lock Control) ทั้งหมดนั้นเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของการขับรถโกคาร์ทที่นับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Mini ทั้งนี้ 2012 Mini Roadster จะพร้อมวางจำหน่ายในอีกไม่ช้านานนี้ ซึ่งนอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเรือนร่างที่งดงาม รถรุ่นนี้นับว่าเป็นการเปิดฉากใหม่ของความสปอร์ตที่ลงตัวในเจ้าตัวเล็กของรถยนต์แห่งสหัสวรรษนี้   Create Date : 31 ตุลาคม 2554     0 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2554 18:14:33 น.     Counter : 1573 Pageviews.   Share Tweet

Mazda Takeri Concept ...อวดโฉมเส้นสายซีดานกลางว่าที่ New! Mazda 6 ในช่วงนี้หลายคนในบ้านเราที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมนั้น ดูจะหันเหความสนใจไปยังรถยนต์ขาลุยอย่างรถกระบะมากขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นจากสถานการณ์ แต่อย่างไรเราก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็นด้วย ที่ผ่านมา Mazda นั้นเป็นค่ายรถยนต์รายหนึ่งที่โดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเสนอเส้นสายการออกแบบใหม่ที่ทำให้ถูกใจใครที่มองหารถสปอร์ตแต่ยังอยากได้รถที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน ยิ่งเมื่อรวมดีเอ็นเอสปอร์ต Zoom-Zoom- ที่เติมเอาความแรงลงไปในรถทุกรุ่น มันก็ทำให้ค่ายนี้ยิ่งน่าสนใจในตลาดรถนั่ง ในช่วงปีที่ผ่านมา Mazda ได้พยายามผลักดันในเรื่องขุมพลังและการพัฒนาศักยภาพรถยนต์ของค่ายให้สามารถตอบสนองได้มากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Sky Activ ที่ล่าสุดค่ายนี้ก็พร้อมเดินหน้าต่อในรถรุ่นใหม่ที่นี่จะคือซีดานกลางสุดหรูรุ่นต่อไปที่จะโดนใจทุกคนกว่าที่เคย Mazda Takeri Concept เป็นรถยนต์ต้นแบบคันล่าสุดจากค่ายรถยนต์ Mazda ที่พร้อมตอบโจทย์ในการเดินทางด้วยความหรูหราเหนือระดับแต่ยังสปอร์ตเหนือชั้น ถ่ายทอดเส้นสายออกแบบที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นกับ Kodo Style หรือจิตวิญญาณแห่งอารมณ์ ที่เริ่มตั้งแต่ใบหน้าที่ถอดแบบความสปอร์ตให้ความโฉบเฉี่ยวมาพร้อมกระจังหน้าใหญ่เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านข้าง Mazda ออกแบบให้ Takeri ตอบสนองความสปอร์ตยิ่งกว่ากับเส้นสายหลังคาลักษณะคล้ายรถคูเป้ แต่ยังดูภูมิฐานลงตัว ตอบโจทย์ผ่านล้อขนาดใหญ่ ลงตัวกับบั้นท้ายโค้งเว้าสปอร์ตหรูที่ดูดีทุกท่วงท่า ใต้ฝากระโปรง Mazda Takeri จะมาพร้อมเครื่องยนต์ SkyActiv -D ขุมพลังดีเซลสุดแกร่งตัวใหม่ล่าสุดขนาด 2.2 ลิตร ในขณะที่ยังไม่มีการเผยอัตราเร่งหรือรายละเอียดทางเทคนิคออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ Mazda ก็พร้อมที่จะใส่ความทันสมทัยกับระบบต่างๆที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และทำให้ประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ตั้งแต่ ตัวถังที่เบายิ่งขึ้นและลู่ลมยิ่งหว่าจากการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ไปจนถึงระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราว Mazda i-stop และระบบRegenerative Braking ที่ช่วยเก็บเอาความร้อนจากเบรคมาใช้เป็นไฟฟ้าอีกด้วย ทั้งนี้ Mazda Takeri จะมีการเปิเผยตัวจริงในงาน Tokyo Motor Show ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดย Mazda กล่าวว่า Mazda Takeri นี้จะคือนิยามใหม่ของซีดานกลางสุดหรูที่ควบรวมเอาสมรรถนะและการขับขี่ที่ทรงประสิทธิภาพไว้ด้วยกัน   Create Date : 30 ตุลาคม 2554     0 comment Last Update : 30 ตุลาคม 2554 18:47:48 น.     Counter : 1090 Pageviews.   Share Tweet