Subaru Impreza โฉมใหม่ ในที่สุดงาน New York Auto Show ก็ เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางแล้วในทางฝั่นตะวันตก ที่งานนี้ค่ายรถยนต์หลายเจ้าก็เอารถมือสองมาอวดอย่างคึกคัก บ้างก็ซ้ำกับที่เซี่ยงไฮ้ แต่บางคันก้เด็ดสะระตี๋จนอดไม่ได้ที่จะหยิบมาให้ได้ชื่นในกัน หนึ่งในหลากยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่ได้รับ ความสนใจที่จะมาในงาน New York นี้ ก็ไม่พ้นค่ายรถยนต์ Subaru ที่ขนคอมแพ็คคาร์คันจริงสายพันธุ์สปอร์ตมาสืบสานตำนาน Subaru Impreza ที่ก่อนหน้านี้มีคนสามารถถ่ายสปายช๊อตเอาไว้ได้ จนหลายคนส่ายหน้ากับโฉมใหม่เลยทีเดียว Subaru Impreza ใหม่ในเวอร์ชั่นเปิดตัวอย่างเป็นทางการนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่รถรุ่นนี้ขยายตลาดด้วยการแนะนำรุ่น 4 และ 5 ประตู มาตอบสนองลูกค้า ที่มาพร้อมตัวถังดีไซน์ใหม่ที่สุดที่ค่ายดาวลูกไก่เคยแนะนำในวีดีโอมาแล้ว ใบหน้าใหม่ที่โฉบเฉี่ยวสปอร์ต และผสานความหรูนิดเข้าไว้ด้วยกันนี้ นับเป็นแนวทางใหม่ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยถูกใจนัก ทว่าเส้นสายที่เฉียบคมทางด้านการออกแบบตัวถังนั้นยังคงเส้นคงวา ที่บั้นทายของรถนั้นเน้นความสปอร์ต โดดเด่น โฉบเฉี่ยวมากกว่าที่เคย ในขณะที่รุ่น 5 ประตู ดูมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่แชร์ไฟท้ายและกันชนท้ายเดียวกันในทั้ง 2 รุ่น เรื่องขุมพลัง Subaru Impreza ใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ให้พลัง 148 แรงม้า และแรงบิด 145 ฟุตปอนด์ ที่ขับง่ายและสนุกผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่สุดๆ CVT จากค่ายดาวลูกไก่ ที่มาพร้อมระบบVehicle Dynamics Control ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมันการันตีไว้ที่ 36 ไมล์ต่อแกลลอนหรือ 16 กิโลเมตรต่อลิตรในระหว่างการวิ่งทางไกล และในเมืองสามารถทำได้ดีขึ้นถึง 11 กิโลเมตรต่อลิตรโดยเฉลี่ย ด้านห้องโดยสาร Impreza ใหม่ได้รับการปรับปรุงให้เข้า-ออกง่ายขึ้นด้วยการขยับโครงสร้างเสา A อีก 7.9 นิ้ว ทำให้สามารถเปิดกว้างได้ถึง 5 นิ้ว ที่มาพร้อมประตูหลังขนาดใหญ่ในรถทั้ง 2 รุ่น(4-5 ประตู) ที่ภายในได้รับการปรับปรุงในเรื่องของที่นั่งเบาะหลังที่สบายขึ้น หลังจากที่มีการขยับระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นเป็น 2644 มิลลิเมตร ทำให้การนั่งหลังสบายขึ้น และยังสามารถพับเพื่อโหลดสัมภาระได้ในอัตรา 60:40 สำหรับรุ่น 5 ประตู ไม่เพียงเท่านี้ในเรื่องการตบแต่งห้อง โดยสารของ Impreza ใหม่ยังได้รับการปรับปรุงในด้วยการสอดใส่ความหรูหราเพิ่มขึ้นที่ผสานความ สปอร์ตอย่างลงตัว ตั้งแต่พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ต ที่คอนโซลหน้าทำมาจากวัสดุอย่างดี ที่ให้ความลงตัวและนั่มสบายยามสัมผัส ในขณะที่ตรงกลางบรรจุ Trip Computer ที่นอกจากนี้ในรุ่น Premium ยังมาพร้อมจอทัชสกรีน 6.1 นิ้ว สามารถสั่งการด้วยเสียง ทั้งนี้ Subaru Impreza ใหม่ยังมาพร้อมมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะการเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น ด้วยมาตรฐานการขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลาในทุกรุ่น ยกมาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมการกระจายแรงเบรค EBD ที่ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่นถุงลมและม่านนิรภัยและนอกจากนี้ตัวถังยังทำจากเหล็กทนแรงอัดสูงด้วย อย่างไรก็ดี Subaru Impreza ใหม่ที่เปิดตัวที่นิวยอร์คครั้งนี้ ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นรถสปอร์ต ที่มาจากสำนัก STI ที่เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าเจ้าคอมแพ็คคาร์เวอร์ชั่นตัวแรงจะเป็นอย่างไรกัน //pyricha293.dandglightblue.com   Create Date : 24 มิถุนายน 2554     0 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2554 16:39:40 น.     Counter : 980 Pageviews.   Share Tweet

ตัวแทน Aveo?!? เชฟโรเลตเปิดตัว Cobalt ที่สหรัฐอเมริกา Chevrolet เพิ่งเลิกทำตลาด Cobalt แล้วนำ Cruze มาขายแทน แต่ในละตินอเมริกากลับตรงกันข้าม เพราะล่าสุดที่งาน 2011 Buenos Aires Motor Show ปีนี้ General Motors เตรียมเปิดตัว Chevy Cobalt Sedan Concept 4 ประตู ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย General Motors Technical Center ประจำอเมริกาใต้ โดยจะเริ่มเข้าสู่สายการผลิตภายในปีหน้า อย่างไรก้ตาม ขณะนี้ GM ยังไม่ให้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่ดูจากขนาดอาจจะเป็นไปได้ที่ใช้พื้นฐานหลักๆมาจาก Sonic(หรืออีกชื่อว่า Aveo) GM ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทฯมีแผนจะทำตลาด Cobalt ทั่วโลกโดยมีเครื่องยนต์ 4 สูบ ตั้งแต่ขนาดความจุกระบอกสูบ 1.3-1.8 ลิตร ให้เลือก ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา ส่วนเชื้อเพลิงมีทั้งแบบเบนซิน ดีเซล และเอธานอล(Flex Fuel) โดย Concept Car ที่จะเปิดตัวจะมาพร้อมแอโรพาร์ตรอบคัน ใช้ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 255/45 R17 และชุดท่อไอเสียแนวสปอร์ต ภายในห้องโดยสารจะพบเบาะหนังสีทูโทน ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม ซันรูฟคู่ และระบบ infotainment พร้อมจอ LCD ที่ถูกติดตั้งอยู่หลังที่รองศีรษะเบาะหน้า ขอบคุณเนื้อหาจาก   Create Date : 23 มิถุนายน 2554     0 comment Last Update : 23 มิถุนายน 2554 22:34:56 น.     Counter : 1761 Pageviews.   Share Tweet

New! Subaru Impreza WRX Sti .. ภาพเรนเดอร์โฉมใหม่ที่ดูโหดดี!! เมื่อพูดยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตที่พัฒนามากจากรถยนต์แข่งทางฝั่นแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักSubaru Impreza เจ้าตำนานแรลลี่ตัวจริง ที่ฟัดมาตั้งแต่อดีตยัน ปัจจุบัน ที่ล่าสุดก้มีการเผยรถรุ่นใหม่ที่ดูไม่ดุดัน แถมการปรับบล็อกเครื่องยนต์ลงเหลือ 2.0 ลิตร อาจทำให้หนทางของรถรุ่นนี้ไม่สวยหรูนัก การออกมาโชว์ตัวตนของ Subaru Impreza Design Concept เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำให้หลายคนต่างมองเห็นแวว ที่ค่ายดาวลูกไก่อาจจะไปไม่รอดกับตลาดคอมแพ็คคาร์ แม้ WRX Sti จะใช้พื้นฐานเดียวกับรถธรรมดาที่มีมาทั้ง 4 และ 5 ประตู ให้เลือกตามความชอบแต่ก็มีเสียงออกมาว่ามันดูไม่โหดอย่างที่เคย แม้ข่าวอย่างเป็นทางการจากค่ายรถยนต์ตราดาวลูกไก่จะยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจนนัก แต่เมื่อเร็วๆนี้เว็บไซต์หลายแห่งต่างก็ได้ทำภาพเรนเดอร์ที่มีความคล้ายคลึงกัน ในการถอดรหัสว่าที่สปอร์ตคาร์ ซึ่งมันอาจดูดีกว่าคู่แข่ง Evolution จากภาพหลายๆภาพที่เราได้มา จะพบว่า Subaru Impreza WRX Sti น่าจะมาพร้อมใบหน้าที่ดุดันอย่างชัดเจน และมันดูคมเข้มมากกว่ารุ่นธรรมดา ที่น่าจะมีการเปลี่ยนกันชนหน้าที่อาจจะมาพร้อมชุดสเกิร์ต ทั้งหน้า -หลัง และด้านข้างพร้อสปอร์ยเลอร์ขนาดใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเวอร์ชั่นสปอร์ตรถรุ่นนี้ แน่นอนภาพเหล่านี้เป็นเพียงภาพกราฟฟิเท่านั้น แต่เมื่อดูแล้วก้ต้องบอกว่าน่าสนใจ ถึงสปอร์ตคาร์ขับ 4 ลำใหม่จากค่ายรถยนต์ดาวลูกไก่ ที่มีข่าวหลุดออกมาแล้วว่าในรุ่นนี้เครื่องยนต์ 2.0ลิตร จะฟัดม้ามากถึง 305 ตัวจากโรงงาน ที่มาจาก autoguide-topspeed Subaru impreza WRX Sti เป็นรถที่ได้รับการจับตาอย่างมาก หลังเมื่อต้นปีทีผ่านมามีการอวดโฉมว่าที่รถใหม่ตลาดคอมแพ้คคาร์ของค่าย ที่ในอีกไม่นานจะลงตลาด ที่มาพร้อมเวอร์ชั่น 4 และ 5 ประตู แต่ที่หลายคนอยากทราบคงไม่พ้นเวอร์ชั่นสปอร์ตที่น่าจะออกมาในเร็วๆนี้   Create Date : 22 มิถุนายน 2554     0 comment Last Update : 22 มิถุนายน 2554 8:51:56 น.     Counter : 1416 Pageviews.   Share Tweet

เปิดตัว Honda Fit/Jazz Shuttle รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ทั้งรุ่นธรรมดาและไฮบริด สึนามิที่ญี่ปุ่นทำพิษจนต้องเลื่อนการเปิดตัว All-New Fit Shuttle ออกไป แต่ในที่สุด Honda ก็ได้เปิดตัวรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กหรือ Compact MPV รุ่นดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(16 มิถุนายน 2554) และอย่างที่หลายๆคนทราบว่า Honda ใช้ชื่อรุ่นว่า Jazz แทน Fit สำหรับตลาดบ้านเราและยุโรป ในแง่ของโครงสร้าง บริษัทฯได้คงไว้ซึ่งเลย์เอ้าท์แบบ 5 ที่นั่งของ Fit/Jazz รุ่นมาตรฐานเอาไว้ แต่ขยายความยาวในส่วนของด้านหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายออกไปทำให้สามารถจุของได้มากขึ้นและผู้โดยสารด้านหลังก็มีพื้นที่ๆกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงความสูงของตัวรถก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน Fit/Jazz Shuttle รุ่นนี้มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นพื้นฐานที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC 1.5 ลิตร และรุ่นไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ซึ่ง Fit/Jazz Shuttle รุ่นไฮบริดนี้จะใช้ระบบการขับเคลื่อนล้อหน้าและเกียร์ CVT หรือระบบ All-Wheel Drive ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด สำหรับราคาในประเทศญี่ปุ่นของ Fit Shuttle เริ่มที่ 1,610,000 เยน สำหรับรุ่นพื้นฐาน โดยรุ่นไฮบริดมีราคาเริ่มต้นสูงขึ้นอีกนิดคือ1,810,000 เยน ขอบคุณเนื้อหาจาก   Create Date : 20 มิถุนายน 2554     8 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2554 13:06:15 น.     Counter : 1711 Pageviews.   Share Tweet

NISSAN GT-R35 รถในฝันของหลายๆคน พร้อมกันกับที่ "นางฟ้า" กำลังก่อสงครามน้ำเน่าอยู่กับจอแก้ว...งานชิงออสการ์ "นางมารร้าย" ต่างยื้อแย่งกันสวม 'PRADA' สงครามออโต้ดีไซน์ระหว่าง BMW VS NISSAN ที่กำลังกลายเป็น "มหาภารตะ" ทางซอฟต์แวร์ฉะนั้น !?.. การประกาศ "สงครามซอฟต์แวร์" กันโดยนัยระหว่าง Chris Bangle VS Shiro Nakamura ซึ่งต่อให้คุณคือดีไซเนอร์ชั้นเทพระดับใด ก็ไม่อาจถือหางใครคนใดคนหนึ่งได้...แต่นั่นไม่ได้หมายถึงทั้ง แบงเกิล และ นากามูระ จะเป็น "มวยเสมอ" ดอกนะ ดูเหมือนทั้งคู่คือประเด็นสำคัญที่มีผล ให้ Pininfarina, Tom Gale จาก ZI-R, Jay Mays จาก GT 40, Peter Pfifer จากเบนซ์, และ Porsche Design คงจะได้ยกกระบิพักร้อนตลอดฤดูกาลซะแล้วละ... สงครามกันดัม ! นั่น มัน GUNDUM หุ่นยนต์ที่คนพันธุ์ นากามูระ บ้าหัวชนฝามานาน...ขณะที่ แบงเกิล ใช้ความบ้าจากยุค Renaissance ขับเคลื่อนผลงานของ BMW ให้กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งยุค Baroque ที่ตนถนัดอย่างเห็นได้ชัด (บาโร้ค กำเนิดขึ้นหลังศตวรรษที่ 16 หลังยุคเรอนาสซองส์ และเป็นยุคขัดแย้งกันระหว่างศิลปะและวิทยาการ) ดูเหมือนทั้งคู่จะใช้ต่อสู้กันใน "สงครามตัวแทน" และใช้ทางจิตวิญญาณอันเป็นเดิมพัน แต่กระนั้นคุณคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าระหว่าง...หุ่นยนต์กันดัม...กับ...รูป ปั้นสิงโตยักษ์ที่มีปีก เกล็ด และหางมังกร จะต้องมาต่อสู้กันบน 3D Macintosh ที่มีสาวก GT เป็นเดิมพัน GUNDUM ตำนาน ICON หยุด การทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสองขั้วนักออกแบบกันสักพัก แล้วหันมาสืบค้นกันให้เป็นที่ประจักษ์ถึงพละกำลังจากหุ่นยนต์ตัวโปรดที่ครอง ใจ "หนุ่มป็อป" มานานนับจากวันที่ SKYLINE GT-R ปรากฏบนยนต์พิภพ ย้อน รอยยางไปที่การ Burnout เผาถนนของ "สกายไลน์" ยุคต้น GT-R C10 จอมพลิ้วไหวในปี 1969 กับสายฟ้าขนาด 2000 ทวินแคม ที่ให้มากถึง 160 แรงม้า และตีนปลายทะลุ 200 ตราบจน Godzilla GT-R 32, R33 และ R34 ที่ล่ำสันแข็งขันขึ้นมาขนาดซูโม่วงในกับรถ GT Mainstream ระดับเทพอย่าง 911 GT4 ได้อย่างสบายในราคาแบบเทอริยากิชุดใหญ่ THE BURNOUT UNITED งาน นี้ดูแปลกออกไปและดูทะแม่งยังไงชอบกล แทนที่มือโปรด้านการทำ Test drive ชุดใหญ่จะรวมตัวกันเต็มเที่ยวบินเสมือนการแสวงบุญหลังพวงมาลัย พวกเขากลับแอบ e-mail ชักชวนกันเอาเองเพื่อให้มารวมหัวกันทำทดสอบแบบ Privately owners แบบตัวต่อตัวพร้อมกับอีก 3 ยุทธภพ อาทิ VIPER 600 แรงม้า, Z06 และ 911 TURBO ซูเปอร์ GT ที่โหดและไม่เคยปรานีประนอมกับสปอร์ตทุกวรรณะ เมื่อพบปะทักทาย กันพอสัณฐาน Private owners พวกเขาเริ่มพาเหรดเท้าไฟตระเวนไปรอบ ๆ กรุงโตเกียว ด้วย Japanese GT-R 'J-spec' วัยซิง ๆ 1,500 กิโลเมตรบนบันทึกหน้าปัด ซึ่งดูเหมือนมันกำลังไหลลื่นหลังจากรันอินจนเข้าที่เข้าทางมาหมาด ๆ เมื่อ เจ้าคนรถทุกคนพร้อมอาวุธทุกคันรวมหัวกันพร้อมหน้า ทุกคันต่างก็ลีลาไม่ต่างไปจากเกม PRO STREET ผสมกับ TOKYO DRIFT ไม่มีผิด เท้าหนัก ๆ ถูกวางลงบนแป้นคันเร่ง ผลที่ได้รับกลับมานั้นแสนจะสาสมกับการบินข้ามมหาสมุทร 4,000 ไมล์ เพื่อค้นหา GUNDUM ร่างยักษ์ ของ นากามูระ จากปรากฏการณ์ 0-60 ไมล์ ในเวลา 3.3 sec. ซึ่งไวกว่า ดอร์จไวเปอร์ และ คอร์เว็ตต์ Z06 มิไยที่จะต้องรวมเอา 911 TURBO ตัวกลั่นแห่ง "สหพันธ์เผายาง - Burnout united" เอาอีกน่า ? หลังจากการวางฝ่าเท้าไว้บน GUNDUM แล้ว นักทดสอบพันธุ์ ไซเบอร์ก็ไม่รั้งรอที่จะกระทืบหนัก ๆ ซ้ำลงไป ช่างสมเป็นปรากฏการณ์ 1/4 ไมล์ อันทุกคนได้ประจักษ์ ครั้งนี้หุ่นยนต์ติดลูกล้อของนากามูระทะลุเข้าไปในกำแพงเวลาดุจคาบเลเซอร์ 11.6 sec. ฟันฉับลงบนระยะควอเตอร์ไมล์กว่า 120 mph VR 38 สำแดงตน ดังคำ เชิญอะนะ..."ตำรับญี่ปุ่นต้องไปกินที่ญี่ปุ่น" Jun Nishikawa ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นที่เพิ่งครอบครอง GUNDUM หุ่นยนต์ยักษ์ 2009 GT-R จากเงินเดือนนักข่าวและค่าล่วงเวลาที่หักภาษีเรียบร้อยแล้ว (อิจฉาว่ะ ! ที่คนข่าวญี่ปุ่นซื้อ จีที-อาร์ เฉยเลย ) นับเป็นครั้งแรกที่ GT-R ตัวเป็น ๆ เหล็กเย็น ๆ กลับสุด HOT ! ขึ้นมาขนาดสูบฉีดมหาพลังถึง 473 แรงม้า/6,400 rpm (Euro spec จะพก 480 hp) พร้อมทั้งแรงบิด (โคตร ๆ) 434 ปอนด์-ฟุต ( 60 kg-m) ที่ 3,200-5,200 rpm ส่งผ่าน "เกียร์สะกิด" Automatic manual gearbox 6 สปีด รุ่นล่าสุด GR 6 Type ของ Borg Warner ที่ OEM ให้กับ 2009 GT-R โดยเฉพาะ Dual-clutch 6 แผ่น ที่เชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ 'ทวินโบ' V6 3.8 ลิตร VR38 ที่สะกิดต่อมวิ่งของ 911 TURBO เฉยเลย ทั้งหมดที่ นิชิกาวา ฝอยออกมา ทำให้สำนักเบิร์นเอาท์ยูไนเต็ดที่ผู้มาเยือนประสาทแดกจนต้องถามหา "คู่มือการบิน" แทนที่จะแค่ตีนหนาสมองบางอย่างกับการทดสอบที่ผ่าน ๆ มา.. " เจ-สเป็ก...ว่ะ !" นิชิกาวา ผู้สำแดงความเป็นเจ้าของหุ่นยนต์กันดัมปี 2009 สบถ ปุ่ม R อย่าลืมเด็ดขาด ใน คู่มือหุ่นยนต์ระบุไว้ว่า ใครก็ตามที่ทะเล่อทะล่าสู่ปรากฏการณ์ 1/4 ไมล์ ที่ไม่ริจะเป็น อัลเคดาห์ เพื่อจะฆ่าตัวตาย ควรจะเปิดไปที่ท้ายของหน้าที่ 3 แม้การหมิ่นตนเองจะเป็นเรื่องสุดท้าย แต่การแนะนำให้ใช้ L/C เพื่อ Launch Control ยังดีกว่าการทะลึ่ง "Take E" แล้วแดนซ์กระจายหงายเก๋งที่กลางฟลอร์ใช่ไหม !? สาวกกันดัมเรียกไฮเทคประดามีนี่ว่า "Tecnology wizard" มันช่างต่างออกไปจาก GT แบบ 2 และ 3 มิติเดิม ๆ ที่ "นักทดสอบสมัยพระเจ้าเหาเคยสัมผัส นานมาแล้วที่ญี่ปุ่นสร้างชาติด้วยทรานซิสเตอร์ และคราวนี้พวกเขาจะสร้างรถให้ด้วย Technological wizardry นี่มันหุ่นยนต์ชัด ๆ ฝรั่งยุคพระเจ้าเหา (ตีนหนาสมองบาง) ขว้างสบถคำโตกลับให้บ้าง !?! ระบบ L/C ช่วยให้ขอบนรกการเร่งกลายเป็นสวรรค์ใต้ฝ่าเท้า ด้วยอัตรา 0-60 ไมล์ ใน 3.5 sec. ด้วย 2009 Activated GT-R launch control ที่คอย wizard ให้ระบบเกียร์ปรับตัวพร้อมไปกับระบบช่วงล่าง Bilstein Damp Tronic*1 - damping adjustment ระบบ High level of control เมื่อผู้ขับเลือกกดปุ่ม R ที่กลางคอนโซล เพื่อลดอาการ Pro street ของผู้ขับลงมาจนเหลือแค่ Joypad ในมือเด็ก ๆ ด้วยระบบ VDC-R ที่สามารถ wizard ให้องคาพยพของ 2009 GT-R เร่งออกตัวด้วยเวลาที่ลดลง 1-3 วินาที บนทุกพื้นโลกแบนราบที่มันลงไปวิ่ง จนถึงการเข้าโค้งระบบ VDC-R ยังจะ hold ฝีเท้าไว้เพื่อแม้ในขณะที่เท้าซ้ายของคุณกำลังลากเบรกยาว LF brake-left foot braking ! ในขณะที่คุณหมดแรงโหนพวงมาลัย และนั่นจะยังยืนยันให้คุณเป็นเจ้าแห่ง Wangan (ถนนวัดใจ) ทั้งที่จริงนั่นคุณกำลัง...ปอดแหก ! โชคดีที่มีหน่วยเป็นวินาที ด้วย ระบบ wizard ที่จารึกไว้ในคู่มือรถนั่น ยังผลให้ขณะที่ยัง 'hold R' ปุ่มใหญ่ ๆ นั่นเอาไว้ จังหวะการกดเบรกจะมีฤทธิ์กดทับประสาทหุ่นยนต์กันดัมไว้ที่ 4,500 rpm บริสุทธิ์ เกินกว่านั้นกล่องจะตัดโลด แต่หากคุณยังอยากจะพลีชีพแบบอัลเคดาห์ คุณก็แค่ทำกะโหลกให้หนา ๆ แล้วละเท้าออกมาจากแป้นเบรกซะ ยังไง '3..8 ทวินโบ' ก็จะกลับมาไม่ต่างจะเพชฌฆาต ซึ่งนั่นจะเป็นบทเรียนแรกและสุดท้ายในสมุดคู่มือของ 2009 GT-R (ลองไปที่หน้าอื่นซี่ มีฉลาด ๆ กว่านี้อีก) ระบบ VDC-R นี้เองที่เป็นมรรคผลให้ 2009 GT-R กลายเป็น Acceleration of virtual production car in the world ที่สามารถทรงตัวอย่างเป็นล่ำเป็นสันบนเส้นทางที่ Low-grip จากความสามารถขจัดนิสัย "ฟรีทิ้ง" ของล้อหลังลงอย่างเป็นทางการเป็นคันแรก ๆ ในสงคราม All- Wheel-Drive นี่คือจ็อบง่าย ๆ ที่แทบไม่ต้องเรียกว่างาน อันส่งผลให้ 2009 GT-R ว่องไวกว่าใครในการทำ 3.3 sec. ประทับไว้ในการทำ 0-60ไมล์ และทะลุ 1/4 ไมล์ ที่ 120.9 mph ใน 11.6 sec. ดูเหมือน "ตีนหนาสมองบาง" อย่างฝรั่งยังไม่ยอมศิโรราบให้ "อ้ายยุ่น" ง่าย ๆ ทั้ง สองขั้วโลกแห่งวงการทดสอบฝ่ายหนึ่งยังยืนยันว่า เจ้าแห่งการเร่งอันประทับใจยังคงเป็นของ 911 TURBO พายุลุกเก่า ๆ จากปีกลาย ไหง ! ลองมาดูตัวเลขกันเซะ ? ด้วยระบบเกียร์ Tiptronic ที่หาก wizard ไม่ขยันทำงานนอกเวลาเพื่อค้นหาระบบออกตัว L/C ที่จะเอาชนะกันดัมได้ ก็อาจจะทำให้ 2008 911 TURBO กลายเป็น "คุณปู่" ไป ดูเหมือนจะแพ้ชนะกันแค่ wizard งี่เง่านั่น เพราะ 911 Turbo ยังพ่ายไปแค่เส้นยาแดงผ่า 108 ซึ่งหากปอร์เช่ไม่สลัดเกียจแล้วรีบพัฒนาระบบ L/C สมัยใหม่ท่าทางทิปทรอนิกที่คุยว่าทันสมัย อาจจะต้องเข้าพิพิธภัณฑ์ไป (!) หมดสมัยแล้วละที่เราจะพูดว่า...วันนี้เราโชคดี...ขณะที่นิสสันกำลังแหกปาก ว่า "วินาทีนี้ข้าฯโชคดี" ดูเหมือนเจ้าหุ่นเหล็กตัวนี้จะเปลี่ยนยุคสมัยให้ "อ้าย 500" และ 600 แรงม้าอย่าง Viper และ Corvette ม้วนเสื่อไปเลยว่ะ ! เพราะอย่างกล้า ๆ ระดับ 911 TURBO ยังทำ 0-60 ไมล์ได้ 3.4 sec. และเขม็งเกร็ง ? ไมล์ได้ 11.6 sec. ที่สปีดมีเส้นแบ่งบาง ๆ แค่ 118.5 mph เมื่อลองทำกล้า ๆ Launch control off ออกจากปุ่ม R ปลดเปลื้องซี่งพันธะสัญญาของ wizard เจ้าหุ่นยนต์ Gandum จะนินจาขึ้นอีกมาก ตรงนี้มันจะกางกรงเล็บทั้ง 4 จิกไปบน 0-60 ไมล์ใน 4.0 sec. (อุแว้ว !) และจะป้วนเปี้ยนแถว 1/4 ไมล์ด้วยฝีเท้า 120.6 mph ด้วยระบบเกียร์กระดิก 6 สปีด ดูอัลคลัตช์ ยางพันธุ์ R ของ BS Potenza RE070R ยางซอฟต์พันธุ์สลิคผสมก็ยังคงความเป็นทั้งเขี้ยวและเล็บ ทั้งจิกทั้งทึ้งให้น้ำหนัก (หนา) ถึง 3,836 ปอนด์ (ราว 1.7 ตัน) ของหุ่นยนต์ลดตัณหาจาก 60 ให้ลงมาเหลือแค่ 0 mph ใน 104 ft. ระยะหยุดอาจแพ้ 911 TURBO จอมเบรกหัวทิ่มหัวตำไป 1 ft. ก็เท่านั้น?...ใช่...ก็เท่านั้น ! เพราะแม้ระยะเบรกของหุ่นยนต์จะแพ้พ่ายไปเพียง 1/100 ของเส้นยาแดง แต่จะคุยมากไปไหมนะ ถ้าจะบอกว่า 2009 GT-R ใช้พลังหยุดด้วยมูลค่าที่ย่อมเยากว่า ด้วยชุดจานเบรก 15 นิ้ว 6 piston ของ Brembo ขณะที่ 911 ชั้นเทพต้องจ่ายค่าหยุดด้วยชุดเซรามิกเบรกที่สั้นกว่าเพียง 1 ฟุต หยุดด้วยมูลค่าถึง $ 8,800 นั่นหมายถึงว่า กันดัม จะชิว ๆ กว่า หากคว้าเอาเซรามิกเบรกมาแก้ตาขาวในช่องออปชั่น Quicker ever tested ! ขบวน นักทดสอบไพรเวทจาก 2 ทวีปยังคงทุ่มเถียงกัน ไม่นาน พวกเขาค้นหาสถานให้ห่างกรุงโตเกียวออกไปนิด ไม่ว่าที่นั่นจะเป็นลานบิน รึ ลานประหาร แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะค้างคาข้อข้องใจประการใด ๆ เอาไว้ที่ญี่ปุ่น เขาลงทุนสร้างสนามทดสอบ Skid pad testing บริเวณกว้างเพียงพอต่อการเล่น "งูกินหาง" อีกสักครั้ง ด้วยการทำ Slalom จากนั้นผลที่ปรากฏชัดก็คือ 2009 GT-R สามารถทำ strike โดยไม่ต้องล้มสักพิน กรวยยางทั้งหมดยังคงวางอยู่ที่เดิม ขณะที่น้ำหนัก1.5 ตัน กำลังหลงระเริงกับความแคล่วคล่องระหว่างช่วงไพล่อนต่อไพล่อน ณ วิกฤติการเลี้ยวระหว่าง Skidpad และ Slalom พวกเขาสังเกตพบว่าอาการ Roll body ของ 2009 GT-R แทบจะไม่ปรากฏ ที่สำคัญก็คือ ระบบ Real time 4 ของมันปฏิเสธอาการ "ท้ายเหวี่ยง" โดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับแมลงป่องที่ฝังเหล็กไนไว้จนท้ายหนักอย่าง 911 TURBO ดูเหมือนหัวของหุ่นยนต์จะทำหน้าที่ดุจมิสไซล์นำวิถี ต่างกับ 911 TURBO ที่เปรียบได้แค่เชื้อเพลิงแรงขับที่ "ศูนย์รวม " แรงกดดันไว้ที่ด้านหลัง ดูเหมือน 2009 GT-R จะค้นพบความสำเร็จของรถยนต์เครื่องหน้าขับหลังด้วยการจำกัด The limit of grip and the limit of control ลงโดยพร้อมเพรียงกัน (กลุ้มใจว่ะ สำหรับรถระดับปอร์เช่) ด้วยพวงมาลัยอันคมคาย ที่ปราศจากอาการเอียงวูบวาบ ทำให้ 2009 GT-R จะกลายเป็นทากตัวอ้วนแห่งท้องถนน การที่เจ้าไพล่อนกรวยยางด้วย Slalom โดยพร้อมเพรียงกันระหว่าง Z06 และ 911 TURBO และ VIPER ดูจะเป็นบทสรุปแจ้งชัดที่การันตีได้ว่า 2009 GT-R เหนือกว่า ณ ทุกวิกฤติการเลี้ยว (เปรียบเทียบกับรถทั้ง 3 บนแพทเทิร์นทดสอบเดียว ณ สถานที่เดียวกัน) GT-R forever เลอค่า อมตะ...ตลอดกาล บาง ทีเซลล์สมองของคุณจะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นอีกเมื่อได้ทราบว่า ด้วยสารพัดพิษที่หุ่นยนต์กันดัม 2009 GT-R ที่เหนือกว่า GT ชั้นเทพจากอีก 2-3 ทวีปนั่น แค่วางสนนราคาไว้ต่ำกว่า $ 70,000 อันเป็นราคาแค่ Middle Class GT Cars ก็อาจจะทำให้คุณต้องรีบ Hack เข้าไปในบัญชีเงินฝากของชาวบ้าน รึ ไม่คุณก็อาจต้องยินยอมตกเป็นหนี้สินเชื่อกองย่อม ๆ กันอีกสักครั้ง...นั่นละคือเหตุผลที่ทำให้ Jun Nishikawa พลีชีพเพื่อนั่งปั่นต้นฉบับให้ครบข่าวเต็มจำนวนที่เขาเพิ่งจ่ายไปให้กับ GANDUM หุ่นยนต์นิสสัน 2009 GT-R หุ่นเหลือร้ายที่ทรมานใจเขาไปจนเหนียงยาน...หากยังไม่ได้มันมา Specifications Data รุ่นปี 2009 ผู้ผลิต นิสสัน โรงงาน Tochigi ญี่ป่น ประเภทรถยนต์ 2 ประตู คูเป้ ขนาดและน้ำหนักตัวรถ ความยาวตัวรถ (มม.) 4,655 ความกว้างตัวรถ (มม.) 1,895 ความสูงตัวรถ (มม.) 1,370 ความยาวฐานล้อ (มม.) 2,780 น้ำหนักตัวรถ (กก.) 1,740 เครื่องยนต์ แบบ วี 6 สูบ 24 วาล์ว ทวินเเทอร์โบ รหัส VR38DETT ระบบเพลาราวลิ้น DOHC ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) 3799 กระบอกสูบxระยะชัก (มม.) 95.5 /88.4 อัตราส่วนการอัด 9.0:1 ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีด EGI กำลังสูงสุด 473แรงม้าที่ 6,400 แรงบิดสูงสุด 60.0 กก.-ม.ที่3,200-5,200 ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ระบบส่งกำลัง แบบ เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ 6 สปีด ครั้ทช์ dual-clutch ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็ว ระบบกันสะเทือน หน้า อิสระ ปีกนกสองชั้น มีระบบควบคุมปรับความแข็งช่วงล่างได้ 3 ระดับ หลัง อิสระ มัลติ-ลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรค แบบ Brembo ดิสก์ 4 ล้อ พร้อม ABS BA EBD หน้า 6 พอร์ท จานเบรกขนาด 15 นิ้ว หลัง 4 พอร์ท จานเบรกขนาด 15 นิ้ว วงล้อ และยาง วงล้อ หน้า ขนาด 20x9.5 นิ้ว หลัง ขนาด 20x10.5 นิ้ว ยาง หน้าขนาด 255/40R20 หลังขนาด 285/35R20 มาตรฐานมลภาวะไอเสีย LEV 2 ราคาจำหน่าย ราคาประมาณ 9.9 ล้าน บาท (ราคาจำหน่ายโดยประมาณ) //www.grandprixgroup.com   Create Date : 18 มิถุนายน 2554     3 comment Last Update : 18 มิถุนายน 2554 22:37:17 น.     Counter : 2208 Pageviews.   Share Tweet