เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

Chevrolet Camaro ZL-1 สปอร์ตคาร์ตัวจี๊ดมาพร้อม 580 ม้า

ถ้าถามถึงรถยนต์อเมริกันคลาสสิคคาร์ รถรุ่นหนึ่งที่ต้องติดโผในกลุ่มรถสปอร์ตคาร์ชั้นนำน้นคงไม่พ้น Chevrolet Camaro ที่ล่าสุดเพิ่งจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในกลุ่มสปอร์ตคาร์ในปัจจุบันในอเมริกากัน

Chevrolet Camaro ZL-1 นั้น เป็นรถสปอร์ตใหม่ล่าสุดจากค่าย Chevrolet ใต้ปี General motor ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เราหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาพอสมควรในภาพยนต์เรื่อง Transformer ที่ครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวเตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปีนี้

Chevrolet Camaro ZL-1

เรือนร่างของ Chevrolet Camaro ยุคใหม่อบอวนด้วยความสปอร์ตที่ครังนี้ ZL-1 ถูกจับแต่งหน้าทาปากให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เรือนร่างคล้ายกับบรรพบุรุษแต่ดูมีเสน่ห์แบบรถปัจจุบัน ตั้งแต่ใบหน้าที่มีพร้อมความสปอร์ตและสัญลักษณ์โบว์ไทน์ ลงตัวด้วยเรือนร่าง 2 ประตู และบั้นท้ายที่ลงตัวแบบทันสมัยควบไฟท้าย LED

ใต้ฝากระโปรง Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมความดุดันสไตล์อเมริกันกับเครื่องยนต์ V8 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 580 แรงม้า เรียกแรงบิดได้มากถึง 754 นิวตันเมตร ที่ให้พละกำลังมากสุดของตระกูล Camaro ที่ครั้งนี้มันสามารถเทียบชั้นซุปเปอร์คาร์ชั้นนำ Ferrari หรือ จะเป็น Aston martin ได้

เคล็ดลับความแรงนั้นมาจากซุปเปอร์ชาร์จเจอร์แบบ root type ขนาด 1.9 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดย่อมให้เครื่องยนต์ V8 อลูมิเนียมบล็อคมีกำลังมากขึ้นเช่นเดียวกับระบบปั้มพวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่กินกำลังเครื่องยนต์น้อยกว่าให้สมรรถนะการขับขี่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเกียร์แบบใหม่ที่ทำงานได้ดีและตอบสนองได้ว่องไวมากยิ่งขึ้นด้วย

Chevrolet Camaro ZL-1

ในระบบเกียร์ธรรมดา Chevrolet Camaro ZL-1 เลือกใช้เกียร์รหัส Tremac TR6060 "MG9"ให้การส่งแรงบิดนั้นดีขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับ Camaro SS ซึ่งมาจากการพัฒนาราวเกียร์ให้แข็งแกร่งขึ้นมาพร้อมซิงโครเมด 3 ตัวต่อหนึ่งอัตราทด คลัทช์ 2 แผ่น และฟลายวีลแบบ Dual -Mass ช่วยให้เข้าเกียร์ได้นิ่มนวลแต่ยังแรงเหมือนเดิม

ด้านระบบเกียร์อัตโนมัติ GM เลือกระบบเกียร์ Hydra-Matic 6L90 มาจับฝูงม้าที่ครั้งนี้ให้สมรรถนะดีขึ้นทั้งบนถนนและในสนามแข่ง มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างทันใจ ในโหมดแรก Drive นั้น ระบบเกียร์ใหม่ล่าสุดนี้สามารถตอบสนองได้ในหลากความสามารถทั้งการออกตัวเกียร์ 2 เพื่อสมรรถนะความประหยัดมาที่สุดให้การขับขี่ที่ลื่นไหล ในขณะที่ sport นั้นให้การขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้นเน้นการให้สมรรถนะเต็มอารมณ์ทุกการขับขี่ และท้ายสุด Manual ชีวิตเลือกเองได้ให้อารมณ์แบบเดียวกับระบบเกียร์ธรรมดา

นอกจากนี้ Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมลงสนามด้วยระบบหล่อเย็นน้ำมันเครื่องและเฟืองท้ายจากโรงงาน ที่ยังมีระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงสมรรถนะสูง ช่วยให้เข้าโค้งมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นในทุกสภาวะการขับขี่

Chevrolet Camaro ZL-1

เรื่องระบบกันสะเทือนก็นับเป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับรถสปอร์ต และครั้งนี้ Chevrolet ได้แนะนำระบบ Magnetic Ride Control หรือ MRC มารับการซับแรงกระแทกเพิ่มการทรงตัวของรถ ด้วย Magnetic Rheological fluid นำโมเลกุลเหล็กมาสังเคราะห์มาสกัดเป็นของเหลวและบรรจุอยู่ในโช๊คทุกตัวควบคุมด้วย Coilภายในที่สามารถทำโช็คซับแรงกระแทกได้ดีทุกสภาวะถนน และสามารถรับได้สูงสุด 1000 ครั้ง / วินาที

ไม่เพียงเท่านี้ Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวสมรรถนะสูง Performance Traction Management (PTM) เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ General Motor ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Magnetic Ride Control ,Launch Control Traction Control และระบบควบคุมการทรงตัว ให้สามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาวะถนน ไม่ว่าจะบนทางหลวงหรือในสนมแข่งขันก็สามารถมั่นใจได้

ทั้งนี้ Chevrolet Camaro ZL-1 เป็นหนึ่งในสปอร์ตคาร์ยุคใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมาอย่างเป็นทางการจาก Chevrolet แต่เชื่อว่าจะวางจำหน่ายก่อนสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน







 

Create Date : 25 กันยายน 2554   
Last Update : 25 กันยายน 2554 19:19:47 น.   
Counter : 1693 Pageviews.  

ซีตรองกลับมาจัดเต็ม ส่งรหัสดีเอสครบไลน์

Citroen C5
ข่าวในประเทศ - ค่ายรถตราจ่าโท “ซีตรอง” จากเมืองน้ำหอม กลับมารุกตลาดรถไทย หลังจากประเดิมปูทางฟื้นแบรนด์ กับรถใหม่ “ซีตรอง ดีเอส3” ไปในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 และได้รับการตอบรับดีเกินคาด โควต้าที่ได้รับมา 300 คัน พฤษภาคมที่ผ่านมาส่งมอบเกือบหมด ตอนนี้เหลือเพียง 80 คันเท่านั้น ทำให้มองไกลถึงตัวเลขปีหน้า โดยคาดจะมียอดขายพุ่งเท่าตัว จากการยกขบวนรถตระกูล “ดีเอส” มาบุกตลาดไทยครบไลน์ ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็น “ซีตรอง ดีเอส4” เก๋งสปอต์ตแฮตช์แบ็กยกสูง เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และตามมาด้วยรุ่น “ดีเอส5” กับการฉีกตลาดรถหรูขนาดกลาง ในรูปทรงตัวถังสปอร์ตแวกอน หวังเจาะคนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความแตกต่าง แต่ยังไม่ทิ้งกลุ่มตลาดรถครอบครัว ปลายปีนี้เตรียมนำเข้า “ซีตรอง ซี5” มาทำตลาดเช่นกัน เผยยึดนโยบายบล็อกราคาไม่สูงเกินไป กันเกรย์มาร์เก็ตเข้ามาตีกิน เพื่อที่จะได้เดินหน้าเน้นงานขายและบริการหลังการขายได้เต็มที่

Citroen C5
แม้กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ (DAD Yontrakit) หรือกลุ่มบริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่นำแบรนด์รถยนต์ ซีตรอง, สโกด้า, และเซียท แยกออกมาจากกลุ่มยนตรกิจ กลับมารุกตลาดรถยนต์ในไทยอีกครั้ง พร้อมกับรถยนต์ที่อยู่ในมือมาก่อน อย่างยี่ห้อสปายเกอร์ และโฟตอน รวมถึงรถแต่งเอ็มทีเอ็ม(MTM) แต่ที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจะเน้นไปที่การฟื้นแบรนด์สโกด้ามากกว่า แม้แต่ซีตรองที่ทำตลาดในไทยมานาน และมีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร เพิ่งจะมารุกตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จากการเปิดตัว “ซีตรอง ดีเอส3”(Citroen DS3) ซึ่งเป็นรถพรีเมียมในกลุ่ม “ดีเอส” ตระกูลใหม่ของซีตรอง มาชนกับ “มินิ คูเปอร์” ถึงอย่างนั้นเมื่อนับรวมกับ “จัมเปอร์” (Jumper) รถตู้อเนกประสงค์ นับว่ามีเพียง 2 รุ่นให้เลือกเท่านั้น แต่หลังจากฟื้นแบรนด์สโกด้าได้ระดับหนึ่ง ต่อไปจะถึงคราวกลับมาปั้นแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสอีกครั้ง

“วิเชียร ลีนุตพงษ์” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ
“เราชะลอการทำตลาดไประยะหนึ่ง จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ และเริ่มกลับมาทำตลาดจริงจังๆ เมื่อปีที่ผ่านมา อย่างสโกด้าที่มีการแนะนำรุ่นใหม่มากขึ้น แต่การเพิ่งกลับมาฟื้นตลาด ทำให้ได้รับโควต้าจากบริษัทแม่ยังไม่มาก หรือซีตรองเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นดีเอส3 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสให้โควต้าเพียง 300 คัน และเริ่มส่งมอบไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 80 คันเท่านั้น ดังนั้นปีนี้ซีตรองคงมียอดขายไม่มากกว่านี้นัก เพราะรุ่นจัมเปอร์ก็เป็นรถเฉพาะกลุ่ม มียอดขายเพียงปีละไม่กี่สิบคันเท่านั้น”

นั่นเป็นคำกล่าวของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท ยูโร ออโต เซอร์วิส จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ซีตรอง, สโกด้า และเซียท แต่วิเชียรมั่นใจว่ายอดขายในปีหน้า โดยเฉพาะซีตรองที่จะกลับมารุกตลาดเต็มที่ น่าจะเติบโตเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว


Citroen DS3
“ปีหน้าซีตรองคาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 600 คัน เพราะจะมีการนำรถรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะรถในตระกูลดีเอสที่นำเข้ามาครบไลน์ จากปัจจุบันที่ทำตลาดรุ่นดีเอส3 ไปแล้ว ซึ่งในช่วงปลายปีนี้จะนำเข้าซีตรอง ดีเอส4 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรทำตลาดเพิ่ม และในปีหน้าจะนำเข้าซีตรอง ดีเอส5 มาเสริมอีกรุ่น โดยรถรุ่นดีเอสจะเป็นการยกระดับความหรูที่แตกต่าง เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ แต่เพื่อเพิ่มทางเลือกหลากหลายมากขึ้น ปลายปีนี้เช่นกันจะนำเข้า ซีตรอง ซี5 รองรับกลุ่มลูกค้าครอบครัวเป็นผู้ใหญ่หน่อยด้วย” วิเชียรกล่าว

สำหรับรถยนต์รหัส “ดีเอส” (DS) ที่มาจากคำว่า Different Spirit เป็นรถยนต์ที่ซีตรองต้องการยกระดับแบรนด์ขึ้นมาอยู่ในกลุ่มพรีเมียม ระดับเดียวกับเมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู และออดี้ เพื่อทำตลาดควบคู่กับรถในตระกูล “ซี” (C) โดยซีตรองเปิดตัวรุกตลาดโมเดลแรก กับซับคอมแพกต์แฮตช์แบ็ก 3 ประตู “ซีตรอง ดีเอส3” (Citroen DS3) ที่ได้รับการตอบรับอย่างมาก จากที่ได้โควตามา 300 คัน และเริ่มเปิดรับจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 80 คันเท่านั้น


Citroen DS4
ซีตรอง ดีเอส4 (Citroen DS4) เป็นโมเดลที่สองของรหัสดีเอส เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกช่วงกลางปีนี้ ด้วยตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตูยกสูง ในสไตล์ของรถครอสโอเวอร์ทรงสปอร์ต โดยยกระดับความหรูมาจากพื้นฐานของคอมแพ็กต์คาร์ ซีตรอง ซี4(Citroen C4) แต่ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกและภายในใหม่หมด จนดูคล้ายกับรถสปอร์ตคูเป้ (หลังคาลาดเอียงและซ้อนมือจับประตูไว้ข้างหน้าต่าง คล้ายกับอัลฟา 156)

ขุมพลังของดีเอส4 มีให้เลือก 3 แบบ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1600 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VTi กำลัง 120 แรงม้า และแบบเทอร์โบ 155 แรงม้า และ 200 แรงม้า ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับที่เปอโยต์-ซีตรอง ร่วมพัฒนากับบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่อีก 2 รุ่น เป็นขุมพลังเทอร์โบดีเซล 110 และ 160 แรงม้า เลือกได้ว่าจะส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งรุ่นเทอร์โบดีเซล มากับระบบที่เรียก e-HDi โดยมีการติดตั้งระบบ Auto Start/stop เหมือนกับรถไฮบริด รวมถึงมีการนำพลังงานที่เกิดขึ้นในระหว่างการเบรกมาแปรรูปเป็นกระแสไฟฟ้า เพื่อเก็บในแบตเตอรี่


Citroen DS4
ด้านซีตรอง ดีเอส5 เป็นโมเดลสุดท้ายของสายพันธุ์ดีเอส ที่เพิ่งเผยโฉมเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเจาะกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับหรูขนาดกลาง ด้วยตัวถังแบบสปอร์ตแวกอน ที่เน้นความอเนกประสงค์ผสมผสานกับความหรูหรา และจะเริ่มวางตลาดในยุโรปปลายปีนี้

ดีเอส5 ถูกกำหนดระดับตลาดเทียบเคียงกับ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์3, เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส และออดี้ เอ4 แต่ถูกนำเสนอทางเลือกใหม่ ด้วยความแปลกและไม่เหมือนใคร กับตัวถังแบบแวกอน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการไม่ซ้ำใครในท้องตลาด ตามคอนเซ็ปต์ของรถตระกูลนี้

นอกจากนี้ความโดดเด่นของ ซีตรอง ดีเอส5 ยังอยู่ที่การนำเสนอรูปแบบใหม่ของการขับเคลื่อน ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดของกลุ่มพีเอสเอ (PSA) อย่างไฮบริด4 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแบบ 4 สูบ 2000 ซีซี 163 แรงม้าเป็นต้นกำลัง และมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 37 แรงม้า วางอยู่ที่เพลาท้ายรับหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อน หรือขับเคลื่อนแบบเดี่ยวๆ ก็ได้ ซึ่งหากทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะได้กำลังระดับ 200 แรงม้าเลยทีเดียว


Citroen DS5
ส่วนซีตรอง ซี5 เป็นรถขนาดกลางกลุ่ม D-Segment เป็นรถในตระกูลซีของค่ายจ่าโท ซึ่งเข้ามาทำตลาดรุ่นซองเทียมาตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา แต่โฉมใหม่ที่ทำตลาดในปัจจุบัน ฉีกรูปแบบเดิมๆ จากทรงลิฟท์แบ็ก 5 ประตู มาสู่การเป็นรถซีดานหรูพันธุ์แท้ และยังมีตัวถังแวกอนให้เลือกด้วย

นับว่าเป็นการกลับมาจัดหนักของซีตรองในไทยอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน และทางดีเอดียนตรกิจมั่นใจลูกค้าจะให้การตอบรับ เช่นเดียวกับซีตรอง ดีเอส3 อย่างแน่นอน และไม่กลัวที่จะมีผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตมาแย่งตลาด เพราะพยายามทำตลาดในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่กระโดดไปจากตลาดจนเกินไป


Citroen DS5
“เราไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเกรย์มาร์เก็ตเท่าไหร่ เพราะเราพยายาม ล็อคราคาไม่ให้แพงเกินไป จนเกิดช่องว่างของราคาได้ จนรู้สึกไม่คุ้มที่เขาจะนำเข้ามาทำตลาด เรื่องเกรย์มาร์เก็ตจึงไม่น่าห่วง ดังนั้นนอกจากมุ่งมั่นเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าแล้ว ตอนนี้จะมาเน้นการบริการหลังการขายเป็นสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 5 แห่ง และภายในสิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่มที่ถนนหัวหมากอีกแห่ง เพื่อรองรับการให้บริการก่อนและหลังการขาย”

เรียกว่า... เป็นการกลับมาที่ค่อนข้างพร้อมทีเดียว ถึงอย่างนั้นหากเทียบกับคู่แข่งแล้ว ดีเอดียังต้องปลุกปั้นซีตรองกว่านี้อีกมาก แต่อย่างน้อยสาวกรถยนต์ตราจ่าโท คงอุ่นใจและยิ้มออกบ้างล่ะ?!




 

Create Date : 24 กันยายน 2554   
Last Update : 24 กันยายน 2554 18:23:21 น.   
Counter : 1470 Pageviews.  

Daihatsu Mira e:S… มันกลับมาพร้อมตัวเลข 30 ก.ม./ลิตร

ถ้าหากถามว่ารถยนต์ซิตี้คาร์รุ่นอะไรที่เคยผ่านตาคนไทยมาแล้วในอดีต ชื่อหนึ่งที่จะถูกพูดถึงนั้นก้คงไม่พ้น Daihatsu Mira ที่แม้มันจะไม่จำหน่ายในไทยแล้วก้ตามแต่หลายคนก็ยังคิดถึงและใฝ่หา ที่วันนี้ที่ญี่ปุ่นเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมตัวเลข 30 กิโลเมตรต่อลิตร
Daihatsu Mira e:S

Daihatsu Mira e:S นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของซิตี้คาร์คันจิ๋วในประเทศญี่ปุ่นหลังจากเมื่อช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์เจ้านี้เคยเผยตัวถังแบบ 3 ประตู ออกมาเป้นต้นแบบ แต่เมื่อเอาเข้าจริงมันก็กลายเป็นรถ 5 ประตู ที่เผยความเป้นตัวตนตั้งแต่บรรพบุรุษ

เส้นสายที่งดงามและอ่อยช้อยในแบบฉบับเล็กน่ารักนั้นยังตอบโจทย์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นเก่าสู่รุ่นปัจจุบันผ่านความน่ารักตั้งแต่ใบหน้าจรดบั้นท้ายอย่างลงตัวในแบบรถยนต์ 5ประตู มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือถ้าชอบขับสนุกอีกนิดในสไตล์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ และรุ่นใหม่นี้ยังมีน้ำหนักเบาะกว่ารุ่นเก่าถึงเปือบ 60 กิโลกรัมมาพร้อมล้ออัลลอยขอบ 14 นิ้ว รัดด้วยยาง 155/65 R14
Daihatsu Mira e:S

ใต้ฝากระโปรงนั้นตามกฏของรถ Kei Car นั้นจะต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กไม่เกิน 660 ซีซี ซึ่ง Daihatsu Mira e:S นี้ก็ใช้ขุมพลัง 3 สูบ 658 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6800 รอบต่อนาที และแรงบิด 60 นิวตันเมตร ทั้งหมดจับคู่พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และเมื่อทดสอบในโหมด JC08 ที่มาแทน 10-15 สามารถพิชิตตัวเลข 30 กิโลเมตร/ลิตรได้อย่างสบาย หรือถ้าเทียบมาตรฐานเดิมนั้นได้ก็ประมาณ 32 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น

Daihatsu มั่นใจว่า Daihatsu Mira e:S นั้นจะสามารถจำหน่ายได้มากถึง 10,000 คันต่อเดือนในช่วงขวบแรก และยังจำหน่ายในหลายประเทศ รวมถึงอินโดนีเซียด้วย

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลยถ้าเพื่อนๆ คนใดคลิ๊กแล้วไม่ต้องคลิ๊กซ้ำนะครับ




 

Create Date : 23 กันยายน 2554   
Last Update : 23 กันยายน 2554 21:35:23 น.   
Counter : 1574 Pageviews.  

นี่หรือ! Honda CR-V ใหม่ ...จัดเต็มๆหลุดจากจดสิทธิบัตร

ในระหว่างที่วันนี้บ้านเรานั้นจะมีการเปิดตัว Honda city Minorchnaged ที่ก็ได้รับความสนใจจากหลายประเทศทั่วโลก ทว่านอกจารถซิตี้คาร์และรถอเนกประสงค์อย่าง Honda CR-V ยังเป็นรถอีกรุ่นที่เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและถ้าถามว่าจะอีกนานไหม วันนี้คงพูดได้ว่าไม่ เพราะมันได้ขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 New! Honda CR-V 2012

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นภาพฉบับเต็มก่อนเปิดตัว และภาพที่กำลังเห็นเหล่านี้เป็นภาพของ New! Honda CR-V ใหม่ที่ใช้ในการจดสิทธิบัตร ซึ่งเว็บไซต์ Carscoop.blogspot.com ได้นำออกมาเผยแพร่ และเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นภาพของรถรุ่นนี้เต็มๆ แม้จะเป็นลักษณะภาพถ่ายขาว-ดำที่ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากก็ตาม

จากภาพ Honda CR-V ใหม่มาในแนวเดียวกับ Honda civic ที่มีการเปิดตัวออกไปแล้วในหลายประเทศรวมถึง ที่เน้นการปรับปรุงรุ่นเก่าแบบพบกันครึ่งทางโดยเฉพาะการเน้นประสิทธิภาพการใช้และการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ตามที่ Honda เคยออกมาเปิดเผยไว้

โดยรวมแล้วเรือนร่างของ Honda CR-V ใหม่นั้น พุ่งเป้าไปที่การตอบโจทย์ในเรื่องความทันสมัยมากกว่ารุ่นเดิมที่เน้นความหรูหราและอเนกประสงค์ของตัวรถ โดยรุ่นใหม่นี้มีการหยิบยืมกระจังหน้าแบบเดียวกับ Accord Crosstour ที่วางจำหน่ายในอเมริกา โคมไฟหน้ามาพร้อม Day light running lamp มาพร้อมฝากระโปรงและกันชนหน้าที่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

ตัวรถดูเหมือนจะยาวขึ้นเล็กน้อยเทียบกับการขับขี่ในรุ่นปัจจุบัน แต่มีการปรับเปลี่ยนช่วงบั้นท้ายในงอนงามดูเป็นลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นเมื่อเทียบจากรุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ให้รายละเอียดที่ไฟท้ายและประตูท้ายที่ดูสปอร์ตกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ Honda CR-V ใหม่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไรนั้นยังไม่สามารถบอกได้ แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วเมื่อรถเข้าสู่การจดสิทธิบัตรนั้น ก็จะใช้เวลาอีกไม่นาน แต่คำถามสำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือคันที่เราเห็นนี้เป็นรถสเป็นคของประเทศไหน...

ภาพจาก Carscoop.blogspot.com

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลย



ที่มา //auto.sanook.com/




 

Create Date : 22 กันยายน 2554   
Last Update : 22 กันยายน 2554 20:14:00 น.   
Counter : 1255 Pageviews.  

หลุดก่อนเปิดตัวโบรชัวร์ honda city minorchanged

ในวันนี้ (22 .. 2554) ถ้าถามว่ามีอะไรสำคัญนอกจากวัน Car free day ที่จัดกันทั่วโลก แล้วในประเทศวันนี้ยังเป้นวันเปิดตัวรถยนต์ Honda City Minorchanged ใหม ่ที่กำลังจะกลับมาให้ความน่าสนใจอีกครั้งกับการปรับโฉมซิตี้คาร์ยอดนิยม
honda city minorchanged

Honda city Minorchanged ใหม่เป็นข่าวสักระยะหนึ่งแล้วแต่ก็เปิดตัวล่าช้ากว่ากระแสข่าวที่ออกมาเมื่อช่วงกลายปี ซึ่งประเทศไทยจะเป็นที่แรกในการเปิดตัว Honda city minor change ก็พาเราลุ้นว่าจะงดงามเพียงใด

แม้อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ Honda จะเปิดผ้าคลุม Honda city minorchange แกลายเป็นว่าโบชัวร์รถรุ่นนี้ดันหลุดไปไกลถึงแดนภารตะที่ถูกโพสบน Indian auto blog เมื่อวานนี้ก่อนจะมีการเปิดตัวจริงในวันนี้

จากภาพที่ได้มานี้มันคือภาพของโบว์ชัวร์ Honda city ใหม่ที่เรานำมาให้ดูก่อนใคร และในขณะที่เรากำลังลุ้นอยู่นี้ดูเหมือน Honda city ใหม่จะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงกันชนหน้า-หลัง กระจังหน้า ตามสุตรของรถไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ที่เชื่อว่าจะเป็นแบบ LED กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตและ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่

honda city minorchanged

ในห้องโดยสารไม่มีข้อมูลมากนักแต่ที่เด่นชัดเป็นการเปลี่ยนสีหน้าปัดเป็นสีเรืองแสงสีฟ้า จากเดิมที่เป็นสีส้มในรุ่นปัจจุบัน

เอาเป็นว่า Honda city minorchange ใหม่นั้นน่าสนใจมาก ส่วนราคาเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้ ถ้าหากสนใจก็เตรียมควักกระเป๋าได้เลยแถมรถรุ่นนี้ยังได้เงินคืนตามดครงการรถคันแรกสูงสุด100,000 บาทด้วย

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลยถ้าเพื่อนๆ คนใดคลิ๊กแล้วไม่ต้องคลิ๊กซ้ำนะครับ


ที่มา //auto.sanook.com/




 

Create Date : 21 กันยายน 2554   
Last Update : 21 กันยายน 2554 21:12:07 น.   
Counter : 1597 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]