ก่อนที่จะแผ่เมตตาหลังจากการทำบุญ - ทำทาน -รักษาศีล และนั่งสมาธิ บุคคลนั้นต้องทำจิตให้ปราศจาก นิวรณ์ห้า (เครื่องที่ทำให้จิตอ่อนกำลัง)
หากจิตยังมีนิวรณ์ห้า เหมือนน้ำที่ไหลจากยอดเขาลงสู่เบื้องล่าง แต่น้ำนั้น
มีถึง 5 ช่องทางที่แยกออกมา ความแรงของน้ำจึงลดน้อยลง...
แต่ถ้าจิตปราศจากนิวรณ์ห้า เหมือนน้ำที่ไหลลงมาสายเดียว จึงมีความรุนแรง
**ฉันใดก็ฉันนั้นครับ.....อ่านพระสูตรนี้ครับ
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุที่ไม่ละนิวรณ์อันเป็น
เครื่องกางกั้นจิต ๕ อย่างเหล่านี้แล้ว จักรู้ซึ่งประโยชน์ตน
หรือประโยชน์ผู้อื่น หรือประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หรือจัก
กระทำ ให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษอันควรแก่ความ
เป็นอริยะ ยิ่งกว่าธรรมดาแห่งมนุษย์ ด้วยปัญญาอัน
ทุพพลภาพ ไร้กำ ลัง ดังนี้ นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลง
จากภูเขา ไหลไปสู่ที่ไกล มีกระแสเชี่ยว พัดพาสิ่งต่างๆ
ไปได้ มีบุรุษมาเปิดช่องทั้งหลายที่เขาขุดขึ้น ด้วยเครื่องไถ
ทั้งสองฝั่งแม่น้ำนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ กระแสกลางแม่น้ำนั้น
ก็ซัดส่าย ไหลผิดทาง ไม่ไหลไปสู่ที่ไกล ไม่มีกระแสเชี่ยว
ไม่พัดสิ่งต่างๆ ไปได้, นี้ฉันใด;
ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน : ภิกษุที่
ไม่ละนิวรณ์อันเป็นเครื่องกางกั้นจิต ๕ อย่างเหล่านี้แล้ว
จักรู้ซึ่งประโยชน์ตน หรือประโยชน์ผู้อื่น หรือประโยชน์ทั้ง
สองฝ่าย หรือจักกระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษ อันควร
แก่ความเป็นอริยะ ยิ่งกว่าธรรมดาแห่งมนุษย์ ด้วยปัญญา
อันทุพพลภาพไร้กำลัง ดังนี้ นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.