ภิกษุ ท. ! ถ้าภิกษุไม่เป็นผู้ฉลาดในวาระจิตของผู้อื่น ไซร้, เมื่อเป็น
เช่นนั้น เธอพึงทำความสำเหนียกว่า "เราจักเป็ นผู้ฉลาดในวาระจิตแห่งตน"
ดังนี้เถิด.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็ นผู้ฉลาดในวาระจิตแห่งตน เป็ นอย่างไรเล่า? ภิกษุ
ท. ! เปรียบเหมือนชายหนุ่มหญิงสาว ที่ชอบแต่งตัว ส่องดูเงาหน้าของตนที่
แว่นส่องหน้า หรือที่ภาชนะน้ำอันบริสุทธิ์หมดจดใสสะอาด ถ้าเห็นธุลีหรือ
ต่อมที่หน้า ก็พยายามนำธุลีหรือต่อมนั้นออกเสีย ถ้าไม่เห็นธุลีหรือต่อม ก็ยินดี
พอใจว่า เป็นลาภหนอ บริสุทธิ์ดีแล้วหนอ, ข้อนี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! การพิจารณา
ของภิกษุ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือจะมีอุปการะมากในกุศลธรรมทั้งหลายในเมื่อ
เธอพิจารณาว่า :-
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีอภิชฌา หรือไม่มีอภิชฌา;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีจิตพยาบาท หรือไม่มีจิตพยาบาท;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีถีนมิทธะกลุ้มรุมอยู่ หรือปราศจากถีน
มิทธะ;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีความฟุ้งซ่านหรือไม่ฟุ้งซ่าน;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีวิจิกิจฉา หรือหมดวิจิกิจฉา;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย เป็ นผู้มักโกรธ หรือไม่มักโกรธ;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีจิตเศร้าหมอง หรือไม่มีจิตเศร้าหมอง;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีกายอันเครียดครัดในการปฏิบัติธรรม
หรือมีกายไม่เครียดครัด;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย เป็ นผู้เกียจคร้าน หรือเป็ นผู้ปรารภ
ความเพียร;
เรามีชีวิตอยู่โดยมาก โดย มีจิตตั้งมั่น หรือไม่มีจิตตั้งมั่น ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! ถ้าภิกษุพิจารณาอยู่ รู้สึกว่า เราอยู่โดยมาก โดยความ
เป็นผู้มากด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท ถีนมิทธะกลุ้มรุม ฟุ้งซ่าน มีวิจิกิจฉา
มักโกรธ มีจิตเศร้าหมอง มีกายเครียดครัด เกียจคร้าน มีจิตไม่ตั้งมั่น ดังนี้แล้ว,
ภิกษุนั้น พึงกระทำซึ่งฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และ
สัมปชัญญะ อย่างแรงกล้า เพื่อละเสียซึ่งธรรมอันเป็ นบาปอกุศลเหล่านั้น
เช่นเดียวกับบุคคลผู้มีเสื้อผ้าหรือศีรษะอันไฟลุกโพลงแล้ว จะพึงกระทำฉันทะ
วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และสัมปชัญญะ อันแรงกล้า
เพื่อจะดับไฟที่เสื้อผ้าหรือที่ศีรษะนั้นเสีย, ฉันใดก็ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! ถ้าภิกษุพิจารณาอยู่ รู้สึกว่า เราอยู่โดยมาก โดยความ
เป็นผู้ไม่มีอภิชฌา มีจิตไม่พยาบาท ปราศจากถีนมิทธะกลุ้มรุม ไม่ฟุ้งซ่าน หมด
วิจิกิจฉา ไม่มักโกรธ มีจิตไม่เศร้าหมอง มีกายไม่เครียดครัด ปรารภความเพียร
มีจิตตั้งมั่น ดังนี้แล้ว, ภิกษุนั้น พึงตั้งอยู่ในกุศลธรรมเหล่านั้นแหละ แล้ว
ประกอบโยคกรรม๑ เพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลายให้ยิ่งขึ้นไป.
- ทสก. อํ ๒๔/๙๗/๕๑.
ฉลาดในวาระจิตตนเอง...ดีกว่าฉลาดในวาระจิตผู้อื่น